Group Blog
All Blog
### ดอกเครือเทพรัตน์ ###
















ดอกเครือเทพรัตน์

.......

พรรณไม้พระนาม

 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๓ ชนิด

 ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ถูกสำรวจ และเป็นพืชถิ่นเดียว

 ที่พบในประเทศไทย และเป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก

ซึ่งได้ตั้งชื่อพรรณไม้ทั้ง ๑๑ ชนิด เครือเทพรัตน์

เป็นพืชสกุลใหม่ของโลกอยู่ในวงศ์ชบา

โดยชื่อสกุล “Thepparatia” ตั้งตามชื่อประเทศไทย

เครือเทพรัตน์ พบเฉพาะทางภาคเหนือของไทย ที่จังหวัดตาก

 ใกล้ชายแดนพม่า ขึ้นตามหุบเขาที่ลาดชัน

ใกล้ลำธารในป่าดิบแล้ง ที่ระดับความสูงประมาณ ๗๐๐ เมตร

เป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ ยาวได้ถึง ๒๐ เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น ๑๐-๑๕ เซนติเมตร

มีขนรูปดาวตามด้านบน ของแผ่นใบ ก้านใบ

ช่อดอก ริ้วประดับ และกลีบเลี้ยง ใบเรียงเวียน

ใบรูปฝ่ามือ มี ๓ - ๕ แฉกตื้นๆ ขอบใบหยักฟันเลื่อยห่าง

 ด้านบนของแผ่นใบมีต่อมทั่วไป

ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ดอกจำนวนมาก

ริ้วประดับติดทนมี ๕ -๗ กลีบ

กลีบเลี้ยง และกลีบดอกอย่างละ ๕ กลีบ

 กลีบดอกสีเหลืองอ่อน หรือสีครีมมีแถบสีแดง

 รูปไข่กลับ ปลายกลีบม้วนออก อับเรณูรูปเกือกม้า

ผลยังไม่พบ










 

 

ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ




Create Date : 31 มีนาคม 2558
Last Update : 31 มีนาคม 2558 10:05:19 น.
Counter : 4273 Pageviews.

0 comment
### เอื้องศรีอาคเนย์ ###














เอื้องศรีอาคเนย์

......

พรรณไม้งามสกุล "มหิดล"

ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sirindhornia monophylla

 (Collett & Hemsl.) H.A.Pedersen & Suksathan

พบครั้งแรกที่มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน

และได้ตั้งชื่อทางพฤกษศาสตร์โดย Henry Collett

และ William Botting Hemsley

เป็นครั้งแรกในปีคริสตศักราช ๑๘๙๐ ว่า

 “Habenaria monophylla (Collett & Hemsl.)”

ต่อมา Mr.Hendrik Ärenlund Pedersen

และ ดร.ปิยเกษตร สุขสถาน ได้ศึกษาพืชวงศ์กล้วยไม้

ของประเทศไทย จึงย้ายกล้วยไม้ชนิดนี้

มาอยู่ในสกุล Sirindhornia

โดยได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร

 Nordic Journal of Botany เมื่อปีคริสตศักราช ๒๐๐๒

 เป็นกล้วยไม้ดินที่พบบนเขาหินปูน

 ขึ้นปะปนกับหญ้าในบริเวณที่โล่งแจ้งแสงแดดจัด

 ที่ระดับความสูง ๑,๒๐๐ เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

 มีเขตการกระจายพันธุ์ เป็นวงกว้าง

แถบทางตอนเหนือของประเทศไทย

รัฐฉานตอนเหนือ ของประเทศเมียนมาร์

และแคว้นยูนนานทางตอนใต้ของประเทศจีน

และที่สำคัญเป็นพืชที่พบใหม่ บนดอยหัวหมด จังหวัดตาก

 โดยคำระบุชื่อชนิดว่า “monophylla”

 มีรากศัพท์จากภาษากรีก ๒ คำ คือ

mono แปลว่า หนึ่ง และ phylum แปลว่า ใบ

 ความหมายโดยรวมจึงหมายถึง มีใบเพียง ๑ ใบ


เอื้องศรีอาคเนย์ ลักษณะเป็นกล้วยไม้ดิน

สูง ๑๐ – ๔๐ เซนติเมตร ใบ แผ่รูปรีแกมขอบขนาน

 มีเส้นใบขนานตามยาวประมาณ ๑๒ – ๒๐ เส้น

 และมีจุดประขนาดค่อนข้างใหญ่ สีแดงอมม่วงทั้งใบ

 ช่อดอกสูง ๑๐ – ๒๕ เซนติเมตร มีประมาณ ๖ – ๔๐ ดอก

 ดอกสีขาวแกมชมพู มีจุดประสีชมพูเข้ม

 กลีบข้างแผ่คล้ายหู หรือลักษณะค่อนข้างกลม

 สีชมพูแกมเขียว กลีบปากมีจุดประสีแดงแกมชมพู

 ส่วนปลายแผ่เป็น ๓ พู งวงน้ำหวานเป็นหลอดตรง

 หรือโค้งเล็กน้อย ขนาดสั้นกว่า ๘ มิลลิเมตร

 ดอกบานช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน

ในฤดูที่ไม่เหมาะสมจะพักตัวเหลือเพียงหัวใต้ดิน
















ขอบคุณที่มา fb Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 30 มีนาคม 2558
Last Update : 30 มีนาคม 2558 14:54:23 น.
Counter : 2711 Pageviews.

0 comment
### เอื้องศรีประจิม ###












เอื้องศรีประจิม

 ............

พรรณไม้ตระกูล "มหิดล"

 ได้รับการตั้งชื่อ เป็นกล้วยไม้ชนิดใหม่ของโลก

ในปี พ.ศ. 2547 เพื่อเทิดพระเกียรติ

 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

โดย โดยได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร

Nordic Journal of Botany ค.ศ. 2002

ตัวอย่างพันธุ์ไม้ต้นแบบหมายเลข Suksathan 3000

เก็บจากดอยหัวหมด อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

 ที่ระดับความสูง 1000 เมตร

ชื่อวิทยาศาสตร์ Sirindhornia miralbilis H.A.Pedersen & P.Suksathan

เอื้องศรีประจิม .. กล้วยไม้ดิน สูง 10-34 ซม.

ใบแผ่รูปไข่กว้าง มีเส้นใบขนานตามยาว ประมาณ 8-12 เส้น

 และมีจุดประสีแดงอมม่วงทั้งใบ

 ช่อดอกสูงได้ถึง 40 ซม. มีประมาณ 16-36 ดอก

 ดอกสีชมพู กลีบข้างแผ่สีอมเขียว ขนาด 1.5 ซม.

 กลีบปาก มีสีชมพูแกมชมพูอ่อน

 ส่วนโคนแผ่ขยายออกเป็นปีก 2 ข้าง

ส่วนกลางคอดกิ่ว ส่วนปลายแผ่หยักเว้าเป็น 2 พู งวงน้ำหวาน

ส่วนโคนเป็นหลอด ตรงส่วนปลายงอโค้ง ขนาด 8-9 มม.

ดอกบานช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน














ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 29 มีนาคม 2558
Last Update : 29 มีนาคม 2558 12:10:52 น.
Counter : 2237 Pageviews.

0 comment
### ดอกหัวใจหลั่งเลือด ###

















ตำนานดอกหัวใจหลั่งเลือด กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

 มีเจ้าชายผู้สง่างามพยายามที่จะครองหัวใจ

ของเจ้าหญิงแสนสวย

วันหนึ่งเจ้าชายกลับมาจากการเดินทางอันแสนยาวไกล

 พร้อมกับของขวัญชิ้นหนึ่ง

ที่พระองค์มั่นใจว่าจะพิชิตใจของเจ้าหญิงได้

พระองค์ได้นำดอกไม้สีชมพูสองดอก

แล้วค่อยๆแกะออกทีละกลีบๆ

จนมีกระต่ายสองตัวอยู่ในดอกไม้นั้น

เจ้าหญิงได้แต่ชำเลืองมองกระต่ายสีชมพูตัวน้อย 

เจ้าชายมีของขวัญให้อีกหนึ่งชิ้น นั่นก็คือ ต่างหูเวทย์มนต์

แต่เจ้าหญิงไม่สนใจของขวัญที่เจ้าชายนำมาให้ 

ตอนนี้หัวใจของเจ้าชายผู้น่าสงสารก็แตกสลาย

 เจ้าชายไม่สามารถเอาชนะใจของเจ้าหญิงได้

 พระองค์ลุกขึ้นแล้วชักมีดออกมา

เสียบไปตรงกลางหัวใจของพระองค์เอง

 เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว

คงเหลือแต่ดอกไม้ที่เป็นรูปหัวใจที่มีติ่งห้อยสีเข้มตรงกลาง

 เหมือนกับรอยมีดที่ปักลงไปที่หัวใจของพระองค์

เจ้าหญิงเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียพระทัยมาก

พระองค์เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าชายรักพระองค์มากเพียงใด

และรักแบบไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

เจ้าหญิงเพิ่งจะรู้ว่าตัวของพระองค์เองรักเจ้าชายมากแค่ไหน

 เจ้าหญิง ตรัสกับเจ้าชายด้วยว่าด้วยน้ำตาว่า

 "สุดท้ายแล้ว หม่อมฉันทำผิดเอง

หัวใจของหม่อมฉันในตอนนี้กลายเป็น

หัวใจที่แหลกสลายเหมือนกับหัวใจของพระองค์"

 แล้วหัวใจของเจ้าหญิงก็หลั่งเลือด

ให้กับความรักของเจ้าชาย จนถึงทุกวันนี้





ขอบคุณที่มาของเรื่อง fb. ชุมชนคนรักพรรณไม้








Create Date : 26 มีนาคม 2558
Last Update : 29 มีนาคม 2558 12:11:36 น.
Counter : 2151 Pageviews.

0 comment
### ดอกภูมิพลินทร์ ###













ดอกภูมิพลินทร์

...............

พรรณไม้ที่ได้รับพระราชทาน พระบรมราชานุญาต

ให้อัญเชิญ พระปรมาภิไธย เป็นชื่อวิทยาศาสตร์

 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพรรณไม้

เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔ ว่า “ภูมิพลินทร์”

แปลว่า พรรณไม้ที่เป็นศรีสง่า

แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลเดช

จัดเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ชาฤาษี (GESNERIACEAE)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Trisepalum bhumibolianum

แหล่งที่สำรวจพบบริเวณ แก่งหินปูน เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

 และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน

จัดเป็นพืชหายากและพืชถิ่นเดียว

 พบเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น (endemic species)

 ผู้สำรวจและค้นพบ นายปราโมทย์ ไตรบุญ

และนายฐิติพันธ์ จูจันทร์


ภูมิพลินทร์ ลักษณะไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 20-60 เซนติเมตร

 ลำต้นส่วนล่างเป็นไม้เนื้อแข็ง

เปลือกไม้แตกเป็นร่องตามแนวยาว สีน้ำตาลอมเทา

ส่วนบนแตกกิ่งโปร่ง กิ่งมีขนาดเล็กและเรียว

ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก

แผ่นใบรูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร

ยาว 2.5-6 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบรูปลิ่ม

 ใต้ใบปกคลุมด้วยขน เหมือนใยแมงมุม สีขาว

 ก้านใบยาว 3-7 มิลลิเมตร

ช่อดอก แบบช่อกระจุกเชิงประกอบ ออกด้านเดียว สั้น

 เกิดที่ยอดหรือใบใกล้ปลายกิ่ง ใบประดับรองรับดอก รูปเกือบกลมถึงรูปไข่กว้าง กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ปลายแยกเป็น ๕ แฉก รูปไข่กว้าง สีชมพูหรือสีม่วงอ่อน ภายในโคนหลอดมีแต้มสีเหลือง

ผล แบบผลแห้งแตก รูปคล้ายกระสวย

เมื่อผลแก่จะบิดเป็นเกลียว

ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก































ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ






Create Date : 25 มีนาคม 2558
Last Update : 25 มีนาคม 2558 9:31:36 น.
Counter : 2349 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ