...

ภาพ: ตารางแสดงการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารไทย (ได้รับความกรุณาจาก) ท่านอาจารย์
ดร.ชนิดา ปโชติการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล บรรยาย ณ
โรงพยาบาลลำปาง วันพุธที่ 4 สิงหาคม 2553 เวลา 13.00-15.30 นาฬิกา

...

ตารางนี้แสดงให้เห็นว่า แคลเซียมจากผักหลายๆ ชนิดดูดซึมได้ดีไม่แพ้นม

นมสัตว์มีแคลเซียมประมาณ 25-35% ของที่ร่างกายผู้ใหญ่ต้องการใน 1 วัน (ประมาณวันละ 800 มิลลิกรัม)

...

นมถั่วเหลือง
มีแคลเซียมประมาณ 8% ของที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน,
วัยรุ่น-ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมลูกต้องการแคลเซียมมากกว่าผู้ใหญ่ทั่วไป
(1,200-1,300 มิลลิกรัม) [ FAQs  ]; [ NIH ]

อัตราการดูดซึมแคลเซียม คิดเป็นร้อยละจากอาหารที่เรากินเข้าไปได้แก่

...

(1). ดีเยี่ยม > ดูดซึมได้มากกว่า 50% > บรอคโคลี คะน้า ผักกาดเขียว ผักกวางตุ้ง แขนงผัก ดอกกะหล่ำ

(2). ดี > 30% > นม นมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้

(3). ปานกลาง > 20% > ถั่วอัลมอนด์ งา ถั่วลาย

(4). ต่ำ >5% > ผักโขม

...

ตารางนี้คงจะทำให้พวกเราที่ทั้งชื่นชอบและชิงชัง "นม" มองเห็นทางเลือกในการกินแคลเซียมได้ดีขึ้น

การกินแคลเซียมมื้อละน้อยๆ (ไม่เิกิน 500 มิลลิกรัม/มื้อ)
หรือแบ่งเป็นมื้อเล็กหลายๆ มื้อ
มีแนวโน้มจะดูดซึมได้ดีกว่าการกินคราวละมากๆ เนื่องจากธรรมชาติของคนเรามี
"เพดาน" ของการดูดซึม คือ ดูดซึมได้จำกัด (ที่ประมาณ 500 มิลลิกรัม/มื้อ)

...

ตัวอย่างเช่น นายกอกับนางขอดื่มนมมื้อเดียว 2 แก้วจะดูดซึมได้น้อยกว่านายกอกับนางขอดื่มนมมื้อละ 1 แก้ว 2 มื้อ

ความแข็งแรงของกระดูกไม่ได้อยู่ที่แคลเซียมอย่างเดียว ทว่า... ขึ้นกับการได้รับสารอาหารอื่นๆ พอประมาณด้วย เช่น โปรตีน โบรอน ฯลฯ

...

และยังขึ้นกับการออกแรง-ออกกำลังเ็ป็นประจำ โดยเฉพาะการเดิน วิ่ง กระโดด ยกน้ำหนัก เล่นเวท จะทำให้กระดูกแข็งแรงได้ดีมาก

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

> [ Twitter ]

ที่มา                                                         

• 
  

  
  ขอขอบพระคุณ > ท่านอาจารย์
  ดร.ชนิดา ปโชติการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลบรรยาย ณ
  โรงพยาบาลลำปาง วันพุธที่ 4 สิงหาคม 2553 เวลา 13.00-15.30 นาฬิกา //
  ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ และโรงพยาบาลลำปางมา ณ ที่นี้ 
  

  
  
  
  


• 
  
  นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร
  ลำปาง. 10 สิงหาคม 2553.
  
  


• 
  
  
  

  ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
  การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
  ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
  ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.