Group Blog
All Blog
|
### ดอกพวงประดิษฐ์ ###
............... เป็นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ ที่มีเถายาว แข็งแรง แต่อิงอาศัยต้นไม้ยืนต้นอื่น ๆ เกาะเกี่ยวไปเพื่อรับแสงสว่าง ความโดดเด่น คือเวลาออกดอกจะดกทั้งต้น เป็นช่อใหญ่ ๆ และให้สีสัน เปลี่ยนแปลง จากสีขาวอมชมพู จนถึงชมพูอมม่วง ดอกมีอายุนาน ลักษณะดอกสวยเด่น มีลีลาที่ชวนมอง โดยเฉพาะในฤดูออกดอก ในผืนป่าจะสว่างโพลน และพุ่มเลื้อยที่เต็มไปด้วยดอกสีชมพูอมม่วง เหมือนดังกับเป็นไม้ยืนต้น ออกดอกเต็มต้น กระจายทั่วไปในป่า เครือออน (ภาคเหนือ) งวงชุม (เลย) จั่งบั่ง ออนแดง(เชียงใหม่) ท้องปลิง (จันทบุรี) พญาโจร (กรุงเทพ) พลูหีบ ล้วงสุ่มขาว ล้วงสุ่มตัวผู้ (นครราชสีมา)สะแกบ (อุตรดิตถ์) สังขยา (พิษณุโลก สงขลา) ชื่อสามัญ Lavender Wreath, Shower Orchid เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ดอกสีชมพูม่วง ออกดอกในช่วง ธันวาคม-เมษายน เป็นไม้ป่าบ้านเรา ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ทนร้อนแล้งเป็นอย่างดี บ้านไหนอยากปลูกพวงประดิษฐ์ ตรวจสอบขนาดพื้นที่ ในบ้านก่อน เพราะว่ามีขนาดใหญ่มากพอสมควร ช่อดอกประกอบด้วย ช่อย่อยเป็นกระจุก มีดอกประมาณ 5-7 ดอก ช่อหนึ่งยาวได้ประมาณ 10-18 นิ้ว มีใบประดับสีม่วงอมชมพูรองรับ 3 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ แกมขอบขนาน มีขนาดกว้างประมาณ 0.8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร โคนเชื่อมติดกัน ดอกย่อยเป็นสีขาวขนาดเล็ก หลุดร่วงได้ง่าย กลีบดอกส่วนโคน เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 2 ปาก ขนาดไม่เท่ากัน แบ่งเป็นส่วนบน 2 กลีบ ส่วนล่างอีก 3 กลีบ กลีบรองกลีบดอก ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมวงรี ปลายใบแหลมเป็นติ่งสั้น โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ เนื้อใบสาก ท้องใบมีขนขึ้นหนาแน่น ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ มีขนาดเล็ก มีใบประดับติดอยู่ที่ขั้ว ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ ### พวงครามหรือช่อม่วง ###
........... เป็นไม้เลื้อยชอบแดด ที่เจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว มีเถาใหญ่แข็งแรง เนื้อแข็ง ลำต้นและกิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนมีขน แต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไป เปลือกของต้นหรือเถาเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน เถาพวงครามสามารถเลื้อยไปได้ไกลมากกว่า 20 ฟุต เมื่อโตแล้วมีลักษณะเป็นพุ่มใหญ่ สามารถนำไปปลูกเพื่อคลุมรั้ว คลุมศาลากลางแจ้ง ทำซุ้มประตูทางเข้า พันเสา หรือแม้แต่พันต้นไม้ใหญ่ เวลาออกดอกสะพรั่งแล้วงดงามมาก ดอกออกตามยอดเป็นช่อยาวเต็มพุ่มในฤดูหนาว แต่ดอกไม่มีกลิ่นหอม พวงครามธรรมดา เป็นไม้เลื้อย ที่พบเห็นทั่วไป ออกดอกในฤดูหนาว ใบใหญ่และหนากว่าพันธุ์ธรรมดา ดอกมีขนาดใหญ่ สีเข้ม ช่อดอกยาวกว่าพันธุ์ธรรมดามาก ออกดอกตลอดปี
พวงครามต้น เป็นไม้ยืนต้น ใบเป็นรูปทรงรี กว้างเกือบกลม ลวดลายคล้ายใบ สะระแหน่ ผิวใบหยาบสากมือ และเป็นคลื่น แข็งและกรอบ สีเขียวสด ช่อดอกจะชูตั้งขึ้น ขนาดของช่อยาว ดอกมีขนาดเล็กและช่อถี่กว่าออกดอกดกมากในฤดูหนาว ลักษณะดอกเหมือนกับดอกของพวงคราม ชนิดไม้เถาเลื้อยทุกอย่าง เพียงแต่ขนาดของดอก พวงครามต้น จะใหญ่กว่า สีของกลีบดอกชั้นใน จะเข้มข้นกว่าด้วย ดอกเป็นสีม่วงครามเช่นเดียวกัน เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้น ช่อดอกจะชูตั้งขึ้นดูงดงามมาก
เป็นไม้เลื้อยลักษณะเหมือนพวงครามพันธุ์ธรรมดา และโตช้ากว่าเล็กน้อย ดอกมีสีขาว และออกในฤดูหนาว
พวงครามแอฟริกา เป็นไม้เถารอเลื้อย ช่อดอกจะชูตั้งขึ้น ขนาดของดอกใหญ่กว่าอย่างชัดเจน และใบจะไม่มีขน ออกดอกในฤดูหนาว
ขอบคุณที่มา fb. Anna Jill ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ ### ดอกพวงหยก ###
............... jade vine เป็นไม้เถาเลื้อยยืนต้น เถาใหญ่ เหนียว แตกกิ่งก้านสาขามาก สามารถเลื้อยได้ไกล ถึง 20 เมตร นิสัยของพวงหยก คล้ายกับพวงโกเมน ที่มักจะเลื้อยไปตามหลัก เสา หรือตามกำแพง บนหลังคา หรือตามซุ้มต้นไม้ พอถึงช่วงมีดอก ก็จะทิ้งช่อลงมาเป็นพวงยาวเหนือพื้นดิน เดิมพวงหยกเป็นต้นไม้ที่ ขึ้นในป่าดิบชื้น ของฟิลิปปินส์ ต่อมาถูกประกาศให้เป็นไม้ใกล้สูญพันธ์ และห้ามนำออกนอกประเทศ เนื่องจากมีการตัดป่าถางพง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ในเขตป่าดิบชื้นกันมาก ทำให้ต้นพวงหยกล้มหายตายจากไป จนใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบันพบเห็นได้หลายๆ ประเทศ ที่นำกลับไปพัฒนาต่อ นิยมปลูกเป็นไม้เลื้อยขึ้นซุ้ม ขึ้นร้าน ศาลาริมน้ำ รั้วบ้านริมกำแพง ทางเข้าประตู แต่จุดที่ต่างกันคือ พวงหยกดอกจะเป็นสีเขียวอมฟ้า ขนาดดอกจะแหลมเล็กกว่า ดูแล้วคล้ายๆ เล็บเหยี่ยว ทาสีเขียวมรกต เวลาออกดอก ก็ไม่เหมือนใคร ดอกไม้ชนิดอื่นๆ จะออกดอกกันที่ปลายยอดกิ่ง แต่ดอกพวงหยก แทงทะลุตามมาตามเถาใหญ่ๆ สีน้ำตาล จะเริ่มออกดอกให้ได้ชมกัน ในช่วงฤดูหนาว ออกดอกครั้งหนึ่งจะออกรวมกัน เป็นช่อ หรือพวงอ้วนๆ ห้อยย้อยลงมา ดอกสีเขียวหยกหรืออาจจะติดสีฟ้าอ่อนๆ เวลาบานจะทยอยบาน เริ่มจากส่วนโคนช่อ ที่ติดกับเถาก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ไล่ลงมาจนถึงปลายช่อ ดอกอาจจะเป็นพวงย้อยลงมายาวได้ถึง 1 เมตรหรือมากกว่านั้น แต่ถ้าดินไม่ร่วน โปร่ง ระบายอากาศได้ดี ขาดความชุ่มชื้น หรือไม่ค่อยมีแดด หรือมีแดดหรอมแหรม ก็อาจจะออกดอกเป็นช่อสั้นๆ หรือไม่ออกดอกเลย ตัวใบกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ใบจะออกยาวรี ปลายใบ และโคนใบแหลม มักจะออกสลับซ้าย-ขวาไปตลอดแนวยาวของกิ่ง ใบออกสลับตามข้อต้นเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 ใบ ใบกลางรูปมนรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ สองใบข้าง ลักษณะเกือบครึ่งวงกลมโค้งงอเข้าหาใบกลาง ถ้าเลี้ยงไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ควบคุมหรือตัดแต่งเถา ให้อยู่ในขอบเขตจำกัด พวงหยกจะเลื้อยไปได้ไกลถึง 20 เมตร กับเรื่องมดแมลง ผึ้ง ที่จะมะรุมมะตุ้มจีบพวงหยกกันยกใหญ่ เพราะว่า ที่กลางดอกของพวงหยก จะผลิตน้ำหวานออกมาให้เหล่ามดแมลง ผึ้งได้ลิ้มชิมรส มดแดงที่ติดอกติดใจกับรสหวาน ของพวงหยก จะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่บนต้นพวงหยก กันเป็นการถาวร เนื่องจากใกล้น้ำหวานของโปรด แถมใบของพวงหยกยังเป็นใบไม้ที่ไม่ใหญ่มาก มีความเหนียวไม่ขาดง่าย และยังยืดหยุ่นดี เหมาะกับการเป็นบ้านของพวกมดแดง ### ดอกพวงโกเมน ###
............. ดอกสีสันสดใส และมีดอกเป็นเครือที่สวยงาม สดุดตาแก่ผู้พบเห็น ไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ไม่นิยมปลูกตามบ้าน ส่วนใหญ่จะปลูกประดับเฉพาะตาม สวนสาธารณะ กับปลูกประดับรีสอร์ตเชิงเขา เพราะว่า พวงโกเมน เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ เจริญเติบโตเร็ว เนื้อไม้แข็ง สามารถเลื้อยได้ไกลมาก ประมาณ 20-25 เมตร หากตัดแต่งกิ่งไม่ทัน ลำต้นหรือเถาสามารถเลื้อยชอนไช ตัวอาคารหรือบ้าน ทำให้เสียหายได้ ออกตามซอกใบ และปลายกิ่ง ช่อดอกยาวมาก ลักษณะดอกคล้ายดอกแค หรือดอกถั่ว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน และไม่คลี่บาน กลีบที่อยู่นอกสุด จะมีขนาดใหญ่กว่ากลีบอื่น มีดอกจำนวนมากในหนึ่งช่อ เรียงกันเป็นระเบียบ ตามแกนช่อดอก ตัวดอกยาวประมาณ 4 ซม. เป็นสีแดงอมส้ม มีเกสรตัวผู้ 10 อัน ก้านเชื่อมกัน 9 อัน เวลามีดอกดกหลายๆช่อ และดอกบานพร้อมกันทั้งต้นจะดูสวยงามมาก จะออกดอกในช่วงฤดูฝน หรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเมษายน จะให้ดอกดกมาก หากปลูกบนค้างปลูก หรือซุ้มประตูบ้าน กว้าง ประมาณ 2.5 ซม. ยาวประมาณ 5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน สีเขียวสด ผล เป็นฝัก ยาวประมาณ 15 ซม. เมื่อผลแก่แตกได้ ภายในมีเมล็ดประมาณ 12 เมล็ด ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ขายในประเทศไทย นานกว่า 50-60 ปีแล้ว ### ดอกนมตำเลีย ###
............. เป็นหนึ่งในพืชสกุล Hoya โดยจัดเป็น พรรณไม้เลื้อย อิงอาศัยขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง ที่ลำต้นต้องอาศัยเกาะกับต้นไม้ใหญ่ อื่นๆ มีรากตามข้อลำต้น ทุกส่วนของต้น มีน้ำยางสีขาว มีเขตการกระจายพันธุ์ในอินเดีย ศรีลังกา พม่า ส่วนในประเทศไทยพบได้ทุกภาคของประเทศ โดยมักขึ้นตามต้นไม้ใหญ่ ในป่าเบญจพรรณทั่วไป และแถวๆ ริมแม่น้ำ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า เนื้อมะตอม (ภาคเหนือ) นมตำเรีย นมมาเลีย (ภาคกลาง) สังวาลพระอินทร์, ต้าง ชื่อสามัญ Wax Plant ช่อดอกค่อนข้างกลมคล้ายซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ประมาณ 0.6-0.8 เซนติเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ อวบมันคล้ายทำด้วยเทียน หรือขี้ผึ้ง แต่ละพันธุ์จะมีลักษณะของดอกและสีของกลีบดอก แตกต่างกันออกไป เช่น พันธุ์กลีบดอกเป็นสีชมพู สีแดง สีขาว สีเหลือง ลักษณะของใบ เป็นรูปไข่ถึงรูปรี แผ่นใบหนา อวบน้ำ และเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมน หรือบางทีเว้าเป็นรูปหัวใจ แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม หรือสีเขียวอมแดง ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ออกผลเป็นฝักยาว และมีขนขึ้นปกคลุมทั่วฝัก ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 0.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 14-15 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดขนาดเล็ก แบน รูปไข่ มีขนเป็นพู่ที่ปลาย |
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |