Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยว ... เวลาเดินช้าที่ .. น่าน - วัดร้องแง อ.ปัว จ.น่าน สถานที่ท่องเที่ยว : วัดร้องแง อ.ปัว จ.น่าน, น่าน Thailand พิกัด GPS : 19° 10' 32.54" N 100° 56' 8.92" E วัดต่อไปในอำเภอปัว จ.น่าน ที่จะพาไปเที่ยวกันเป็นวัดไทลื้อครับ จะมีความอ่อนช้อยสวยงามเพียงไหน โปรดติดตามครับ วัดร้องแง อ.ปัว จ.น่าน การเดินทางมาที่วัดร้องแงสามารถเดินทางได้โดยเดินทางจาก อ.ปัว ผ่านธนาคารกสิกรไทย กลับรถตรงเกาะกลางเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 1256 ทางเข้าตรงข้าม โรงเรียนวรนครเข้าไป ประมาณ 200 เมตร และแยกซ้ายอีก 200 เมตร ผ่านวัดพระธาตุเบ็งสกัด หลังจากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆถึงบ้านร้องแง จะเห็นทางเข้าวัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีป้ายบอกชัดเจน วัดร้องแง เป็นวัดโบราณของอำเภอปัว ตั้งอยู่ที่บ้านร้องแง หมู่ที่ 7 ตำบลวรนคร อำเภอปัว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2310 จากคำบอกเล่าต่อๆมาของช้าวบ้านเล่ากันว่าบรรพบุรุษชาวลื้อย้ายถิ่นหนีภัยสงครามมาจากเมืองเลน (ภาษาลื้อออกเสียงว่า “ลิน” ) แคว้นสิบสองปันนา ในสมัยพญาแสนเมืองแก้ว พญาแสนเมืองแก้วต้านกำลังข้าศึกที่มารูกรานไม่ไหวจึงชวน เจ้าหลวงเทพพญาเลน เจ้าช้างเผือกงาเขียว พร้อมด้วยแม่ทัพนายกอง 4 นาย คือ ท้าวแก้วปันเมือง ท้าววรรณะ ท้าวเหล็กไฟ และท้าวเต๋อ ได้มาช่วยต้านทานทัพศัตรู แต่ก็ยังต้านไว้ไม่ได้ จึงรวบรวมไพร่พลหนีถอยร่นลงมาจนถึงบริเวณใกล้กับร่องน้ำที่มีต้นบะแง ได้ตั้งหมู่บ้านขึ้นและเรียกชื่อตามร่องน้ำนั้น ... ร้องแง พี่ tuk-tuk korat เขียนอธิบายไว้ในบล็อกพาเที่ยววัดร้องแงว่า “ร้อง เพี้ยนมาจาก ฮ่อง คือ ร่อง(น้ำ) แปลว่า ลำคลอง แง เป็นชื่อต้นไม้ บะแง มีผลเท่าส้มโอ ผิวเหมือนมะนาว มีจุกเหมือนมะกรูด ... ไม่รู้จักค่ะ บ้านร้องแง ... บ้านฮ่องแง คือบ้านที่ตั้งอยู่ที่ลำคลองที่มีต้นบะแงขึ้น” พระวิหาร เป็นศิลปะแบบไทยลื้อ มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดยาว 8 ห้อง กว้าง 3 ห้อง ด้านหน้ามีมุขโถง ตัวอาคารก่ออิฐฉาบปูน หลังคาเป็นทรงโรง มีหน้าจั่ว ผืนหลังคามีสองตับ ทอดเอนลาดคลุมต่ำ สันนิษฐานว่าเดิมคงเป้นวิหารเปิดโล่ง แต่ภายหลังก่อผนัง (พี่ tuk-tuk korat เขียนอธิบายไว้ในบล็อกพาเที่ยววัดร้องแงอีกด้วยว่า) “วิหารไทลื้อ มีสองแบบคือ ไทลื้อฮ่างหงส์ และ ไทลื้อทรงโรง วิหารวัดร้องแงเป็นวิหารไทลื้อแบบทรงโรง ... ดูง่าย ๆ จากหลังคา” เจ้าของบล็อกขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมนะครับ หลังคาทรงโรง ก็คือหลังคาอุโบสถ หรือวิหารแบบทั่วไป หลังคาทรงฮ่างหงส์ ยกตัวอย่างง่ายๆ หลังคาวิหารวัดต้นแหลง ที่เคยพาไปเที่ยวในบล็อกท่องเที่ยวแล้วๆมาครับ โครงหลังคามีการลดชั้น ทางด้านหน้ามีสามชั้น ด้านหลังมีสองชั้น ผนังส่วนล่างเป็นปูนทึบทาสีขาว ผนังส่วนบนเป็นลูกกรงไม้ ที่ห้องท้ายวิหารมีบันไดและทางเข้าทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ หางหงษ์ทำด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปเศียรนาค หลังคามุงกระเบื้องไม้ เรียกว่า แป้นเกล็ด คันทวย หรือ นาคทัณฑ์ เป็นไม้ฉลุ แกะสลักเป็นรูปยักษ์ ลิง ครุฑ สัตว์หิมพานต์ ระบายสีสดใส หน้าบัน หรือ หน้าแหนบ ประดับด้วยไม้ฉลุลายก้านขด แกะสลักรูปเทพพนม แผงไม้ใต้หน้าจั่ว ที่เรียกว่า โก่งคิ้ว ทำเป็นรูปพญนาค 2 ตัว ทอดตัวขึ้นไปแล้วเอาหางพันกัน ประดับลายก้านขดและช้าง (ช้างนี่คงมาจากตำนานพื้นบ้านที่เจ้าหลวงเทพพญาเลนขี่ช้างเผือกงาเขียวอพยพหนีภัยสงครามมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้) ส่วนหน้าจั่วปีกนกตกแต่งด้วยลายก้านขดแบบเดียวกัน ผนังรอบประตูพระวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังแบบสมัยใหม่ น่าจะวาดขึ้นเมื่อตอนบูรณะพระวิหารไม่นานมานี้ สิ่งที่โดดเด่นภายในพระวิหารก็คือ ผ้าเช็ดหลวง มีลักษณะคล้ายตุงของทางภาคเหนือ ( คำว่า เช็ด แปลว่า ทอ และคำว่า หลวง แปลว่ายิ่งใหญ่) ชาวบ้านจะทอขึ้นมาแล้วมาถวายพระเพื่อถวายทานเป็นพุทธบูชาเพื่ออุทิศให้แก่บรรพบุรุษ อีกอย่างหนึ่งที่แขวนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบตอนล่างคือ “ดอกไม้พันดวง” คือ ดอกไม้ในตอกไม้ไผ่สาน เพื่อบูชาพันพระคาถา ในพิธีตั้งธรรมหลวงหรือเทศน์มหาชาติ โดยมีการเทศน์ทั้งหมดรวม 13 กัณฑ์ ประกอบด้วย 1,000 พระคาถา เสาหลวงภายในพระวิหารมี 2 แถว จำนวน 6 คู่ เสาเป็นไม้กลม ประดับหัวเสาด้วยบัวกลีบยาว โคนเสาส่วนหน้าทาสีน้ำตาลแดง ส่วนในทาสีฟ้า 2 แถว ในสุดติดกับพระประธานทาสีดำ ตัวเสาลงพื้นสีดำ เขียนลายทอง ลายบนต้นเสาจะเขียนลายเหมือนกันเป็นคู่ๆ สังเกตุดูดีๆจะเห็นว่ามีบางต้นที่ได้รับการซ่อมแซมแต่ส่วนใหญ่เป็นของเดิม เครื่องบนของวิหารเป็นแบบที่เรียกว่า โกม คล้ายระบบ ขื่อม้าต่างไหม แนวเสาในผนังของวิหาร ช่วยรับน้ำหนักโครงสร้างหลังคา ในวิหารมีพระประธานปูนปั้นปางมารวิชัย ฝีมือช่างพื้นบ้าน ประทับบนแท่นแก้วประคับกระจกสี มีพระนามว่า ศรีสวัสดี สิริวิสุทธะ วิวะมังคะละ สวัสสะติ อะภิวันทะนบ พระรัตนะ โอกาสะมะสะดู มีไรพระศก ฝ่าพระบาทราบเสมอกัน นิ้วพระหัตถ์ยาวเรียวเสมอกัน พระกรรณมีสัณฐานยาวเหมือนกลีบดอกบัว ด้านข้างประดับด้วยเครื่องสูง บนผนังด้านหลังเขียนภาพจิตรกรรมเรื่องพุทธประวัติและมีเนมีราชชาดกชาดกฝีมือของช่างพื้นถิ่น แผงไม้เหนือพระประธานประดับลายกระหนกและรูปดอกไม้ หน้าพระประธานมีแท่นสำหรับปักเทียน เรียกว่า สัตตภัณฑ์ ทำเป็นรูปขั้นบันได สื่อความหมายถึงบันไดแก้วที่พระพุทธเจ้าใช้เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังเทศน์โปรดพุทธมารดา สัตตภัณฑ์มีรูปนาค 1 คู่ ทอดตัวยาวลงตามราวบันได ธรรมาสน์บุษบก ฐานเป็นปูนปั้น ตัวเรือนเป็นเครื่องไม้ ยอดเป็นปราสาทซ้อนชั้น ธรรมาสน์แบบกระทง และ หีบพระธรรม พระอุโบสถ หลังคาทรงฮ่างหงส์ คือเหมือนหงส์กางปีกปกป้องลูก หลังคาปีกนกทั้งสี่ด้าน เรียกว่าหลังผัด ชั้นบนสุดเป็นหลังคาทรงจั่วเรียกว่า หาน พระวิหารวัดร้องแง ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกณิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เป็นรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่น อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม “ทนายอ้วนพาเที่ยว” Chubby Lawyer Tour - ทนายอ้วนพาเที่ยว https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/ Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน กราบพระค่ะคุณบอล
วัดร้องแงเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งที่งดงามมาก พระวิหารและพระอุโบสถมีรายละเอียดทั้งภายนอกและภายในที่ศึกษาน่าสนใจจังค่ะ ขอบคุณคุณบอลที่พาชม ภาพสวยมากค่ะ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณบอล โดย: Sweet_pills วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:17:08:28 น.
สวัสดีครับ
ตามมาเที่ยววัดไหว้พระด้วยครับ สุขสันต์ในวันสงกรานต์นะครับ ไว้มาอีกรอบครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:17:17:47 น.
อ่่าววว... โหวตหมดแว้ววว... แดวพรุ่งนี้มาใหม่
ดอกแคสรรพคุณหลายอย่างกินๆฟินๆ5555 โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:18:26:34 น.
สวัสดี ปีใหม่ ไทยบรรจบ
วาระครบ รอบนี้ ศรีสมัย ขออำนาจ แห่งคุณ พระรัตนตรัย อำนวยชัย บันดาล ประทานพร โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:18:32:52 น.
วัดนี้สวยงาม และสวยงามตามสไตล์ล้านนา
โคมไฟสีทอง แม้จะดูเป็นของใหม่ แต่ก็ดูไม่ขัดตากับวัด ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวัดงามๆแบบนี้ใน อำเภอ ของจังหวัดเล็กๆ สมควรที่แล้วที่ได้รับรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชฯ ค่ะ โดย: mcayenne94 วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:18:35:43 น.
ตามมาเที่ยววัดร้องแง ไว้ก่อนนะคะ หมดเป๋าแล้วจ้าวันนี้
วัดสวยงาม ตามเอกลักษณ์ของวัดทางเหนือ ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยค่ะ มีโอกาสจะตามรอยจ้า ขอบคุณค่ะ ปล.เมนูพะโล้ ทุกบ้านต้องมีไว้ช่วงนี้นะคร้า คุณลูกบอกให้คุณแม่ทำใหม่อีกล๊ะ โดย: Tui Laksi วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:20:05:08 น.
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ^^
สวยนะ อยากไป ตอนนี้เราขอดูภาพไปก่อน โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 13 เมษายน 2563 เวลา:20:18:44 น.
ฟังขลุ่ยภาคเหนือเสียงแหลมกว่าของภาคกลางนะครับ ดูภาพวัด
วาอาราม เพลิน โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:7:04:05 น.
อรุณสวัสดิ์ Happy Family Day Covid19 ซา หรือจางห่ายไป ตามไปๆเที่ยวนะค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:9:14:48 น.
ชอบภาพเขียนฝาผนังจังเลยจ๊ะน้องบอล
ตามมาไหว้พระด้วยคนจ้า โดย: อุ้มสี วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:12:39:15 น.
เล็บมือนางหอมมากค่ะ แต่นั่นของบ้านตรงข้าม
อย่างไรก็ตามบ้านหนอนก็เต็มไปด้วยในหม่อนกับกล้วย มะนาว โกสนรกมากเสียงงูไม่ต่างกันค่ะ 55+ โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:14:09:10 น.
อ่านคำว่า วัดร้องแง อยู่หลายรอบ
ถามตัวเองว่า นี่เราไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตาลายหรือ มีปัญหาเรื่องการอ่าน 5555 อ่านลงมาเรื่องๆ วัดคงชื่อนี้จิงๆอ่ะนะครับ ผมชอบน่าน เสียใจจัง อดไปอีกนาน เพราะความสุข อยู่น่านไง ^^ จากบล๊อก ยาวๆ ครับงานนี้ ไป รพ ทีมีสยอง กลับมารู้สึกอยากไป รู้สึกเจ็บคอ รู้สึก.....กุติดยังวะ? 55555 โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:14:15:51 น.
สุขสันต์วันครอบครัวด้วยนะคะ
นั่นละคร้า...สูตรภูมิปัญญาดั้งเดิมที่คุณบอลบอก รสเลิศคร้า แต่เป็นงานครัวที่เรานานสำหรับเราจ้า โดย: Tui Laksi วันที่: 14 เมษายน 2563 เวลา:14:48:11 น.
ขออภัยค่ะ
ทำไมไม่ได้มาเอนทรี่นี้ละพี่ พรุ่งนี้มาใหม่นะคะ วันนี้หมดตัวแล้วค่ะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 15 เมษายน 2563 เวลา:10:28:35 น.
ตามมาไหว้พระด้วยค่ะ
วัดทางเหนือสวยงาม เพลงประกอบบล็อกก็ไพเราะค่ะ โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 เมษายน 2563 เวลา:12:15:28 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|
https://www.paiduaykan.com/province/north/nan/watrongng
ae.html
//www.voicetv.co.th/reaHJdIZbEkfd/
https://pantip.com/topic/38026184
https://asaconservationaward.com/index.php/2016-06-13-15-
22-21/temple2550/215-wat-rong-ngae
https://www.go2nan.com/wat-rong-ngae/