Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม - เชียงราย - วัดมหาธาตุ เชียงแสน เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยว : วัดมหาธาตุ เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand พิกัด GPS : 20° 16' 26.46" N 100° 4' 44.35" E สถานที่ท่องเที่ยวในซีรี่ย์นี้จะเป็นจากทริปเชียงรายเมื่อเดือนพฤษศจิกายนที่แล้วนะครับ ช่วงนี้เป็นหน้าหนาว (น้อย) คนนิยมขึ้นเหนือกันมาก เลยเอาสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาโพสเผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้คนที่จะวางแผนไปเที่ยวเชียงรายไม่มากก็น้อยครับ มีเรื่องมาเล่าก่อนที่จะพาไปเที่ยวกันครับ สำหรับทริปเชียงรายตัวเจ้าของบล็อกเฉยๆมากๆ โดนเลื่อนมาจากพิษโควิทระลอกแรกต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบิน คืนห้องโรงแรม คืนรถเช่า เจ้าของบล็อกก็นิ่งๆ เฉยๆ คิดว่าคุณชายคงเข็ดไม่อยากไปแล้ว พอช่วงปลดล็อกสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ปลายๆปีที่แล้วคุณชายก็เอาทริปเชียงรายมาเสนออีก ดูท่าแล้วคุณชายอยากไปมากก็เลยตามใจ ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่เจ้าของบล็อกอยากไปมากที่สุดก็เห็นจะเป็น “เมืองเก่าเชียงแสน” ที่อำเภอเชียงแสน (จากการดูสารคดีท่องเที่ยว สารคดีประวัติศาสตร์ และอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะ) เพราะเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนสุโขทัยและอยุธยา แต่จะมีสเน่ห์มากกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเมืองในปัจจุบันสร้างทับอยู่โบราณสถานต่างๆมากมาย ระหว่างที่นั่งค้นข้อมูลวัดโบราณในเมืองเก่าเชียงแสนก็ได้ไปเจอวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรเรื่องเกี่ยวกับวัดโบราณในเมืองเชียงแสนพร้อมแผนที่วัดก็เลยคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งวันในเมืองเก่าเชียงแสนเพื่อไปเที่ยว ถ่ายรูปวัดเก่าๆ เลยทำแผนการเดินทางเที่ยว + ถ่ายรูป วัดเก่าในเมืองเก่าเชียงแสน แต่แล้วแผนการเดินทางก็มีเหตุฉุกเฉินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เพราะมาเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วไถลมาชนกันชนหน้ารถแถวๆประตูเมืองเชียงแสนครับ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย กันชนหน้ารถถลอกไปนิดเดียวเองครับ แต่ต้องเสียเวลารอตัวแทนประกันรถที่อยู่ในอำเภอเมืองขับรถมา 50 - 60 กิโลเมตร ที่อำเภอเชียงแสน เสียเวลาไปหลายครับ พอเสร็จเรื่องประกันก็รู้สึกเซ็งๆครับเลยยกเลิกการถ่ายรูปวัดเก่าๆในเมืองเชียงแสน เหลือแต่เพียงเดินทางเที่ยววัดที่สำคัญๆในเชียงแสนเท่านั้นครับ วัดมหาธาตุ เชียงแสน อยู่ใกล้ๆจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ระหว่างที่รอประกันมาเคลียร์ก็แอบบเข้าไปเดินถ่ายรูปในวัดมหาธาตุ เชียงแสน ครับ วัดมหาธาตุ (วัดพระรอด) เชียงแสน เชียงราย วัดมหาธาตุ (วัดพระรอด) เชียงแสน เชียงราย ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1016 แม่จัน-เชียงแสน) ต.เวียง (เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน) อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ครับ ตั้งอยู่ตรงสี่แยกใกล้ประตูเชียงแสน ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน เลยครับ วัดมหาธาตุ เชียงแสน เป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งในจำนวนหลายสิบแห่งที่ตั้งอยู่ภายในเมืองเชียงแสนที่ปัจจุบันกลายเป็นวัดร้าง แต่เดิมคนท้องถิ่นเรียกวัดมหาธาตุนี้ว่า “วัดพระรอด” จากการศึกษาไม่พบประวัติการสร้าง ใน พ.ศ.2509 ที่เมืองเชียงแสนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อน้ำลดลงแล้วปรากฏว่าคันธกุฎีวัดมหาธาตุได้รับความเสียหายอย่างมาก เหลือเพียงมุมคันธกุฎีด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่ยังคงเหลือสภาพสมบูรณ์ กรมศิลปากรจึงได้บูรณะใหม่โดยยึดเอาแนวดังกล่าวเป็นต้นแบบ ระดับพื้นดินของโบราณสถาน วัดมหาธาตุ เชียงแสน จะอยู่ต่ำจากระดับพื้นถนน ต้องลงบันไดไปประมาณ 2 ขั้นนะครับ ถ้าไม่มีสายไฟมาขวางทางให้รุงรังก็ถือว่าสะดวกสบายทีเดียวครับ กรมศิลปากรได้ทำทางเดินยกพื้นเป็นอิฐตลอดทั่วทั้งวัด แต่ก็ขาดการดูแลให้ดีเท่าที่ควร จะมีอิฐบางก้อนหลุดออกไปก็ขอให้มองทางด้วยนะครับ เดี๋ยวจะสะดุดร่องอิฐ จากการศึกษาพื้นที่บริเวณ วัดมหาธาตุ เชียงแสน พบว่าถาวรวัตถุใน วัดมหาธาตุ เชียงแสนมีเพียง 2 แห่งตลอดอายุการใช้งานพื้นที่ คือ พระวิหาร ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 12 เมตร ตั้งอยู่ด้านหน้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีบันไดทางขึ้นที่ด้านหน้า ปัจจุบันพระวิหารเหลือแต่เพียงฐาน ทำให้ไม่ทราบรูปทรงสถาปัตยกรรมของพระวิหาร พระมณฑป ด้านท้ายของพระวิหารจะเชื่อมต่อกับทางเข้ามณฑป เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 4.5 เมตร สูง 8.4 เมตร สันณิษฐานว่ามีหลังคาทรงแหลม ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ปัจจุบันชำรุดแตกหักเสียแล้ว ลักษณะศิลปกรรมการสร้างพระมณฑปแบบนี้ในเมืองเชียงแสนยังมีอยู่ที่วัดพระธาตุปูเข้าหรือพระธาตุภูข้าว และวัดป่าแดงหลวง เป็นต้น คันธกุฎี เป็นสิ่งที่ก่อสร้างทางพุทธศาสนารุ่นเก่า พบว่านิยมสร้างในสุโขทัยและล้านนา มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแคบๆ ขนาดพอดีองค์พระประธาน มักเชื่อมกับส่วนท้ายของวิหารที่อยู่ด้านหน้า เหนือตัวอาคารคันธกุฎีจะมีรูปแบบต่างกัน แต่ทั้งหมดจะสร้างด้วยวัสดุที่มีน้ำหนัก เช่น อิฐหรือหินเท่านั้น สำหรับวัตถุประสงค์ในการสร้างคันธกุฎีนั้น เพื่อจำลองสถานที่เฉพาะส่วนพระองค์พระพุทธเจ้า (ปลีกวิเวก) ดังที่ปรากฎในพระอรรถกถาแห่งกสิสูตร อุปาสกวรรคที่ 2 ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีกิจประจำวัน 5 อย่าง ดังนี้ "กิจหนึ่งในปุเรภัต ทรงลุกแต่เช้า หลังจากทรงบ้วนพระโอษฐ์แล้ว ทรงให้เวลาล่วงไป ณ เสนาสนะที่สงัดจนถึงเวลาเสด็จภิกขาจาร แล้วเสด็จโปรดสัตว์ เสวยพระกระยาหาร ทรงรอจนภิกษุทั้งหลายฉันแล้ว จึงเสด็จเข้าพระคันธกุฎี กิจหนึ่งในปัจฉาภัทร ในเวลาหลังเพล ถ้าพระองค์มีพุทธประสงค์ทรงมีพระสติสัมปชัญญะสำเร็จสีหไสยาสน์ครู่หนึ่ง โดยพระปรัศว์เบื้องขวาลำดับนั้นทรงมีพระวรกายกระปรี้กระเปร่า ทรงลุกขึ้น แล้วทรงแสดงธรรมแก่บริษัทที่มาประชุมกันอยู่ กิจหนึ่งในปุริมยาม ทรงโสรจสรงพระวรกายในซุ้มสรงแล้วเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งหนึ่งก่อนพระสงฆ์จะเข้ามาถามปัญหา ขอฟังธรรม ฯลฯ ทรงให้โอวาทแก่ภิกษุ กิจหนึ่งในมัชฌิมยามเมื่อพระสงค์ทั้งหลายกลับไปแล้ว ก็เป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน เป็นเวลาที่ทรงพยากรณ์ปัญหาทั้งหลายกับเทวดาฃ กิจหนึ่งในปัจฉิมยาวเมื่อเทวดากลับไปแล้ว ทรงแบ่งเวลาที่เหลือออกเป็น 3 ส่วน คือ ทรงเดินจงกลมส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 พระองค์เสด็จไปยังพระคันธกุฎี ทรงมีสติสัมปชัญญะสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา ส่วนที่ 3 พระองค์ลุกขึ้นประทับตรวจดูสัตว์โลกที่ควรแก่การตรัสรู้ และที่ยังไม่ควรตรัสรู้" จากพุทธกิจ มีบางช่วงเวลาที่เป็นเวลาส่วนพระองค์ภายในคันธกุฎี ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งหมู่เทพและมนุษย์ที่ไม่ควรเข้าไปรบกวนพระพุทธองค์ แม้พรหมก็ยังต้องแอบอยู่ข้างประตู ไม่กล้าเข้าไปรบกวน ได้แต่ซุบซิบสนทนาธรรมกับผู้อื่น ข้างบานประตูนั้น ด้วยจุดประสงค์ดังกล่าวคันธกุฎีจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นห้องส่วนตัวของพระพุทธเจ้า จึงใช้ประดิษฐานพระประธาน (พระพุทธเจ้า) เพียงอย่างเดียว ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าไปกราบไหว้บูชาภายในห้อง เพราะเป็นการรบกวนพระพุทธองค์ แต่หากต้องการบูชาก็สามารถกระทำได้ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ด้านหน้าคันธกุฎีเท่านั้น สำหรับในล้านนา คันธกุฎีได้พัฒนาเป็นปราสาทเล็กๆ ตั้งอยู่ภายในวิหาร เช่น วัดพระธาตุลำปาง (ลำปาง) วัดพระธาตุจอมทอง (เชียงใหม่) หรือวัดดอยสัก (อุตรดิตถ์) เป็นต้น อีกรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาของคันธกุฏี คือ พัฒนาไปเป็นเรือนคฤห์ อันเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็ก ตั้งอยู่โดดๆ กลางแจ้ง เช่นที่วัดช้างค้ำ (น่าน) และวัดเชียงทอง (หลวงพระบาง สปป.ลาว) เป็นต้น อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม “ทนายอ้วนพาเที่ยว” Chubby Lawyer Tour - ทนายอ้วนพาเที่ยว https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/ Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน ชาวบ้านผ่านไปผ่านมา
คงไม่ค่อยรู้สึกว่าตรงจุดนี้ มีความสำคัญอย่างไร มีประวัติศาสตร์อะไรบ้าง แต่พอมีผู้เชี่ยวชาญมาค้นคว้าศึกษา ถึงจะรู้คุณค่าความสำคัญของวัดนะครับ เชียงใหม่ เชียงรายจะคล้ายๆกัน คือมีวัดร้างเยอะมากครับ ปล. ลูกชายผมอายุ 12 ปี ผมรู้สึกว่าพูดกันง่ายขึ้นเยอะครับ เมื่อก่อนล้งเล้งกันบ่อย เพราะค้าดื้อ ซน แต่ก็สอนด้วยเหตุผลมาตลอด รอได้ว่าเค้าจะเปลีี่ยนตัวเอง แต่วิธีนี้จะเหนื่อยกว่าการดุหรือการออกคำสั่งครับ ต้องใจเย็นจริงๆ ซึ่งพ่อแม่บางเวลาก็เย็นไม่อยู่ 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:12:07:46 น.
เมื่อตอนเด็กๆเคยสงสัยว่า
พระประธานโบสถ์วิหารก็องค์โต๊โต เอาเข้าประตูโบสถ์วิหารได้งัยน้าาา กว่าจะรู้ก็นานอยู่ค่ะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:13:40:49 น.
ถ้าไม่มีป้ายระบุว่าเป็นวัดอาจไม่ทราบเลยก็ได้ครับ ยังไงก็ต้องช่วยกันรักษาไว้ ของเก่าของโบราณ เดี๋ยวจะสูญไปเสียก่อนถ้าไม่รักษา
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:14:16:08 น.
ดูภาพ/เรื่อง ฟังดนตรีไปด้วย..
ชอบที่วงนำ เครื่องดนตรีแนวนี้มาประกอบ เสียงกลอง สองชนิดดัง กระหึ่ง เสียงปีหรือขลุ่ยเรียกไม่ถูก ลงตัวไพเราะมาก ๆ ครับ ... ฟังโหมโรงเสร็จ อ้าวเห็นภาพ นักร้องวงอะไรนะ ที่มีชื่อต่อท่้าย ภรณ์ ๆ อยู่ที่ลพบุรี อ้อ วงสุภาภรณ์ชอบนักร้องวงนี้หลายคนไว้วัน หลังค่อยดูอีก 555 โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:14:52:42 น.
สวัสดีครับ
มาเที่ยวด้วยนะครับ ไปที่โบราณสถานแบบนี้ ทำให้จินตนาการไปถึงสมัยก่อน ไว้มาอีกครั้งนะครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:17:20:00 น.
สวัสดีมีสุขค่ะ
เชียงแสนเป็นจุดหมายต่อไปค่ะ ดูภาพโบราณสถาน ในร่มไม้กับฟังเพลงสำเนียงเหนือไปด้วย เพลิดเพลินเชียวค่ะ ขอบคุณกำลังใจที่ให้ตะพาบ..เลียนแบบ..ด้วยค่ะ โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:30:40 น.
เมืองไทยเรานี้แสนดีนักหนา มีที่เที่ยวให้น่าค้นหามากมายนะคะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:19:37:53 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:21:19:01 น.
ตามมาเที่ยวต่อครับ
วัดมหาธาตุ เป็นวัดประจำเมืองแต่ละเมือง ที่เชียงแสนเหลือแค่นี้ ก็มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ครับ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:23:10:05 น.
ภาพสวยมากและได้ความรู้
ขอบคุณคุณบอลที่พาเที่ยวค่ะ โดย: Sweet_pills วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:8:38:10 น.
จากบล็อก..
อันนั้นซอสพริกศรีราชา ไม่เผ็ดเลยเด้อออ แฮร่ โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:10:39:49 น.
ใบชะคราม-- โหยยย เท่ห์ ว่าแต่ตลาดน้ำท่าครามอยู่ตรงไหน
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:13:15:34 น.
อย่าตีเลยครับคุณบอล
เค้าจะจำ ดีไม่ดี เอาไปทำกับคนอื่นด้วย สอนด้วยเหตุด้วยผล ได้ผลช้า แต่ดีกว่าจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:20:49:56 น.
สวัสดี จ้ะ น้องบอล ตามมาเที่ยววัดมหาธาตุ ที่เชียงแสนจ้ะ ส่วนใหญ่ซากปรักหักพัง ยังสมบูรณ์อยู่เนาะ โหวดหมวด ท่องเที่ยว โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:22:31:53 น.
ขอบคุณที่แวะไปทักทายเสมอ ๆ นะคะ
จะมาบอกว่า เค้าส่งการบ้าน 3F แล้วน้า อิอิ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:10:36:07 น.
วิไลมาศนี่เธอร้ายแบบตัวละครในละครไทยเลยนะครับ
ร้ายมาแต่ไกล 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:12:12:36 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|
แต่ออกมาตากผ้าก็รู้สึกว่าผิวไหม้แล้ว วันหยุดเลยไม่ได้ไปไหนเลย
อยู่บ้านทั้งสามวัน.. ตามไปเที่ยวกะเพื่อนๆ ในนี้เอา