Group Blog
All Blog
|
ซากโบสถ์ St. Paul ซากโบสถ์ St. Paul อยู่ด้านหน้าของซากกำแพงเก่าและวัดนาช่าครับ เรียกได้ว่าเดิน 2 ก้าวจากวัดนาช่าก็จะถึง ซากโบสถ์ St. Paul เลยครับ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลหมายถึงด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์ เดอี (Church of Mater Dei) สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1602-1640 เพื่ออุทิศให้กับนักบุญ St. Pauls และซากของ St.Pauls College ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ โบสถ์มาแตร์ เดอี โดนพิษไฟไหม้ในปี 1835 ทำให้วิทยาลัยเซนต์ปอลที่อยู่ติดกับโบสถ์ ก็กลายเป็นซากด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว โบสถ์มาแตร์ เดอีเดิม วิทยาลัยเซนต์ปอล (St. Pauls College) และป้อมปราการ (Mount Fortress) เป็นสิ่งปลูกสร้างของพระนิกายเยซูอิต และตั้งใจก่อร่างให้เป็นอะโครโปลิสแห่งมาเก๊า ซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ของวิทยาลัยเซนต์ปอล คือประจักษ์พยานการก่อตั้งมหาวิทยาลัยของตะวันตกใน ภูมิภาคตะวันออกไกล และได้รับการวางหลักสูตรการศึกษาไว้อย่างพิถีพิถัน ขณะที่ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ในปัจจุบันถูกมาเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลถือว่าเป็นโบสถ์ในคริสต์ศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในสมัยนั้น เป็นงานศิลปะแบบบารอค สร้างด้วยหินแกรนิตโดยช่างก่อสร้าง และช่างแกะสลักชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริตส์และถูกขับไล่ออกนอกประเทศเพราะมาเข้ารีตนับถือคริสเตียน และช่างก่อสร้างชาวพื้นเมือง ภายใต้การกำกับดูแลของ Carlo Spinola พระในนิการเยซูอิดชาวอิตาเลี่ยน สร้างอยู่บนเนินเขาเตี้ย มีบันไดจำนวน 66 ขั้นขึ้นไปถุงซากโบสถ์ได้ ตัวซากประตูโบสถ์วัดความกว้างได้ 23 เมตร สูง 25.5 เมตร โบสถ์ด้านหน้ามีการแบ่งช่องตามความสูงได้ 5 ช่อง ตามแนวคิดในคริสต์ศาสนาเรื่องการขึ้นสวรรค์ของพระเยซู เสาโรมันที่ประดับอยู่ในแต่ละช่องก็มีลักษณะแตกต่างกันไป โดยช่องล่างสุดจะเป็นเสาแบบไอออนนิก, โครีเธียน และส่วนบนสุดจะเป็นเสาแบบคอมโพไซท์ ส่วนบนของซากด้านหน้าของซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะค่อยๆแคบลงจนเป็นหน้าจั่วเปรียบได้กับสวรรค์ซึ่งหมายถึงพระเยซูนั่นเอง ตามชั้นต่างๆของซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะตกแต่งด้วยรูปปั้นต่างๆตามแบแผนการสร้างโบสถ์บ้าง เป็นงานศิลปะแบบตะวันออกบ้าง เช่น พระคัมภีร์ไบเบิ้ล รูปปั้นต่างๆในตำนาน ตัวอักษรภาษจีนมีความหมายว่า ' Holy Mother tramples the heads of the dragon' ดอกเบญจมาศญี่ปุ่น เรือโปรตุเกส รูปผู้หญิงยืนเหยียบตัวไฮดา 7 หัว รูปสลักสัตว์น้ำหลายชนิด สิงโตจีน รวมไปถึงรูปหล่อของผู้ก่อตั้งพระนิกายเยซูอิตในมาเก๊า เรียกได้ว่าซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลเป็นการาบรวมศิลปะตะวันตก จีน และส่วนอื่นๆของเอเชียไว้ด้วยกัน ซึ่งรูปสลักและรูปปั้นทั้งหมดนี้สื่อให้เห็นถึงการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของภาคพื้นต่างๆในโลก และอิทธิพลศิลปะท้องถิ่น ปัจจุบัน ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลกลายเป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊า ด้านหน้าของโบสถ์มีคำว่า มาแตร์ เดอี สลักเอาไว้ครับ เดินผ่านซากด้านหน้าของโบสถ์เข้าไป เราสามารถขึ้นบันไดไปชมด้านบนได้ครับ สำหรับคนที่กลัวความสูงอย่างที่สุดต้องระวังนะครับ เพราะพื้นที่เดินด้านบนเค้าจะเป็นตะแกรงลวดเท่านั้น แต่แข็งแรงมากๆ สูงเหมือนกันนะครับ แต่ขึ้นมายืนข้างบนนี่เห็นวิวมาเก๊าชัดมากๆ หันไปด้านหลังก็จะเป็น Museum of Sacred Art ซึ่งรวมรวมรูปเคารพ และศิลปวัตถุที่สำคัญเอาไว้มากมาย เดี๋ยวเราจะลงไปชมกันครับ มองลอดซุ้มประตูไปด้านหน้าเห็นโรงแรม Lisbao อยู่ไกลๆ พอเดินลอดซุ้มประตูเข้าไปก็จะเห็นเป็นทางเดินกว้างๆ ยาวๆ อย่างนี้ครับ นี่คือซากของโบสถ์ St.Pauls ที่ทางรัฐบาลมาเก๊าเค้าพยายามอนุรักษ์เอาไว้ให้เราได้จินตนาการนะครับ ลองไปยืนมองภาพจำลองของโบสถ์ก็จะช่วยได้ครับ ว่าเมื่อสมัยก่อนนั้นโบสถ์นี้มีขนาดใหญ่เพียงไร ถ้าเราหันกลับมาจะเห็นว่าเราสามารถขึ้นไปด้านบนของซากด้านหน้าของโบสถ์ได้ครับ ภาพนี้เราจะเห็นได้เลยว่าโบสถ์แห่งนี้ยิ่งใหญ่มากๆ ข้างทางเราจะเห็นว่ามีกระจกปิดหลุมเอาไว้ 2 แถวทั้ง 2 ข้างของซากโบสถ์นะครับ แถวที่อยู่นอกสุดนั้นเป็นหลุมศพพระครับ ได้เคยบอกแล้วว่าโบสถ์ St.Pauls นี่เป็นจุดศูนย์กลางของคริสต์ศาสนาของมาเก๊า เทียบได้กับ St.Peters ที่วาติกันนั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นพระที่มีตำแหน่งสูงๆที่มรณภาพลงเค้าก็จะเอามาฝังในโบสถ์ St.Pauls เหมือนกับการฝังศพพระตำแหน่งสูงๆในวาติกันก็ต้องเอามาฝังไว้ในโบสถ์ St.Peters ครับ ส่วนหลุมที่อยู่ในแถวที่อยู่ทางด้านในเป็นเสาของ St.Pauls ครับ พอเราเดินไปจนสุดด้านในจะมีทางลงไปยังชั้นล่าง ซึ่งตรงนี้เดิมเป็นแท่นบูชาหลักของ St.Pauls ครับ ตรงที่เค้าปักไม้กางเขนไว้นั่นแหะครับ คือแท่นบูชาหลัก ส่วนตู้ไม้เป็นชั้นๆข้างๆเป็นกระดูกของพระที่ฝังไว้ที่ โบสถ์ St.Pauls ที่ขุดได้ เค้าก็เอามาเก็บไว้ด้วยกันครับ เสร็จแล้วก็เดินมาทางด้านหน้าของ โบสถ์ St.Pauls มองลงไปข้งล่างจะเป็น Copany of Gesus Square |
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|