ช่วงนี้เอื้อคุยเก่งมากขึ้น
แม้ว่าแม่ยังคงต้องใช้พลังจิตในการเดาใจเอื้ออยู่ก็ตาม
และเอื้อก็มีคำใหม่ ๆ ที่ใคร ๆ ฟังก็พอเข้าใจได้ออกมาเรื่อย ๆ เช่น เยือ ๆ (เรือ ๆ), ฮัว (วัว), ฮิบโป (คำนี้ชัดเจน ไม่ต้องแปลเลย), ไก ๆ (ชี้ที่กรรไกร), เกิด(ชี้ที่ตู้เย็น และมันก็คือโยเกริตท์), กะบะ (รถกะบะ), ปูน ๆ (รถปูน) ฯลฯ
และก็มีคำที่ยังสับสนอยู่ด้วย เช่น
เอื้อ : (ชี้ที่รูปปะการัง)
แม่ : ปะการังครับ
เอื้อ : มองไปที่ปากกาในมือ แล้วก็ทำหน้าครุ่นคิดเสมือนหนึ่งว่า "เหมือนกันตรงไหนนะ"
แม่ : ปะการังครับ ไม่ใช่ปากกา ปะการังเป็นสัตว์อยู่ในทะเล ส่วนปากกาไว้เขียนครับเอื้อ
แม่พยายามพูดใหม่ช้า ๆ ชัด ๆ อีกหลายรอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยให้เอื้อแยกออกไหมระหว่างคำว่าปะการัง กับปากกา
และแล้วก็ถึงคิวคำว่า "แม่" ซักที
ในตำราหลาย ๆ เล่มเขียนไว้เป็นประโยคเดียวกันว่าเด็กมักจะพูดคำว่า "แม่" ได้เป็นคำแรก ๆ
แต่สำหรับเอื้อคำแรก ๆ คือ เรียกชื่อแม่ !! เป็นซะงั้น
(เข้าใจว่าเรียกตามคนในบ้าน)
แม้จะออกเสียงได้เยอะขึ้น...
แต่เอื้อก็ยังคงรักษามาตรฐานเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลงคือ ยังไม่ยอมพูดเป็นประโยค
แต่ไม่ว่าเอื้อจะรักษามาตรฐานเดิมไว้นานแค่ไหน แม่ก็ไม่มีปัญหา เพราะเราสื่อสารกันผ่านทางกระแสจิตอยู่แล้ว (อิ อิ อิ ว่าไปนั้น
)
แม่ไม่แปลกใจเลยที่เอื้อเคยไปหาหมอ แล้วหมอบอกกับอาออมว่า เด็กป่วยไม่ป่วย คนที่รู้ดีที่สุดคือแม่เด็ก ไม่ใช่หมอ (แต่ตอนนั้น อาออมของเอื้อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว
)
แต่มันเป็นความจริง (ที่ไม่ต้องรอการพิสูจน์)
หรือว่าเราสื่อสารผ่านทางกระแสจิตกันจริง ๆ .....
อ่านแล้วมีความสุขดีจัง
มาทักทายและส่งความสุขให้ในวันหยุด
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ