Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยว - วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม ตอนที่ 1 - พระปฐมเจดีย์ สถานที่ท่องเที่ยว : พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม, นครปฐม Thailand พิกัด GPS : 13° 49' 10.99" N 100° 3' 36.28" E บล็อก “ท่องเที่ยวไทย” ในปีนี้ก็ยังเป็นการนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้เคยไปเที่ยวมามาโพสเหมือนปีที่แล้วครับ เนื่องจากเจ้าของบล็อกกักตัวเองอยู่กับบ้านมาเป็นปีแล้วครับ ไม่ออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น ในบล็อก “ท่องเที่ยวไทย” 2 – 3 บล็อก ต่อไปนี้ เจ้าของบล็อกจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ทุกๆท่านคงทราบกันอยู่ดีแล้วองค์พระปฐมเจดีย์มีความเก่าแก่ และมีความเป็นมายาวนาน ทั้งวัดพระปฐมเจดีย์ก็มีความสำคัญ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เจ้าของบล็อกจึงอยากแบ่งบล็อกท่องเที่ยววัดพระปฐมเจดีย์เป็นซีรี่ย์ย่อยๆ 3 – 4 ตอน เพื่อไม่ให้มีเนื้อหาเยิ่นยาวเกินไปครับ วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม ตอนที่ 1 – พระปฐมเจดีย์ พระปฐมเจดีย์ ตั้งอยู่เป็นศูนย์กลางของวัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทย เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดฯเกล้าให้สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอินเดียโบราณที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ว่ากันว่าต่อมาได้มีการเปลี่ยนรูปแบบมาเรื่อยๆ จนมาเป็นยอดปรางค์ ในยุคอยุธยา และมาเป็นรูปทรงอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันในรัชกาลที่ 4 ความเป็นมาของ พระปฐมเจดีย์ มีมาหลายทางมาก ทางหนึ่งซึ่งเป็นตำนานพื้นบ้านในแถบจังหวัดนครปฐม - สุพรรณบุรี คือ “ตำนานพญากง – พญาพาน” เรื่องมีอยู่ว่า ..... พญากง กษัตริย์แห่งเมืองศรีวิชัยมีพระโอรสองค์หนึ่งชื่อ พญาพาน ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะขณะประสูติพระพี่เลี้ยงได้เอาพานทองรองรับ ขอบพานกระแทกเอาหน้าผากจนเป็นแผลติดตัวไปตลอด โหรได้ผูกดวงทำนายพระกุมารว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการมาก จะได้เป็นกษัตริย์ต่อไปในภายภาคหน้าแต่ทว่าจะกระทำความผิดร้ายแรงถึงขั้นปิตุฆาต พญากง จึงสั่งให้นำพระกุมารไปฆ่าเสีย มหาดเล็กนำพระกุมารไปถึงป่าไผ่ก็ไม่กล้าฆ่า เอาทิ้งไว้ตรงนั้น ยายพรม ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงนำไปดูแลด้วยความสงสาร แต่ครั้นจะเลี้ยงดูต่อไป ตนเองก็มีฐานะยากจนและมีลูกหลานอยู่มากแล้วจึงยกให้ ยายหอม เพื่อนบ้าน ยายหอมก็ฟูมฟักเลี้ยงดูพระกุมารด้วยความรักจนเติบโตเป็นหนุ่มหน้าตาหมดจดงดงาม วันหนึ่งพระกุมารเดินทางท่องเที่ยวไปจนถึงเมืองสุโขทัย พบช้างเชือกหนึ่งตกมันอาละวาด ด้วยบุญญาบารมีที่มีมาแต่กำเนิดพระกุมารจึงทำให้ช้างตกมันนั้นกลับเชื่องได้ ความทราบถึงพระเจ้ากรุงสุโขทัยจึงทรงชุบเลี้ยงพระกุมารเป็นราชบุตรบุญธรรม วันหนึ่งพระเจ้ากรุงสุโขทัยก็ทรงมอบหมายให้พญาพานนำกองทัพไปตีเมืองศรีวิชัย พญากง ออกมารับศึกจึงถูก พญาพาน ฆ่าตายโดยไม่รู้ว่าเป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเอง เมื่อ พญาพาน เข้ายึดเมืองศรีวิชัย ทรัพย์สมบัติของพญากงก็ตกเป็นของพญาพานทั้งหมด รวมทั้งมเหสีซึ่งเป็นแม่แท้ๆของพญาพาน แต่ขณะที่ พญาพาน จะเสด็จขึ้นไปตำหนักพระมเหสี เทพยดาก็แปลงร่างลงมาเป็นแมวแม่ลูกอ่อนนอนขวางบันไดแล้วส่งเสียงปรามลูกแมวที่กำลังอ้อนจะกินนมให้ พญาพาน ได้ยินว่า "อย่าเอ็ดไป คอยดูลูกจะเข้าหาแม่" พญาพาน แปลกใจ แต่พอก้าวขึ้นบันไดก็ได้ยินแม่แมวพูดซ้ำอีก จึงทรงตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหากพระมเหสีเป็นแม่แท้ๆ ของตัวแล้วก็ขอให้มีน้ำนมไหลออกมาจากทรวงอกของนาง แล้วก็เกิดเหตุอัศจรรย์มีน้ำนมหลั่งออกมาจริงๆ พระนางเองก็สังหรณ์ใจในแผลเป็นที่หน้าผากของพญาพาน เมื่อแม่ลูกลำดับความกันจึงรู้ความจริงทั้งหมด พญาพาน โกรธที่ยายหอมปกปิดเรื่องนี้จนตนต้องทำบาปถึงปิตุฆาตจึงสั่งให้จับยายหอมไปฆ่าเสีย “ตำนานพญากง – พญาพาน” มีหลายเวอร์ชั่นมากครับ แต่ทุกเวอร์ชั่นจะลงท้ายเหมือนกันว่า พญาพาน สำนึกบาปที่ได้ฆ่าผู้มีพระคุณไปถึง 2 คน จึงได้สร้างพระเจดีย์สูงเท่านกเขาเหินเป็นการไถ่บาปให้เบาลง ตามคำแนะนำของสมณะชีพราหมณ์ เจดีย์องค์หนึ่งคือ พระปฐมเจดีย์ เพื่อไถ่บาปที่ได้ฆ่า พญากง พระบิดาผู้ให้กำเนิด และเจดีย์อีกองค์หนึ่งคือ พระประโทนเจดีย์ เพื่อไถ่บาปที่ได้ฆ่ายายหอมผู้เลี้ยงดูมา พระปฐมเจดีย์ และพระประโทนถูกทอดทิ้งไว้ในป่าหลายร้อยปี จนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ขณะพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชได้ธุดงค์ไปพบเข้าทรงเห็นว่าเป็นเจดีย์ใหญ่กว่าทุกเจดีย์ในประเทศไทยหรือประเทศใกล้เคียง จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์จึงโปรดให้สร้างเจดีย์ทรงลังกาเป็นรูประฆังคว่ำครอบเจดีย์เดิมซึ่ง โดยเจดีย์ใหม่มีความสูงถึง 120 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางฐานวัดได้ 60 เมตร มียอดนพศูลและมหามงกุฎสวมยอดไว้อีกทีหนึ่ง ทั้งยังโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์จำลององค์เก่าที่ถูกครอบไว้ทางทิศใต้ของพระปฐมเจดีย์ด้วยเพื่อให้เห็นว่าเจดีย์เดิมมีรูปร่างสัณฐานเป็นอย่างไร สถูปจำลองพระปฐมเจดีย์องค์เก่า ขอบคุณวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ต่อมารัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าบริเวณรอบ พระปฐมเจดีย์ ยังเป็นป่าเปลี่ยวรกร้าง ที่ทำการของรัฐบาลก็ต้องไปอาศัยอยู่ในระเบียงและวิหารรอบพระเจดีย์ จึงโปรดให้ย้ายเมืองนครไชยศรีจากตำยลท่านามาอยู่บริเวณพระปฐมเจดีย์ โดยมีการวางผังเมืองใหม่ สร้างอาคารต่างๆขึ้น ตัดถนนหลายสาย สร้างตลาด ทำให้ผู้คนอพยพเข้ามาอยู่มาก และทรงให้นำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองส้มติดรอบพระเจดีย์ แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน มาแล้วเสร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นครปฐม เป็นเมืองโบราณมาตั้งแต่ปลายสมัยทวารวดี ถ้าดูจากแผนที่แล้วจะเห็นว่ามีคูน้ำล้อมรอบเมืองเก่าอยู่ (ซึ่งไม่ใช่ตัวเมืองนครปฐมในปัจจุบัน) โดยพื้นที่บริเวณเมืองเก่านครปฐมจะมีวัดพระประโทณเจดีย์เป็นศูนย์กลาง ส่วน พระปฐมเจดีย์จะอยู่นอกคูเมืองโบราณออกไปทางทิศตะวันตก อย่างไรก็ตาม พระปฐมเจดีย์ ก็มีความเก่าแก่ มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรว่า พระปฐมเจดีย์ มีความเก่าแก่และมีความสำคัญมาตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย จารึกวัดศรีชุม จ. สุโขทัย (จารึกสุโขทัย หลักที่ 2) ได้บันทึกไว้ว่า พระมหาเถรศรีศรัทธา ได้ธุดงค์ไปสักการะสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนาที่ลังกา (ศรีลังกา) “ครั้นขากลับสยาม ท่านมหาเถรศรีศรัทธานั่งเรือข้ามทะเลอันดามันไปขึ้นบกทางฝั่งเมืองมะริด ตะนาวศรีแล้วเดินบกออกช่องสิงขรผ่านเมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี ชักชวน “คนฝูงดี” ปฏิสังขรณ์มหาธาตุหลวง พร้อมทั้งบูรณะพระพุทธรูปหินแตกหักที่ถูกปล่อยทิ้งร้างกลางป่า” สุจิตต์ วงษ์เทศ - เมืองนครปฐมโบราณ, พระปฐมเจดีย์ ในจารึกวัดศรีชุม (สุโขทัย) และฝรั่งคลั่งสยาม มีหลักฐานหลายแห่งที่กล่าวว่า ขอมโบราณ เรียก พระปฐมเจดีย์ ว่า พระธม แปลว่า พระธาตุใหญ่ ซึ่งน่าจะตรงกับที่บันทึกไว้ในจารึกวัดศรีชุมว่า พระธาตหลวง เพราะ หลวง เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ใหญ่ เช่นกัน ดังนั้นเราอาจจะกล่าวได้ว่า พระปฐมเจดีย์ (ไม่ว่าจะถูกเรียกชื่ออะไรก็ตาม) เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนามาเนิ่นนานกว่าสุโขทัย เพราะเมื่อมาถึงสมัยสุโขทัยแล้ว พระธาตุหลวง (พระปฐมเจดีย์) ได้ชำรุดทรุดโทรมลง ท่านมหาเถรศรีศรัทธาจึงได้รวบรวมผู้มีจิตศรัทธามาบูรณะ ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้มีการบันทึกไว้ว่าพระปฐมเจดีย์มีรูปร่างอย่างไร พระปฐมเจดีย์องค์แรกสุด แบบสันนิษฐาน โดย พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ผู้เชี่ยวชาญฯ ประจำกรมศิลปากร มีการค้นพบสมุดภาพไตรภูมิที่เขียนขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ระบุตำแหน่งและรูปร่างของ พระธม และ ปรางค์ประโทณ (พระประโทณเจดีย์) แสดงว่ามีการรับรู้ต่อเนื่องมาจากสมัยสุโขทัยว่า ของ พระธม และ ปรางค์ประโทณ เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา และมีการกล่าวถึงรูปร่างด้วยว่าทั้ง ของ พระธม และ ปรางค์ประโทณ มีลักษณะเป็น พระปรางค์ จากสมุดภาพไตรภูมิฉบับกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 6 ในหนังสือสมุดภาพไตรภูมิฉบับกรุงศรีอยุธยา-ฉบับกรุงธนบุรี เล่ม 1 กรมศิลปากร จัดพิมพ์ 2542 เผยแพร่โดยสุจิตต์ วงษ์เทศ - พระปฐมเจดีย์ กว่าจะเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ (พระปรางค์มีสถาปัตยกรรมที่มีขึ้นในสมัยอยุธยา เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าคงมีการบูรณะ ของ พระธม และ ปรางค์ประโทณ ให้มีลักษณะเป็นพระปรางค์ในระหว่างสมัยอยุธยาตอนตอนต้นถึงสมัยอยุธยาตอนปลายไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่ง) จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งยังทรงผนวช ได้ทรงออกธุดงค์มาพบเข้า และได้ทรงทำการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยที่พระองค์เสด็จฯขึ้นครองราชย์ และ พระปฐมเจดีย์ ก็ได้รับการบูรณะมาทุกยุด ทุกสมัย ตลอดจนถึงปัจจุบัน พระปฐมเจดีย์ รูปทรงที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสร้างครอบเจดีย์เดิมหลายชั้น โดยสร้างเป็นพระเจดีย์ทรงลังกาแบบสุโขทัยขนาดใหญ่มาก ทรงระฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างที่ฐานเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาล้อมรอบเนินดินเพื่อป้องกันมิให้เนินดินทลายลง แล้วสร้างก่อเจดีย์ขนาดใหญ่ไว้ด้านบน องค์เจดีย์ก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ จากชั้นฐานเป็นบัวลูกแก้วอกไก่ ชั้นต่อมาเป็นบัวปากระฆัง และต่อด้วยองค์ระฆังรูปทรงระฆังคว่ำขนาดใหญ่ เหนือองค์ระฆังมีบัลลังก์ เสาหาน ปล้องไฉน 27 ปล้อง และลูกแก้ว บนยอดสูงสุดจะต่างจากเจดีย์องค์อื่นๆเพราะมียอดนพศูล (ปกติแล้วที่ยอดเจดีย์จะมียอดน้ำค้างและ / หรือ ยอดฉัตร) เหนือยอดนพศูลจะมียอดมงกุฎ (คล้ายๆที่ยอดพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม) ที่องค์ระฆังของ พระปฐมเจดีย์ทางด้านด้านทิศตะวันออก (ถ้าเอากรุงเทพฯเป็นศูนย์กลาง) โดยในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้หล่อจำลองจากพระพุทธสิหิงค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ ในพระบวรราชวัง (วังหน้า – ปัจจุบันคือพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ พิพิธภัณฑสถานพระนคร) แต่ขยายให้ใหญ่กว่าองค์เดิม แล้วโปรดให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ซุ้มจระนำที่องค์ พระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันออก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ถือเสมือนว่าด้านที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลองคือด้านหน้าของ พระปฐมเจดีย์ ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์พระวิหารหลวง เขียนภาพพระเจดีย์องค์เดิมและภาพต่างๆ ไว้ที่ผนัง รื้อมุขวิหารด้านทิศเหนือ (วิหารพระประสูติ) สร้างใหม่เพื่อประดิษฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชบูชนียบพิตร จึงถือกันต่อๆมาภายหลังว่าทางทิศเหนือของ พระปฐมเจดีย์ ด้านที่มีซุ้มประดิษฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ คือด้านหน้า ภายในวัดพระปฐมเจดีย์มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เจ้าของบล็อกจะค่อยๆพาชมไปเรื่อยๆนะครับ ขอขอบคุณท่านผู้มีรายนามต่อไปนี้ที่ทำให้การท่องเที่ยวของเรามีสาระมากขึ้นครับ เปิดตำนาน องค์พระปฐมเจดีย์ ใครเป็นคนสร้างและสร้างขึ้นเมื่อใด - thainewsonline.co วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร – วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี องค์พระปฐมเจดีย์เมื่อ'ด้านข้างเป็นด้านหน้า' – คมชัดลึก – พระเครื่อง ผมเคยไปครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว
นานจนแทบไม่เหลือความทรงจำอะไรเลยครับ พอมานั่งอ่านบล็อกคุณบอล ภาพเก่าๆสมัยเด็กก็หวนกลับมาเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤษภาคม 2565 เวลา:13:28:38 น.
ไปนครปฐม ยังไงก็ต้องแวะพระปฐมเจดีย์จริงๆ แหละครับ แล้วก็หาข้าวกินแถวนั้น
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2565 เวลา:19:03:09 น.
ภาพสวยหลายมุมกล้องเลยค่ะ
เราแวะเที่ยวอยู่หลายครั้ง เพิ่งจะได้รู้ประวัติโดยละเอียด จากบล็อกคุณบอลวันนี้เองคร้า ขอบคุณมากนะคะ โดย: Tui Laksi วันที่: 16 พฤษภาคม 2565 เวลา:21:01:58 น.
ตามมาเที่ยว ไหว้พระด้วยครับ
ไป 2-3 ครั้งแล้ว ไปครั้งก่อนก็ยังเดินไปได้ไม่กี่ที่เองครับ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 พฤษภาคม 2565 เวลา:21:24:22 น.
มาไหว้พระด้วยคนครับ
เมื่อ 2 - 3 ปีก่อน ผมไปปั่นจักรยานที่นครปฐม อยู่หลายครั้งเลยครับ แวะไปตลาด แถวนั้นของกินก็อร่อยนะครับ โดย: The Kop Civil วันที่: 16 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:13:51 น.
พระปฐมเจดีย์ เมื่อก่อนผมไปบ่อย แหะ ๆ ชอบไปกินอาหารสารพัด
อย่างที่เขาขายตรง ลานของวัด กับชอบไปกินข้าวหมูแดงหมูกรอบแถวริมน้ำใกล้ ๆ กัน.. ... ผมขายผ้านานเหมือนกันทำเป็นอาชีพเสริมแต่รายได้มากกว่า รายได้ ประจำ ใหม่ ๆ ก็ซื้อผ้าไปสั่งตัด ลายนี้สีนี้ 3 - 5 ชิ้น หรือนี่ชิ้นเดียวตัดครั้งละ 30-40 ชิ้นไปขายแต่ละที่ใช้เงินเยอะ วันหลังเลย ใช้แคตตาล๊อคที่ร้านทำ เย็บตัวอย่างหลายสีหลายลาย ติดแผง... ผมจะนำแคตตาล๊อคชุดเดียวไปครัั้งละ 15-20 แผ่นส่งไปให้คนขายทาง ปณ. ตจว.จะเขียนชื่อ ความยาวเช่น 1.5 หรือ 3.5 เมตรแผ่นละ 3-4 ชิ้นให้ทางปณ. ผมจะไปตัดวันเว้นวันบางทีไปทุกวันที่บางลำพู ไม่ต้องรอนานครับ เดินผ่านร้านก็จะ มอบแคตตาล๊อคให้เขาตัดไว้ไปสองสามร้านทิ้งไว้ ไปกินข้าวหรือไปคุยกับร้านต่าง ๆ พอได้เวลา ก็เดินผ่านร้าน เขาจะให้เด็กหิ้วถุงผ้าไปส่ง ที่จอดรถหน้าวัดบวร พร้อม ๆ กัน เด็กจะมอบรายการผ้า ราคาแต่ละชิ้น รวมยอดให้ แค่นั้น ก็เสร็จแล้ว ไม่ต้องจ่ายตังค์ไว้จ่าย ตามตกลง กว่าจะถึงบ้าน สองถึงสามทุ่ม ที่พาหุรัดผมไปซื้อ ผ้าซิ่นยี่ห้อ พํัฒนาภูษาเนื้อผ้าดีราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นครั้งละ 3 -4 กุลี(กุลีละ 12 ผืน) ไปให้คนขายระดับชาวบ้านหน่อย ร้านที่ว่าเขา ให้ผมเปลี่ยนผ้าลายที่ขายไม่ดีเป็น ลายใหม่ได้ พาหุรัดผมไ่ม่ชอบไปครับ 555 ที่จอดรถหายากมากเสียค่าจอดแพงด้วย โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 17 พฤษภาคม 2565 เวลา:5:17:56 น.
สวัสดี จ้ะ น้องบอล
มาเที่ยวนครปฐมกับบอล จ้ะ องค์พระปฐมเจดีย์ ครูเคยไปสักการะ หลายครั้งอยู่ ถ้าเป็นช่วงเย็น จะมีอาหารขายมากมาย น่าเดินหาอาหาร อร่อย ๆ กินกัน จ้ะ โหวดหมวด ท่องเที่ยว โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 17 พฤษภาคม 2565 เวลา:8:34:50 น.
สวัสดีค่ะคุณบอล
พี่ไปพระปฐมเจดีย์ครั้งล่าสุด อยู่ในช่วงที่กำลังบูรณะ น่าจะหายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่นั้นก็ยังไม่ได้ไปอีกเลยค่ะ วันนี้อากาศร้อนอีกแล้วนะคะ มีฝนช่วงค่ำได้ 2 วันเอง คุณบอลมีความสุขมากๆนะคะ โดย: tanjira วันที่: 17 พฤษภาคม 2565 เวลา:14:10:03 น.
|
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|
รอชิมอาหารช่วงเย็นค่ำ