Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนพาเที่ยวเหนือสุดแดนสยาม - เชียงราย - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน เชียงแสน เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยว : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน เชียงแสน เชียงราย, เชียงราย Thailand พิกัด GPS : 20° 16' 25.15" N 100° 4' 45.01" E ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารในซีรี่ย์นี้จะเป็น ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร จากทริปเชียงรายเมื่อเดือนที่แล้วนะครับ จริงๆแล้วร้านอาหารจากทริปเขาใหญ่ยังไม่หมดนะครับ แล้วยังต่อด้วยทริปหัวหินอีก แต่ที่เอาทริปเชียงรายมาคั่นก็เพราะว่าช่วงนี้เป็นหน้าหนาว (น้อย) คนนิยมขึ้นเหนือกันมาก เลยเอาที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมาโพสซะก่อน เผื่อว่าจะเป็นแนวทางให้คนที่จะวางแผนไปเที่ยวเชียงรายไม่มากก็น้อยครับ มีเรื่องมาเล่าก่อนที่จะพาไปเที่ยวกันครับ สำหรับทริปเชียงรายตัวเจ้าของบล็อกเฉยๆมากๆ โดนเลื่อนมาจากพิษโควิทระลอกแรกต้องยกเลิกตั๋วเครื่องบิน คืนห้องโรงแรม คืนรถเช่า เจ้าของบล็อกก็นิ่งๆ เฉยๆ คิดว่าคุณชายคงเข็ดไม่อยากไปแล้ว พอช่วงปลดล็อกสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ปลายๆปีที่แล้วคุณชายก็เอาทริปเชียงรายมาเสนออีก ดูท่าแล้วคุณชายอยากไปมากก็เลยตามใจ ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่เจ้าของบล็อกอยากไปมากที่สุดก็เห็นจะเป็น “เมืองเก่าเชียงแสน” ที่อำเภอเชียงแสน (จากการดูสารคดีท่องเที่ยว สารคดีประวัติศาสตร์ และอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะ) เพราะเป็นเมืองโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่เหมือนสุโขทัยและอยุธยา แต่จะมีสเน่ห์มากกว่านิดหน่อยตรงที่ตัวเมืองในปัจจุบันสร้างทับอยู่โบราณสถานต่างๆมากมาย ระหว่างที่นั่งค้นข้อมูลวัดโบราณในเมืองเก่าเชียงแสนก็ได้ไปเจอวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากรเรื่องเกี่ยวกับวัดโบราณในเมืองเชียงแสนพร้อมแผนที่วัดก็เลยคิดว่าจะใช้เวลาหนึ่งวันในเมืองเก่าเชียงแสนเพื่อไปเที่ยว ถ่ายรูปวัดเก่าๆ เลยทำแผนการเดินทางเที่ยว + ถ่ายรูป วัดเก่าในเมืองเก่าเชียงแสน แต่แล้วแผนการเดินทางก็มีเหตุฉุกเฉินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เพราะมาเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มแล้วไถลมาชนกันชนหน้ารถแถวๆประตูเมืองเชียงแสนครับ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย กันชนหน้ารถถลอกไปนิดเดียวเองครับ แต่ต้องเสียเวลารอตัวแทนประกันรถที่อยู่ในอำเภอเมืองขับรถมา 50 - 60 กิโลเมตร ที่อำเภอเชียงแสน เสียเวลาไปหลายครับ พอเสร็จเรื่องประกันก็รู้สึกเซ็งๆครับเลยยกเลิกการถ่ายรูปวัดเก่าๆในเมืองเชียงแสน เหลือแต่เพียงเดินทางเที่ยววัดที่สำคัญๆในเชียงแสนเท่านั้นครับ พอดีที่จุดเกิดอุบัติเหตุอยู่ใกล้ๆพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนครับ ระหว่างนั่งรอตัวแทนประกันเจ้าของบล็อกเลยเดินไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนเป็นการฆ่าเวลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน อำเภอเชียงแสน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ใกล้ประตูป่าสักและวัดเจดีย์หลวงครับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ก่อตั้งขึ้นในปี พุทธศักราช 2500 เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำแหล่งโบราณคดีเมืองเชียงแสน ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาและจัดแสดง โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่ได้จากการสำรวจ ขุดแต่งและบูรณะโบราณสถานในเขตเมืองโบราณเชียงแสน ตลอดจนพื้นที่อื่น ๆ ในเขตจังหวัดเชียงราย สู่สาธารณชน โดยเป็นหน่วยงานในกำกับของกรมศิลปากร อาคารจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนเป็นอาคารชั้นเดียว ห้องจัดแสดงเป็นห้องต่อๆกันสามารถเดินวนได้รอบ การจัดแสดงมุ่งเน้นการนำเสนอหลักฐานและข้อมูลที่เกี่ยวกับการตั้งหลักแหล่งของชุมชน ตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่ พื้นที่การจัดแสดงช่วงหลัง นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองเชียงแสนและใกล้เคียง หลังจากที่คัดกรองลงทะเบียนและซื้อบัตรสำหรับเข้าชมเสร็จ ก็เข้ามาอยู่ในห้องจัดแสดงกลาง ห้องนี้จัดแสดงลักษณะภูมิศาสตร์ของอำเภอเชียงแสน ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงแสน เครื่องทองโบราณทีมีลักษณะคล้ายกับเครื่องทองของพม่าในรัชกาลพระเจ้ามินดง ซึ่งพบในป่าใกล้กับโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงแสน ประกอบไปด้วย กำไล แหวน ปิ่นปักผม ลานหู (ต่างหู) และส่วนของทับทรวงแบบพม่า เครื่องทองที่พบเหล่านี้สันณิฐานว่าเป็นของใช้ของชนชั้นสูงที่เข้ามาปกครองเชียงแสนก่อนที่จะกลับมาเป็นดินแดนของไทยอีกครั้ง กลางห้องจัดแสดงพระพุทธรูปศิลปะล้านนา 3 องค์ ที่มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 16-23 ที่มีความงดงามและแสดงถึงเทคโนโลยีการหล่อโลหะของช่างในสมัยโบราณ เช่น พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ จะใช้วิธีหล่อแยกส่วน แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ก่อนทำการตกแต่งด้วยกรรมวิธีลงรักปิดทองจารึกที่มีเนื้อหากล่าวถึงการอุทิศถวายที่ดิน คน เงิน ทอง ให้วัดเก็บเกี่ยวผลประโยชน์และใช้แรงงาน เพื่อเป็นพุทธบูชาและสืบพระพุทธศาสนาที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 จารึกด้วยอักษรล้านนา และก่อนที่จะเดินเข้าสู่ห้องต่อไปจะมีส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งเป็นพระพุทธรูปและปูนปั้นประดับเจดีย์วัดป่าสักที่เป็นโบราณสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงของอำเภอเชียงแสน เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเมืองเชียงแสนได้รับอิทธิพลรูปแบบทางศิลปกรรมจากอาณาจักรพุกาม อาณาจักรสุโขทัย แคว้นหริภุญไชย หรือจีน มาปรับปรุงจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งเจ้าของบล็อกจะพาไปชมแบบเต็มๆตาในบล็อกหน้าครับ ห้องจัดแสดงห้องต่อไปเป็นห้องจารึก จัดแสดงจารึกต่างๆทั้งที่พบในอำเภอเชียงแสนเองและอำเภออื่นๆในจังหวัดเชียงราย จารึกส่วนใหญ่จารึกด้วย “อักษรฝักขาม” หรือ “อักษรธรรมล้านนา” ซึ่งเป็นตัวอักษรโบราณที่ใช้กันอย่างทั่วไปในดินแดนล้านนา ส่วนจัดแสดงถัดมาจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาเมืองเชียงแสน เครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลง บริเวณบ้านป่าล้าน บ้านทุ่งม่าน ตำบลหัวฝาย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เครื่องปั้นดินเผาเชียงแสนจะต่างกับเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงครับตรงที่เครื่องปั้นดินเผาเชียงแสนจะเป็นเครื่องปั้นดินเผาแบบไม่เคลือบ เนื้อแกร่ง นิยมผลิตเป็นคนโท กระปุก และคนที ในขณะที่เครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงจะเป็นแบบเคลือบ มีน้ำหนักเบา เนื้อละเอียด และบางกว่าเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งอื่นๆ ส่วนใหญ่จะมีสีขาว เหลืองนวล และสีเทา นิยมผลิตเป็น จาน ชาม แจกัน โถ ผางประทีป บางทีก็พบตัวตุ๊กตา หรือตัวหมากรุกบ้าง เอกลักษณ์เฉพาะตังของเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงคือ นิยมเขียนลายดอกไม้และกลีบดอกไม้ ซึ่งเรียกว่า “ลายกา” ลายช่อดอกไม้ ลายสัตว์ และลายพรรณพฤกษา เครื่องเขิน (Laccquerwears) ทำจากไม้ไผ่สานหรือไม้ที่มีน้ำหนักเบาให้มีรูปร่างตามการใช้งาน แล้วทำไปทารักและชาด หรืออาจจะทำลวดลายแล้วประดับด้วยทองคำเปลวหรือแผ่นเงินเปลว คำว่า “เครื่องเขิน” สันณิษฐานว่าเรียกตามคนไท “เขิน” ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำเขินในเชียงตุง แล้วถูกกวาดต้อนลงมาอยู่ที่เชียงใหม่ในสมัยพระเจ้ากาวิลละมาตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงใหม่บริเวณบ้านวัวลาย บ้านนันทราม ตำบลหายยา ในปัจจุบัน ชาวไทเขินได้นำความรู้ในการทำเครื่องเขินเข้ามาเผยแพร่ในเชียงใหม่ ส่วนการจัดแสดงต่อๆมาจะเป็นวิถีชิวิตของคนในอำเภอเชียงแสนและอำเภออื่นๆในจังหวัดเชียงรายนะครับ เคยได้ดูรายการ “ตามตำนานกับเผ่าทอง” ของอาจารย้เผ่าทอง ทองเจือ อาจารย์อธิบายเอาไว้ว่าที่บ้านของคนในล้านนามีลักษณะของฝาผนังล่างแคบกว่าฝาผนังบนจนมีลักษณะด้านบนผายออกก็เพราะในสมัยที่พม่าเข้ามาปกครองดินแดนล้านนา พม่าได้บังคับให้คนล้านนาปลูกบ้านที่มีลักษณะแบบเดียวกันทั้งหมด เพราะการที่ตัวบ้านมีลักษณะผายออกทางด้านบนแบบนี้เหมือน “โลงศพ” คนที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีลักษณะเหมือนโลงศพแบบนี้ “ขึด” หรือไม่เป็นมงคล เป็นการตัดไม้ข่มนามไม่ให้คนล้านนากระด้างกระเดื่อง ที่เหนือประตูบ้านแบบล้านนาจะมีแผ่นไม้สลักติดอยู่ เรียกว่า “หำยนต์” ป้องกันสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในบ้าน และบนหน้าจั่วของบ้านแบบล้านนาจะมีไม้ไขว้กันติดอยู่เรียกว่า “กาแล” อันนี้เจ้าของบล็อกคาดเอาเองว่าน่าจะป้องกันนกเกาะที่หน้าจั่วบ้าน คนล้านนาถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี จึงคิดทำกาแลมาติดไว้ ผู้คนที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายก็มีหลายเชื้อชาติครับแต่เอามาให้ชม 2-3 กลุ่มชาติพันธุ์ที่เราเห็นรูปแบบการแต่งกายบ่อยๆ ไท - ยวน (ที่เขียนคำว่า “ไท” แบบไม่มี “ย” เพราะว่าจะหมายความถึงผู้คนที่มีเชื้อสายที่ใช้ภาษาในตระกูล “ไต” หรือ “ไท” ครับ ถ้าเขียน “ไทย” จะหมายถึงคนไทยในประเทศไทยเท่านั้น) ไท – ยวน ถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ในดินแดนทางภาคเหนือของประเทศไทย ผู้หญิงนิยมนุ่งผ้าซิ่น ในผ้าซิ่นแต่ละผืนมีส่วนประกอบคือ หัวซิ่น - เป็นส่วนที่ใช้พันมัดกับตัว นิยมใช้ผ้าขาวมาเย็บต่อกับตัวซิ่น (เพราะส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใช้งานมากที่สุด จะสัมผัสกับเหงื่อไคล สามารถที่จะเปลี่ยนผ้าผืนใหม่ได้เมื่อผืนเก่าชำรุด) ส่วนกลางซิ่นเรียกว่า “ตัวซิ่น” นิยมทอลวดลายขวาง เรียกว่า “ซิ่นตา” หรือ “ซิ่นก่าน” ส่วนปลายสุดของผ้าซิ่นเรียกว่า “ตีนซิ่น” (ส่วนปลายผ้าซิ่น) นิยมทอด้วยเทคนิคการ “จก” หรือ การสอดเส้นด้ายย้อมสีเป็นลวดลายต่างๆ การทอตีนซิ่นจะทอให้มีขนาดแคบๆ แล้วนำไปเย็บต่อกับตัวซิ่น ถ้าเป็นผ้าซิ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันจะนิยมต่อตีนซิ่นด้วยผ้าพื้นสีแดงหรือสีดำ เพราะตีนซิ่นเป็นส่วนที่อยู่ใกล้พื้นที่สุด ในชีวิตประจำวันต้องการความคล่องตัวในการทำงานตีนซิ่นก็ไม่จำเป็นต้องสวยงาม ต่อเมื่อเวลามีงานจึงนำตีนซิ่นที่ทอลวดลายสวยงามมาเย็บต่อ ไทลื้อ เป็นอีกกลุ่มชาติพันธุ์ที่เราเห็นรูปแบบการแต่งกายมากเป็นอันดับต้นๆ ผู้หญิงชาวไทลื้อนิยมใส่เสื่อ “ปั๊ด” ลักษณะเป็นเสื้อแขนกระบอกยาว รัดรูป เอวลอย มีสาบเฉียง ผูกติดกันด้วยด้าย สาบเสื้อและแขนนิยมใช้ผ้าแพรหลายสีมาตกแต่งเป็นริ้วต่อๆกัน ส่วนผ้าซิ่นที่นิยมลวดลายจะอยู่ที่ตัวซิ่น ตีนซิ่นเป็นผ้าพื้น (ตรงข้ามกับการแต่งกายของหญิงชาวไท – ยวน) ไทเขิน คนไทเขินอาศัยอยู่ในเขตเชียงตุง ลักษณะภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นผู้หญิงนิยมสวมเสื้อคล้ายเสื้อปั๊ดของหญิงชาวไทลื้อ เคียนหัว จุดเด่นของการแต่งกายของหญิงชาวไทเขินคือนิยมต่อส่วนล่างของผ้าซิ่นด้วยแพรสีเขียว บล็อกเที่ยวทั่วๆไทยบล็อกหน้าจะเริ่มพาเที่ยววัดโบราณในอำเภอเชียงแสนกันนะครับ อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม “ทนายอ้วนพาเที่ยว” Chubby Lawyer Tour - ทนายอ้วนพาเที่ยว https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/ Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน ที่นี่ผมไม่ได้เข้าไปครับ แค่ผ่านไปเห็นพอดีอ่ะครับ
พวกอะไรเหนือๆ นี่ผมชอบมากเลยพี่บอล ชอบเรื่องเล่า ตำนาน ประวัติศาสตร์เหนือ ศิลปะ งี้อ่ะครับ ชอบเที่ยวเหนือด้วย แต่ไม่มีเวลานี่แหละครับ อิจฉาพี่บอลจิงๆ ได้เที่ยวเหนือเยอะเลย ^^ โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:50:13 น.
พิพิธภัณฑ์.. ผมไปเที่ยวน้อยมาก... ส่วนใหญ่ถ้าอยากเห็นโบราณ
หรือของใช้จะไปที่่ตั้ง เคยไปที่เมียนม่า ตัวพิพิธภัณฑ์เก่า ให้สีทึม พอเข้าไปอ้าวประหยัด ไปอีก เลยปล่อยให้เพื่อน ๆ เดินไปดู ผมเลยหลบไปนั่งงีบซอกหนึ่ง 555 แต่่ประเทศอื่นโอเคนะครับ ข้างบนเป็นตัวอาคารใช้สีสมัยใหม่ด้วย เหมือนโรงเรียนตามต่างจังหวัด ใช้สีอัน อื้อหือ เห็นแล้วตาสว่าง เหมาะดีครับจะได้ดึงเด็ก ๆ วัยรุ่น .... คุณบอลน่าจะอยู่ร๊ายองให้นาน.. หน่อยจะได้ลดหุ่นได้ดี ลากสายยาง รดน้ำต้นไม้ 555 โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:30:45 น.
เคยเข้าไปหาข้อมูลทำธีสิสที่นี่เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษา
ตอนนี้น่าจะปรับปรุงดีขึ้นเยอะเลยครับคุณบอล ปล. ใช่ครับ ถ้าบ้านมีความสุข เราก็แทบไม่อยากออกไปไหนเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:35:44 น.
ยังไม่มีแรงตามไปเที่ยวเลยค่ะ
ตามๆอยู่แถวนี้ก่อนแล้วกัน ขอบคุณนะคะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:39:20 น.
สวัสดีครับ
มาเที่ยวด้วยนะครับ โบราณสถานแบบนี้น่าไปเที่ยวบ้างครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:29:01 น.
พิพิธภัณฑ์แบบนี้ เหมาะแก่การศึกษามากเลยครับ คนที่ชอบนี่อยู่ได้ทั้งวันเลย
โดย: toor36 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:09:30 น.
ตามมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเชียงแสนด้วยครับ
ชอบชมพิพิธภัณฑ์ทุกจังหวัดที่่มีครับ ได้อ่านประวัตความเป็นมาแต่ละจังหวัด ได้ชมโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:15:33 น.
สวัสดีครับคุณทนายอ้วน
ตามมาเที่ยวชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ครับ ชอบผ้าซิ่นกับเครื่องเขินครับ อุบัติเหตุนั้นถือว่าฟาดเคราะห์ครับ เคราะห์ดีไม่เป็นอะไรมาก ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกครั้งนะครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:02:14 น.
ได้ชมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่ทรงคุณค่า
และยังได้ทราบวิถีชีวิตที่นำมาจัดแสดงด้วย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชมมากค่ะคุณบอล ขอบคุณคุณบอลที่พาเที่ยว ขอบคุณกำลังใจด้วยนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:03:53 น.
เคยอ่าน "กลิ่นสีและกาวแป้ง" เมื่อนานมากมาแล้ว
จนจำไม่ได้เลยครับว่ามีการพูดถึงท่านรพินทรนาถ ฐากูรในหนังสือด้วย ตัวหนังสืออ่านสนุกมากเลย จำได้ว่าผมอ่านไปขำไป เพราะตอนนั้นก็อยากเรียนศิลปะด้วย แต่พ่อไม่สันบสุน เลยเปลี่ยนไปเรียนถาปัตย์แทนครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:38:30 น.
ตามมาเที่ยวค่า
ชอบเพลงประกอบ เหมือนได้ไปเที่ยวเหนือจริงๆเลย โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:36:00 น.
ที่นี่ก็ไม่เคยไปเช่นกันค่ะ คุณบอลพาไปชมได้ละเอียดดีจัง
ได้ชมทั้งภาพและความรู้ ที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อนมากมายเลย เจ๋งมากๆ การเที่ยวได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดี และไม่ดี ถือเป็นกำไรชีวิต้ลยนะคะ ขอบคุณอีกด้วยค่ะที่แวะชมให้กำลังใจที่บล็อกเรา เราเองก็เพิ่งรู้อ่ะ...ว่าเรียกพวงหยกด้วย ตอนเขาเปลี่ยนสีใกล้โรย ใช่ ๆ คร้า...มองเผินๆคล้ายดอกวิสทีเรีย สีม่วง โดย: Tui Laksi วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:13:36 น.
ตอนไปเที่ยว รู้น้อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะ
จากบล็อกแค่อ่านก็ดีใจมากแล้ว เซฟไว้อ่านตัวลอยเลยค่ะ โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:13:08 น.
วัดป่าสักเคยไป
แต่พิพิธภัณฑ์ฯ ไม่เคยไป อยากไปค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:18:18:28 น.
บ้านเราเริ่มมีคำบรรยายแบบนี้บ้างแล้วนะครับ
ซึ่งก็ดีมากเลย บางทีคนต่างชาติมาเที่ยว ก็อยากได้ความรู้ติดตัวกลับไปด้วยเช่นกัน โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:42:22 น.
ด้วยประวัติอันยาวนาน วัฒนธรรมอันเก่าแก่ มีมรดกทางอารยธรรมและวิถีชีวิตอันสวยงาม ทำให้เชียงรายเป็นเมืองที่มีมนต์ขลัง โดดเด่น สวยงาม และน่าท่องเที่ยวมากค่ะ ขอบคุณน้องทนายที่เก็บภาพงามๆ และเรื่องราวต่างที่น่าประทับใจมาฝากนะคะ
โดย: ป้านุ่ม (ธาตุไฟเข้าแทรก-ลมปราณแตกซ่าน ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:36:46 น.
น่าเที่ยวครับ เพลงประกอบเพราะจัง
โดย: เจ้าสำนักคันฉ่องวารี วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:51:01 น.
เป็นการฆ่าเวลาที่เลอค่ามากเลยค่ะ
เหมือนพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พูดถึงวาซาบิหลายครั้ง จนชักอยากเห็นหน้าบ้างแล้วสิคะ 555 โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:23:23 น.
ผมก็เป็นบ่อยครับคุณบอล
อ่านไม่รู้เรื่องในรอบแรก ทิ้งเอาไว้ก่อน พอเวลาผ่านไป กลับมาอ่าน ก็อาจจะเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ หนังสือบางเล่ม รอคนอ่านเติบโตก่อน แล้วจึงมอบความเข้าใจให้ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:32:18 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|
ฟังเพลงเพลินใจ
ดูภาพเพลินตา
อ่านบทบรรยายแล้วเพิ่มความรู้แยะค่ะ
ชอบๆๆๆๆค่ะ ชอบเพลงสำเนียงเหนือ งานแกะสลักเหนือ
และผ้าทอผ้าจกทางเหนือค่ะ
ขยายภาพดูลายจก...อืม...เรามีซิ่นจกลายแบบในภาพด้วย หลายผืนค่ะ