|
บนทางสามแพร่ง

เคยรู้สึกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วผลมันออกมาแย่ไหมครับ
ผมรู้สึกแบบนั้นอยู่ ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว แต่บอกไว้ก่อนว่า ไม่ต้องห่วงผมมากนะครับ ผมแค่อยากบ่นให้ใครฟังซะบ้างเท่านั้นเอง
ข้อดีของการนี้ ก็ยังมีอยู่บ้าง ตรงที่มันพอจะเตือนตัวเองได้ ว่าจริงๆ ผมก็ยังแอบมีความคาดหวังจากการทำดีอยู่ไม่น้อย เวลาที่ถูกมองในทางลบ ก็ยังขมขื่นเหมือนอมบอระเพ็ดสักกำใหญ่
บทเรียนอีกอย่าง ที่ได้คือ.. คนบางคน มีความสามารถในการยอมรับผิดต่ำมาก เขาจะมองว่าการตัดสินใจพลาด ทำอะไรผิด เป็นเรื่องต้องหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำ ให้ดูมีน้ำหนักที่สุด
มากกว่าจะเอ่ยสองคำสั้นๆว่า.. "ขอโทษ"
จำเรื่องลูกน้องที่ผมบ่นไปเมื่อวันก่อนได้ไหมครับ ผมเพิ่งมารู้ว่า ภาพพจน์ผมในสายตาลูกน้องมันค่อนข้างลบอยู่
ไอ้เรื่องนั้นเข้าใจได้ .. คนเราโดนหัวหน้าดุด่าว่ากล่าว จะให้ชอบใจ ชื่นใจ ก็ท่าทางจะซาดิสม์เกินไป แต่การไปสุมหัวกันอภิปรายบอกว่า ผมเป็นหัวหน้าที่แย่ในทุกกระเบียด ..อันนี้ นิดนึงนะ
ที่รู้ก็เพราะ ลูกน้องคนนึงเขียนบล็อคพยายามสอนมวยผม เพราะเขาก็ฟังมาจากการอภิปรายนี่แหละ
ผมปล่อยลิงค์ไว้ในบล็อคงั้นแหละ ใครอยากอ่านก็ไปอ่านได้นะครับ ผมไม่ห่วงภาพพจน์เท่าไหร่ 
อันนี้ มันขมขื่นอยู่มากจริงๆ เพราะ 3 คน ที่เป็นหัวโจก ในการอภิปราย ล้วนแต่เป็นคนที่โดนนายผมเพ่งเล็ง และไม่ปลื้มในผลงาน คนนึง ทำงานพลาดบ่อยๆ และทุกครั้งก็วิ่งมาหาผม ก็ผมนี่แหละเป็นคนคอยช่วยแก้ปัญหาให้ ทั้งๆที่ตอนนั้น เขาไม่ได้อยู่แผนกผม จนพอแก้ปัญหาให้ได้ นายก็เลยเหมาให้เขามาขึ้นกับผม
แต่วันนี้ เขาไม่พอใจเพราะรู้สึกว่า ผมไปจู้จี้เขา ทั้งที่เขาไม่ได้ขึ้นกับผมโดยตรง
อีกคน เมื่อปีก่อนจวนเจียนจะไม่ผ่านโปรฯ ผมก็ช่วยด้วยการสถาปนาหน้าที่ความรับผิดชอบให้ใหม่ แล้วหาเหตุผลร้อยแปดไปบอกนายว่า เขาจะมีประโยชน์กับบริษัทยังไง
อันนี้ ผมก็ไม่เคยบอก เพราะเกรงเขาจะเสียกำลังใจ แต่ก็ต้องมาเคี่ยวเข็นให้เขาทำงานดีขึ้น ให้รับผิดชอบดีขึ้น ผิดพลาดน้อยลง ทำงานให้ทันเวลามากขึ้น
แต่พอเคี่ยวเข็นมากๆ ก็กลายเป็นผมโหด เลว(ไม่ค่อย)ดี
อีกคนนึง เราเพิ่ง รีเอนยิเนียริ่งแผนก เขาจะโดนนายผมลดบทบาท เพราะเห็นว่าฝีมือไม่ถึง ผมก็ไม่อยากให้เขาเสียความมั่นใจ
ผมก็พยายามพูดให้นาย ให้โอกาสเขา ซึ่งนายก็บอกว่า.. ก็ตามใจคุณนะ ถ้าคิดว่าเขาทำได้
ฟังแล้วก็สะอึก.. เพราะผมไม่มั่นใจเลย ว่าผมจะคุมเขาได้ แต่ผมรู้ว่า คนอีโก้จัดอย่างเขา ถ้าโดนลดบทบาท ยังไงก็ยอมรับไม่ได้ ผมก็เลือกจะรับเผือกร้อนมา แล้วหาทางจัดการกับเผือกเอาทีหลัง แทนที่จะโยนเผือกทิ้งไป ถือว่าธุระไม่ใช่ แล้วขอกล้วยมาแทน
จะว่าไปก็เหมือนผมช่วยคนอื่น เพื่อสร้างปัญหาเพิ่มให้กับตัวเอง ตกลงนี่ผมคิดผิดเหรอนี่ .. สารภาพตามตรง ตอนอ่านบล็อคลูกน้องผม แว่บนึงผมคิดอย่างนั้น 
มองอีกที .. ผมเหมือนเป็นพ่อลูกน้องผมเลยนะ คนเป็นลูกมองขึ้นมา ก็คงนึกว่า เป็นพ่อนี่สบายจัง วันๆเอาแต่สั่งๆ ดุๆ ให้ลูกกลัว จู้จี้ ขี้บ่นก็เท่านั้น
เจอหน้าก็ อ่านหนังสือบ้างนะ อย่าลืมทำการบ้านนะ อย่าเล่นเกมมากนะ อย่ากลับบ้านดึกนะ อย่าแต่งตัวโป๊นะ
แต่ไม่รู้หรอกว่า.. ตอนลูกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน พ่อทำอะไร พ่อมีปัญหาอะไร พูดไม่ได้ก็ตั้งหลายเรื่อง ไอ้ที่พูดๆไปจนลูกเกลียดน่ะ ก็เพราะอยากให้เขาได้ดี อยากให้ปลอดภัย อยากให้เติบโต
ดื้อมาก ออกนอกลู่นอกทางมาก พ่อก็ต้องดุด่าว่ากล่าว บางทีก็ต้องตีบ้าง พอให้รู้ว่า เรื่องนี้ ซีเรียสนะ แต่ตีแล้ว พ่อก็น้ำตาจะไหลตามลูกเหมือนกันนะ
ผมบอกลูกน้องที่เขียนบล็อคสรรเสริญผมน่ะ บอกว่า.. ผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีลูกน้องเลยสักคน ตอนเข้ามาทีแรก คุยกันอีกแบบนึง ว่าให้ผมเป็นคนวางแผนการตลาดอย่างเดียว ที่เหลือนายคุมเอง
แต่พอทำๆไป ก็เห็นว่า ถ้าไม่ช่วยอะไรเลย ก็อาจจะตายหมู่ได้ คือจะให้ผมทำตัวเฉยๆ ไม่ต้องปกป้องอะไรใคร ไม่ยุ่งกับใคร คิดเสียว่า ธุระไม่ใช่ ใครจะมีงานทำ หรือตกงาน ก็ไม่ใช่เรื่องของผม
อันนั้นก็น่าจะสบายกับผมอยู่มาก และไม่เสียภาพพจน์ด้วย
แต่ถ้าผมกางปีกออกปกป้อง รับมาเป็นภาระผม แล้วมองผมในแง่ร้าย ผมก็เสียใจนะ
แต่ก็นั่นแหละ.. ความยากของการเป็นหัวหน้าคนก็อยู่ตรงนี้ อีกอย่าง.. ผมก็เคยโดนหัวหน้าบี้มาแทบตายมาก่อน เพราะสมัยก่อนผมก็ห่วยพอๆกับลูกน้องผมนี่แหละ ผมเลยมองเห็นว่า มันเป็นกงกำกงเกวียนอย่างนึง
ถ้าผมปั้นโคลนให้เป็นชามสังคโลก หรือไหบ้านเชียงได้ ก็ถือว่าผมก็สอบผ่าน
แต่ถ้าผมทำไม่ได้ ก็ถือว่าสอบตก และเป็นคราวเคราะห์ของผมเอง ที่ดันให้โอกาสคนพวกนี้มาทำงาน 
อย่าคิดมากนะครับ ผมระบายเฉยๆ  ขอบคุณที่รับฟังผมบ่นครับ
สุขสันต์วันอาทิตย์ครับ
Create Date : 15 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 17 ตุลาคม 2549 8:26:39 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1472 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: LTG IP: 58.8.98.130 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:2:07:50 น. |
|
|
|
โดย: เอกเอง IP: 58.8.184.120 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:2:23:07 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:2:32:29 น. |
|
|
|
โดย: แพ็ท IP: 124.157.209.31 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:11:12:28 น. |
|
|
|
โดย: อุนากัณ วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:11:47:32 น. |
|
|
|
โดย: ธีระ ศิริฯ IP: 124.120.171.113 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:12:12:52 น. |
|
|
|
โดย: ธีระ ศิริฯ IP: 124.120.171.113 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:12:23:47 น. |
|
|
|
โดย: so so IP: 58.9.98.91 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:15:26:07 น. |
|
|
|
โดย: random-4 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:21:13:11 น. |
|
|
|
โดย: MaRiMeKKo วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:22:08:53 น. |
|
|
|
โดย: Life's like that IP: 58.64.103.221 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:23:09:30 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 16 ตุลาคม 2549 เวลา:1:28:15 น. |
|
|
|
โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 16 ตุลาคม 2549 เวลา:23:05:06 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:7:29:24 น. |
|
|
|
โดย: ก๊าบเป็ด IP: 124.120.14.188 วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:22:50:39 น. |
|
|
|
โดย: พๆ IP: 118.173.244.46 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:14:13:28 น. |
|
|
|
| |
|
|
สมัยวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องเป็นคนตัดสินใจเลือกลูกน้องที่จะให้ออก คนที่ออกมันก็ไม่เคยเข้าใจตัวเองเลยว่าตัวเองนั้นทำงานเป็นยังไง คิดแต่วันตัวเองนั้นทำงานได้ดีมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ใครก็เห็นว่าวัน ๆ เอาแต่เล่น ไม่สนใจจะพัฒนางานของตัวเองเลย.
ลูกน้องคนนั้น ไม่พูดไม่จากับผมไปนาน แต่พอออกไปทำงานที่ใหม่ก็ตั้งอกตั้งใจขยันหมั่นเพียรทำงานทุกอย่างแม้ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง มาเจออีกครั้งนึงคราวนี้ได้ดิบได้ดีเป็นหัวหน้าคนในบริษัทใหญ่ไปแล้ว แต่เจอกันครั้งนี้รู้สึกได้เลยว่าเขาดูเป็นมิตรกับเรามากขึ้น ไม่มองเราเป็นหัวหน้าที่ทำร้ายเขามาก่อน คนเราเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น ก็อาจเข้าใจอะไรได้ดีขึ้นก็ได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าเองก็จะรู้.