Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม - เชียงราย - วัดป่าสัก เชียงแสน เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยว : วัดป่าสัก เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand พิกัด GPS : 20° 16' 27.36" N 100° 4' 37.58" E ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารในซีรี่ย์นี้จะเป็น ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร จากทริปเชียงรายเมื่อเดือนพฤษศจิกายนที่แล้วนะครับ จริงๆแล้วร้านอาหารจากทริปเขาใหญ่ยังไม่หมดนะครับ แล้วยังต่อด้วยทริปหัวหินอีก แต่ที่เอาทริปเชียงรายมาคั่นก็เพราะว่าช่วงนี้เป็นหน้าหนาว (น้อย) คนนิยมขึ้นเหนือกันมาก เลยเอาที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาโพสซะก่อน เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้คนที่จะวางแผนไปเที่ยวเชียงรายไม่มากก็น้อยครับ มีเรื่องมาเล่าก่อนที่จะพาไปเที่ยวกันครับ สำหรับทริปเชียงรายตัวเจ้าของบล็อกเฉยๆมากๆ โดนเลื่อนมาจากพิษโควิทระลอกแรกต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบิน คืนห้องโรงแรม คืนรถเช่า เจ้าของบล็อกก็นิ่งๆ เฉยๆ คิดว่าคุณชายคงเข็ดไม่อยากไปแล้ว พอช่วงปลดล็อกสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ปลายๆปีที่แล้วคุณชายก็เอาทริปเชียงรายมาเสนออีก ดูท่าแล้วคุณชายอยากไปมากก็เลยตามใจ ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่เจ้าของบล็อกอยากไปมากที่สุดก็เห็นจะเป็น “เมืองเก่าเชียงแสน” ที่อำเภอเชียงแสน (จากการดูสารคดีท่องเที่ยว สารคดีประวัติศาสตร์ และอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะ) เพราะเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนสุโขทัยและอยุธยา แต่จะมีสเน่ห์มากกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเมืองในปัจจุบันสร้างทับอยู่โบราณสถานต่างๆมากมาย ระหว่างที่นั่งค้นข้อมูลวัดโบราณในเมืองเก่าเชียงแสนก็ได้ไปเจอวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรเรื่องเกี่ยวกับวัดโบราณในเมืองเชียงแสนพร้อมแผนที่วัดก็เลยคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งวันในเมืองเก่าเชียงแสนเพื่อไปเที่ยว ถ่ายรูปวัดเก่าๆ เลยทำแผนการเดินทางเที่ยว + ถ่ายรูป วัดเก่าในเมืองเก่าเชียงแสน แต่แล้วแผนการเดินทางก็มีเหตุฉุกเฉินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เพราะมาเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วไถลมาชนกันชนหน้ารถแถวๆประตูเมืองเชียงแสนครับ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย กันชนหน้ารถถลอกไปนิดเดียวเองครับ แต่ต้องเสียเวลารอตัวแทนประกันรถที่อยู่ในอำเภอเมืองขับรถมา 50 - 60 กิโลเมตร ที่อำเภอเชียงแสน เสียเวลาไปหลายครับ พอเสร็จเรื่องประกันก็รู้สึกเซ็งๆครับเลยยกเลิกการถ่ายรูปวัดเก่าๆในเมืองเชียงแสน เหลือแต่เพียงเดินทางเที่ยววัดที่สำคัญๆในเชียงแสนเท่านั้นครับ วัดป่าสัก เป็นวัดแรกที่เราไปเที่ยวก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุครับ วัดป่าสัก เชียงแสน วัดป่าสัก เชียงแสน ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเก่าเชียงแสน อยู่เลยโรงพยาบาลเชียงแสนมานิดเดียว มีทางเลี้ยวซ้ายเข้าไปชมโบราณสถานวัดป่าสัก เชียงแสน ก่อนที่จะผ่านศาลเจ้าพ่อเจ้าพ่อประตูป่าสักและเข้าประตูเมืองเชียงแสนที่ชื่อว่า “ประตูป่าสัก” ครับ วัดป่าสัก เชียงแสน เป็นวัดที่เจ้าของบล็อกฝันเอาไว้ว่าอยากจะมาชมถ้าได้มาเที่ยวเมืองเชียงแสน เพราะเป็นที่สุดแล้วของเจดีย์ที่มีความสวยงามในเมืองเชียงรายและอาจจะเป็นที่สุดแล้วของเจดีย์ทรงปราสาทในภาคเหนือครับ อาจจะเป็นเพราะเมืองเชียงแสนไม่ได้ถูกทำลายลงด้วยภัยสงคราม แต่โบราณสถานต่างๆผุพังด้วยตัวของโบราณสถานเอง ก็เลยยังหลงเหลือร่องรอยปูนปั้นต่างๆมากกว่าเมืองโบราณที่ถูกทำลายลงด้วยภัยสงครามครับ ตามประวัติ วัดป่าสัก เชียงแสน สร้างขึ้นในสมัยพระพญาแสนภู เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์มังรายซึ่งเป็นพระโอรสในพระเจ้าชัยสงคราม ในสมัยของพญาแสนภูได้ทรงขึ้นมาสร้างเมืองเชียงแสน สถาปนาเป็นเมืองหลวง แล้วลดฐานะของเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองลูกหลวงให้พระโอรสพระนามว่าเจ้าคำฟูปกครองเมืองเชียงใหม่ จุดประสงค์ในการสร้างวัดป่าสักนั้นก็เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวา "โคปผกะธาตุ" ซึ่งพระพุทธโฆษาจารย์นำมาถวายจากเมืองปาฏลีบุตร พระพญาแสนภูได้ทรงสั่งให้ปลูกต้นสักทั่วบริเวณวัด จำนวนถึง 300 ต้น ทำให้วัดนี้มีชื่อว่าวัดป่าสักนั่นเอง กลุ่มโบราณสถานของวัดป่าสักมีพื้นที่กว้างขวางมาก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ ประกอบด้วยโบราณสถานต่าง ๆ จำนวน 22 แห่ง เมื่อตอนที่ไปเชียงรายเจ้าของบล็อกยังเจ็บๆขาเนื่องจากกล้ามเนื้อขาอักเสบอยู่จึงไม่ได้เดินเที่ยวชมโบราณสถานทั้ง 22 แห่ง ให้ทั่วอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ ได้แต่เดินชมเจดีย์ประธานและโบราณสถานบริเวณใกล้เคียงเท่านั้นเองครับ ตั้งใจไว้อย่างหนักแน่นว่าถ้ามีโอกาสได้กลับไปเที่ยวที่เชียงแสนอีกครั้ง เจ้าของบล็อกจะกลับไปเที่ยวชมโบราณสถานทั้ง 22 แห่ง ให้ทั่วเชียวครับ เมื่อเดินผ่านแนวกำแพงแก้วเดิมก่อนถึงพระวิหารจะมีทางเดินยกพื้นสูงยาวปูด้วยอิฐหกเหลี่ยมทอดเข้าสู่พระวิหาร อิฐหกเหลี่ยมนี้เป็นของเดิมมาตั้งแต่ครั้งแรกสร้างวัดป่าสัก เชียงแสน เลยนะครับ พระวิหารมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุขหน้า สร้างด้วยศิลาแลงและอิฐฉาบปูน สันนิษฐานว่าเป็นพระวิหารโถงมีขนาดประมาณ 17 เมตร × 37 เมตร มีเสาศิลาแลงฉาบปูนจำนวน 8 ต้น (รวมบริเวณมุขหน้า) ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 45 เซนติเมตร เดินผ่านมุขหน้าเข้าไปข้างในพระวิหาร ด้านท้ายพระวิหารยกพื้นสำหรับประดิษฐานพระประธาน จากพระวิหารไม่สามารถเดินต่อไปถึงพระเจดีย์ได้นะครับ จะต้องเดินลงด้านบันไดด้านข้างพระวิหารก่อนเพื่อเดินไปบนทางยกพื้นเพื่อไปชมพระเจดีย์ครับ พระเจดีย์ประธานที่วัดป่าสัก เชียงแสน เป็นเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนาที่งดงามที่สุดในภาคเหนือและยังมีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ผสมผสานศิลปะสุโขทัย พุกาม และหริภุญไชยเข้าด้วยกันจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รูปแบบของเจดีย์ประธานวัดป่าสัก เชียงแสน ถือว่าเป็นรูปแบบเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอับดับที่สองในประเทศไทย (อันดับหนึ่งคือเจดีย์ที่วัดพระธาตุสองพี่น้องที่เมืองเชียงแสนน้อยอยู่ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายนี่แหละครับ) สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวๆพุทธศตวรรษที่ 19 - ต้นพุทธศตวรรษที่ 20 เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกด้านหลังของวิหาร เจดีย์มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาด 15 × 15 เมตร สูงจากฐานล่างสุดถึงยอดประมาณ 16 เมตร เจดีย์วัดป่าสักเป็นเจดีย์ห้ายอดคล้ายเจดีย์เชียงยืน ที่วัดพระธาตุหริภุญไชย จังหวัดลำพูน แต่มีลักษณะคลี่คลายออกไปแล้วคือ ผังของฐานส่วนล่างเป็นฐานเขียงเตี้ยๆ ในผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเตี้ยๆซ้อนลดหลั่น เหนือขึ้นไปเป็นฐานบัว เหนือฐานบัวขึ้นไปทำเป็นช่องๆ เป็นระยะๆ ประดับด้วยเสาหลอก ภายในช่องสี่เหลี่ยมเชื่อว่าเคยประดับด้วยลายปูนปั้นประดับอยู่ หรืออาจจะประดับเซรามิกปั้นเป็นชาดกต่างๆ ดังที่ปรากฏในศาสนสถานของพุกาม ชั้นถัดขึ้นไปทำเป็นช่องแปดเหลี่ยมประดับ ลักษณะของฐานอย่างนี้ทำให้นึกถึงเจดีย์แบบทวารวดี เช่น ที่พระประโทน หรือที่คูบัว ช่องสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยมนี้มักจะเป็นส่วนประดับฐานเจดีย์แบบทวารวดีอยู่เสมอ ภายในช่องสี่เหลี่ยมบางทีจะพบลายปูนปั้นประดับอยู่ก็มี แต่ที่พระธาตุเจดีย์วัดป่าสักลวดลายปูนนั้นส่วนมากกะเทาะออกหมดแล้ว เหลืออยู่แต่เค้าโครงในของส่วนอิฐที่วางเรียงให้เห็นเป็นช่อง ๆ อยู่เท่านั้น ฐานชั้นที่สองทำเป็นคูหาใหญ่ – เล็ก สลับกัน โดยมีจำนวนคูหาใหญ่ 3 คูหา และคูหาเล็ก 4 คูหา ในคูหาที่ใหญ่กว่าจะประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลก (พระหัตถ์ทั้งสองข้างแนบพระองค์) และในคูหาที่เล็กกว่าประดับรูปเทวดา ...... เรารู้ได้อย่างไรว่าเป็นรูปเทวดา ...... ที่บางคูหายังเหลือร่องรอยของรูปเทวดาประดับนุ่งผ้าซ้อนๆกันครับ ถัดขึ้นไปเป็นฐานเขียงซ้อนเหลี่ยมกัน 3 ชั้น ตรงมุมยังมีปูนปั้นรูปครุฑประดับตกแต่งเหลืออยู่ ชั้นเรือนธาตุอยู่ในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฐานของชั้นเรือนธาตุชั้นล่างสุดก็เป็นลายปูนปั้นบัวคว่ำบัวหงายที่ท้องไม้ระหว่างบัวคว่ำบัวหงายมีลายรักร้อยขั้นกลาง ตรงช่วงกลางเรือนธาตุทั้ง 4 ด้าน มีการสร้างซุ้มจระนำหรือ “ซุ้มทิศ” ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางเปิดโลก ลักษณะเรือนซุ้มจระนำนี้เป็นซุ้มซ้อนกัน 2 ชั้น ประดับลวดลายปูนปั้นลวดลายสวยงาม ด้านบนของซุ้มทิศประดับด้วย “ ฝักเพกา” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ซุ้มเพกา (Clec) ซึ่งคล้ายคลึงกับงานในศิลปะพุกาม ตรงปลายของซุ้มทั้งสองข้างทำเป็นมกรคายนาคสามเศียร ตีนเสาที่รองรับซุ้มทำเป็นลายปูนปั้นเกียรติมุข หรือ หน้ากาล ที่หัวเสาปั้นเป็นลวดลายพรรณพฤกษาประดับประดา ลวดลายดังกล่าวนักโบราณคดีเชื่อกันว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบจีน ส่วนบนของเรือนธาตุประดับด้วยปูนปั้น “สะตายจีน” เป็นรูปคนแคระทำท่าแบก ชั้นบนสุดของเรือนธาตุสร้าง “สถูปิกะ” หรือ เจดีย์จำลององค์เล็กไว้ทั้ง 4 มุม (เมื่อรวมกับยอดขององค์เจดีย์แล้วจะนับได้ 5 ยอด) ซึ่งเป็นคติในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน อันหมายถึงพระธยานิพุทธทั้งสี่ และพระอาธิพุทธ ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอดที่ทำฐานรองรับส่วนยอดอยู่ในผังแปดเหลี่ยม ประดับด้วยเสาหลอกโดยรอบ มีบัวหงายกลีบซ้อนเกสร (บัวปากระฆัง) แผ่ขยายรองรับส่วนองค์ระฆังอีกชั้นหนึ่ง องค์ระฆังของเจดีย์นี้เป็นรูปทรงกลมมีลายปูนปั้นรัดอกกับดอกประจำยามทั้ง 8 ทิศ ซึ่งเป็นธรรมเนียมการสร้างเจดีย์ในล้านา ยอดเจดีย์เป็นดอกไม้บาน สลับกับหม้อซึ่งหมายถึงหม้อปูรณฆฏะ ซึ่งเป็นอิทธิพลมอญโบราญ หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง จากรายงานการขุดแต่งวัดป่าสัก เมื่อ พ.ศ.2535 นักโบราณคดีพบโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น ชิ้นส่วนประกอบฉัตรที่ฉลุลายดอกไม้ แผ่นโลหะดุนลายดอกบัวปิดทอง แผ่นทองจังโก (ลักษณะเป็นแผ่นทองเหลืองทาด้วยน้ำยาและปิดทอง) รวมถึงพบสถูปจำลองหินทราย เศียรพระพุทธรูป ชิ้นส่วนพระเพลาหรือหน้าตักพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย อิฐเผาแกร่งขูดขีดลายคล้ายรูปมังกร เบี้ยดินเผาลักษณะเป็นเบี้ยกลม ฝนเรียบทุกด้านขอบโค้งมน เนื้อสีส้ม นอกจากนี้ ยังพบภาชนะดินเผาอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ เศษเครื่องถ้วยเขียนลายสีดำเคลือบจากเตาเวียงกาหลง เศษเครื่องถ้วยประเภทเคลือบสีเขียวจากเตาวังเหนือ (ลำปาง) เศษเครื่องถ้วยประเภทเคลือบสีเขียวจากเตาสันกำแพง (เชียงใหม่) ไหดินเผาไม่เคลือบแบบพื้นเมือง และกระปุกลายครามเขียนลายเป็ดกลางสระบัวสมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ.1911-2187) โบราณวัตถุที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือลวดลายปูนปั้นจำนวนมาก เช่น ลายเกียรติมุขปูนปั้น ชิ้นส่วนเทวดาปูนปั้น ปูนปั้นประดับซุ้มโขง ได้แก่ ลายประจำยาม ลายดอกไม้ ลายเครือเถา ลายครุฑ ลายมังกร และลายรูปนาค 3 เศียร เป็นต้น สำหรับลวดลายปูนปั้นของเจดีย์วัดป่าสักที่จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงแสน เป็นที่ยอมรับกันว่างานปูนปั้นประดับวัดป่าสักถูกสร้างสรรค์ด้วยฝีมือประติมากรชั้นครู รูปทรงมีโครงสร้างและปริมาตรชัดเจนมีสัดส่วน มีจังหวะในการจัดลำดับและการจัดวาง นับว่าเป็นงานซึ่งแสดงสุนทรียภาพชั้นสูง จากศิลปกรรมของเจดีย์วัดป่าสักทั้งสถาปัตยกรรมและประติมากรรม โดยเฉพาะลวดลายและประติมากรรมปูนปั้นประดับเจดีย์ เช่น พระพุทธรูปปูนปั้น (ปางลีลา) เทวดาปูนปั้น ครุฑและกินรีปูนปั้น ลายกระหนก ลายกาบบน กาบล่าง ลายประจำยาม และลายฝักเพกาเหนือซุ้ม ทำให้นักประวัติศาสตร์ศิลปะส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ศิลปกรรมของเจดีย์วัดป่าสักน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะพุกามผ่านทางสุโขทัย พร้อมๆ กับการรับพุทธศาสนาลังกาวงศ์จากสุโขทัย ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ ยังปรากฏศิลปะอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วย เช่น การชักชายผ้าของเทวดาปูนปั้นคล้ายกับศิลปะลังกา พระพุทธรูปยืนปางเปิดโลกที่ประดิษฐานในซุ้มจระนำของเรือนธาตุที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะสุโขทัย ลายกลีบบัวขนาดใหญ่หรือบัวฟันยักษ์ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะปาละของอินเดีย ปูนปั้นลายเมฆ ลายช่องกระจก ลายบัวมีไส้ และลายดอกโบตั๋น ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะจีนผ่านทางเครื่องถ้วยจีนและเครื่องถ้วยล้านนา อย่างไรก็ตาม มีศิลปกรรมบางส่วนที่น่าจะทำขึ้นในสมัยหลัง เช่น พระพุทธรูปปางเปิดโลก (น่าจะทำขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ 20 หรือต้นพุทธศตวรรษที่ 21) พระพุทธรูปปางลีลาที่ซุ้มจระนำด้านทิศใต้ที่มีการปั้นปูนทับลงบนเค้าโครงเดิม (ปั้นทับเมื่อราวปลายพุทธศตวรรษที่ 22-23) เราเดินชมรอบๆเจดีย์วัดป่าสักไปตามทางเดินยกพื้นที่กรมศิลปากรได้ทำเอาไว้ เดินผ่านซากอาคาร แนวกำแพงแก้วเดิม ผ่านซากอาคารทรงแปลกตาที่เป็นผังรูปตัวแอล (L) ปลายข้างหนึ่งเชื่อมต่อกับเจดีย์หรือสถูป ปลายอีกข้างเป็นทางขึ้นทำเป็นบันไดสูง ไม่แน่ใจว่าเป็นโบราณสถานในวัดป่าสักหรือเปล่าเพราะอยู่นอกแนวกำแพงแก้วออกมาแล้ว หรือจะเป็นวัดอีกวัดหนึ่ง เพราะอย่างที่ได้บอกไปตอนต้นว่าโบราณสถานในบริเวณวัดป่าสักมี 20 กว่าแห่ง อาจจะวิหารของวัดอีกวัดหนึ่งก็ได้นะครับ ถ้ามีโอกาสได้กลับมาเที่ยววัดป่าสุกอีกครั้งจะหาคำตอบให้ได้ครับ ขอบคุณข้อมูลละเอียดยิบๆที่บล็อกของพี่ tuk-tuk@korat ด้วยนะคราบ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tuk-tukatkorat&group=54 อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม “ทนายอ้วนพาเที่ยว” Chubby Lawyer Tour - ทนายอ้วนพาเที่ยว https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/ Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน สวัสดีค่ะ...
ตามคุณทนายอ้วนมาเที่ยวด้วยคะ.. บูรณะใหม่..สวย สะอาด น่าเที่ยวนะคะ.. โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:20:26 น.
สวยงามแม้ผ่านเวลามานานหลายปี นับว่ายังสมบูรณ์อยู่มาก
อิฐโบราณแผ่นใหญ่แข็งแรงกว่าอิฐสมัยนี้นะคะ โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:21:40 น.
ปัจจุบันก็ผุพังไปตามกาลเวลา แม้จะเป็นของเก่าแต่ก็ดูแลอย่างดีนะครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:41:44 น.
ตามมาเที่ยววัดเก่าที่ยังคงความสวยงามมาก
ถ้าเดินชมเงียบๆคงจะรู้สึกขลังมากนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลต้น silver oak ด้วยค่ะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:46:26 น.
สวัสดีครับ
บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น องค์เจดีย์สวยมากครับ มาอ่านข้อมูลรายละเอียดอีกรอบครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:17:54:06 น.
ยังขึ้นรถทันมั้ยน๊อ เพิ่งว่างจ้า ไปไหนไปด้วย
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:58:25 น.
ขนาดรถล้มยังถ่ายภาพได้สวยงามนะครับ ผมว่าสมัยก่อนเชียงแสนน่าจะเจริญรุ่งเรืองมากแน่นอนครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:04:16 น.
ตามมาเที่ยวค่ะ
วัดเก่าแต่ยังคงความสวยงามนะคะ โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:05:21 น.
ตามมาเที่ยววัดด้วยค่ะ ดูร่มรื่นและสวยงามมากค่ะ
โดย: nin77 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:09:17 น.
วัดป่าสักเคยไปมาแล้วครับ
แต่ก็ 20 ปีกว่าปีแล้วที่ไป 555 ตอนนี้ดูสวยขึ้นเยอะเลยครับคุณบอล โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:20:44 น.
สวัสดี จ้ะ น้องบอล
ตามเที่ยว วัดป่าสัก เชียงแสน เชียงราย อ่านจากประวัติความ เป็นมาของวัด เก่าแก่มากทีเดียว วัดดูร่มรื่น เจดีย์ ยังอยู่ในสภาพดี และลวดลายสวยมาก นะ มีโอกาสน่าจะไปเห็นเอง โหวดหมวด ท่องเที่ยว โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:37:55 น.
เจดีย์ทรงปราสาทที่บูรณะแล้ว งามมากครับ ทั้งองค์เจดีย์สมบูรณ์ ลวดลายต่างๆ
เชียงรายยังไม่เคยไปเที่ยวจริงจังสักทีครับ ไปเรื่องงานแถมได้เที่ยว กับ เป็นทางผ่าน เวลาไปเที่ยว อุบัติเหตุ หลง รอคิวเข้ารับประทานร้านอร่อย ทำให้แผนการเที่ยวบางอย่างต้องยกเลิกไป โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:25:05 น.
เจดีย์งามมากค่ะคุณบอล
ขอบคุณสำหรับความรู้ด้วยนะคะ ภาพสวยมากค่ะ โดย: Sweet_pills วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:45:10 น.
ส่วนประกอบเยอะขนาดนี้แสดงถึงความซับซ้อน
ในการสรรสร้างศิลปะนี้จริงๆ นะคุณทนายบอล โดย: หอมกร วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:7:12:42 น.
มารื้อฟื้นวิชา ความซาบซึ้งในศิลปะ
Art appreciation ที่บล็อกนี้วันนี้กัน เคยมาจากกรุุงเทพพร้อมเพื่อนๆ 3 ค้นรถบัส มาทัศนศึกษาศิลปะที่วัดป่าสักนี้ กับ ดร.จิตร บัวบุศย์ สมัยเรียน ปี 1 ป.ตรี ยังงดงามคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ขอบคุณที่แบ่งปันโดยละเอียด โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:8:07:26 น.
สวยมากๆๆๆๆเลยคร้า วัดนี้ไม่เคยได้ไปเที่ยวเลย
ภาพก็สวย น่าสนใจมากๆ มีโอกาสจะลองให้นัองพาไปค่ะ โดย: Tui Laksi วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:31:35 น.
วัดนี้เจดีย์สวยมากครับ เรียกว่าไปเชียงแสนต้องไปดู
โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:00:38 น.
สวัสดีครับคุณทนายอ้วน
ชอบการอธิบายรายละเอียดในรูปครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:49:39 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|
https://papaiwat.com/th/story/category/detail/id/9/iid/58
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E
0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B
8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81_(%E0%B8%88%E0%B8
%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1
%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0
%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8
%A2)
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/520453/
https://sites.google.com/site/chiangsaenthailand2558/home/
wad-phra-thatu-pha-ngea/wad-phra-thatu-cxm-kitti/wad-
phra-thatu-cediy-hlwng-1/cediy-wad-pa-sak
//sac.or.th/databases/archaeology/archaeology/%E0%B
8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%8
8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81
//museum.mfu.ac.th/download-pdf/article.htm