ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้องเอื้อถึงชอบปีนป่ายนัก เริ่มตั้งแต่โซฟา โต๊ะรับแขก เก้าอี้มีพนักพิง เก้าอี้ก๋วยเตี๋ยว เก้าอี้มีล้อ ต้นไม้หน้าบ้าน หนักหนาสุดก็ปีนราวตากผ้านี่หล่ะ เมื่อวานถ้าแม่รับไม่ทัน หัวก็คงปูดอีก
เท่านั้นยังไม่พอ เพิ่งจะล้มลงมาทั้งคน ทั้งเก้าอี้ คือในห้องนอนจะมีเก้าอี้พลาสติกสีแดง เหมือนเก้าอี้กินก๋วยเตี๋ยว ไว้สำหรับปืนหยิบของที่สูง ๆ ไม่รู้ว่าน้องเอื้อเกิดคึกอะไรขึ้นมาพออาบน้ำเสร็จก็วิ่งปู้ดมาแล้วก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้
ระหว่างที่กำลังปีนก็ล้มลงไปทั้งคน ทั้งเก้าอี้ อันนี้แม่ช่วยไม่ทัน โชคยังดีที่หัวไม่ฟาดพื้น แต่ก็ร้องไห้ลั่นบ้าน
แล้วก็อะไรที่เป็นทางเดินแคบๆ อย่างขอบฟุตบาท หรือขอบเคาเตอร์ ให้นึกถึงขอบอะไรก็ตามที่ยกขึ้นมาสูงกว่าพื้นเล็กน้อย และต้องใช้การทรงตัวในการเดิน นั่นล่ะเป็นที่โปรดปรานของน้องเอื้อเขาล่ะ มือนึงจับมือแม่ แล้วก็ตะแคงข้างเดินไปทีละนิด ๆ ...
แม่ก็ยังกังวลอยู่ว่า ถ้าแม่ดูไม่ทัน หรือไม่มีใครดูอยู่ นอกจากหัวจะปูดแล้ว ปากยังจะเจ่อด้วย
ไม่รู้ว่าอาการปีนป่ายนี่จะเป็นไปอีกนานไหม...
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นความประทับใจของแม่....
หลังจากตื่นนอนช่วงบ่าย แม่ก็ให้คุ๊กกี้น้องเอื้อครึ่งชิ้น แบ่งกับแม่คนละครึ่ง (ยังคงเจตนาเดิมให้กินขนมแต่น้อย) ตอนแรกก็ร้องจะเอา แต่พอแม่บอกว่าให้ขอบคุณครับก่อน น้องเอื้อก็เดินหนีไปซะงั้น... ไม่รู้ว่าเห็นเป็นคุ๊กกี้แค่ครึ่งชิ้น หรือว่าไม่อยากขอบคุณ อันนี้แม่ยังหาข้อสรุปไม่ได้
หลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายแม่ที่เดินตามน้องเอื้อ (ก่อนหน้านี้น้องเอื้อเดินตามแม่) เพื่อจะให้คุ๊กกี้ แต่น้องเอื้อก็ยังคงเดินหนี แต่ที่สุดน้องเอื้อก็ยกมือไหว้แบบขอไปที คือหน้ามองไปอีกทาง มือสองข้างไม่รู้ชนกันรึเปล่า มันเร็วมากจนแม่มองไม่ทัน...
แม่ก็เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา ระหว่างที่ใส่กางเกงให้เอื้อ (เพิ่งฉี่รดกางเกงไป) แม่ก็เลยบ่นว่า "เอื้อขอบคุณครับแม่ไม่สวยเลย ทำแบบไม่เต็มใจ"
หลังจากแม่พูดจบน้องเอื้อก็บรรจงพนมมือ แล้วก็พูด "คร้าบบ.."
จ๊าก... ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือว่าตั้งใจ แต่แม่ขอมองโลกในแง่ดีว่า น้องเอื้อเข้าใจที่แม่พูด..
จากนั้นแม่ก็น้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ....
แฮะ ๆ ๆ บังเอิญแม่เป็นคนอ่อนไหวหน่ะลูก...
ภาพนี้กำลังจะปีนขอบเคาเตอร์
ดีจังเลยนะคะ มีลูกเป็นแก้วตาดวงใจ
หนิงว่าอีกหน่อย ถ้าเริ่มขี่จักรยาน 4 ล้อได้ สงสัยคุณแม่คงวิ่งตามป้อนขนมไม่ทันแหงๆ เลย