ดอกราชาวดีหลวง
..............
มีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง พบตั้งแต่อินเดีย ภูฎาน
บังคลาเทศ พม่า จีนตอนใต้ เวียดนาม
และภาคเหนือของไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่
บริเวณดอยเชียงดาว และดอยผ้าห่มปก
ขึ้นตามที่โล่งบนเขาหินปูน ระดับความสูง 1600-2200 เมตร
ช่อสีชมพูยาว กลิ่นหอมแรง กลิ่นเดียวกับราชาวดี
ลักษณะ ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ประมาณ 5 ม.
กิ่งเป็นสี่เหลี่ยมหรือเป็นปีก มีขนกระจุกตามกิ่งอ่อน
แผ่นใบ กลีบเลี้ยงและหลอดกลีบดอกด้านนอก
หลอดกลีบดอก รังไข่ และผล หูใบคล้ายใบ
ใบเรียงตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 4-45 ซม.
ปลายใบแหลมยาว โคนใบรูปลิ่มหรือเรียวสอบจรดลำต้น
ขอบใบจักมน เส้นแขนงใบข้างละ 15-25 เส้น
ไร้ก้านหรือเกือบไร้ก้าน ช่อดอกแบบช่อเชิงลด
ออกที่ปลายกิ่ง ยาว 5-20 ซม. เรียงหนาแน่น
เป็นกระจุก 1-3 ดอก กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 3-6 มม.
กลีบรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 มม.
กลีบดอกสีชมพูอมม่วง เชื่อมติดกันเป็นหลอด
ปากหลอดกลีบสีส้ม หลอดกลีบรูปทรงกระบอกแคบ ๆ
ยาว 0.8-1 ซม. มีขนยาวด้านใน กลีบเกือบกลม ยาว 2-4 มม.
เกสรเพศผู้ติดใต้ปากหลอดกลีบดอก ก้านชูอับเรณูสั้นมาก
อับเรณูยาวประมาณ 2 มม. รังไข่รูปรี ยาว 2-4 มม.
มีขนกระจุกสั้นนุ่ม ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.5-3 มม.
ยอดเกสรรูปคล้ายกระบอง ผลแห้งแตก รูปรี ยาว 0.7-1 ซม.
เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ยาวประมาณ 3 มม. มีปีกที่ปลายทั้งสองข้าง
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ