www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

พลอย , คุยเรื่องรัก+ ชวนคิดลึก กับ "พลอย"

แจ้งข่าว : เจ้าของ blog ยังไม่ได้ปิดบล้อกนะคร้าบ เพียงแต่ช่วงนี้ อาจมาแบบนานๆถี่ เพราะ กำลังจะย้ายที่พัก ย้ายที่ทำงาน + เร่งต้นฉบับพ็อกเก็ตบุ้คเล่ม2 จึง อาจได้มา เขียนถึงหนังแบบ เต็มๆ ลดน้อยลงไปบ้าง

เคลียร์งานหมด จะกลับมาเจอบ่อยๆเหมือนเดิมจ้า/ เดือนนี้นอกจาก Cream กับ All เจ้าของบล็อกกำลังจะไปโผล่เขียนประจำคอลัมน์ให้กับแม็กกาซีนใหม่อีกหนึ่งเล่ม + มีบทสัมภาษณ์ลง ASTA magazine เล่มมิ.ย.กับ 5 หนังเกาหลีประทับใจ ครับผม






...บางคำถามในพลอย อย่าเสียเวลาหาคำตอบแบบโต้งๆ หรือ คำตอบตายตัว

การจบหนังด้วยข้อสงสัย เป็น การเล่าเรื่องที่หนังไทยยังไม่คุ้นมากนัก เป็นความตั้งใจที่จะเปิดปลายคำถามไว้ให้จินตนาการคนดูต่อเติมเอง เหมือน เสียงกระซิบก่อนลาใน Lost in translation หรือ เนื้อความจดหมายของสาวน้อยชิเอโกะใน Babel

การเล่าเรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่ความพล่อยๆของคนสร้างที่ละเลย แต่เป็นเจตนาที่จะทิ้งให้คนดูได้คิด เช่นเดียวกับในหนังเรื่องนี้ มีคำถามที่เปิดปลายไว้ให้จินตนาการของคนดู อย่าง พลอยเขียนว่าอะไรในโน้ตก่อนออกจากห้อง? , ตอนจบพลอยหายไปไหน? ฯลฯ ซึ่งถ้าคนไม่คุ้นเคย อาจหงุดหงิดใจที่ไม่มีหนังไม่มีคำตอบแบบตายตัวไว้ให้

หากพิจารณาดีๆ คำถามที่เกิดขึ้นนี้ อย่าง โน้ตของพลอย หรือ การหมดบทบาทของพลอย แทบจะไม่ได้มีความหมายต่อแกนหลักของหนังเลย หนังปล่อยให้เป็นส่วนที่ จินตนาการของคนดูต้องทำงานเอาเอง

แต่ละคนย่อมมีคำตอบในใจที่ไม่เหมือนกัน เช่น บางคนอาจคิดว่าโน้ตของพลอยคือ เมียเผลอแล้วเจอกันใหม่นะพี่ หรือไม่ก็อาจจะเป็น รักแท้หรือแค่ฝันไป ฯลฯ

... มองข้ามคำถามเหล่านั้นไปก่อน เพราะ หนังมีคำถามที่ชวนขบคิดและไม่ได้ทิ้งท้ายแบบนามธรรม และ คำถามข้อนี้ อาจจะเป็น คำถามเดียวที่หนังเตรียมคำตอบไว้ให้แล้ว คือ คำถามที่เป็นแกนหลักของหนังเรื่องนี้กำลังพูดถึง อายุของความรัก ซึ่งปีล่าสุดหนังไทยอย่าง โคตรรักเอ็งเลย ก็แย้มประเด็นนี้มาแล้วหรือ หนังเฮียหว่อง คา ไว อย่าง Chungking express ก็เคยบอกไว้

คุยเรื่องรัก



ความรักมีวันหมดอายุจริงๆหรือ ?



...วิทย์ในหนังยืนยันว่า "มี" จะต่างจากอาหารกระป๋องก็ตรงที่ อายุของความรัก ไม่ได้ติดฉลากบอกว่าจะหมดอายุเมื่อไหร่

...เราเห็นอะไรในความสัมพันธ์ของคนที่มาจากดาวคนละดวง

ฝ่ายหญิงอยากได้ยินคำว่า รัก ที่แสดงออกถึงความต้องการ แต่ ฝ่ายชายไม่เข้าใจ มอง การบอกรักซ้ำๆ เหมือนเสียงนกแก้วนกขุนทอง

ฝ่ายหญิงอยากมี เวลา อยู่ด้วยกันกันสองคน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง แต่ ฝ่ายชายไม่เข้าใจความหมายของ “เวลาที่อยู่ร่วมกัน” เพราะทุกวันนี้ก็แทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จะเอาอะไรอีก หรือ ต้องลดเวลาเที่ยวกับเพื่อนลง ซึ่งฝ่ายหญิงไม่ได้หมายความเช่นนั้น

คนสองคนมอง การบอกรัก/การใช้เวลาชีวิตคู่ แตกต่างกัน เพราะ คนหนึ่งกำลังหมายความถึง ความรู้สึกความปรารถนา แต่อีกคน กลับเข้าใจว่าเป็นเรื่องของ พฤติกรรม

ฝ่ายหญิงแค่อยากให้ คำบอกรักทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกถึง การยังเป็นที่ต้องการ การยังเป็นที่รัก และ การอยู่ด้วยกัน มีความหมายของความเป็นคู่รัก แต่ สิ่งนี้ไม่สามารถจะเชื่อมต่อเข้ากับฝ่ายชาย

...รอยห่างของความสัมพันธ์ ยังปรากฎให้เห็น เมื่อฝ่ายชายไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง นึกจะพาผู้หญิงขึ้นห้องก็พามา โดยไม่คิดถามภรรยาหรือปรึกษากันก่อน

ส่วน

ฝ่ายหญิงก็มีพื้นของความความระแวงไม่ไว้ใจ ก็เข้าไปเช็คมือถือ เช็คโทรศัพท์ แล้วด่วนสรุปความ โดยไม่ถามไถ่

ความรักของทั้งคู่ หมดอายุ แล้วหรือยัง ?


ยังหรอก - ความรักของทั้งคู่เหมือนอาหารกระป๋องที่ยังไม่หมดอายุ แต่ เริ่มมีจุลินทรีย์ที่ทำให้บูด ถ้าปล่อยทิ้งไว้ แกล้งไม่รู้ไม่สนใจ แน่นอนว่า มันต้องหมดอายุก่อนวันอันควรแน่นอน

...ความเงียบของหนังโดยเฉพาะห้านาทีแรก ไม่ได้ดัดจริตถูกจัดใส่เข้ามาเพื่อความเท่ ความเงียบของหนัง สะท้อน ความเงียบในความสัมพันธ์ของคนสองคน ตั้งแต่บนเครื่องบิน

หลายชีวิตคู่กำลังมีปัญหาแต่ไม่เคยรู้ตัว เพราะเลือกการแก้ปัญหา ด้วยการนิ่งเงียบ เก็บกด และ วิธีการเช่นนี้เอง ที่เร่งปฏิกิริยาวันหมดอายุให้กับความรักของคนสองคน

เพราะ ชีวิตคู่ที่ใช้ความเงียบเข้าแก้ปัญหา ไม่ต่างอะไรจากการกลบฝีหนองเล็กๆไว้ ซึ่งหากไม่รีบรักษา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง หนองนั้นย่อมต้องแตกออกมา



... พลอยไม่ได้เป็นสาเหตุของการทะเลาะขัดแย้ง

พลอยเป็นแค่ตัวเร่งปฏิกิริยาให้วิทย์และแดง รู้ตัวมากยิ่งขึ้น และ จะว่าไป การมาของพลอยยังเป็นข้อดีอีกต่างหากเพราะทำให้ คนสองคน เห็น ปัญหาได้เร็วขึ้น ไม่ใช่แค่กลบๆไว้

พลอย เป็น ไกด์ที่พาคนดูไปสำรวจแก่นกลางความสัมพันธ์ของวิทย์และแดงให้ลึกมากขึ้น และ พลอยก็ยังเป็น สะพานที่เชื่อมให้คนสองคู่ที่ตรงกันข้ามกันอย่างน่าสนใจ

คู่ที่สถานภาพชัดเจนว่า สามี – ภรรยา แต่ ความสัมพันธ์นั้นเกิดระยะห่าง เย็นชา และ บทบาทสามี-ภรรยา ดูจะจางหายไปทุกที

VS.

คู่ที่สถานภาพยังไม่ผูกพันธ์ชัดเจน แต่ ความสัมพันธ์นั้นชิดใกล้ เร่าร้อน และ พยายามสวมบทสามี-ภรรยา







ชวนคิดลึกกับ พลอย


(คำเตือน : เนื้อหาถัดจากนี้ สปอยล์ บอกเล่าตอนจบและทุกอย่าง เป็นแน่แท้)


...ในทางจิตวิทยา ความฝัน(Dream) คือ ช่องทางระบายออกของจิตใต้สำนึก ที่ถูกกดเก็บไว้ ได้ออกมาโลดแล่นอย่างมีอิสระ เราสามารถเติมเต็มจินตนาการที่ในชีวิตจริงไม่อาจเป็นไปได้ หรือ ความกลัวความระแวงทั้งหลายแหล่ที่เก็บกดไว้ก็จะมาปรากฎในฝัน ในอดีต ซิกมันด์ ฟรอยด์ ก็ยังเคยตีพิมพ์ผลงานชื่อ The Interpretation of Dreams ซึ่งไม่ใช่การทำนายฝันในทางโหราศาสตร์แต่อย่างใด

ทุกความฝันย่อมมีความหมาย ดังนั้น ฝันของใครก็จะสะท้อนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคนๆนั้น และ นั่นเป็น สิ่งที่ผมแบ่งความฝันของแต่ละตัวละคร ตามความหมายของสิ่งที่ซุกซ่อนในใจ

....หนังเรื่องพลอย ฉุกให้คนดูคิดเรื่องการเล่นกับความฝัน ในตอนที่ แดงฝันว่าตัวเองได้ฆ่าพลอย ซึ่ง สะท้อน Death wish ในจิตใต้สำนึกของแดง และ นั่นทำให้เราต้องจับจ้องหนังอย่างตั้งใจ

เพราะ หากย้อนไปตั้งแต่ต้น เราจะเห็นคำใบ้ตั้งแต่แรก ด้วยการเห็น การเปิดฉากของหนังด้วยการหลับสลับไปมา ตั้งแต่ การนอนหลับของแดงบนเครื่องบิน จนในช่วงลิฟต์ที่เราจะเห็น วิทย์หลับในลิฟต์
(น่าสนใจที่ว่า ทั้งสองการหลับต้นเรื่อง แดงเป็นคนกุมมือวิทย์ตลอด แต่ ฉากจบ วิทย์เป็นคนกลับมากุมมือแดง)

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอนำเสนอ 3 ทฤษฎีที่ คิดลึก กับพลอย




สมมติฐานที่ 1.ฝันขนาบไปกับความจริง


ตัวละคร 3 คนในหนังเรื่องนี้ ตื่น 3 ครั้ง จึงมี ความฝันของคน 3 คน ที่เกิดควบคู่กับ ความจริง

ฝันของแดง ตามมาด้วย ฝันของพลอย และ สิ้นสุดที่ ฝันของวิทย์


อะไรคือ ความจริง(Reality) อะไรคือ ความฝัน (Dream / Surreal)

ความจริง(Reality)

วิทย์+แดง เดินทางกลับเมืองไทย เข้าพักในโรงแรมด้วยความเงียบงัน แดงเป็นฝ่ายกุมมือวิทย์ทั้งช่วงหลับบนลิฟต์และช่วงตื่นบนเครื่อง วิทย์บุหรี่หมด ลงไปที่ห้องอาหาร พบ บาเทนเดอร์ และ พลอย วิทย์ชวนพลอยขึ้นมาพักบนห้องเพื่อรอแม่มารับ ก่อนถึงห้อง ทั้งคู่เดินสวนกับพนักงานทำความสะอาด

แดงไม่พอใจที่พาพลอยขึ้นมา แดงตัดสินใจออกจากห้อง วิทย์ตื่นมาพลอยไม่อยู่แล้ว และ โทรศัพท์หาแดงไม่ติด วิทย์เสียใจร้องไห้ในอ่าง พลอยเข้าไปในห้องที่ว่างเปล่าแล้วก็หมดบทบาท ส่วนวิทย์กับแดงก็มาเจอกันในงานศพ แดงมีรอยช้ำที่ขอบตา และ จบบนแท็กซี่ที่แดงเปรยว่า เด็กคนนั้นก็น่ารักดี


ความฝัน (Dream / Surreal)

ฝันของแดง : แดงใส่เสื้อกลับข้าง โมโหที่พลอยขโมยยา ทะเลาะกับวิทย์ บ่นว่าวิทย์ไม่เคยเข้าใจ แล้วตัดสินใจไปฆ่าพลอย เจอน้อยอุ้มเด็กที่หน้าประตู ทั้งหมดนี้คือ ความฝันของแดง

ความหมายของความฝัน : น้อย + พลอยขโมยยา + การฆ่าพลอย คือ จินตนาการ ผสมกับ สมมติฐานในจิตใต้สำนึกแดง

น้อย อาจเป็นใครก็ได้หรืออาจเป็นผู้ชายเสียด้วยซ้ำ แต่ อย่างที่เกริ่นไว้

ความฝันของคนมักจะเป็นการปลดปล่อยความคิดในจิตใต้สำนึกของคนๆนั้น จากความหวาดระแวง ความกังวล ทำให้ ฝันของแดงโลดแล่นเห็น น้อยคือชู้รักและมีลูกด้วยกันกับวิทย์

เช่นเดียวกัน

ความเกลียดชังพลอย ที่อยากฆ่าเสียให้ตาย แต่ด้วยตัวแดง มีบุคลิกภาพแบบรักษาอิมเมจตัวเอง (ตามที่วิทย์ว่าไว้) ไม่เกรี้ยวกราดต่อคนนอก ทำให้ ความรุนแรงเก็บกดไว้ แล้วมาแสดงออกมาในฝัน ยิ่งมี ความคิดว่า พลอยจะมาขโมยของรัก(วิทย์=ยา) จึงอยากจะฆ่าเสียให้ตาย


ฝันของพลอย : พลอยทำสร้อยหาย แดงเอาสร้อยไปแขวน แดงกับวิทย์ทะเลาะกัน บาร์เทนเดอร์กับพนักงานมีเซ็กส์กัน ทั้งหมดนี้คือ ความฝันของพลอย

ความหมายของความฝัน : พลอยตื่นมาพร้อมความเข้าใจว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะตัวเอง ซึ่งก็คงมาจากสัมผัสแรกที่เปิดประตูเจอแดง และ ได้ยินแดงกับวิทย์ทะเลาะกันในห้องน้ำ จึงฝันว่า ทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะเธอ และ แดงก็เป็นคนขโมยสร้อยของเธอไป

เซ็กส์ของ บาร์เทนเดอร์ กับ พนักงานสาว เป็น ส่วนความฝันของ พลอย เพราะเธอเป็นคนเอ่ยออกมาจากปากเอง ว่า ฝันเห็นสองคนนี้มีเซ็กส์กัน
(เนื้อหาส่วนนี้ อาจจะอยู่ในฝันของวิทย์ด้วยก็ได้ แต่ไม่มีทางเป็นฝันของแดง เพราะ มีแค่ วิทย์ กับ พลอย ที่เห็นตัวจริงของ บาร์เทนเดอร์กับพนักงานสาว จึงสามารถนำไปฝันได้)

ความฝันของพลอย ส่วนนี้ ถือกำเนิดขึ้นมา เป็นเจตนาของหนัง เพื่อ พาคนดูไปเปรียบเทียบ ความสัมพันธ์ที่ โหยหาในกันและกัน มีความเร่าร้อน ซึ่งเป็นความฝัน VS. ความสัมพันธ์ ในโลกแห่งความจริง ที่เงียบงันเย็นชา


ความฝันของวิทย์ : วิทย์นอนคุยกับพลอย แดงออกไปเจอกับคนแปลกหน้า แดงโดนข่มขืน

ความหมายของความฝัน : ความกลัวของวิทย์ในเบื้องลึกที่จะสูญเสียแดง ทำให้ฝันเป็นเรื่องราวของการสูญเสีย แต่ ในฝันนั้นที่แดงถูกข่มขืน + แดงในฝันของวิทย์โทรกลับไปแล้วได้ข่าวว่า วิทย์ออกไปกับพลอย ก็อาจสะท้อนว่า ในจิตใต้สำนึก อาจมีบางส่วน ที่ วิทย์อยากเลิกกับแดงและอยากไปมีสัมพันธ์กับเด็กสาวคนนี้




...อย่างไรก็ดี จาก สมมติฐานข้างต้น จะพบว่า มีบางตอนที่ไม่เคลียร์ในเรื่องจริงกับฝัน ซึ่ง หนังอาจจะตั้งใจ เป็นความตั้งใจของเป็นเอกที่ต้องการเหลื่อมล้ำจริงฝัน หรือไม่ก็พลาดไป เป็นความไม่แม่นยำเด็ดขาดในตัวบทที่จะแยกจริงฝันนี้ออกจากกัน เช่น ตอนแดงออกไปเจอคนร้าย เป็นได้ ทั้ง ความฝันของวิทย์ และ ความจริงของแดง เพราะแดงหายไปนานพร้อมกลับมากับรอยช้ำที่เบ้าตา




สมมติฐานที่ 2 .พลอยไม่มีอยู่จริง



ในอีกมุมหนึ่งที่ผมชวนคิดมาก คือ ตัวละครพลอย ไม่มีอยู่จริง แต่

พลอย เป็น สัญลักษณ์ของ คนที่วิทย์อยากจะมี + ตัวตน(identity)ที่แดงอยากจะเป็น


วิทย์อยากมีคนเข้าใจอย่างพลอย คนที่เขาสามารถปรับทุกข์ได้ โดยไม่ต้องถูกตัดสิน และ แดงเองก็อยากเป็นพลอย คนที่วิทย์เทคแคร์

...พลอย เป็นแค่ จิตใต้สำนึกที่โลดแล่นในความฝันของวิทย์และแดง

วิทย์ลงมาเจอพลอยในบาร์ พลอยที่นั่งฟังวิทย์ปรับทุกข์เพราะ วิทย์อยากเจอคนแบบนี้ และ เพลงที่พลอยเปิดให้วิทย์ฟังผ่านไอพอดในบาร์ เป็น ความหมายที่แดงอยากได้ยินจากวิทย์

"ใจมีแต่เธอๆ ฉันพูดตรงๆ ฉันไม่เคยหลงรักใครมากมายอย่างนี้ ชอบเธอจริงๆ จะรักเธอชั่วชีวี เธองามอย่างนี้ กี่วันกี่ปี ก็ลืมไม่ลงๆ ..."

.... เราจะเห็นว่า พลอยหายไปในฉากสุดท้ายเมื่อเธอเดินออกไปนอกห้อง เช่นเดียวกับที่ แดงเดินออกไปนอกห้อง

แดงค่อยๆเข้าไปเทคโอเวอร์ของพลอย เริ่มด้วย สวมสร้อย ถอดแหวน และ ออกไปกับชายอีกคน แต่ เมื่อสวมบทพลอยเข้าจริงๆ ก็จะพบว่า การเป็นคนอื่น มันไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิด และ มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาชีวิตคู่แต่อย่างใด

สิ่งที่ดีที่สุดคือ เป็น แดง อย่างที่เธอเป็น และ หันหน้ามาปรับความเข้าใจกัน






ผมชวนให้คิดลึกๆเล่นๆเข้าไปอีก กับ สมมติฐานที่ 3 ที่ผมอดปักใจสงสัยไม่ได้ว่า


สมมติฐานที่3. หรือทั้งหมด คือ ฝันไป



...ถ้าความจริง(reality) มีแค่

วิทย์กับแดงเช็คอิน วิทย์ลงมาเจอพลอย แล้วพาพลอยเข้าห้อง ทั้งวิทย์และแดง ทะเลาะกัน หลังจากนั้น แดงกับวิทย์หลับบนเตียง & พลอยหลับบนโซฟา

... ช่วงกลางของหนัง คือ การเดินทางของความฝันของแต่ละคน

แดงตื่นก่อน ... แดงยังคงไม่พอใจ รู้สึกโกรธ น้อยใจ แดงจึงเดินออกจากห้อง

พลอยตื่นถัดมา ... พลอยเขียนโน้ต พลอยกลับไปหาแม่แต่ก็แวะดูห้องของคู่บาร์เทนเดอร์ว่ามีจริงหรือเปล่า

วิทย์ตื่นคนสุดท้าย ... เจอโน้ตของพลอย แต่ก็ไม่สนใจนัก เพราะ สำหรับวิทย์ พลอยไมได้มีความหมายอะไรมากมาย เขาพะวงกับแดงที่หายไปบวกกับเรื่องร้ายในฝัน

ความจริงมาบรรจบกันอีกครั้ง เมื่อ แดงเจอกับวิทย์ และ วิทย์รู้แล้วว่า สิ่งที่ขาดหายไปทำให้ฝันร้ายเกิดขึ้นคืออะไร

วิทย์บอกรักที่มีความโหยหาในคำพูด และ เป็นคนเริ่มต้นกุมมือแดงเอง ไม่เหมือนกับตอนที่มาถึงกรุงเทพ

เขาเรียนรู้ที่จะรักษาความรักให้อายุยืนยาว และ สามารถที่จะถ่ายทอดความรัก ให้คนข้างๆสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกจากใจ ไม่ใช่แค่ คำพูด




...งานของ เป็นเอก ที่ผมเคยรักคืองานเก่าๆอย่าง มนต์รักทรานซิสเตอร์ หนึ่งในหนังไทยประทับใจตลอดกาลของผม และ งานมันๆอย่าง เรื่องตลก 69 กับ ฝันบ้าคาราโอเกะ

แต่พอ เป็นเอก ทำงานที่นักวิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศล้วนชื่นชมและว่ากันว่า ดีขึ้น อย่าง เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล และ คำพิพากษาของมหาสมุทร ผมกลับรู้สึกว่า ผม กับ งานของเป็นเอก มีระยะห่างกันมากขึ้น และ ผมเริ่มรักหนังของเป็นเอกน้อยลง

...พลอย เป็น งานที่ผมคาดหวังว่า ผมจะกลับมารัก เป็นเอก อีกครั้งตั้งแต่ยังไม่ฉายจริง พิจารณา จากหนังตัวอย่าง จากประเด็นของหนัง จากฉากเลิฟซีน () และ จากที่เป็นเอกให้สัมภาษณ์ว่าหนังครั้งนี้จะออกมาอารมณ์เป็นหนังเล็กๆในอดีตที่เคยทำ

... และ ผมก็พบว่า พลอย ไมได้ดูยาก เหมือน เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล, คำพิพากษาของมหาสมุทร ซึ่งสองเรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันให้อารมณ์ “อะไรว้า” สำหรับหลายๆคนค่อนข้างมาก เช่น ฉากเรื่องนี้หมายถึงอะไรว้า , แล้วตกลงใครตายว้า , อ้าว จบแล้วหรอว้า ฯลฯ

ความ “อะไรว้า” ในพลอยยังคงมีอยู่บ้าง ชนิดที่เรียกว่า ผมเองก็คงไม่ได้เข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ตั้งแต่ดูจบ เพราะต้องให้เวลาสมองได้ทำงาน แต่ หากลองทบทวนหรือมีคนทัก ก็จะ อ๋ออออ ขึ้นมาได้ในทันที

แต่

พลอย ก็ไม่ ไม่ใช่งานที่ชวนให้รู้สึกว่าเข้าใกล้ มนต์รักทรานซิสเตอร์ แม้แต่น้อย พลอย ยังคงอบอวลไปด้วยความเงียบงันและเคลื่อนตัวด้วยความเชื่องช้าเหมือนสองเรื่องหลังสุด

จะต่างไปก็ตรงที่ ความช้าในสองเรื่องก่อน ทำให้ผมซึมกระทือเหมือนตัวเองบื้อๆง่วงๆ แต่ ความช้าเงียบใน พลอย ทำให้ผมลุ้น คิด และ เก็บอารมณ์ที่หนังส่งต่อมาได้เป็นระยะ


...สิ่งที่ผมชอบมากๆ ยังมีอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้มุมกล้องที่ถ่ายทอดอารมณ์ของหนังได้ดีมากๆในหลายฉาก , เพลงประกอบที่เข้ากับหนังดีเหลือหลาย

ความสุดยอดหนึ่งสิ่ง ที่สังเกตมาจากหลายๆเรื่องของเป็นเอก คือ การรีดประกายจากนักแสดงในเรื่อง เช่น อุ้ม ใน มนต์รักทรานซิสเตอร์ หมิวในเรื่องตลก69

ใน พลอยก็เช่นกัน เราจะได้เห็นทีมนักแสดงยอดเยี่ยม ไล่ไปตั้งแต่ พรวุฒิ สารสิน นักธุรกิจมืออาชีพต้องมาเป็นนักแสดงสมัครเล่น แต่ฝีไม้ลายมือกินขาดมืออาชีพหลายคน กับการแสดงที่เป็นธรรมชาติสมจริงเหมือนไม่ได้แสดง

ส่วน หมิว ลลิตา ปัญโญภาส ได้เล่นอีกหนึ่งบทบาทที่มีความลึกในการแสดงอารมณ์แบบไม่ต้องฟูมฟายแต่คนดุสัมผัสได้แบบเต็มๆ และ น้องสายป่าน ในบท พลอย ที่ไม่ได้มีดีแค่น่ารักกับหัวฟู แต่ เธอผสมผสานความน่ารัก ความลึกลับ และ ความเป็นตัวของตัวเอง ผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติ ชนิด ไม่ถูกหมิวกลบประกาย จนไม่อยากจะเชื่อว่า นี่คือ งานหนังใหญ่ชิ้นแรกของเธอ

สิ่งที่ชอบ

1.ความคิดที่หนังทิ้งให้เล่น ... หนังไม่ได้ยากเกินไป และ เป็นการให้เกียรติคนดูโดยไม่ดูถูกคนดูเกินไป เป็น หนังที่อาจเปลี่ยนและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆแก่คนดู ซึ่ง มีหนังไทยสักกี่เรื่องกันเชียว ที่กล้าทำเช่นนี้ ที่ผมชอบมาก ก็คือ มันไม่ได้ก้าวกระโดดไปไกลชนิดไม่แคร์คนดู

2.ทีมนักแสดง

3.มุมกล้อง ... ฉากทะเลาะกัน และ อีกหลายๆฉาก หนังฉลาดในการวางมุมกล้องแล้วถ่ายทอดอารมณ์มาก

4.เพลงและดนตรีประกอบ ... ไพเราะก็ประการหนึ่ง แต่ ที่สุดยอดคือเข้ากับหนังอย่างร้ายกาจ

5.ไดอะล็อคในหนัง ... สมจริง และ น่าจะชนประสบการณ์จริงของหลายๆคน

สิ่งที่ไม่ชอบ

อาชญากรรมช่วงท้าย ... รู้สึกว่าจงใจเกินไป และ หลุดๆจากอารมณ์รวมๆของหนัง เหมือนตอนผมเจอยากูซ่า ในเรื่องรักน้อยนิดตอนท้าย



สรุป ... ยืนยันว่า พลอย เป็นหนังที่น่าดู ดูสนุก ไม่ได้ดูง่ายแบบดูแล้ว อ๋อ เข้าใจปรู๊ดปร๊าด แต่ ก็ไม่ได้ ดูยาก แบบต้องแบกตำราหรือหาบันได เข้าไปดู เป็น หนังที่ขอเพียงไม่ง่วงจนเกินไป ใช้สมองคิดตามเล็กน้อย และ เหมาะเป็นที่สุดสำหรับ ทุกๆคู่รัก ที่เริ่ม สงสัยใน ‘อายุของความรัก’ ตัวเองว่า มันเริ่มใกล้วันหมดอายุแล้วหรือยัง และ ทุกๆคู่รัก ที่กำลังคิดจะริเริ่มความสัมพันธ์ต่อไป

พลอย คือ ผลงานที่ผมกลับมารักเป็นเอกมากยิ่งขึ้น และ ก็ได้แต่หวังว่า เป็นเอก จะมาในทิศทางนี้ต่อไป

ป.ล. ถ้าใครเริ่มสนุกกับการดู พลอย แล้ว แนะนำว่า การบ้านบทถัดไปคือ การไปหาหนังในตระกูลของ เดวิด ลินช์ อาทิเช่น Mulholland dr. ที่จะทำให้ ความสนุกในการดูหนังแบบบริหารเซลล์สมองเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ป.ล. 2... ดูเป็นเอกสนุกกับการเล่นกับตัวละครหนังตัวเองพอสมควร เราจึงได้เจอทั้ง ตุ้ม น้อย และ ตุ๊กแก ในหนังเรื่องนี้





ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(สนพ.ฝากแจ้งว่า มีลด15% ถึงสิ้นเดือนกค.ที่ ดอกหญ้าสาขา อนุสาวรีย์, เมเจอร์สุขุมวิท, พันธ์ทิพย์ กทม., เมเจอร์เชียงใหม่, แฟชันไอแลนด์, เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, เมเจอร์รัชโยธิน
)






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 16 มิถุนายน 2550
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2550 12:55:29 น. 72 comments
Counter : 8467 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ


โดย: Spizz' ike Plz !!!~ IP: 202.57.183.60 วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:3:19:13 น.  

 
สองจิตสองใจว่าจะไปดูหนังเรื่องนี้ดีหรือไม่...รู้สึกตัวเองโชคดีจัง..ที่เข้ามาอ่านกระทู้ในพันทิพ...เลยเถิดจนมาเจอ blog นี้เข้า...อ่านได้เข้าใจมาก...ตัดสินใจทันทีว่าวันนี้จะเสียตังค์ดูหนังคุณเป็นเอก...และจะไปอดหนุนหนังสือ "หนังสือรัก" ซักเล่ม


โดย: ข้าวเหนียวหมูหวาน IP: 202.139.223.18 วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:6:13:18 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้
มีเพื่อนหลายคนที่ไปดูมา
และบ่นว่าไม่เข้าใจ

แต่พอมาอ่านที่ จขบ. เขียน
ก็หายสงสัยเลยว่า
ทำไมเพื่อนไม่เข้าใจ
เพราะมันตีความตามใจคนดู

..ก็นะ.. อาจจะลึกซึ้งจนทำให้ปวดหัวเกินไป
อิอิ


โดย: โสดในซอย วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:8:40:53 น.  

 
ไดอะล็อคในหนังโดนค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:9:29:31 น.  

 
ถึง ผมอยู่ข้างหลังคุณ
ขออนุญาติ เป็นพันธมิตร ได้เปล่าครับ คือผมวิจารณ์ไม่เก่ง แต่ชอบดูหนัง ผมได้ทำเวป ขึ้นมาคือเวป //www.konbanang.com จุดประสงค์ เพราะไม่ค่อยชอบเวปหนังที่มีอยู่ เลยลองทำเล่น ๆ แต่มีคนเข้ามาดูเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจทำต่อ แต่ผมวิจารณืหนังไม่เก่ง จึงขอเป็นพันธมิตร ถ้าพี่วิจารณ์หนังเรื่องใด ผมขออนุญาตินำลงเวปผมด้วยจะได้มั้ยครับ


โดย: pradoonai วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:10:33:14 น.  

 
เรื่องนี้ชอบมากๆเลยครับ
โดยเฉพาะไอเดียฝันของวิทย์ หรือเรื่องจริง
ชอบครับ


โดย: เข้ามาตอบ IP: 58.8.128.126 วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:19:52:44 น.  

 
wow!!


โดย: oilier IP: 203.146.72.38 วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:23:19:35 น.  

 
ดูจบแล้วรีบเข้ามาบล๊อกนี้เลย อุอุ


บางทีดูหนังแบบนี้ก็สับสนว่ามันเป็นสัญลักษณ์ หรือจะให้เราจินตนาการต่อดีง่ะ แต่ก็หนุก


โดย: sushiboy69 IP: 124.120.131.245 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:2:45:09 น.  

 
อยากดูมากๆเลยค่ะ

แต่ไม่มีเวลาดูเลย สงสัยต้องรอแผ่นออกเอา T^T


โดย: tatjang IP: 203.146.82.87 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:10:31:18 น.  

 
ยังไม่ได้ดู แต่ก็สงสัยว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

ขอบคุณค่ะ


โดย: shower gel IP: 58.64.53.162 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:10:49:44 น.  

 
ถ้าตัดช่วง maid ร้องเพลงออกไป จะชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้นกว่าเดิมอีกมากมาย


โดย: Goog-Gig IP: 61.90.146.66 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:17:33:59 น.  

 
ชอบมากมาย
พอมาอ่านในนี้ยิ่งเก็ทใหญ่เลย
แต่สิ่งที่ไม่ชอบ คือ การเซ็นเซอร์ยี่ห้อบุหรี่ ด้วยการทำ cg กากบาทสีดำแบบโต้งๆ !!!
น่าเกลียดมาก


โดย: enuging IP: 202.90.118.227 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:18:19:20 น.  

 
^
^
จ๊ากกกกก
เขียนผิดค่ะ
กากบาทสีขาวค่ะ ไม่ใช่สีดำ
แหะๆ



โดย: enuging IP: 202.90.118.227 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:18:31:44 น.  

 
มีบทวิทยุ ที่พูดเกี่ยวกับการบันทึกเป็น mp3 อะไรสักอย่างอะครับ
ตอนแรกตรงฉากที่ วิทย์ลงไปดื่มกาแฟข้างล่าง
ตอนที่สอง คือตอนที่แดงกำลังโทรศัพท์ในร้านขายของเก่า

อยากทราบว่ามีความหมายยังไงอะครับ


ส่วนเสียงตุ๊กแกด้วยครับ ไม่เข้าใจความหมายที่ใส่เข้ามา


รบกวนหน่อยนะครับ


โดย: fu IP: 124.120.226.72 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:20:31:42 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ
หนังไม่สนุก แต่เป็นหนังดี ค่ะ ^_^


โดย: เซี่ยวลี้ปวยตือ วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:21:00:59 น.  

 
ถึง คห.12
หนังเรื่องนี้ "เป็นเอก" เซนเซอร์เองครับ (เท่าที่ได้ยินมา)
เพราะงั้นผมว่าอันนั้นมันคงเป็น "มุข" ของแกล่ะ


[[[[[[[[[[[[[[สปอยล์]]]]]]]]]]]]]]]


ผมกลับรู้สึกว่าเรื่องของบาร์เทนเดอร์กับแม่บ้านเป็นเรื่องจริงนะ...
ไม่รู้จะอธิบายแบบไหน... แต่คิดว่าเรื่องนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นเรื่องจริงอยู่เหมือนกัน...


โดย: nanoguy วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:23:43:22 น.  

 
เราแค่สงสัยว่า หนังแบบนี้ จะทำเงินคุ้มทุนได้อย่างไร นับถือผู้กำกับตรงที่ทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้


โดย: โอ๋ IP: 125.24.70.114 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:8:15:12 น.  

 


โดย: ขอบคุณครับ IP: 124.120.2.12 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:9:55:14 น.  

 
วิเคราะห์ได้เยี่ยมยุทธ ขอบคุณมากครับ


โดย: กอร์น IP: 61.90.138.166 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:10:44:28 น.  

 
+ อืม ... นะ เพิ่งเข้าใจว่าหนังคุณเป็นเอกเป็นเช่นไร จากการได้เสพเรื่องแรกนี่เอง (เชยชะมัด!) ... เสียแต่ว่าผมดันเป็นไข้หวัดมาตั้งแต่วันอังคาร จนเมื่อวานก็ยังซมๆ ตัวรุมๆ อยู่เลย แต่เนื่องจากคิดว่าดูหนังไม่ทันแล้วแน่ๆ ก็เลยชั่งใจระหว่าง 13 กับเรื่องนี้ ... แต่ที่เลือกพลอย ก็เพราะคิดว่า "แค่ไปเก็ทอารมณ์(หนัง) ดีกว่าต้องไปนั่งอ่านซับฯ แหละน่า ตอนเปื่อยๆ แบบนี้ " ... ซึ่งปรากฎว่าผมคิดผิดถนัด ... ตัวหนังทำให้ผมต้องเปลืองเซลล์สมองไปบานเลยเชียว แถมดูจบยังมึนๆ เง็งๆ เหมือนฝันไป อีกต่างหาก เหอะๆๆ
+ ขำๆ เหมือนกัน ฉากซองบุหรี่มีกากบาทตัวเบ้ง (ถ้าคุณเป็นเอกเซ็นเซอร์ตัวเอง ... แสดงว่าจริงๆ แล้วแกคงประชดนะนั่น เหอๆๆ ทำซะใหญ่บึ้มเยย) ... แต่ที "นม" แม่บ้าน ดันกลับยังเห็นได้อยู่
+ แล้วตกลง บางฉากจากหนังตัวอย่างที่หายไป ... มันหายไปไหนเอ่ยครับ? ใครรู้ช่วยเฉลยด้วยเน้อ


*** Spoil จ้า ***
+ เนื่องจากผมแทบไม่ได้อ่านอะไรล่วงหน้าไปก่อน (เพราะกลัวรู้เรื่อง) ยกเว้นบทความ 'unspoiled' ของคุณ จขบ. ... ถึงกระนั้นก็เหอะ กว่าผมจะเริ่มเก็ทว่ามันเป็นเรื่องจริงปนฝัน ก็อีตอนที่หมิวฆาตกรรมพลอยไปแล้ว (ซึ่งผมก็คิดอยู่ว่าไม่น่าเป็นไปได้) แล้วอยู่ดีๆ พลอยก็ยังโผล่หน้ามาอยู่อ่ะครับ ... แล้วก็เลยทำให้ต้องจับจ้องหนังด้วยความระมัดระวังขึ้นจริงๆ ด้วยแหละ
+ 3 ทฤษฎีที่คุณ จขบ. นำเสนอมานั้น ช่างน่าสนใจทั้งสิ้น (เหมือนตอนดูเรื่อง Lemming เลยอ่ะครับ ดูจบแล้วยังมาตั้งทฤษฎีได้ตั้งหลายแนว เหอๆๆ) ... ทฤษฎีแรกอาจดูเข้าเค้าที่สุด (ซึ่งในความเบลอๆ งงๆ ผมก็จับใจความได้ประมาณเช่นนั้น) ... แต่เมื่อลองอ่านทฤษฎีที่ 2 และ 3 ดู มันก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกันอ่ะครับ (ตอนแรกผมยังจินตนาการออกแนวน้ำเน่า เป็นว่าพลอยเป็นผีเด็กที่ตายในห้องนั้น ... แล้วมาช่วยให้ทั้ง 2 คนเข้าใจกันมากขึ้น เหอๆๆ )
+ หลายสัญลักษณ์ที่ใส่เข้ามาทั้งภาพและเสียง ก็ยังเง็งๆ อยู่อ่ะครับ ตีความไม่ค่อยออก ... อย่างเช่นเรื่อง แม่บ้านร้องเพลง(จะร้องทำไม?), แม่บ้านจิ๊กชุดมาให้บาร์เทนเดอร์, เสียงตุ๊กแก (สื่อถึงอะไร)ฯลฯ

+ อืม ... เพิ่งเคยได้ดูหนังไทย สไตล์ "แนวๆ" นำเสนอแบบอินดี้กึ่งจริงกึ่งฝัน ซึ่งในเมืองไทยไม่ค่อยมีใครกล้าทำออกมาเท่าไหร่ (เพราะกลัวขายไม่ได้) ... ดังนั้น ผมคงต้องทำการบ้านด้วยการหาหนังเก่าๆ ของคุณเป็นเอกมาดูแว้วอ่ะครับ ว่าจะมึนมากหรือมึนน้อยกว่าเรื่องนี้อ่า เหอๆๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:11:25:18 น.  

 
อ้อออออ .... ถ้าเป็นมุกคุณเป็นเอก
ก็ประชดได้ชัดเจนมากเลย



โดย: enuging IP: 202.90.118.140 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:13:40:19 น.  

 
ฉันคิดว่าพลอยมีตัวตนอจริงๆนะ คือเป็นแค่เด็กๆธรรมดาๆคนนึงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคู่คู่นึง แล้วเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้คนทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น แบบว่าชีวิตคู่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นระยะเวลานานบางอย่างอาจจะดูจืดจางไปบ้าง แต่ความรักของทั้งคู่ก็ไม่ได้หายไปไหน ทีแรกทั้งคู่อาจจะลังเลในความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ แต่พอเมื่อพลอยเข้ามา แล้วผ่านไปทำให้ทั้งคู่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น ยืดอายุของความรักให้ยาวขึ้น...


โดย: พลอย IP: 124.120.71.142 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:14:46:15 น.  

 
ค.ห16 เห็นด้วยค่ะ ฉันก็ว่าน่าจะเป็นความจริง เหมือนเอาคู่บาร์เทนเดอร์กับเมทที่ไม่รู้จักัน ไม่มีบทพูดใดๆแต่ลีลารักกลับร้อนฉ่า มาเปรียบเทียบกับคู่รักที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา 7ปีที่ไม่ได้มีอะไรกันปีกว่า คู่แรกความสัมพันธ์เป็นเพียงความใคร่จบด้วยการแยกทางจากกันไป แต่คู่หลังมีความรัก ความห่วงใยให้กัน สุดท้ายก็จบด้วยการที่ความรักแน่นแฟ้นมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น


โดย: พลอย2 IP: 124.120.71.142 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:14:58:06 น.  

 
รู้สึกเหมือนกันว่าหนังพยายามจะสื่อว่าฉากที่บาร์เทนเดอร์กับแม่บ้านมีอะไรกันมันเหมือนกับไม่ใช่เรื่องจริง แต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริง (เช่นพลอยอาจจะไปดูผิดห้อง หรือว่าตอนนั้นเก็บกวาดห้องกันเรียบร้อยแล้ว)

อีกอย่างหนึ่งคือพลอยก็น่าจะมีจริง เพราะตอนจบแดงพูดว่า "ไอ้เด็กเมื่อเช้ามันก็น่ารักดีเหมือนกันเนอะ" (ประมาณ ๆ นี้แหละมั้ง)

แล้วก็คิดเหมือนกันว่าที่แดงโดนข่มขืนอะไรนั่นน่าจะเป็นความฝันของวิทย์ เพราะว่าฉากตอนที่แดงสู้กับผู้ชายคนนั้นแล้วสุดท้ายเสียงปืนก็ดังขึ้น - ถ้าเป็นความจริงน่าจะเป็นแดงมากกว่าที่ไม่รอด (แต่ก็แอบงงนิด ๆ ว่าแล้วรอยช้ำที่หน้าแดงตอนในงานศพมันมาจากไหน? หรือว่ามันคือความจริง? แต่ก็ไม่น่าใช่อีกเพราะตอนที่แดงโทรไปโรงแรมแล้วทางโรงแรมบอกว่าวิทย์ออกไปกับเด็กผู้หญิงมันไม่ใช่ความจริง ถึงจะบอกว่าพนักงานเข้าใจผิดก็ไม่น่าจะผิดกันขนาดนั้น)

สรุปว่าก็ยังงง ๆ

ปล. ตอนแรกนึกว่าตุ๊กแกเป็นของจริงเหมือนกัน เพราะคนที่นั่งหลังสุดกรี๊ดกร๊าดลุกกันกระเจิดกระเจิงทีเดียว...


โดย: borndead IP: 203.150.233.178 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:20:46:53 น.  

 
ตกลงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับแดงคือความฝัน แล้วมีรอยช้ำที่ตาได้ไงหรอ ใครอธิบายได้ช่วยหน่อย สงสัยมากๆ


โดย: bebe IP: 203.150.83.91 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:23:22:25 น.  

 
ผมชอบและคิดแบบทฤษฎี 3 ครับ
แต่แอบสงสัยว่า 1 กับ 3 เนี่ยมันก็ต่างกันนิดเดียวเองนะ


โดย: จันทร์ในบ่อ IP: 125.25.148.98 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:23:34:08 น.  

 
มีเสียงปืนด้วยเหรอครับในฉากท้ายๆ
ผมจำไม่ได้เลยแฮะ


โดย: nanoguy วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:0:00:18 น.  

 
^
^
+ รู้สึกจะมีนะครับน้องนาโน เป็นฉากที่เจ้าตัวแสบเดินตามหาแดงหายเข้าไปในประตูโกดัง แล้วก็มีเสียงเหมือนใครสักคนถูกตีก่อน ตามมาด้วยเสียงสู้กัน แล้วก็จะมีฉากแดงกับหมอนี่ต่อสู้กันโผล่มาแว่บนึงจากขวาไปซ้ายแล้วหายไป ถัดจากนั้นรู้สึกจะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วภาพก็ตัดไป
+ เหอๆ นับว่าหนังเรื่องนี้ก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงกันได้มากมายดีจังแฮะ เพราะแต่ละคนก็จินตนาการกันได้บรรเจิด ... แต่ที่คุณจันทร์ในบ่อ #26 ว่าไว้ว่า ทฤ.1 กับ ทฤ.3 ต่างกันนิดเดียว ถ้าจะคิดไปมันก็ไม่นิดนาครับ ... เพราะ ทฤ.1 เนี่ย มันเหมือนมีโครงเรื่องอยู่ตามพล็อตที่อยู่ในหนัง ส่วนอ้ายส่วนที่เป็นความฝันนั่นเหมือนเป็น 'แฟนตาซี' ที่เข้ามาเติมเต็มหนังอีกที (และทำให้คนดูเง็งไปด้วย) ... ส่วน ทฤ.3 เนี่ย ทุกอย่างมันจะฟุ้งไปหมด ใครฝัน จินตนาการว่าอะไรก็ได้ ไม่มีมูลความจริงทั้งสิ้น มีแค่ตอนเริ่มต้นกับตอนจบที่เป็นความจริง (แต่น่าจะเป็นฝันของวิทย์ เพราะพฤติกรรมตอนเริ่มต้นกับตอนจบ เป็นไปในทางตรงกันข้าม) ... ผมก็เลยคิดว่าแยกตามที่คุณ จขบ. ตั้งเป็นประเด็นไว้นี่ก็เห็นภาพที่แตกต่างชัดเจนดีนะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:10:49:15 น.  

 
+ อ้อ ... ลืมไปอีกข้อ ที่คุณ bebe #25 ถกเรื่องรอยช้ำที่ตาของแดง ... ตรงนี้ผมว่าอาจเป็น 'ปลายเปิด' ครับ คือให้คนดูสงสัยเอาเอง หนังไม่ได้ให้คำตอบชัดๆ ... ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้ง เรื่องที่แดงถูกข่มขืนและโดนซ้อมเป็นเรื่องจริง จึงเกิดรอยช้ำนั่นขึ้น หรือแดงอาจเอาหน้าไปโขกขอบโต๊ะ ขอบเตียงก็เป็นได้ ... เพราะถ้าหนังบอกตรงนี้ชัด คนดูก็คงไม่ต้องมานั่งตั้งทฤษฎีต่างๆ เป็นวรรคเป็นเวรอย่างที่พวกเรานั่งถกกันอยู่นี่หรอกครับ เหอะๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:10:55:21 น.  

 
งงกะตุ๊กแกเหมือนกันครับ ใส่มาเพื่อ?


โดย: เบน IP: 203.154.48.17 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:14:37:10 น.  

 
"อย่าให้ใครเขาเป็นเจ้าชีวิตเธอ.. นะคนดี"
รู้สึกว่ามีอะไรๆ มาเป็นเจ้าชีวิตมากมายนะ โดยเฉพาะชีวิตของแดง

"เพื่อเธอคนดีแด่คนช่างฝัน.."
ช่างฝันกันจริงๆ เลย ฝันกันทั้งเรื่อง

เพลงประกอบนี่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหนังมากๆ เลย


โดย: กายแก้ว วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:20:38:55 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ


โดย: ^_^ IP: 58.64.65.64 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:22:25:35 น.  

 
ดีนะที่ได้มาอ่านหน้านี้ ไม่งั้นก็คงจะ "งง" ต่อไป


โดย: mogura IP: 58.9.102.104 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:2:43:55 น.  

 
รอยช้ำเขียว ของพลอย เป็นการแต่งเองตามแฟชั่นใช่หรือเปล่าครับ เห็นบอกว่า เช็ดออกตอนอยู่ในห้องน้ำ แล้วของแดง ...????


โดย: ผ่านมา IP: 61.7.175.212 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:20:40:44 น.  

 
วิจารณ์ได้ดีมากค่ะ มองได้หลายมุมดี
ทีแรกคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเรื่องที่แดงถูกข่มขืนจะเป็นความฝันของวิทย์ได้

แต่เราว่า ไม่น่าจะใช่นะคะ อย่างที่คุณบอก แดงมีรอบช้ำที่ตา อันนี้เห็นชัดมากๆ

โดยรวมของหนังเรื่องนี้ เราชอบมากๆ
เป็นหนังที่ ดูในโรงไม่รู้เรื่องเลย...แต่พอกลับมาบ้าน ก็มานั่ง อ๋อๆๆๆๆ มันสัมพันธ์กันอย่างงั้นอย่างงี้ สนุกดีค่ะ เหมือนภาพวาดสวยๆ ที่ดูแต่ละครั้ง ก็จินตนาการได้ใหม่เรื่อย ๆ


โดย: sabeauna IP: 124.121.33.54 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:22:16:12 น.  

 
ชอบทั้งพลอย
ชอบทั้งบทวิจารณ์ค่ะ

ที่งงมากมี web นึง บอกว่า พลอย เป็น ลูก ของ แม่บ้าน กะ บาร์เทนเดอร์ที่กำลัง รอไปเกิด

เพราะตอนที่เจอวิทย์ บอกว่า รอแม่
แล้วก็หายไปในห้อง 609 ที่ 2 คนนั้นมีอะไรกัน


โดย: la mer de Joy IP: 58.10.231.170 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:0:39:29 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเลย แต่อ่านแล้วเลยอยากดูค่ะ


โดย: แกงส้มไข่ชะอม วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:10:04:17 น.  

 
ไม่รู้ลาโรงไปหรือยัง
ชอบเรื่อง ฝันบ้าคาราโอเกะ มากเลยครับ
เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล ผมเข้าไปดูหนังในโรงคนเดียวทั้งโรงที่ต่างจังหวัด เป็นประสบการณ์ที่มิอาจลืม บางคนบอกให้ดูฉบับ Sound Track ก็ไปหาซื้อมา แต่ยังไม่ชอบเรื่องนี้

จด มนต์รักทรานซิสเตอร์ ไว้ใน Wating List หนังดีแล้วครับ ยังไม่ได้ดูเลย

อยากดูครับ พลอย นี่ น่าจะให้มุมมองกับเรื่องความรัก ที่ลึก และ ละเอียดขึ้นนะครับ

สักวันจะหามาดู


โดย: คนขับช้า วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:16:36:20 น.  

 
เยี่ยมครับ ... เข้าใจตัวหนังเพิ่มมากขึ้น ^_^


โดย: Kid IP: 203.99.253.8 วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:13:21:48 น.  

 
ไปดูมาแล้ว ผมว่าหนังเป็นเอกมันสนุกน้อยลงไปเรื่อยๆสำหรับผม(ไม่ค่อยบันเทิงสมใจ) หรือว่าหนักมันยากขึ้นเรื่อยๆก็ไม่รู้เหมือนกัน
สำหรับผม เรื่องที่โปรดปรานสุดๆก็คือ 69 กับ น้อยนิด (ฝันบ้าคาราโอเกะเป็นไงจำไม่ได้แล้ว มนต์รักยังไม่เคยดูเลยครับ)


โดย: blackholesun IP: 124.120.174.152 วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:11:08:44 น.  

 
ความเห็นเรื่องรอยช้ำครับ

ผมว่าไม่มีรอยช้ำจริงหรอก เหมือนกับเหตุการณ์หลายๆอย่างในหนัง

ใส่มาหลอก เหมือนกับว่าคู่นี้ได้ผ่านเหตุการณ์บางอย่างมาด้วยกัน ดูจากการที่ พระเอกไม่ได้ทักเลยตอนเจอนางเอก ความจริงถ้า แฟนเรามีรอยช้ำใต้ตา เราก็ต้องถามก่อนละว่าไปโดนอะไรมา


โดย: mrolim IP: 125.24.37.73 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:18:06:21 น.  

 
สำหรับบล็อกนี้ เพิ่งแวะมา
เคยเห็นแนะนำในหนังสือไอน้ำ(แต่ยังไม่เคยเปิดดู)และอ่านงานของคุณในครั้งหนึ่งในนิตยสารAll อยากดูเรื่องที่คุณอ้างถึง
การแวะเข้ามานี่คงเป็นโชคชะตา...
เพราะบังเอิญคำที่ Search หามีอยู่สองเวปที่มี จึงทำให้มาพบพลอย...
เขียนยาวเชียว...ปกติไม่ถูกโรคกับหนังสือตัวเล็กๆ ที่หน้าเวป แต่ก็ลองอ่าน และวาง(สายตา)ไม่ลง จนอ่านจบทั้งข้อความของคุณและคนตอบกระทู้
...ชอบค่ะ และรู้สึก อยากดูหนัง...


โดย: อยากดูหนัง IP: 124.120.204.99 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:59:53 น.  

 
จำได้ว่าแดงถามพลอยว่าตาไปโดนอะไรมา ซึ้งตานั้นเป็นด้านขวา (มีอีกตอนพลอยเช็คตาในห้องน้ำด้วย)
นั้นสื่อถึงกันด้วยป่าวคะ


โดย: sugar IP: 125.24.18.34 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:18:04:28 น.  

 
ผมดูหนังมาเยอะมาก หนังเรื่องนี้อย่าว่าอะไรเลยนะการเดินเรื่องช้าเนื้อเรื่องน้อย
หนังนะถ้าคนจะทำให้ตีความได้หลายความผมคิดว่าทำง่ายนะ แต่นี้เหมือนไม่ตั้งใจเลย หลอกคนดูให้ดู เหมือนยัดเยียดเราดูว่าหนังดำเนินอย่างนี้และให้เราคิดเองเป็นอย่างนี้
สรุป ผมกลับมองว่าหนังเรื่องนี้ยัดเยียดหลอกคนดูต่างหาก หนังต่างประเทศพวกหุกมุมให้เราคิดเองต่างๆหนังดีๆมีเยอะประเภทคิดหัวแตกกว่าจะรู้เรื่อง
แต่เรื่องพวกนั้นมันมีพอทเรื่องของมัน ให้เราคิดได้ มีที่มาที่ไป ไม่ใช่เดาสุ่มกันสะขนาดนี้ ใช่หนังสนุกต้องให้คิดตามและหักมุมแต่ต้องสนุกในตัวเรื่องด้วย
ไม่ใช่เรื่องนี้เพราดำเนินช้าจนตั้งใจเพราะเรื่องมันสั้นไง หนังตั้งใจเกินไปให้คนคิดเอง พูดจริงๆคือทำมายังไงก็ขาดทุนแน่ๆ มีเฉพาะกลุ่มที่ตีความเอาเองแล้วบอกว่าสนุก
ยังงี้พวกคุณไปอ่านหนังสือดีกว่าเพราะตีความเก่งกันขนาดนี้ขนาดในหนังพอทเรื่องกระโดดยังตีความกันได้เลย

เข้าใจว่าผู้สร้างต้องการสร้างออกมาแนวนี้ให้คนคิดเองแต่ความสนุกในการเดินเรื่องของหนังกับไม่มีเลย
สร้างทำไมถ้ารู้ว่าจะขายไม่ออก สร้างทำไมถ้าคนออกจากโรงส่ายหัว
สร้างทำไมเพื่อมีคนบ่นว่าหนังแย่แห่งปี

แล้วจะมีคนต่อว่ามีในนี้ก็ช่างเพราะมีแค่ส่วนน้อย ที่จิตนาการลึก ผมว่าแค่10%ของคนทั้งหมด

เอาง่ายๆอย่างmatrixคุณดูแล้วสนุกใหมคุณดูกี่ทีถึงจะตีความหนังได้หมด
หนังให้คิดในส่วนของหนังทั้งหมดมีที่มาที่ไปชัดเจนมีเหตุมีผลของมัน ไม่ใช่เดากันมั่วเหมือนหนังเรื่องนี้



โดย: ใคร IP: 81.96.90.134 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:19:39:44 น.  

 
ตอบคห.44

ที่คุณอ่านทั้งหมด
คือการ"เปิดมุมมอง" และ"รับฟังความคิดเห็น" ของแต่ล่ะท่านนะครับ

ไม่ใช่ การอวดฉลาด หรอกครับ

การที่เรารับฟังความคิดเห็นของใครคนนึงที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ผมว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจออก

อย่างผมก็รับรู้ความคิดเห็นของหลายคนในนี้
ซึ่งแน่นอนมีที่คิดไม่เหมือนกัน

แต่ก็ช่วยเปิดมุมมองให้เราเห็นอะไรหลายๆ ด้าน
ให้เรารู้ว่า ยังมีคนคิดแบบนี้ หรือ มองอะไรไปแตกต่างกับเราอยู่

ไม่ให้เรายึดติดแต่ตัวเราเอง
เพราะนั่นไม่ช่วยอะไร
หนำซ้ำอาจยิ่งทำให้เรารู้สึก โดดเดี่ยว กว่าเดิม....

การคิดต่าง ผมว่าเป็นสิ่งดี
แต่การไม่ยอมรับความคิดของใคร แล้วมาต่อว่าคนอื่น

มันจะดีเหรอครับ?....


โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:1:56:39 น.  

 
Im truly love yr comment that like my thinking but yr comment make me understand the matter and know what is what,
can i reccomment some movie that SEVEN.
takecare



โดย: SOMEGUY L.A IP: 76.208.161.29 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:15:22:18 น.  

 
เอ่อผมไม่ยอมรับความคิดของใครนี้คืออะไรครับ
และที่ผมวิจารณ์คือในตัวหนังนิครับ งง และผมอวดฉลาดตรงใหนครับ งั้นที่ผมจะบอกกลับก็ได้ว่าพวกคุณก็อวดฉลาดกันว่าหนังต้องเป็นไปแบบนั้นแบบนี้ทั้งๆที่หนังไม่มีพอทเรื่องอะไรเลยแต่กลับตีความกันได้สะใกล
ยังงี้เรียกอวดฉลาดหรือปล่าว แล้วทำไมไม่ทำหนังที่คนเค้าเข้าใจในตัวหนังเลยละถึงไม่เข้าใจครั้งแรกแต่ถ้าดูครั้ง2ครั้ง3ก็เข้าใจว่าไปอย่าง แต่นี่คือการเดาสุ่ม

คุณจะยอมรับใหมถ้ามีคนพูดว่าหนังเรื่องนี้จริงๆแล้วเป็นอย่างนี้เหมือนในเว็บนี้แต่ความจริงเราไม่รู้คืออะไรแต่คนก็เชื่อกันสะงั้นว่าอ้อความจริงหนังเป็นแบบนี้นี่เอง
แต่คนไม่วิเคราะห์กันว่านี่คือแค่ความคิดของคนคนนึงเท่านั้นที่ไม่มีความรู้จริงแต่แค่เขียนบทความที่เหมือนน่าเชื่อถือ ใช่ใหมครับ คนเลยเชื่อไงว่าอ้อที่แท้หนังเป็นงี้นี่เอง

ผมเลยพูดไปว่างั้นคนพวกนี้ไปอ่านหนังสือดีกว่า อาจจะสนุกกว่าเพราะจิตนาการไปเอง จริงใหมครับ เอาง่ายๆว่าขนาดมีเสียงตุ๊กแกอยู่ในหนัง ยังไม่มีใครรู้เลยว่าสื่อถึงอะไร มันอาจจะบังเอิญติดมาในหนังโดยไม่สื่อถึงอะไรก็ได้

ผมก็ไม่ได้ว่าหนังแนวนี้ขายยาก แต่หนังผรั่งแนวนี้ผมก็ดูมาเยอะแล้ว ยกตัวอย่างbabelละกันหนังเป็นแบบใช้จินตนการณ์เหมือนกันและหนังก็สมบูรณ์ในตัวของมันถ้าดูซ้ำ2 3ทีก็เข้าใจละว่าเหตุการ์ณนี้มีที่มาที่ไปแบบใดสื่อถึงอะไร

แต่เรื่องนี้ไปกันใหญ่ภาพรวมของหนังกว้างมาก เอาง่ายๆขนาดคนเขียนบทความblogนี้ที่มีความรู้หนังดีกับตีความหนังต้อง3แบบ
ผมเข้าใจเลยว่าที่คนสนุกในหนังเรื่องนี้สนุกเพราะตีความกันเองไง เดาสุ่มนั้นแหระ ใช่ใหมครับ แล้วอยากถามจริงๆเลยว่าหนังเรื่องนี้จะมีสักกี่คนที่ดูสนุกตั้งแต่อยู่ในโรง
มีใหมที่ไม่ต้องมาหาข้อมูลกันแล้วก็คิดว่าข้อมูลที่ได้นี่ถูกด้วย เหอๆหูเบากันจัง

ผมคิดมุมกลับให้พวกคุณคิดตาม จะว่าก็ว่าแต่ไม่ได้อวดฉลาด ที่ว่าผมนั้นนะจริงๆแล้วคุณนั้นแหระยอมรับความคิดเห็นคนอื่นหรือปล่าวถึงมาว่าประชดผมนะ
การวิจารณ์หนังคือความคิดของคนคนนึงที่จะเขียนอะไรเกี่ยวกับหนังนั้น มีอิสระคุฅณชอบหนังเรื่องนี้ผมไม่ชอบ คุณเลยด่าผมงั้นหมายความว่าความคิดผมผิดแสดงว่าผมไม่ฟังความคิดคนอื่นที่มีความคิดเหมือนคุณใช่ใหมครับ

เอาเป็นว่าความคิดใครความคิดมันละกันนะ คห 45 เอาเป็นว่าผมโง่แต่คุณฉลาดละกัน ผมยอม แต่คุณก็ควรรับฟังความคิดเห็นและเปิดใจกับสิ่งที่คุณไม่ทันได้คิดอีกมุมนึงบ้างนะ อย่าคิดแต่ว่ามุมคุณถูกเสมอไปเพราะการมองโลกถ้ามองโลกด้านเดียวมันก็แย่นะครับ

และผมยอมรับฟังความเห็นคนอื่นนะครับผมไม่ได้ด่าว่าอะไรกับ คห ที่เค้าแสดงความคิดนิแค่บอกว่าที่นี้เชื่อคนง่ายจังเค้าเขียนอะไรมาก็เชื่อหมดโดยไม่วิเคราะห์กันเอง ก็เท่านั้น

ถ้าอ่านดีๆกระทู้แรกที่ผมตอบคือผมตอบในตัวหนังนะครับแต่กระทู้นี่ขอโทษละกันเพราะมีคนประชดผมมาก่อนผมเลยเตือนสติเค้าให้รู้





โดย: ใคร2 IP: 81.96.90.134 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:7:29:01 น.  

 
*****

อย่าทะเลาะกันเลยจ้า

เถียงเรื่องหนัง เถียงกันได้สนุก

"ผมคิดว่า หนังไม่สื่ออะไร เพราะ ..."

"ฉันคิดว่า หนังมีสัญลักษณ์ เพราะ .... "

ฯลฯ

มีเหตุผลอะไร ก็ว่ากันไป แต่ถ้าเริ่ม "ฉันว่าเธออวดเก่ง " / "ฉันว่าเธอคิดตื้นๆ" ฯลฯ แบบนี้ ชักจะไม่สนุก

อยากให้ blog นี้เป็นที่แสดงความเห็นหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเหมือนเจ้าของบล็อก แต่ขออย่าให้เกิดอาการ แขวะ หรือ เหน็บ กันเลย
*********

... ผมเห็นด้วยเรื่องความน้อยของตัวหนังไปหน่อย จนไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของผู้กำกับหรือความลืมๆไม่รู้จะทำยังไงก็ปล่อยมันซะงั้น เพียงแต่มันก็ไม่ได้ถึงขั้นปล่อยปละมั่วๆ

ผมคิดว่าเทียบเรื่องนี้กับ Babel มันคนละแนว น่าจะเทียบกับหนังที่ มีโลกเหนือจริงหรือโลกความฝัน(โลก Surreal) อย่างหนังของเดวิด ลินช์ เช่น Mulholland Dr. หรือ Lost Highway หรือ หนังฮอลลีวู้ดเรื่อง Stay ที่น่าโอมิ วัตต์ เล่น น่าจะใกล้เคียงกว่านะครับ ซึ่งหนังไทยยังไม่เคยมีเล่นแนวนี้มาก่อน

อย่างหนังของเดวิด ลินช์ ก็พล็อตน้อยและดูไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ถ้ากลับมานั่งอ่านหนังอีกที มันก็จะเป็นโลกคู่ขนานเหมือนๆกัน และ มันก็เล่นกับเรื่อง จิตใต้สำนึกของคนเหมือนๆกัน ทำให้คนตีความกันเพลินได้หลายรูปแบบ ซึ่งต่าง หนังอย่าง Matrix ที่สนุกกับการคิดเหมือนกัน เพียงแต่จะมีข้อมูลชวนให้วิเคราะห์ตรงไปตรงมามากกว่า และ ไปในทาง ปรัชญา มากกว่า จิตวิทยา


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:15:46:35 น.  

 
พึ่งได้ดูจาก vcd หลังจาพลาดจากโรงหนังเพราะเข้าไม่ถึงสัปดาห์แถมไม่มีคนดูด้วย(ตจว.)
ตอนแรกคิดว่าตาเป็นเอกจะมาในรูปแบบ เดิม (เรื่องรัก,มหาสมุทร)
แต่ผิดคาด ผมว่ามันดูง่ายขึ้น สนุกกับการเล่นกับความคิด เข้าถึงผู้ดูมากว่าสองเรื่องที่ว่ามา


โดย: ice/ice/baby IP: 125.27.221.1 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:6:02:28 น.  

 
ผมว่าเรื่องนี้ดูสนุกใช้ได้นะครับ สนุกกว่า เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล ซะอีก ทั้งๆ ที่ก่อนดูก็ทำใจล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะดูยากหรือไม่ค่อยรู้เรื่องตามสไตล์ของผู้กำกับ เนื้อหาของหนังจริงๆ จะเป็นยังไง ก็คงไม่มีใครให้คำตอบได้ ก็แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนก็แล้วกันครับ แต่ผมก็อยากให้มันเป็นไปตามทฤษฎีที่ 1 นะ มันดูลงตัวดี โดยให้เรื่องที่แดงถูกข่มขืนเป็นแค่ความฝันของวิทย์ (สงสารอ่ะครับ) น้องสายป่านก็น่ารักดูโดดเด่นมากๆ ครับ รู้สึกหน้าตาเธอคล้ายๆ กับ นุ๊ก สุทธิดา ตอนวัยรุ่น ผสมกับน้องโฟกัส
จุดที่ไม่ชอบในหนังเรื่องนี้ก็มี ตอนที่แม่บ้านร้องเพลงตอนท้ายเรื่อง มันดูตลกๆ ไม่เข้ากับตัวหนังที่ผ่านมาเลยครับ และฉากเซ็กส์ระหว่างแม่บ้านกับบาร์เทนเดอร์ที่ยืดยาดไปหน่อย (ไม่ได้หมายถึงลีลานะ แต่เป็นความนานในการแช่ภาพในฉากเหล่านี้)
เรื่องที่ผมชอบที่สุดของเป็นเอก ก็ยังคงเป็นมนต์รักทรานซิสเตอร์อยู่ครับ เรื่องนั้นดูง่าย แฝงข้อคิดมากมาย และซึ้งด้วย


โดย: AronSun IP: 124.120.236.43 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:0:04:18 น.  

 
ขอแสดงความคิดเห็นในส่วนนึงนะครับ เนื่องจากเพิ่งจะได้ดูมา (vcd)
โน้ตที่ทิ้งไว้บนโต๊ะนั้น ผมคิดว่า คนเขียนน่าจะคือแดงนะครับ ประมาณว่า "ไว้เจอกันที่งาน"
หนังน่าจะบอกประมาณว่า เวลาที่ความรักเริ่มหมดอายุลง เราจะนึกถึงเรื่องอะไรบ้าง หรือว่า ความรักคืออะไร
โดยการที่ แดง เป็นตัวละครต่างๆในเรื่อง
พลอย เป็นตัวแทนของความรักแรกเริ่มที่ไร้เดียงสา เพียงแค่พูดคุย นอนอยู่ข้างๆก็พอแล้ว
น้อยที่มาพร้อมกับความหึงหวงและรุนแรงมากพอที่จะทำให้ผู้หญิงฆ่าใครก็ได้
ผู้ทำความสะอาด เป็น ความรักที่มาพร้อมกับ ความตื่นเต้น และ เซ็กซ์ที่เร่าร้อน เช่น การแอบขโมยเสื้อสูทมา ไปจนถึงฉากเลิฟซีน
และสุดท้าย การน้อยใจ คิดไปถึงว่า หาก คุณแดง (ที่โดนซ้อม) หายตัวไปและเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้น วิทย์ จะคิดถึงตวเอง(แดง)บ้างมั้ย ??? (ซึ่งก็ได้ผล)
จุดที่ผมสงสัยนั้นเพราะว่า สร้อยคอ ที่มีการสลับเปลี่ยนไป เป็นการบอกถึงความรักที่โตขึ้นมา จาก พลอย (ไร้เดียงสา) มาเป็น แดง
หรือแว่นตาดำที่แดงใส่ ก็จะเห็นเป็นสร้อยคอของพลอย
และที่ว่าโน้ตเป็นของแดง(พลอย)เพราะในฉากงานศพดูวิทย์ไม่ได้ร้อนใจที่แดงหายตัวไปและตามมาทีหลัง
ผมเห็นเป็นประมาณนี้อะครับ หลังจากที่ได้อ่านบทวิจารณ์นี้ เลยคิดต่อไปได้ หลังจากดูจบยังงงงงอยู่
และก็เห็นด้วยกับ คห. 44 เรื่องการสื่อความ พลอย ต้องมานั่งคิดต่อถึงสมบูรณ์ แต่ babael นั้นสื่อได้สมบูรณ์ แต่ก็ยกย่องคุณ เป็นเอก ครับ เพราะการสื่อความนั้นยากพอดู ที่จะจับใจความได้


โดย: businet IP: 58.8.19.243 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:1:37:11 น.  

 
ขอร่วมแสดงความคิดด้วยนะครับ

ทุกคนมีความคิดที่น่าสนใจทุกคนครับ ผมชอบมากเลยที่มีความคิดมาคุยกัยเยอะๆ

ส่วนความคิดผมนะผมว่าทั้งเรื่องเป็นเรื่องราวชีวิตของวิทย์และแดงที่ผ่านมา โดยมีบุคคลต่างๆในเรื่องที่ใช้เป็นตัวแทนและสัญลักษณ์ต่างๆให้เห็นชีวิตที่ผ่านมาโดยผ่านการฝัน

หลายคนอาจคิดว่าอะไรจะฝันกันได้ขนาดนี้ จากประสพการณ์ขอผมนะ เวลาเดินทางไปไหนนานๆข้ามคืนจะรู้สึกเหนื่อยแม้ว่าจะได้หลับบนรถหรือบนเครื่อง พอถึงที่พักตอนเช้าตรู่ก็จะยังเพลียและอยากหลับมากแต่ก่อนจะหลับจะคิดอะไรมากมายและจะฝันอะไรมากมาย เพราะปกติจะเป็นเวลาที่สมองของคนเราพึ่งตื่นและเริ่มจะทำงานคิดอะไรต่างๆ ดังนั้นทั้งสองน่าจะหลับแบบฝัน แต่จะรู้สึกว่าไม่ได้หลับ

โดยความฝันคือชีวิตรักที่ผ่านมา คือ
(1) รักแรกแย้มโดยใช้พลอยเป็นตัวแทน เป็นการเริ่มรัก เป็นห่วงเป็นใย(เจอกันที่ร้านอาหาร)
(2) แล้วต่อด้วยความรักที่ลึกซึ้งโดยใช้บาร์เทนเดอร์กับเมทเป็นตัวแทน
(3) ความรักที่เนินนาน เกิดความเย็นชากัน แสดงออกเมื่อแม้พลอยจะกอดแต่ยังรู้สึกแย่อยู่
(4) ความรู้สึกว่ารักมาก เมื่อกำลังจะเสียคนรักไป

ดังนั้นวิทย์กลับมาเป็นผู้แสดงความรักต่อแดงเสียเอง ซึ่งตรงข้ามกับตอนแรกของเรื่อง และนี่ก็จะแสดงถึงวงจรของชีวิตคู่ ซึ่งหากบางคู่ไม่อยู่จนครบวงจร คิดว่าความรักหมดอายุได้อย่างอาหารกระป๋องก็จะต้องเลิกลากันไป

และพลอยก็คือแดง โดยหนังจะแสดงให้เห็นตั้งแต่ เจอพลอยที่ร้านอาหาร(เหมือนกับตอนเจอแดง)
-วิทย์ว่าพลอยมากับแฟน(เหมือนตอนเจอแดง)
-วิทย์ว่าไม่ทำตัวเหมือนวัยรุ่นทั่วไป(แดงเป็นดารา)
-วิทย์ยื่นความห่วงใยให้พลอย
-วิทย์มีเวลาอยู่กับพลอยสองคนแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้พลอยกอดกันยังไม่หายเหงา(ไม่เคยมีเซ็กส์กับแดงมาเป็นปีแล้ว)
-วิทย์ตื่นมาไม่เจอใคร เมื่อพลอยต้องจากไปรู้สึกจะสูญเสีย จึงตื่นขึ้นมาด้วยความห่วงใย รัก แดงมากๆ

ส่วนรายละเอียดก็เป็นศิลปะของผู้สร้างที่จะดำเนินเรื่องให้ผู้ชมดู

แดงตอนจบขอบตาดำ มีสร้อย มีแว่นตาดำ เหมือนพลอยตอนต้นเรื่อง ขอบตาดำน่าจะเกิดจากการที่นอนไม่พอ หรือ นอนไม่หลับ (ความเห็นแบบไม่คิดมากนะ) แดงเกิดอาการ เจ๊ทแรค เพราะเดินทางจากอเมริกา นอนไม่หลับ แล้วคำพูดที่ว่าเด็กเมื่อเช้านั้นก็น่ารักดี ก็อาจเป็นมุก คล้ายกับหนังฝรั่งหลายเรื่องที่ทิ้งคำพูดท้าเรื่องให้น่าคิด

ปล. ชอบครับ ที่คนไทยปล่อยพลังสมองกันมากขึ้น คนไทยไม่แพ้ต่างชาติครับ


โดย: mengg7 IP: 125.27.73.239 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:1:59:40 น.  

 
ขอบคุณมากเลยครับ.... ผมเพิ่งกระจ่างเดี๋ยวนี้
นึกว่า...หนังไรว้า...ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แต่ความจริง
คือหนังเค้าดี แต่เราไม่ถึงเค้าเองครับ...
แต่ในส่วนอื่นทั้งผู้แสดง ฉาก ความเงียบงัน และ
เพลงประกอบ ผมชอบมากเลย....ขอบคุณครับ


โดย: ปกรณ์ IP: 58.9.187.81 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:19:44:55 น.  

 
เพิ่งมาอ่านที่มีคนบอกว่า พลอยเป็นผีที่รอไปเกิด...
แอบเข้าเค้านิดนึงนะเนี่ย 5555+
แต่เมดก็ไม่ได้มาจากสวีเดนนี่หว่า แหงบๆ

ว่าแต่ตูไปเดามั่วตั้งแต่เมื่อไหร่กันหว่า


โดย: nanoguy IP: 125.24.85.160 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:5:32:31 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้ ตัวเอกของเรื่อง (หมิว) คือคนที่มีจริง ไม่ขาวสะอาด 100% ไม่เป็นแม่พระ มีอารมณ์คนจริงๆ ไม่ดรามา แต่ที่อ่านวิเคราะห์ ที่หมิวโดนข่มขืน น่าจะเป็นเรื่องจริงนะ ไม่ใช่ความฝันของวิทย์ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฝันของแต่ละคนนะ แต่ผสมจิตใต้สำนึก หมิวฝันว่าฆ่าพลอย พลอยฝันว่าเห็น sex ซึ่งมันเป็นจริงไม่ใช่เหรอ พลอยแค่บังเอิญฝันเท่านั้นเอง แต่มันเกิดจริง (หรือว่าไง) ส่วนหมิว เมาจริง ไปจริง โดนจริง วิทย์ไม่ได้ฝันนี่ ตื่นมาก็ไปกันหมด เพราะตอนที่หมิวออกไป ยังโวยวายถามว่าจะไปไหนไม่ใช่เหรอ ส่วนโน๊ตของพลอย ถ้าให้ตีความนะ มันไม่ใช่สาระ คือพระเอกไม่ได้ถือว่าพลอยเป็นสาระ ไปก็ไป อาจจะเป็นโน๊ตขอบคุณ แต่เค้าห่วงเมียมากกว่า ว่าเมียหายไป อันนี้ที่ตีความได้จากการดูนะ คือคนอื่นไม่สำคัญ ถึงเวลาคนที่อยู่ด้วยกันมานานๆต่างหากที่หายไป ติดต่อไม่ได้ ทำให้คุณใจหาย


โดย: อยากให้รู้ IP: 61.90.249.221 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:12:35:16 น.  

 
เพิ่งได้ดูหนังจบเมื่อวาน ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ ไม่ค่อยได้ดูหนังแนวนี้ ขอบคุณนะค่ะที่วิเคราะห์มาให้อ่าน


โดย: GIF IP: 202.90.125.234 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:10:21:34 น.  

 
ใช้ความพยายามอย่างมากในการดูหนังเรื่องนี้ ถึงขนาดว่าอ่านข้อความแนะนำก่อนดูหนังของคุณที่เขียนไว้ในเฉลิมไทยก่อนแล้วก้อตามที แต่สุดท้ายก้อไม่เก็ทหนังของคุณเป็นเอกอีกตามเคย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เหมือนไม่ใช่สไตล์ที่เราชอบมั๊ง แต่ก็แปลกทั้ง ๆ ที่ก้อชอบหนังของ เฮีย หว่อง กา ไว หนังเรื่อง Lost in Translation ก็ชอบ แต่หนังเรื่องพลอย กับ รักน้อยนิดมหาศาล ไม่เก็ทอะคะ


โดย: aorengja IP: 203.144.213.3 วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:13:53:25 น.  

 
อ่านประชาชาติธุรกิจ พูดถึงบล็อกนี้ เลยเข้ามาเยื่ยมชม แล้วก็เข้ามาอ่านวิจารณ์เรื่องพลอยเป็นอันแรก วิจารณ์ได้ดี ปกติก็ตามดูหนังของเป็นเอกอยู่แล้ว ชอบทุกเรื่อง แต่ชอบมากที่สุด ก็ พลอย ตามด้วยเรื่องรักน้อยนิดมหาศาล และ มนต์รักทรานซิสเตอร์ ถ้าใครชอบหนังที่แนวๆ พลอย เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ แนะนำเรื่อง Breaking and Entering ดูแล้วก็อิ่ม


โดย: กบ IP: 125.25.147.220 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:13:30:48 น.  

 
วันนี้เพิ่งดู .พลอย
ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจอย่างแรง

มาเจอบล๊อกคุณ เยี่ยมมากเลยค่ะ

เราเข้าใจอีกเยอะเลย

สู้ต่อไปค่ะ


โดย: ชอง อึน IP: 124.121.180.126 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:19:55:42 น.  

 
ดูแล้วชอบมากครับ
ตอนแรกๆที่พาพลอยมาที่ห้องนี่
ตื่นเต้นมาก ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สนุกมาครับ


โดย: ปิง IP: 203.131.222.4 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:14:02:44 น.  

 
เป็นหนังที่น่าสนใจเหมือนกันแต่ช่วงนั้นไม่มีเวลาเพราะอ่านหนังสือสอบ แต่ไม่เป็นไรเด๋วไปซื้อซีดีมาดูดีก่า ดูทั้งครอบครัว

อ้อเราจะบอกว่าชอบผมของพลอยมาก

ก็เลยเปลี่ยนทรงผมเป็นทรงนี้ ชอบจัง หัวฟูดี


โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:16:22:40 น.  

 


โดย: อยากให้โป๊อีกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ IP: 61.19.149.74 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:12:14:42 น.  

 


ขอบคุณครับ : )



... บุญรักษาครับ : )


โดย: ผ่านมา : ) IP: 58.8.243.244 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:18:53 น.  

 
Hello


โดย: สมร IP: 202.28.12.49 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:44:35 น.  

 
เพิ่งดูเมื่อคืน รอบเดียวค่ะ ก็เป็นหนังดีนะคะ
พลอย : ว่าอะไร ว่าตามกัน
หลายคนเรียกร้องอยากเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมามีอิทธิพลเหนือชีวิต ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองและอยากให้คนอื่นจริงใจกับตัวเองด้วย แต่เอาเข้าจริง เราทำไม่ได้หรอก เป็นอุดมคติเกินไป เพราะเราไม่อาจอยู่ตัวคนเดียวได้ แม้จะรู้ว่าคำพูด การกระทำหลายอย่างเป็นของปลอม เสแสร้ง ก็ยอมรับเหอะว่า เราต้องอยู่กับมัน ทางทีดีคือ ทำตามๆ กันไป อบอุ่นดีออก
...ชีวิตคู่ที่น่าเบื่อ เหมือนกาแฟขมปี๋ เติมน้ำตาลถึง 7 ช้อนก็ไม่อาจเรียกความหวานชื่นให้กลับคืนมาได้ นี่คือสภาพจริง แต่เราต้องอยู่ในสังคม(งานศพ, หมู่ญาติ, เพื่อน,งานปาร์ตี้) ต้องปั้นหน้ายิ้ม(รับแขก, ใส่เสื้อกลับด้าน) ต้องกุมมือให้ใครๆ รู้ว่าเรารักกัน ทั้งที่จริงๆ แล้ว เบื่อ อยากมีเด็กเอ๊าะๆ อยากควบคุมคนอื่น อยากโดนข่มขืน สะอิดสะเอียนกับมุมมืดของตัวเอง
...เด็กสาวชื่อพลอย ดึงให้คนทั้งคู่อยู่กับความจอมปลอมให้ได้ บางครั้งชีวิตคู่ก็ต้องหัดเสแสร้งบ้าง ต้องยอมแลกความเป็นตัวของตัวเองกับการอยู่ด้วยกันตลอดไป ต้องยอมฟังคำพูดรื่นหู หวานอย่าสร่าง "ผมรักคุณ" แม้จะรู้ว่าไม่รักแล้ว "เด็กที่พบเมื่อเช้าก็ดีนะ" ดีกว่าอยู่คนเดียวในโลก เหงาแย่!
ไม่ขัดใจกัน ว่าอะไรก็ว่าตามกัน ถึงจะไม่ใช่ตัวเอง ใส่เสื้อนอกของคนอื่นบ้าง จะเป็นไรไป


โดย: สมร IP: 202.28.12.49 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:25:52 น.  

 
ดูแล้ว ชอบมากครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:6:59:13 น.  

 
ขอบคุณครับ สำหรับบทวิจารณ์เยี่ยมๆ อ่านแล้วทำให้ดูเข้าใจขึ้นเยอะ


โดย: sk-sint IP: 125.24.157.74 วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:10:46:51 น.  

 
ขอบคุณ ค่ะ ! พออ่านแล้วทำให้ เข้าใจเรื่องมากขึ้น นอนหลับได้ซะที ^^


โดย: Geerorogunso วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:13:39:39 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:16:26:20 น.  

 
หนังผ่านไปเป็นปี พึ่งมาคอมเม้นต์ ^ ^'

จากที่ผมสังเกตตอนดูหนัง
- ฉากที่แดงปิดม่านเพราะรำคาญแสงข้างนอก
- ฉากตอนอาชญากรรม ในบ้าน (รึเปล่า?) ของผู้ชายนั้นมืดเกือบสนิทจนต้องใช้ไฟฉาย

ผมมองว่ามันแสดงถึงการปิดกั้นตัวเองจากบางอย่าง ซึ่งในที่นี้คือความเป็นจริงของความสัมพันธ์ที่ถูกเพิกเฉย เราทำได้แค่เพียงปกป้องตัวเองจากความจริงเหล่านั้น และทำได้แค่อยู่ในที่ๆ มืดมิดตัดขาดจากภายนอก

จนกระทั่งวิทย์และแดงได้พบกับพลอย

รึเปล่า - -*


โดย: Exis10 IP: 124.121.247.245 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:47:12 น.  

 
เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ พอดูเสร็จก็รีบเข้าเว็บคุณทันทีเลย รู้สึกเข้าใจอะไรๆมากขึ้นเยอะ ขอบคุณนะครับ


โดย: ย้ง IP: 27.32.140.31 วันที่: 26 พฤษภาคม 2556 เวลา:7:10:48 น.  

 
เคยยืมเรื่องนี้มาดู พอดูจบบอกได้เลยว่า "นู๋งงค่า"

อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้ดูหนังแนวนี้เท่าไหร่ ประกอบกับคิดไม่ทันหนัง เลยจบแบบงงๆ มึนๆ เราไปทำไมหว่า?

แต่มาอ่านบล็อกนี้เข้าใจแจ่มแจ๋วขึ้นเยอะเลย ขอบคุณค่ะ


โดย: hikaru00 IP: 124.120.60.57 วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:12:57:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.