Bloggang.com : ไมเคิล คอร์เลโอเน

Link

Group Blog

Group ตัวอย่าง

เมษายน 2567

13 เมษายน 2567

หลานม่า (2567)

All Blog

หลานม่า (2567)

''ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว สิ่งที่มันผ่านไปแล้ว มันย้อนกลับไปไม่ได้”

หนังเริ่มที่ 'เอ็ม' ค้นพบวิธีที่ตัวเองจะมีเงินใช้เยอะๆ คือการดูแลผู้สูงอายุยามแก่เฒ่าและให้ผู้สูงอายุยกสมบัติให้ จึงขนข้าวขนของไปอยู่กับ 'อาม่า' ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เพื่อจะทำคะแนนให้อาม่ายกบ้านให้เขา

จากที่เห็นในตัวอย่างหนังเป็นยังไง ตัวเรื่องเต็มๆของ ''หลานม่า'' ก็เป็นแบบนั้นเลยครับ

หนังเอาประเด็นที่ใกล้ตัวมากๆ มาเล่น

ประเด็นที่ผู้สูงอายุในหลายๆ บ้านเป็นกัน

พวกท่านเลี้ยงดูลูกหลานมา เคยอยู่ด้วยกัน แต่พอลูกๆ หลานๆ โตขึ้น พวกเขาก็ต่างแยกออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง

แล้วพวกท่านก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดิมของตัวเองตามลำพัง ถ้าโชคดีหน่อยก็จะได้อยู่แบบตายายอยู่เป็นเพื่อนกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียไปก่อน ก็จะอยู่ตามลำพังแบบ 'อาม่า' ในเรื่อง

ทุกช่วงเทศกาล ลูกๆ หลานๆ จะมาเที่ยวหา ซื้อของมากินด้วยกัน แต่จากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านเช่นเดิม

หลงเหลือไว้เพียงของกินที่ลูกหลานซื้อมาให้ บางครั้งกินคนเดียวมันก็ไม่หมด จะทิ้งก็เสียดาย จึงเอาแช่ไว้ในตัวเย็น จนเสียไปแล้วหลายวัน ก็ยังไม่หยิบเอาไปทิ้ง จนวนกลับมาในวันที่ลูกหลานมาเยี่ยมอีกรอบ พวกเขาจึงเก็บเอาไปทิ้งให้

และในวันหยุด หรือวันที่รู้ว่าลูกหลานจะมาหา พวกท่านก็จะไปนั่งคอยที่หน้าบ้าน เฝ้ารอว่าลูกหลานจะมาตอนไหน

พวกท่านมักจะจำได้ว่าลูกหลานคนไหน ชอบกินอะไร

อย่างในหนัง อาม่าจำได้ว่าตอนเด็กเอ็มชอบกินทับทิม เลยสัญญากับเด็กชายเอ็มว่า ทับทิมต้นนี้อาม่าปลูกไว้เอ็มนะ ถ้าโตแล้วจะให้เอ็มกินคนเดียว

บางครั้ง 'เอ็ม' ในตอนโต จำไม่ได้หรอก แต่ 'อาม่า' จำได้เสมอ

โดยรวมเป็นหนังที่ดูเเล้วซาบซึ้งใจมากๆ คิดว่าหลายๆ คนจะเป็นเหมือนกัน

บางครั้งความรู้สึกที่มีต่อกัน มันก็มากกว่า ''สมบัติ'' ที่พวกท่านจะยกให้อีกนะ

นักแสดงในเรื่องทุกคนก็เล่นได้น่ารักมาก อยากให้ลองดูครับ