ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เอื้ออายุ 4 ขวบกว่า ๆ เริ่มเข้าเรียนชั้น Reception ที่โรงเรียนวัด Ellel St. John’s ภาษาอังกฤษตอนนั้นไม่ต้องพูดถึง จนเพื่อนคนนึงชื่อแซม พูดว่า… “He will speak when he is ready.” และนั้นก็เป็นที่มาของเด็กชายที่เงียบที่สุดในชั้น
ปีต่อมาเอื้ออยู่ชั้น Year 1 คุณครูบอกว่าเอื้อคุยเก่งขึ้น เข้ากับเพื่อน ๆ ได้ดีขึ้น ส่วนผลการเรียนก็ยังห่างไกลจากมาตรฐานนัก – -“
มาปีนี้เอื้อเรียนจบ Year 2 แล้ว (ผลการเรียนออกแล้ว) เอื้อทำให้แม่แปลกใจไม่น้อย แม้ว่าจะรู้ดีว่าภาษาอังกฤษเอื้อรุดหน้าไปไกลแล้ว ถึงขั้นยกมือถามไกด์ที่พาชมโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงในเมืองใกล้ ๆ นี้ (คล้าย ๆ กับอีสตั้น แต่ไม่ดังเท่า) เอื้อเป็นเด็กคนเดียวที่ยกมือถาม จนเพื่อน ๆ แม่หลายคนบอกว่าลูกยูนี่เก่งน่ะนี่ เห็นเงียบ ๆ ซึ่งแม่ก็ได้แต่ตอบว่าตัวเองก็งงอยู่เหมือนกัน จะไม่ให้งงได้ไง เพราะขนาดผู้ใหญ่ยังมีคนถามไม่กี่คน
วันนี้แม่ก็ต้องแปลกใจอีก คืออย่างที่รู้กันเอื้อเป็นเด็กธรรมดาไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร ไม่ได้มีความจำเป็นเลิศ แต่พอเห็นผลการเรียนก็ถึงกับใจเต้นแรงกันเลยทีเดียว(อาจจะดูเวอร์ไปหน่อย ^_^) จริง ๆ ก็ไม่ถึงกับดีมากอะไร แต่อยู่ในมาตรฐานเด็กอังกฤษ หรือที่เรียกว่า the nationally expected level of achievement for the children at the end of key stage 1 แม้ว่า อ่าน เขียน และเลข ยังต่ำกว่ามาตรฐานนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีมาก ยิ่งถ้าเทียบกับสองปีที่ผ่านมา พอเล่าให้คุณพ่อเอื้อฟัง (ตอนนี้คุณพ่อเอื้ออยู่ที่อิตาลี) หลังจากคุณพ่อฟัง คุณพ่อถามกลับว่าแล้วคนอื่น ๆ เป็นไงกันบ้าง แม่ตอบว่าเราไม่จำเป็นต้องเทียบเอื้อกับใคร แม่ไม่สนว่าเอื้อจะอยู่ลำดับต้นห้อง หรือท้ายห้อง หรือลำดับไหน ๆ เพราะไม่ว่าเอื้อจะอยู่ลำดับไหน เอื้อก็เป็นลูกชายที่แม่ภูมิใจ และรักมากที่สุด
วันนี้เอื้อคงไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ภูมิใจในตัวเอื้อมากแค่ไหน แต่วันที่เอื้อได้อ่านบล็อกนี้ ขอให้เอื้อรู้ว่าพ่อกับแม่ภูมิใจในตัวเอื้อมาก ไม่ใช่ว่าเพราะผลการเรียนดี แต่เพราะความที่เอื้อตั้งใจ และพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดนั่นเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่อยากให้เอื้อเป็น เพราะถ้าเอื้อมีความตั้งใจ พยายาม ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน เอื้อก็จะเอาชนะได้ทุกอย่าง และแม่จะคอยเป็นกำลังใจ และผู้ช่วยเอื้อตลอดไป….
ตามที่แม่เคยบอกเอื้อไว้….