อาจารย์ Rebecca
Ley ตีพิมพ์เรื่องเคล็ดลับสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญใน 'Mailonline',
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [
Dailymail.co.uk ]

...

(1). ไม่
กิน(ข้าว)หลัง 2 ทุ่ม

อ.นพ.แมตติวส์ แบงค์ ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารจากมหาวิทยาลัยคอลเลจ
ลอนดอน, UK แนะนำว่า เคล็ดลับของท่านคือ กินข้าวเย็นก่อน 2 ทุ่ม และก่อนนอน
4 ชั่วโมงด้วย

...

ตัวอย่างเช่น คนที่นอนตอน 2 ทุ่ม (สมัยนี้คงจะหายาก...)
คงต้องกินข้าวเย็นก่อน 4 โมงเย็น เพื่อให้อาหารย่อยไปบางส่วน
และเคลื่อนจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เล็กให้เรียบร้อยก่อน

การนอนทั้งๆ ที่มีอาหารตกค้างในกระเพาะอาหารมากๆ
เพิ่มเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อน (GERD) ซึ่งอาจทำให้แน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืด
แสบร้อนหน้าอก เรอเปรี้ยว ไอ เสียงแหบ หรือฟันสึกได้

...

(2). หลีกเลี่ยง
แว่นหลายโฟกัส (varifocals) 

อ.ซูซาน จูเลียนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดจากสถาับันซิที โรด
ลอนดอนแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้... ควรใช้แว่นโฟกัสเดียว เช่น
ถ้าสายตาสั้นหรือยาวมากๆ อาจต้องใช้แว่นหลายๆ ชุดสำหรับมองใกล้ชุดหนึ่ง
มองไกลชุดหนึ่ง

...

การใช้แว่นแบบหลายโฟกัส มองใกล้ก็ได้ ไกลก็ดี ทำให้สะดวกก็จริง

ทว่า... จะทำให้คนเราต้องก้มหน้ามองใกล้ เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ
ใช้โน้ตบุ๊ค ฯลฯ คราวละนานๆ ทำให้เสี่ยงต่ออาการปวดคอเรื้อรัง

...

(3). ฉีดวัคซีน

การฉีดวัคซีนให้ครบตั้งแต่เด็กมีส่วนช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย
และถ้าต้องเดินทางไปไหนไกลๆ นานๆ ควรปรึกษาหมอใกล้บ้านว่า
จะต้องฉีดวัคซีนอะไรเผื่อเหลือไว้หรือไม่ เช่น บาดทะยัก พิษสุนัขบ้า
(วัคซีนบางอย่างอาจจะหายากในบางประเทศ) ฯลฯ

...

(4). ส้นไม่สูง

อ.นพ.ไอโอน ทิวดอร์ โจนส์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อจากโรงพยาบาลลิสเทอร์
ลอนดอน แนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้... ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูง
ซึ่งเพิ่มเสี่ยงโรคเท้าหลายอย่าง และเอ็นร้อยหวายอักเสบ

...

ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้... อย่าลืมยืดเ้ส้นเป็นประจำ

...

(5). กินวิตามิน
D

อ.นพ.นิค โลฟ ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังจากคลินิกแครนเลย์ ลอนดอน
แนะนำให้กินวิตาิมิน D (วิตามินรวมที่มีวิตาิมิน D
ไม่จำเป็นต้องแพงก็ใช้ได้แล้ว) โดยเฉพาะท่านที่ใช้ยากันแดด
สวมเสื้อผ้าปกปิดไปทั้งตัว หรือได้ัรับแสงแดดอ่อนๆ น้อยมาก

...

ภาวะขาดวิตามิน D มีความสัมพันธ์กับโรคหลายชนิด เช่น มะเร็ง ฯลฯ
และทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง 

ถ้าไม่อยากกินวิตามิน D หรือวิตามินรวมที่มีวิตามิน D เสริม...
ทางเลือกที่ีดี คือ ออกไปรับแสงแดดอ่อนตอนเช้า (ก่อน 9.00 น.) หรือตอนเย็น
(หลัง 16.30 น.) เป็นประจำ

...

(6). ระวังกวาด
พื้น-ถูพื้น-ดูดฝุ่น

อ.ไซโมน รอสส์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกจากสถาบันเคนแอนด์รอสส์
ลอนดอนแนะนำว่า การใช้เครื่องดูดฝุ่น (รวมไม้ถูพื้น ไม้กวาด)
ควรเลือกชนิดที่มีด้ามยาวพอที่เราจะยืนตัว "เกือบตรง" ได้

...

การใ้ช้ไม้่กวาด-ไม้ถูพื้น-เครื่องดูดฝุ่นที่มีด้ามสั้นจะทำให้เราต้องก้ม
หลังคราวละนานๆ และเพิ่มเสี่ยงโรคปวดหลัง

วิธีที่ดี คือ เลือกชนิดที่มีด้ามจับยาวพอ และอย่าลืมยืดเหยียดหลัง
บริหารหลังเป็นประจำ

...

(7). เข้าสังคม
บ้าง

อ.เกรแฮม โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา
อาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัยโอเพ่น แนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้...
ควรตอบรับคำเชิญไปงาน หรือเข้าสังคมบ้าง

...

การไม่เข้าสังคม อยู่ไกลญาติพี่น้อง หรือไม่มีเพื่อนสนิทเลย
เพิ่มเสี่ยงโรคซึมเศร้าในระยะยาว

ถ้าไม่ชอบไปงานจริงๆ... การทำงานอาสาสมัครตามโอกาส
หรือการปฏิบัติต่อคนรอบข้างให้ดีขึ้นอีกนิดจะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ เช่น
ขอบคุณคนที่หุงข้าว-ทำกับข้าวให้เราทุกวัน ขอโทษเมื่อเราทำให้คนอื่นเสียใจ
ฯลฯ

...

(8). ไม่กินยา
แก้ปวดเกินขนาด

อ.ซิด ดาจานิ เภสัชกร แนะนำว่า ควรปรึกษาหารือกับเภสัชกรหรือหมอใกล้บ้านว่า
ยาแก้ปวดที่ได้ไปควรกินนานแค่ไหน กินเฉพาะเมื่อมีอาการ หรือกินจนหมดซอง

...

และถ้าซื้อยาเอง... ขอให้ปรึกษาเภสัชกรว่า ควรจะกินยาขนาดเท่าใด
เพื่อป้องกันการกินยาเกินขนาดเสมอ

...

(9). อย่าหวัง
หายปวด 100%

อ.นพ.จอห์น โรวี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อแนะนำว่า
ท่านเองก็มีปัญหาปวดหลังเป็นๆ หายๆ มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ทว่า...
จะเน้นการดูแลรักษาแบบที่ไม่ใช้ยาเป็นหลัก เช่น ออกกำลัง ยืดเส้น
ปรับท่าทาง ฯลฯ

...

ท่านแนะนำว่า การหวังให้อาการปวดหายไป 100%
หรือหมกมุ่นกับอาการปวดมากเกินไป จะเพิ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากยาแก้ปวด
(เช่นที่ไมเคิล แจคสันเสียชีวิตจากยาแก้ปวดเกินขนาด ฯลฯ)

ทางที่ดี คือ ใช้ยาให้อาการปวดบรรเทา เบาบางลงสัก 80%, อีก 20% ใช้ยา
"ทำใจ" ร่วมกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (lifestyle)
ซึ่งจะปลอดภัยกว่าการหวังให้โรคหาย 100% อย่างมากมาย 

...

(10). ถ้าอยาก
ให้ฟันดี-เหงือกดี

อ.ทพ.มาร์ค ฮิวส์ แนะนำว่า คนเราลดเสี่ยงมะเร็งช่องปากได้โดยการไม่ทำ 2
เรื่องพร้อมๆ กันได้แก่ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มหนัก (แอลกอฮอล์)

...

(11). ไำม่ใส่
รองเท้าคู่เดียว

อ.เทรเวอร์ ไพรเออร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเท้า แนะนำว่า
อย่าใส่รองเท้าคู่เดียวทุกวัน เนื่องจากรองเท้าเกือบทุกชนิดใช้เวลาทำให้
"แห้ง" จากความชื้นนานกว่า 1 วัน

...

วิธีที่ดี คือ ควรมีรองเท้าอย่างน้อย 2 คู่ ใช้สลับกันวันละคู่
และถ้าเป็นไปได้... ควรใช้รองเท้าหลายรูปแบบในรอบวัน
เพื่อลดแรงกดต่อเท้าซ้ำซาก

ท่านที่เป็นโรคเบาหวาน จำเป็นต้องมีรองเท้าอย่างน้อย 2 คู่
และควรเป็นรองเท้าที่ป้องกันการกระแทก เช่น
รองเท้าผ้าใบสำหรับใส่วิ่งหรือเดิน ฯลฯ เพื่อป้องกันแผลที่เท้า
ซึ่งอาจทำให้ต้องถูกตัดนิ้วหรือตัดเท้าได้ 

...

(12). ไม่ดื่ม
น้ำผลไม้

อ.เอมมา เวลส์ นักโภชนาการแนะนำว่า ไม่จำเป็น... อย่าดื่มน้ำผลไม้
เนื่องจากทำให้อิ่มได้น้อย และให้กำลังงาน (แคลอรี) สูงพอๆ กับน้ำหวาน

...

วิธีที่ดี คือ ถ้าชอบผลไม้... ให้ดื่มผลไม้ทั้งผล กินช้าๆ
ซึ่งจะทำให้ได้เส้นใย
และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมักจะเกาะอยู่บริเวณใกล้เปลือก

ผลไม้เก็คล้ายกับเรื่องอีกหลายๆ เรื่องในชีวิต คือ "น้อยไว้ละดี",
มื้อหนึ่งไม่เกิน 6-8 ชิ้นคำกำลังดี... ถ้าชอบและอยากกินอีก
ควรเว้นวรรคไปกินต่อในมื้อต่อไป และลดข้าว-แป้ง-น้ำตาลอย่างอื่นชดเชย
พร้อมกับกินผักด้วยเสมอ เพื่อป้องกันน้ำหนักขึ้นเสมอ

...

(13). เรียนรู้
ที่จะอยู่กับหัวใบนี้

อ.แบร์รี สตีเฟน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเส้นผม แนะนำว่า ถ้าอยากมีชีวิตดีๆ
หลังวัยกลางคน... ขอให้ผู้ชายหลายๆ ท่านใช้ยา "ทำใจ" กับหัวใบนี้ คือ
อยู่กับผมที่บางลง หรือหัวหงอกให้ได้

...

เพราะจนถึงทุกวันนี้ก็ยังหายาดีๆ มาแก้เรื่องนี้ (หัวล้าน) ไม่ค่อยได้,
ถ้าหายาแก้ได้... เราคงจะไม่เห็นคุณหมอผมบางอีกต่อไป

...

(14). อย่าลืม
จุกอุดหู

อ.พอล ดาร์รอช ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการได้ยินแนะนำให้หาจุกอุดหู (ear plugs)
ไว้ประจำบ้าน และอุดหูก่อนใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น เครื่องดูดฝุ่น
เครื่องจักรกล ฯลฯ เป็นประจำ

...

จุกอุดหูยังใช้อุดตอนอาบน้ำ-สระผม เพื่อป้องกันน้ำเข้าหู
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คันในรูหูได้ดี ดีกว่าการใช้ไม้พันสำลี (cotton
buds) มากมาย

ขี้หู (ear wax) เป็นโลชั่นชั้นดีที่ช่วยทำให้ผิวหนังในรูหูชุ่มชื้น
และป้องกันอาการคันรูหูจากผิวแห้ง...
การใ้ช้ไม้พันสำลีเพิ่มเสี่ยงภาวะรูหูแห้ง ซึ่งมักจะทำให้คันแบบน่ารำคาญ

...

ถึงตรงนี้...
ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

วิดีโอท่าโยคะ
"งูเห่า (cobra)" ที่ช่วยป้องกันปวดหลัง ซึ่งควรทำค้างไว้โดยไม่กลั้นหายใจ
20-30 วินาทีขึ้นไป จึงจะดี

...

วิดีโอแสดงท่า
ออกกำลัง "ซูเปอร์แมน" ป้องกันปวดหลัง (ถ้าปวดหลังแล้ว...
ควรปรึกษาหมอใกล้บ้านก่อนฝึกเสมอ)

... 

...

> [ Twitter ]

ที่

มา                                                         

• 
  
  Thank Mailonline
  / Dailymail.co.uk
  ';
  
  


• 
  
  นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร
  ลำปาง. 20 กรกฎาคม 2553.
  
  


• 
  
  
  

  ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
  การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
  ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
  ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.