Group Blog
มีนาคม 2564

 
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ทนายอ้วนพาเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม - เชียงราย - วัดมหาธาตุ เชียงแสน เชียงราย
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดมหาธาตุ เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand
พิกัด GPS : 20° 16' 26.46" N 100° 4' 44.35" E





 
สถานที่ท่องเที่ยวในซีรี่ย์นี้จะเป็นจากทริปเชียงรายเมื่อเดือนพฤษศจิกายนที่แล้วนะครับ   ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว  (น้อย)  คนนิยมขึ้นเหนือกันมาก  เลยเอาสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาโพสเผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้คนที่จะวางแผนไปเที่ยวเชียงรายไม่มากก็น้อยครับ
 
 

 
มีเรื่องมาเล่าก่อนที่จะพาไปเที่ยวกันครับ  สำหรับทริปเชียงรายตัวเจ้าของบล็อกเฉยๆมากๆ  โดนเลื่อนมาจากพิษโควิทระลอกแรกต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบิน  คืนห้องโรงแรม  คืนรถเช่า  เจ้าของบล็อกก็นิ่งๆ  เฉยๆ  คิดว่าคุณชายคงเข็ดไม่อยากไปแล้ว  พอช่วงปลดล็อกสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ปลายๆปีที่แล้วคุณชายก็เอาทริปเชียงรายมาเสนออีก  ดูท่าแล้วคุณชายอยากไปมากก็เลยตามใจ
 

 
 
ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่เจ้าของบล็อกอยากไปมากที่สุดก็เห็นจะเป็น  “เมืองเก่าเชียงแสน”  ที่อำเภอเชียงแสน  (จากการดูสารคดีท่องเที่ยว  สารคดีประวัติศาสตร์  และอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะ)  เพราะเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนสุโขทัยและอยุธยา  แต่จะมีสเน่ห์มากกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเมืองในปัจจุบันสร้างทับอยู่โบราณสถานต่างๆมากมาย 
 


 
ระหว่างที่นั่งค้นข้อมูลวัดโบราณในเมืองเก่าเชียงแสนก็ได้ไปเจอวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรเรื่องเกี่ยวกับวัดโบราณในเมืองเชียงแสนพร้อมแผนที่วัดก็เลยคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งวันในเมืองเก่าเชียงแสนเพื่อไปเที่ยว  ถ่ายรูปวัดเก่าๆ  เลยทำแผนการเดินทางเที่ยว  +  ถ่ายรูป  วัดเก่าในเมืองเก่าเชียงแสน
 
 


แต่แล้วแผนการเดินทางก็มีเหตุฉุกเฉินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้  เพราะมาเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วไถลมาชนกันชนหน้ารถแถวๆประตูเมืองเชียงแสนครับ  โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย  กันชนหน้ารถถลอกไปนิดเดียวเองครับ  แต่ต้องเสียเวลารอตัวแทนประกันรถที่อยู่ในอำเภอเมืองขับรถมา  50  -  60  กิโลเมตร  ที่อำเภอเชียงแสน  เสียเวลาไปหลายครับ  พอเสร็จเรื่องประกันก็รู้สึกเซ็งๆครับเลยยกเลิกการถ่ายรูปวัดเก่าๆในเมืองเชียงแสน  เหลือแต่เพียงเดินทางเที่ยววัดที่สำคัญๆในเชียงแสนเท่านั้นครับ
 
 


 
วัดมหาธาตุ  เชียงแสน  อยู่ใกล้ๆจุดที่เกิดอุบัติเหตุ  ระหว่างที่รอประกันมาเคลียร์ก็แอบบเข้าไปเดินถ่ายรูปในวัดมหาธาตุ  เชียงแสน  ครับ
 
 
 
 
 


วัดมหาธาตุ  (วัดพระรอด)  เชียงแสน  เชียงราย
 





 

วัดมหาธาตุ  (วัดพระรอด)  เชียงแสน  เชียงราย  ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน  (ทางหลวงหมายเลข 1016 แม่จัน-เชียงแสน)  ต.เวียง  (เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน)  อ.เชียงแสน  จังหวัดเชียงราย  ครับ
 

 
ตั้งอยู่ตรงสี่แยกใกล้ประตูเชียงแสน  ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  เชียงแสน  เลยครับ






 


 

วัดมหาธาตุ  เชียงแสน  เป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งในจำนวนหลายสิบแห่งที่ตั้งอยู่ภายในเมืองเชียงแสนที่ปัจจุบันกลายเป็นวัดร้าง  แต่เดิมคนท้องถิ่นเรียกวัดมหาธาตุนี้ว่า “วัดพระรอด”
 
 

จากการศึกษาไม่พบประวัติการสร้าง  ใน พ.ศ.2509 ที่เมืองเชียงแสนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่   เมื่อน้ำลดลงแล้วปรากฏว่าคันธกุฎีวัดมหาธาตุได้รับความเสียหายอย่างมาก   เหลือเพียงมุมคันธกุฎีด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่ยังคงเหลือสภาพสมบูรณ์  กรมศิลปากรจึงได้บูรณะใหม่โดยยึดเอาแนวดังกล่าวเป็นต้นแบบ
 

 
ระดับพื้นดินของโบราณสถาน 
วัดมหาธาตุ  เชียงแสน จะอยู่ต่ำจากระดับพื้นถนน  ต้องลงบันไดไปประมาณ  2  ขั้นนะครับ  ถ้าไม่มีสายไฟมาขวางทางให้รุงรังก็ถือว่าสะดวกสบายทีเดียวครับ  กรมศิลปากรได้ทำทางเดินยกพื้นเป็นอิฐตลอดทั่วทั้งวัด  แต่ก็ขาดการดูแลให้ดีเท่าที่ควร  จะมีอิฐบางก้อนหลุดออกไปก็ขอให้มองทางด้วยนะครับ  เดี๋ยวจะสะดุดร่องอิฐ
 

 
จากการศึกษาพื้นที่บริเวณ 
วัดมหาธาตุ  เชียงแสน  พบว่าถาวรวัตถุใน  วัดมหาธาตุ  เชียงแสนมีเพียง  2  แห่งตลอดอายุการใช้งานพื้นที่  คือ 
 

 

พระวิหาร   ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 12 เมตร  ตั้งอยู่ด้านหน้า  หันหน้าไปทางทิศตะวันออก  มีบันไดทางขึ้นที่ด้านหน้า  ปัจจุบันพระวิหารเหลือแต่เพียงฐาน  ทำให้ไม่ทราบรูปทรงสถาปัตยกรรมของพระวิหาร






 







 






พระมณฑป  ด้านท้ายของพระวิหารจะเชื่อมต่อกับทางเข้ามณฑป   เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน  ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ขนาดกว้างด้านละ  4.5  เมตร  สูง 8.4  เมตร  สันณิษฐานว่ามีหลังคาทรงแหลม  ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น  ปัจจุบันชำรุดแตกหักเสียแล้ว  ลักษณะศิลปกรรมการสร้างพระมณฑปแบบนี้ในเมืองเชียงแสนยังมีอยู่ที่วัดพระธาตุปูเข้าหรือพระธาตุภูข้าว  และวัดป่าแดงหลวง  เป็นต้น

















คันธกุฎี  เป็นสิ่งที่ก่อสร้างทางพุทธศาสนารุ่นเก่า พบว่านิยมสร้างในสุโขทัยและล้านนา  มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแคบๆ  ขนาดพอดีองค์พระประธาน  มักเชื่อมกับส่วนท้ายของวิหารที่อยู่ด้านหน้า   เหนือตัวอาคารคันธกุฎีจะมีรูปแบบต่างกัน  แต่ทั้งหมดจะสร้างด้วยวัสดุที่มีน้ำหนัก เช่น อิฐหรือหินเท่านั้น
 


สำหรับวัตถุประสงค์ในการสร้างคันธกุฎีนั้น เพื่อจำลองสถานที่เฉพาะส่วนพระองค์พระพุทธเจ้า  (ปลีกวิเวก) ดังที่ปรากฎในพระอรรถกถาแห่งกสิสูตร  อุปาสกวรรคที่ 2 ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีกิจประจำวัน 5 อย่าง ดังนี้


 
            "กิจหนึ่งในปุเรภัต ทรงลุกแต่เช้า หลังจากทรงบ้วนพระโอษฐ์แล้ว ทรงให้เวลาล่วงไป ณ เสนาสนะที่สงัดจนถึงเวลาเสด็จภิกขาจาร แล้วเสด็จโปรดสัตว์ เสวยพระกระยาหาร ทรงรอจนภิกษุทั้งหลายฉันแล้ว จึงเสด็จเข้าพระคันธกุฎี

 
            กิจหนึ่งในปัจฉาภัทร ในเวลาหลังเพล ถ้าพระองค์มีพุทธประสงค์ทรงมีพระสติสัมปชัญญะสำเร็จสีหไสยาสน์ครู่หนึ่ง โดยพระปรัศว์เบื้องขวาลำดับนั้นทรงมีพระวรกายกระปรี้กระเปร่า ทรงลุกขึ้น แล้วทรงแสดงธรรมแก่บริษัทที่มาประชุมกันอยู่
 
           
กิจหนึ่งในปุริมยาม ทรงโสรจสรงพระวรกายในซุ้มสรงแล้วเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งหนึ่งก่อนพระสงฆ์จะเข้ามาถามปัญหา ขอฟังธรรม ฯลฯ ทรงให้โอวาทแก่ภิกษุ
 
           
กิจหนึ่งในมัชฌิมยามเมื่อพระสงค์ทั้งหลายกลับไปแล้ว ก็เป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน เป็นเวลาที่ทรงพยากรณ์ปัญหาทั้งหลายกับเทวดาฃ
 
           
กิจหนึ่งในปัจฉิมยาวเมื่อเทวดากลับไปแล้ว ทรงแบ่งเวลาที่เหลือออกเป็น 3 ส่วน คือ

ทรงเดินจงกลมส่วนที่ 1
 
ส่วนที่ 2 พระองค์เสด็จไปยังพระคันธกุฎี ทรงมีสติสัมปชัญญะสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา
 
ส่วนที่ 3 พระองค์ลุกขึ้นประทับตรวจดูสัตว์โลกที่ควรแก่การตรัสรู้ และที่ยังไม่ควรตรัสรู้"




 
จากพุทธกิจ มีบางช่วงเวลาที่เป็นเวลาส่วนพระองค์ภายในคันธกุฎี ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งหมู่เทพและมนุษย์ที่ไม่ควรเข้าไปรบกวนพระพุทธองค์ แม้พรหมก็ยังต้องแอบอยู่ข้างประตู ไม่กล้าเข้าไปรบกวน ได้แต่ซุบซิบสนทนาธรรมกับผู้อื่น ข้างบานประตูนั้น
 
 

ด้วยจุดประสงค์ดังกล่าวคันธกุฎีจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นห้องส่วนตัวของพระพุทธเจ้า จึงใช้ประดิษฐานพระประธาน  (พระพุทธเจ้า)  เพียงอย่างเดียว  ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าไปกราบไหว้บูชาภายในห้อง  เพราะเป็นการรบกวนพระพุทธองค์  แต่หากต้องการบูชาก็สามารถกระทำได้ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ด้านหน้าคันธกุฎีเท่านั้น


 
สำหรับในล้านนา คันธกุฎีได้พัฒนาเป็นปราสาทเล็กๆ ตั้งอยู่ภายในวิหาร เช่น วัดพระธาตุลำปาง (ลำปาง) วัดพระธาตุจอมทอง (เชียงใหม่) หรือวัดดอยสัก (อุตรดิตถ์) เป็นต้น อีกรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาของคันธกุฏี คือ พัฒนาไปเป็นเรือนคฤห์ อันเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็ก ตั้งอยู่โดดๆ กลางแจ้ง เช่นที่วัดช้างค้ำ (น่าน) และวัดเชียงทอง (หลวงพระบาง สปป.ลาว) เป็นต้น










 
 
 


 

อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม  “ทนายอ้วนพาเที่ยว”
 


Chubby Lawyer Tour  -  ทนายอ้วนพาเที่ยว
 
 
 https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/
 




 
Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน



 
138139140
 



Create Date : 01 มีนาคม 2564
Last Update : 1 มีนาคม 2564 11:17:57 น.
Counter : 1407 Pageviews.

28 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณtoor36, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณตะลีกีปัส, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณSleepless Sea, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณKavanich96, คุณSweet_pills, คุณkatoy, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณอุ้มสี

  
ช่วงนี้ เห็นแดดแล้วเพลีย แทบไม่อยากออกจากบ้านเลย
แต่ออกมาตากผ้าก็รู้สึกว่าผิวไหม้แล้ว วันหยุดเลยไม่ได้ไปไหนเลย
อยู่บ้านทั้งสามวัน.. ตามไปเที่ยวกะเพื่อนๆ ในนี้เอา
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:11:35:25 น.
  
ชาวบ้านผ่านไปผ่านมา
คงไม่ค่อยรู้สึกว่าตรงจุดนี้
มีความสำคัญอย่างไร มีประวัติศาสตร์อะไรบ้าง
แต่พอมีผู้เชี่ยวชาญมาค้นคว้าศึกษา
ถึงจะรู้คุณค่าความสำคัญของวัดนะครับ

เชียงใหม่ เชียงรายจะคล้ายๆกัน
คือมีวัดร้างเยอะมากครับ



ปล. ลูกชายผมอายุ 12 ปี
ผมรู้สึกว่าพูดกันง่ายขึ้นเยอะครับ
เมื่อก่อนล้งเล้งกันบ่อย
เพราะค้าดื้อ ซน
แต่ก็สอนด้วยเหตุผลมาตลอด
รอได้ว่าเค้าจะเปลีี่ยนตัวเอง
แต่วิธีนี้จะเหนื่อยกว่าการดุหรือการออกคำสั่งครับ
ต้องใจเย็นจริงๆ
ซึ่งพ่อแม่บางเวลาก็เย็นไม่อยู่ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:12:07:46 น.
  
สถานที่โบราณแบบนี้มันมีเสน่ห์ตรงไหนนะคุณบอล

โดย: หอมกร วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:12:10:31 น.
  
เมื่อตอนเด็กๆเคยสงสัยว่า
พระประธานโบสถ์วิหารก็องค์โต๊โต
เอาเข้าประตูโบสถ์วิหารได้งัยน้าาา
กว่าจะรู้ก็นานอยู่ค่ะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:13:40:49 น.
  
ถ้าไม่มีป้ายระบุว่าเป็นวัดอาจไม่ทราบเลยก็ได้ครับ ยังไงก็ต้องช่วยกันรักษาไว้ ของเก่าของโบราณ เดี๋ยวจะสูญไปเสียก่อนถ้าไม่รักษา
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:14:16:08 น.
  
ดูภาพ/เรื่อง ฟังดนตรีไปด้วย..

ชอบที่วงนำ เครื่องดนตรีแนวนี้มาประกอบ เสียงกลอง สองชนิดดัง
กระหึ่ง เสียงปีหรือขลุ่ยเรียกไม่ถูก ลงตัวไพเราะมาก ๆ ครับ
...
ฟังโหมโรงเสร็จ อ้าวเห็นภาพ นักร้องวงอะไรนะ ที่มีชื่อต่อท่้าย
ภรณ์ ๆ อยู่ที่ลพบุรี อ้อ วงสุภาภรณ์ชอบนักร้องวงนี้หลายคนไว้วัน
หลังค่อยดูอีก 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:14:52:42 น.
  
ถ้าได้ไปเชียงแสน จะตามรอยบล็อกนี้ครับ
โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:16:01:52 น.
  
สวัสดีครับ

มาเที่ยวด้วยนะครับ
ไปที่โบราณสถานแบบนี้ ทำให้จินตนาการไปถึงสมัยก่อน
ไว้มาอีกครั้งนะครับ

โดย: Sleepless Sea วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:17:20:00 น.
  
วัดเก่าแก่ ดูขลังมากค่ะ คุณบอล
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:05:11 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

เชียงแสนเป็นจุดหมายต่อไปค่ะ
ดูภาพโบราณสถาน ในร่มไม้กับฟังเพลงสำเนียงเหนือไปด้วย
เพลิดเพลินเชียวค่ะ

ขอบคุณกำลังใจที่ให้ตะพาบ..เลียนแบบ..ด้วยค่ะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:30:40 น.
  
เมืองไทยเรานี้แสนดีนักหนา มีที่เที่ยวให้น่าค้นหามากมายนะคะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:37:53 น.
  
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:21:19:01 น.
  
ตามมาเที่ยวต่อครับ
วัดมหาธาตุ เป็นวัดประจำเมืองแต่ละเมือง ที่เชียงแสนเหลือแค่นี้ ก็มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ครับ

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:23:10:05 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:5:58:28 น.
  
ทักทายยามเช้าๆ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:6:18:49 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:8:16:37 น.
  
ภาพสวยมากและได้ความรู้
ขอบคุณคุณบอลที่พาเที่ยวค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:8:38:10 น.
  
จากบล็อก..

อันนั้นซอสพริกศรีราชา ไม่เผ็ดเลยเด้อออ แฮร่
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:10:39:49 น.
  
ใบชะคราม​-- โหยยย​ เท่ห์​ ว่าแต่ตลาดน้ำท่าครามอยู่ตรงไหน
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:13:15:34 น.
  
นิทานภาพเรื่องนี้
มีให้อ่านอีก 6 ตอนครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:13:50:24 น.
  


Food For Fun #57: ทำง่าย..อร่อยด้วย
โดย: katoy วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:19:30:00 น.
  
อย่าตีเลยครับคุณบอล
เค้าจะจำ
ดีไม่ดี เอาไปทำกับคนอื่นด้วย
สอนด้วยเหตุด้วยผล
ได้ผลช้า แต่ดีกว่าจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:20:49:56 น.
  
ส่งการบ้านจร้า
แวะมาแจ้งเพื่อทราบ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:21:37:35 น.
  

สวัสดี จ้ะ น้องบอล

ตามมาเที่ยววัดมหาธาตุ ที่เชียงแสนจ้ะ ส่วนใหญ่ซากปรักหักพัง
ยังสมบูรณ์อยู่เนาะ

โหวดหมวด ท่องเที่ยว
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:22:31:53 น.
  
ตามมาเที่ยวจ้า
โดย: อุ้มสี วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:22:56:01 น.
  

สวัสดียามเช้าครับคุณบอล

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:6:09:42 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปทักทายเสมอ ๆ นะคะ
จะมาบอกว่า เค้าส่งการบ้าน 3F แล้วน้า อิอิ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:10:36:07 น.
  
วิไลมาศนี่เธอร้ายแบบตัวละครในละครไทยเลยนะครับ
ร้ายมาแต่ไกล 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:12:12:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]