อุปกรณ์ที่มีผลต่อการออกกำลังกาย
* ออกกำลังกาย เลือกของใช้ให้เหมาะ เพื่อสุขภาพ
ข้อแนะนำในการเลือกรองเท้า สำหรับการออกกำลังกายและเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ
1.รองเท้าควรมีคุณสมบัติทางด้านความปลอดภัย ทั้งความมั่นคงและความสามารถในการลดแรงกระแทก
2.ต้องเลือกว่าต้องการความมั่นคงหรือการลดแรงกระแทกมากกว่ากัน (ขึ้นอยู่กับชนิด/ประเภทของกีฬาหรือกิจกรรมการออกกำลังกาย)
3.ต้องกระชับ พอดี ไม่หลวมหรือคับจนเกินไปเมื่อสวมใส่ โดยทดลองสวมใส่แล้วมีระยะห่างตรงปลายหัวแม่เท้าประมาณ 1 นิ้ว จะให้ดียิ่งขึ้น ควรลองสวมใส่ดูพร้อมกับถุงเท้าที่ใส่ขณะออกกำลังกายหรือเล่น กีฬา พร้อมกับผูกเชือกผูกรองเท้าแล้วลองเดิน หรือลองวิ่ง บนพื้นแข็ง(Hard surface) ไม่ใช่บนพรม
ให้สังเกตว่าส้นเท้าขยับขึ้นลงหรือไม่ สามารถขยับนิ้วเท้าได้สบาย ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของรองเท้าขัดสีกับเท้ามากเกินไป จนเกิดบาดแผลขึ้นที่เท้าหรือเกิดความรู้สึกไม่สบายเท้า
4.หากต้องการให้รองเท้าสามารถรองรับแรงกระแทก ในระยะที่ส้นรองเท้ากระทบพื้น(Contact phase) ได้มากขึ้น ควรใส่รองพื้นในรองเท้า (Cushioned or shock absorbing insoles) สำหรับลดแรงกระแทกในรองเท้าคู่นั้นด้วย
5.บริเวณที่หุ้มส้นเท้าสำหรับรองเท้าวิ่งควรจะมีความแข็ง มั่นคง ไม่งอง่าย(Stiff) โดยเฉพาะในรองเท้าฝึก (Training shoes)
6.ควร เลือกซื้อรองเท้าชนิดที่จะใส่เฉพาะสำหรับเล่นกีฬาชนิด/ประเภทนั้นๆ โดยตรงจะดีที่สุด เช่น ถ้าจะเล่นกีฬาหรือกิจกรรมการออกกำลังกาย ที่มีการเล่นที่รุนแรงหรือกิจกรรม ประเภทผจญภัย ควรเลือกซื้อรองเท้าที่มีความหนักมากกว่าปกติเพื่อความคงทน แต่ถ้ากีฬาหรือกิจกรรมนั้นต้องใช้ความเร็ว ควรเลือกซื้อรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา
7.ถ้า เป็นไปได้ในการเลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ควรนำรองเท้าคู่เก่าที่กำลังใส่อยู่ไปด้วย เพราะคนขายรองเท้าที่มีความรู้จะ สามารถประเมินความต้องการของท่านได้จากการดูรองเท้าคู่เก่าของท่าน อย่างน้อย ก็ทราบขนาดของรองเท้าจากเบอร์ที่ปรากฏใต้ลิ้นรองเท้า(Tongue) ซึ่งแต่ละประเทศหรือแต่ละยี่ห้อก็จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป
การวิ่ง โดยใส่ชุดวอร์มช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ในนักกีฬาซึ่งต้องการลดน้ำหนักแบบทันตาเห็น ซึ่งต้องใช้ความอดทนและสมรรถภาพร่างกายในระดับสูงมาก เช่น ก่อนการชก 2 ชั่วโมงลดน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมในนักมวย โดยใส่ชุดวอร์มและให้ออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับการอดน้ำ ซึ่งนักมวยทนได้เพราะฝึกร่างกายมาแล้วอย่างดี มีสมดุลอุณหภูมิกายที่ดี
ชุดวอร์มที่ใช้รีดน้ำหนักในนักกีฬาผลิตด้วยวัสดุ ที่กันการระบายความร้อนออกจากชุด ใส่คลุมแน่นหนาตั้งแต่คอถึงข้อเท้า ทำให้เหมือนการออกกำลังในตู้อบ
หากท่านอยากใช้ชุดวอร์มในการออกกำลังลดน้ำหนัก มีข้อแนะนำ ดังนี้
1.เลือก ชุดวอร์มที่มีการระบายเหงื่อสะดวก กล่าวคือ ณ ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งบนผิวกาย เหงื่อที่ผุดออกมาจากผิวจะต้องถ่ายเทสู่ผิวด้านในของชุด และต้องถูกระบายออกสู่ผิวด้านนอกของชุดได้โดยง่าย เพื่อเปิดโอกาสให้เหงื่อเม็ดต่อไปถูกขับออกมาได้ ความร้อนไม่สะสม หากเหงื่อเม็ดเดิมยังคาอยู่ที่ผิว โดยไม่ได้ระบายออกไปจะไปยับยั้งไม่ให้ เหงื่อเม็ดถัดไปผุดออกมาได้ ชุดที่ใช้ต้องไม่กักขังเหงื่อเอาไว้ แต่ต้องยอมให้เหงื่อทยอยระเหยออกไปได้ (Glitz และคณะ, 1994)
2.อย่าใส่ชุดวอร์มไปออกกำลังในที่ร้อน อากาศร้อนในฤดูร้อน เพราะการถ่ายเทความร้อนของร่างกายจะถูกเร่งรัด เสียเหงื่อเร็ว
และไม่ควรใส่ชุดวอร์มไปออกกำลังหลังฝนตก เพราะการถ่ายเทความร้อนของร่างกายจะถูก ยับยั้งโดยความชื้นในอากาศรอบตัว
3.คนที่มีขนที่ผิวหนังมากไม่ควรใส่ชุดวอร์มออกกำลัง เพราะการหลั่งเหงื่อของมนุษย์ส่วนมากจะเกิดที่บริเวณไม่มีขน การที่ขนมากๆ จะมีพื้นที่เสียเหงื่อจำกัด เช่นเฉพาะที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก ฯลฯ โอกาสที่ความร้อนสะสมจะสูงมากกว่า
4.ควร มีผ้าขนหนูติดตัวในขณะออกกำลังกาย การเช็ดเหงื่อที่ผิวบ่อยๆ จะเปิดโอกาสให้เหงื่อเม็ดต่อไปผุดขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ในทางตรงกันข้ามการปล่อยให้เนื้อตัวเปียกแฉะ ทำให้ปิดโอกาสการหลั่งเหงื่อ
5.การออกกำลังจนน้ำหนักตัวลดลงเกินกว่า 2% เป็นอันตรายต่อร่างกาย(Graham และ Miller, 2008) จึงควรทดสอบน้ำหนักตัวก่อนและหลังออกกำลังอยู่เสมอ
บทความจาก สยามกีฬา ที่มา //www.thaihealth.or.th/node/10825
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 12:06:56 น. |
Counter : 1510 Pageviews. |
|
|
|