-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
วันเอดส์โลกกับซากทารก และวัฒนธรรมไทย

คำเตือน เนื้อหาใน Blog นี้ ประกอบด้วยคำหยาบเล็กน้อย และรุนแรงต่อความรู้สึก

เมื่อวานวันที่ 1 ธันวาคมเป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาด้วยความรู้สึกหดหู่ใจกับโรคร้ายที่คร่าชีวิตชาวไทย และคนทั่วโลกเป็นจำนวนหลายล้านคนต่อปี



ผู้เขียนมีโอกาสรับชมโฆษณาเรื่องการป้องกันโรคเอดส์ ตัวโฆษณากล่าวถึงการป้องกันโรคเอดส์ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย โดยกล่าวว่าหากใช้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยในประเด็นเรื่องการป้องกันโรค แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า "นี่เป็นการแก้ปัญญาที่ปลายเหตุเท่านั้น"

ต้นเหตุของปัญหา คือ วัฒนธรรมไทยที่ถูกมองข้าม การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร คิดว่าเซ็กส์คือรัก อยากรักสนุก โดยที่ไม่มีการป้องกัน สุดท้ายก็ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าให้พ่อแม่ตนต้องมานั่งช้ำใจ

วัฒนธรรมที่ดีงามของไทย กำลังถูกมองข้ามไป วัฒนธรรมที่สอนให้รู้จักรักตนสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าอยู่สองต่อสองในที่รโหฐาน ถ้าคนไทยปฏิบัติได้อย่างที่สอนไว้แต่โบราณ จะเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน และมั่นคง ความเสี่ยงต่อโรคเอดส์ ปัญหาการทำแท้ง และตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จะลดลงได้อย่างเห็นได้ชัด เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง

ปัญหาดาราท้องไม่มีพ่อแล้วออกมาร้องไห้ เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ? ปัญหาทำแท้งเถื่อนซากทารกกว่าสองพันศพ ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ? ปัญหาเรียนหนังสือยังไม่จบแต่ท้องป่อง โดนไล่ออกจากโรงเรียนจนหมดอนาคต เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ?

ผู้เขียนไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินข่าวซากทารกกว่าสองพันศพ แต่กลับรู้สึกอนาจใจเสียมากกว่า เมื่อสังคมมันเน่าเฟะขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น การศึกษาสมัยใหม่ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตสำนึกได้เลย สังคมที่แหลกเหลวมักง่ายเห็นแก่ได้ อะไรคือรักสนุกแต่ไม่อยากผูกพัน ผู้เขียนฟังเพลงที่มีประโยคดังกล่าวแล้วรู้สึกไม่ดี คำถามก็คือ ท่านรับกับสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่?

"ล่าแต้ม" ผู้เขียนความจำไม่ดีนัก จึงไม่แน่ใจเรื่องช่วงเวลาว่าเป็นข่าวที่ผ่านมานานเท่าไรแล้ว มีข่าวนักเรียนหญิงล่าแต้ม อธิบายความได้ว่า เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วกี่คน แล้วจนสถิติไว้เอามาอวดแข่งกันกับเพื่อนว่า "ตนเองแน่แค่ไหน" (สำส่อนเพียงใด) จากกรณีดังกล่าวถ้าหากหนึ่งในผู้ชายที่เธอนอนด้วยเป็นเอดส์ เธอก็ติดเชื้อเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นตัวแพร่เชื้ออีกด้วย และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตั้งครรภ์ ก็ในเมื่อแข่งขันกันล่าแต้มขนาดนี้ เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมาจะทำอย่างไร มีอยู่ทางเดียว ... ...

ล่าสุดมีความพยายามออกกฎหมายให้นักเรียนที่ท้องในวัยเรียน สามารถลาคลอดได้ จะได้ไม่โดนไล่ออกหมดอนาคต ผู้เขียนมองว่าเราเปิดโอกาสให้มากเกินไปรึเปล่า? นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างเห็นได้ชัด ถามว่านักเรียนที่มีเพศสัมพันธ์กันทราบหรือไม่ว่า หากท้องจะส่งผลกระทบอาจถึงขั้นโดนไล่ออก หากทราบจะทำไปทำไม? ทำไมไม่ป้องกัน?

เท่านั้นยังไม่พอจะให้ออกกฎหมายเอาผิดกับผู้ชายที่ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ สังคมไทยยังไม่เข็ดเรื่องดีเอ็นเออีกหรือ? หรือเพราะไม่ใช่ดาราเลยไม่รู้สึกอะไร แล้วถามว่ากฎหมายข้อนี้ทำให้ลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้หรือไม่? คำถามนี้ผมคงไม่จำเป็นต้องตอบ ทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ยิ่งถ้ากฎหมายทั้งสองผ่านและมีผลบังคับใช้ ประเทศเราจะมีคุณพ่อคุณแม่วัยใสอีกเพียบ

หลายคนอาจมองว่าผู้เขียนหัวโบราณ ไม่ทันโลก พรหมจรรย์ทำไมต้องรักษา ก็แค่เส้นบางๆ จะรักษาไปเพื่ออะไร ในเมื่อผู้ชายยังเที่ยวซ่องโสเภณี ไล่ปี้ผู้หญิงไปทั่ว ก็ต้องถามกลับว่า คุณคิดว่าผู้ชายเหล่านั้นไม่ดีใช่หรือไม่? แล้วผู้หญิงต้องเลวตามหรืออย่างไร? เหมือนสิทธิสตรีเรื่องกินเหล้า สูบบุหรี่ ในเมื่อรู้ว่ามันไม่ดีก็ไม่ควรทำมิใช่หรือ? ผู้เขียนมีความเชื่อว่าเวลาสอนลูก ผู้อ่านคงสอนลูกให้ "รักตนสงวนตัว" มากกว่าที่จะสอนลูกให้ "ไปเสียตัว" อย่างแน่นอน

ประเทศไทยมีสิ่งดีงามมากมาย วัฒนธรรมไทยที่ดีงามกำลังถูกมองข้ามด้วยการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมจึงไม่มีความคิดที่จะการปลูกฝังเรื่องการรักตนสงวนตัวให้มากขึ้น ทำไมผู้ชายจึงไม่มีความยับยั้งชั่งใจมากขึ้น ทำไมผู้หญิงถึงใจง่ายมากขึ้น ทำไมจึงชอบอ้างตนว่าเป็นเมืองพุทธผู้คนอยู่ในศีลธรรม ทำไมจึงดูถูกวัฒนธรรมไทยว่าล้าหลังกว่าวัฒนธรรมฝรั่ง

มาถึงวันนี้สังคมต้องช่วยกันคิด และนำไปปฏิบัติร่วมกันไม่ใช่ปากว่าตาขยิบ มีเรื่องทีหนึ่งก็ออกมาแก้ไขทีหนึ่งเหมือนผักชีโรยหน้า เรามีวัฒนธรรมที่ดีงามมาแต่อดีต ทำไมไม่นำมาใช้ หรือเราเห็นวัฒนธรรมตะวันตกดีกว่าของไทย วัฒนธรรมแลกคู่นอนไม่ต่างอะไรกับสัตว์สมสู่ ถ้าคนไทยมากกว่า 50% นิยมชมชอบวัฒนธรรมสลับคู่กันปี้ แลกกันเย็ด รักสนุกแต่ไม่อยากผูกพัน แบบชาติตะวันตกแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็ไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์อีกแล้ว


Create Date : 02 ธันวาคม 2553
Last Update : 2 ธันวาคม 2553 10:20:08 น. 39 comments
Counter : 1966 Pageviews.

 
โอ้คุณต่อ...มีคำที่อ่านแล้วแสลงอย่างยิ่ง แหะๆ
^ ^'
เด๋วนี้เค้าไม่สอนให้รักนวลสงวนตัวกันแล้ว(ต้นเหตุ) แต่สอนให้ระวังปลายเหตุอย่างที่คุณต่อว่าจริงๆ แหละ เหมือนเป็นการตบหน้าสังคมไทยที่ยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ต่อสังคมที่แย่ลงนั่นเองค่ะ

ฉัตรเองชินแล้วกับระบบวัวหายแล้วล้อมคอก
มีเรื่องทีนึงก็ไล่แก้กฏหมายกันทีนึง สักพักก้อเงียบหายไป เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
ถามว่า่ปัญหาการทำแท้งมีมานานหรือยัง ...ทุกคนรู้ดี ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น และก็มีกฏหมายห้ามกันเด็ดขาดอยู่แล้ว มันอยู่ที่การปฏิบัติอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมากกว่า
เราวจะเอาอะไรกับระบบราชการห่วยๆ ที่นับวันจะถอยหลังลงทะเล จมลึกมากขึ้นๆ ทุกที...

ยุคสมัยนี้คือกลียุคนิคะคุณต่อ
ดังพุทธทำนายของพระพุทธองค์
(ฉัตรขออนุญาตยกมาทั้งกระบิเลยนะคะ อาจยาวไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยค่ะ)

.........................
พระเจ้าปเสนทิโกศล
ทรงสุบินนิมิตเห็นต้นไม้นานาชนิด ยังไม่ใหญ่โตพอที่จะมีดอกมีผล
แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกและผล จนกิ่งก้านสาขาจะรอรับดอกผลนั้นไม่ไหว

สุบินนิมิตข้อที่ 2 : เยาวชนมั่วสุมเสพกาม


พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น
กุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามี แต่กุมารีนั้นอยากแต่งงานให้เป็นครอบครัว
เพราะมีความกระสัน ใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก
มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่
จึงได้แต่งงานกันเมื่ออายุยังวัยเด็ก ถูกต้องตามประเพณีนิยม บางคนมั่วสุมกัน
ไม่มีความละอาย เยี่ยงสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา
ก็หาวิธีฆ่าลูกในท้องของตัวเอง จึงเป็นบาปกรรมต่อไปในภายภาคหน้ายิ่งนัก
เด็กบางคน ยังมีพ่อแม่เลี้ยงดูอยู่บ้าง เด็กบางคนพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ไหว
จึงได้ปล่อยปละละเลยให้หาขอทานกินตามลำพัง เป็นเด็กเร่ร่อนจรจัด ไม่มีพ่อแม่
ไม่มีตระกูล ไม่มีการศึกษา ไม่มีที่พึ่งพาอาศัยในบ้านเรือน
ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น อดบ้าง อิ่มบ้าง น่าเวทนายิ่งนัก เหตุการณ์อย่างนี้
จะมีในภายภาคหน้าโน้นใครได้ไปเกิดในยุคนั้น สมัยนั้น
ก็จะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:11:36:41 น.  

 
สวัสดีครับคุณต่อ วันนี้บล็อคแรงดีครับ แต่ก็ต้องยอมรับที่เขียนมาทั้งหมดว่าเป้นความจริงในสังคมไทย

เห็นด้วยที่คุณต่อว่าต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ
แต่ผมว่าการแก้ไขที่ต้นเหตุต้องทำแน่นอนครับ แต่ดูท่าต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก และต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายๆ อย่างจริงจังถึงทำได้ (ยากมากในความคิดผม สำหรับสังคมไทยในปัจจุบัน )

ผมจึงมองว่าการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเป็นสิ่งที่จำเป็นครับ แต่ก้ควรต้องทำควบคู่กับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปพร้อมๆกัน

เพราะอย่างน้อยการใช้ถุงยางก็ช่วยป้องกันปัญหา และภาระต่างๆที่จะตามมาได้อีกมากมายนะครับ

แต่ผมสงสัยว่า ทำมั้ยต้องชื่อวันเอดส์โลกด้วย
ทำมั้ยมันไม่ชื่อว่าวัน ต้านเอดส์โลก
วันเอดส์โลก ฟังชื่อแล้วอย่างกับเป็นวันดียังงั้ยก้ไม่รู้นะครับ

ขอให้คุณต่อมีความสุขมากๆนะครับ


โดย: ter_pt วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:12:06:14 น.  

 


การศึกษาสมัยใหม่
ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตสำนึกได้เลย


..


มันใช่เลยค่ะ ..
เรื่องเยอะแยะมากมายที่ .. การศึกษา ไม่ช่วยอะไร







โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:12:59:04 น.  

 
อ่านแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยทั้งบล้อกและเม้นท์ทั้งสาม...

สุดท้ายก็อยู่ที่ความคิดและตัวเราเลยครับ

อย่างพี่ก๋าไม่เที่ยวผู้หญิง
ยังไงก็ไม่เที่ยวครับ
มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกมากกว่าครับ


ปล. ภาพเทียนเป็นเทียนในวันไหว้เจ้าที่บ้านพี่ก๋าเองครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:13:02:19 น.  

 
วันนี้มีไว้เพื่อเตือนใจ หวังว่าจะเตือนใจใครๆ หลายคนได้นะคะ
อืมม ถ้าไม่ได้เติบโตมากับวัฒนธรรมนั้นๆ ก็อาจจะรับมาแบบที่ไม่เต็มๆนะคะ
เห็นเมืองไทยวันนี้แปลกตาขึ้นค่ะ
คนรุ่นไหนก็มั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง
กล้าคิดกล้าทำในเรื่องที่ดี ก็ดีค่ะ
แต่ถ้าตรงข้ามก็น่าเสียดายค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:15:24:58 น.  

 
แรงมากกกก เลยอะพี่โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้าย

ถ้าถามหนู หนูว่าคนไทยมือถือสากปากถือศีลอะ

เรื่องที่ควรจะสอนเด็กก็เฉยเอาแต่ทำตัวเป็นผุ้ดีไม่มีสมองอะ

พี่ต่อเข้าห้องสวนลุมไปดูกระทู้แนะนำเรื่องแบบเรียนอนุบาลไต้หวันจิ

ขนาดเอเซียด้วยกันเขายังกล้าสอน

แล้วไทยละ แค่เสนอนะ ก็คงเจอพวก ultra conservative สับเละแล้วละ


โดย: น้องผิง วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:17:02:57 น.  

 
ขอเป็นคนหัวโบราณในเรื่องนี้ด้วยจ้ะ ตอนข่าวเรื่องพบซากทารก 2000 กว่านี่ น้าตามอยู่หลายวันเล่นเอาไมเกรนขึ้นเลย...

อ่านมาถึง....ประเทศเราจะมีคุณพ่อคุณแม่วัยใสอีกเพียบ...แค่คิดก็ประสาทเสียแล้วนะ

คิดดัง...เหมือนใจน้าคิด (หลายเรื่อง) เอาไปเลยน้าเต็มใจโหวตให้...


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:17:27:47 น.  

 
บ้านเรานี่หลายอย่างนะค่ะที่มักจะ
แก้ปัญหาอะไรแบบขายผ้าเอาหน้ารอด
หรือว่าแก้ที่ปลายเหตุซึ่งมันก็ไม่ได้
เป็นการแก้ปัญหาที่ดีหรือว่ามีประสิทธิภาพ
ได้เลย บางทีมองไปมันยิ่งทำให้เราเห็นว่า
เราอาจจะสนับสนุนอะไรกลายๆ ไปเสียอีก

เรื่องการรักนวลสงวนตัวนี่คาดว่าเด็กสมัยนี้
ถ้าไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี ตามกระแส
เชื่อว่า "ล่าแต้ม" มันก็คงเป็นเกมส์หรือว่า
เป็นสิ่งที่เด็กสาวเหล่านี้ทำกันโดยไม่รู้สึกผิด
อะไรเลย เพระาคงอารมณ์รุ้สึกว่าหิวแล้ว
ก็ต้องไปหาของทานน่ะค่ะ ...


เราเคยมี ปสก. วนเวียนกับเด็กมหาลัยที่มี
อยู่ประจำจังหวัด เชื่อไม๊ค่ะว่า .. .เด็กพวกนี้บางคน
เค้าคิดเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกับการ
กินเหล้า เฮฮา .. ฟังเรื่องเล่าจากบางคนแล้วก็ได้แต่
ส่ายหน้ายอมจำนนอนาคตของชาติจริงๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:19:50:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ จขบ

ตนเองได้อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว โดนใจมากๆค่ะ อยากให้มีใครหลายๆคนที่เขียนตรงๆแบบนี้บางค่ะ หรือกล้ามากพอที่จะพูด

ก่อนหน้านี้ช่วงที่มีข่าวเรื่องดาราอะไรเนี่ย ก็สะท้อนภาพลักษณ์อะไรหลายๆอย่างในสังคมไทยให้เห็นกันมากทีเดียวค่ะ ซึ่งตนเองก็ได้เขียน blog ลักษณะนี้เช่นกัน แต่ไม่กล้ามากพอที่จะใช้ภาษาแบบแรงๆค่ะ กลัวโดนปิด blog ค่ะ

พูดตามตรงนะคะ ตนเองเป็นคนหนึ่งที่หัวโบราณมากๆค่ะ และก็คิดว่ายังคงวัยรุ่นอยู่พอสมควร พอได้เห็นอะไรหลายๆอย่างแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจไม่น้อยทั้งเรื่องจริงๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน หรือแม้แต่ตามข่าวทางทีวี


สิ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาได้จริงๆ ก็คือการปลูกฝังความคิดตั้งแต่ในวัยเยาว์ค่ะ เรื่องการรักนวลสงวนตัว เหมือนที่คุณระเบียบรัตน์พยายามที่จะรณรงค์เสมอมาค่ะ เรื่องแบบนี้มันต้องทั้งสองฝ่ายค่ะยินยอมพร้อมใจ จึงจะเกิดเรื่อง หรือปัญหาตามมาภายหลัง และสิ่งสำคัญก็คือว่า ต้องชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ด้วยว่า นำพาทำลายชีวิตเราเพียงใดค่ะ


วัฒนธรรมของต่างประเทศที่ดีๆก็มีมากมายค่ะ ถ้าคิดจะลอกเลียนแบบควรลอกออกมาให้หมดค่ะ ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆเช่นนี้ ปัญหาก็เลยเกิดมากมาย


สมัยนี้เห็นเด็กวัยรุ่นทั้งหญิง ชาย อายุน้อยๆ ติดเชื้อไวรัสเอส ไอ วี แล้วก็.....อดที่จะคิดบางอย่างไม่ได้ค่ะ


สำหรับเรื่องกฏหมายนี้ยังไม่ได้ตามข่าวเลยค่ะว่าเป็นเช่นไร แต่ถ้าเป็นอย่างที่คุณ จขบ ว่า ก็คงจะไม่ดีมากนัก ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ




โดย: athena_b วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:21:31:33 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

พวกเราน่าจะหยิบยกเรื่องวัฒนธรรมไทยมาสอนให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่ได้รับรู้กันเยอะ ๆ นะครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:22:21:25 น.  

 
ตอนดูข่าวเราอนาถใจนะคะ สงสารทารกที่ไม่รู้เรื่องต้องมาถูกฆ่าตั้งแต่ยังไม่เกิด กฎหมายบ้านเรามันเบาโหวงเหวงค่ะ จำได้ว่าครั้งนึงก็เคยมีข่าวกวาดล้างคลีนิคทำแท้งแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไป มาตอนนี้เริ่มกวาดล้างอีกสุดท้ายก็เงียบหายไป เหมือนผักชีโรงหน้าเลยค่ะ เกิดเรื่องค่อยแก้ปัญหาพอซาลงก็เอาผักชีทิ้งไป

การศึกษาเรื่องเพศศึกษาของไทยก็กระมิดกระเมี้ยนเหลือเกินนะคะ ชอบอ้างกันว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก หารู้ไม่ว่ากระรอกสมัยนี้ไม่ต้องชี้โพรงให้มันก็หาได้เองค่ะ เพียงแต่มันหาโพรงผิดเลยต้องแก้ปัญหาแบบผิดๆ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:22:42:58 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆครับ

เรื่องแสดงความจงรักภักดีเนี่ย ผมอึดอัดครับ

ยิ่งปีนี้ ยิ่งจัดงานกันใหญ่โต

เห็นแล้วก็นึกถึงสมัยช่วงกึ่งพุทธกาล

ยุคนี้ ความจงรักภักดีมันควรจะถูกจัดแจงใหม่ครับ

แบบเก่า ใช้ไม่ได้แล้ว

ยิ่งใช้แบบเก่า จะยิ่งเสื่อม


โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:1:51:03 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:7:04:24 น.  

 
สำหรับบทความนี้ แต่เดิมผู้เขียนต้องการให้ ผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่โดยจะไม่มีการโต้ตอบ แต่ดูท่าทางจะทำไม่ได้เสียแล้ว ดังนั้นผู้เขียนจะขอยกมาตอบเฉพาะบางความเห็นที่ผู้เขียนข้องใจนะครับ

ter_pt - ผู้เขียนเห็นด้วยในข้อความที่ว่า "ต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก และต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายๆ" เพราะปัจจุบันแทบไม่มีหน่วยงาน หรือองค์กรไหนพูดถึงเรื่องนี้เลย

ในความคิดของผู้เขียน หากคนรุ่นใหม่เห็นว่า มีเซ็กส์ก็แค่ใช้ถุงยางก็พอ โดยไม่มีการปลูกฝังเรื่องการรักตนสงวนตัว ลูกหลานของเยาชนเหล่านั้นก็จะเดินตามรอยพ่อแม่ของตน กล่าวคือ ไร้ซึ่งการรักตนสงวนตัวขอแค่ใช้ถุงยางก็พอ จะได้ไม่ตั้งครรภ์

ผู้เขียนอยากจะให้ข้อคิดคุณผู้หญิงเพิ่มเติมว่า "ผู้ชายมองผู้หญิงไม่รักตนสงวนตัวไม่ต่างจากของเล่น" และ "ผู้ชายหาแม่ให้ลูกของตน ไม่ใช่หาของเล่นแบบใช้แล้วทิ้ง"

สายหมอกและก้อนเมฆ - หากกฎหมายที่ทางภาครัฐกำลังพิจารณาผ่านทั้งสองฉบับ เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นจริง

ผู้เขียนไม่มีต้นทุนทางสังคม หากกฎหมายผ่านแล้วไม่เกิดเหตุการณ์ดังที่ผู้เขียนกล่าว ผู้เขียนก็แค่หน้าแตกต่อประชาชนชาวเนต แต่หากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นปัญหาสังคมที่ยากที่จะแก้ไข เพราะมันได้ฝังรากลึกลงไปในระบบสังคม และวัฒนธรรม ซึ่งผู้เขียนไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้น

athena_b - หากบล็อกนี้ต้องมีอันเป็นไปจริงก็จะมีนอมินีของบล็อกนี้ โดยส่วนตัวถึงแม้ผู้เขียนจะใช้ถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายอยู่บ้าง แต่จุดประสงค์ก็เพื่อกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงปัญหาที่เป็นอยู่

หากว่าเกิดอะไรขึ้นกับบล็อกนี้จริง แสดงว่าสังคมรับไม่ได้ เท่าที่ดูความคิดเห็นโดยรวม ถึงแม้จะมีบางความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับความรู้สึกผู้เขียนเล็กน้อยก็ตาม แต่ผู้เขียนยังไม่พบว่า มีผู้อ่านท่านใดเห็นด้วยกับ "พฤติกรรมสำส่อน" เลย


โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:10:35:16 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณต่อ
บล๊อกแบบนี้ แรงดีไม่มีโดนปิดหรอกค่ะ
อิอิ
แรงกว่านี้ยังอยู่ได้สบายๆ เลยอ่ะ เิอิ๊กๆๆๆ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:11:36:42 น.  

 
พี่ก๋ากำลังมึนกับโจทย์ตัวเองครับน้องต่อ 5555
เมื่อคืนนั่งเหม่อตั้งนานว่าจะเขียนยังไงดี 5555

คิดไม่ออกเลยครับ

นี่ก็ยังคิดไม่ออกเลยครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:12:32:39 น.  

 
เห็นด้วยกับตรงที่ว่า ผู้ชายไม่มีความรับผิดชอบที่ทำผู้หญิงท้อง

Glitter Graphics




ทักทายค่ะ


โดย: Junenaka1 วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:13:13:28 น.  

 
บล็อคนี้เขียนเรื่องแรงทีเดียว แต่ก็เป็นความจริง จริงจนน่ากลัวและก็น่าเศร้าด้วย

เราว่ายุคนี้คงเป็นอย่างที่คุณฉัตรยกพุทธทำนายมาให้อ่าน เห็นด้วยเรื่องสอนให้ผู้หญิงรู้จักรักนวลสงวนตัว สาว ๆ สมัยนี้คงไม่รู้จักคำนี้กันแล้ว ไม่งั้นคำว่า "ล่าแต้ม" คงไม่ฮิต อยากให้มีคนคิดอย่างคุณต่อเยอะ ๆ จังค่ะ


โดย: haiku วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:14:06:02 น.  

 
มันยากแล้วละน้องต่อเอ๋ย เด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้เขาอยากรักอยากลอง สื่อต่างๆเอย ในเน็ตนี่ละมีมากมาย เย็..กันให้เห็นๆ ตั้งหมื่นๆเว็บ ไหนจะแผ่นซีดงซีดีราคาถูกอีกละ ได้เห็นแล้วมันเกินห้ามใจ สมัยเราเป็นวัยรุ่น เรื่องท้องก่อนแต่งนะไม่ค่อยมีให้เห็นหรอก ลูกสาวบ้านไหนไปเที่ยวงานสนุกที่จัดตามวัด แล้วหายไปกับผู้ชายนะ โอ๊ย..วันรุ่งขึ้นลือกันสนั่นบาง มันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าสำหรับพ่อแม่มาก แต่วัยรุ่นยุคนี้ ทั้งที่พ่อแม่เข้มงวด กลับท้องคาบ้านได้อย่างไรก็ไม่รู้ พ่อแม่ที่เข้าใจ รู้ผิดชอบชั่ว ก็ไม่คิดทำลายเด็ก แต่ถ้าปิดพ่อแม่กลัวจะรู้ ก็ต้องแอบไปทำลายกันเอง เป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้ละ แก้ไขยาก เชื่อเหอะ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:21:55:16 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:5:57:37 น.  

 
มาอ่านแล้วก็...ใช่เลยค่ะ

ก็ต้องมีคนอย่างคุณต่อนี่แหละคอยติติง คอยทักท้วง ฉุดรั้งบ้าง

ไม่งั้นมันจะไหลไปไม่หยุด

ปัญหาสังคม ทุกประเทศมีปัญหา ดูท่าจะแก้ยากแก้เย็นกันทั้งนั้น

ทำได้ก็คงแค่ยืดๆเวลาเสื่อมออกไปเท่านั้น แต่คงได้ไม่นาน...มันเป็นไปตามกฏการเปลี่ยนแปลง


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:11:35:49 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์จ้ะต่อ

วันที่ไปน้าก็ไม่ได้นั่งเรือ ถามให้แล้วเรือข้ามฟากไปขึ้นที่สะพานปลา ถูกต้องตามที่ต่อเข้าใจ

น้าไปทางบกนี่แหละ เส้นเจริญนคร แถวนั้นจะมีวัดหลวงพ่อโบสถ์บน อยู่ตรงข้ามกับวัดเศวตฉัตรด้วย ลองดูนะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:12:02:12 น.  

 
พุทธ หรือ คุด...

บางทีคนไทยอาจแยกไม่ออกครับ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:13:08:27 น.  

 
สวัสดีครับ ^^

เด็กไทยเนี่ยะแปลกครับ คือใครทำตัวเป็นเด็กดีหรือทำตามในสิ่งที่ถูกต้องจะถูกหาว่าอ่อน เด็กคนไหนกล้าทำเรื่องผิด เช่นโดดเรียน เอาหนังสือโป๊มาอ่าน สูบบุหรี่ เพื่อนจะเฮ จะชอบ ถึงบางคนในใจก็จะไม่ชอบก็ตามแต่เวลาแสดงออกก็จะชอบตามๆกันไป เดาว่าบางทีเด็กประเทศอื่นๆก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน

ใครที่เก่งๆต้องมาทำให้เด็กในสังคมเราเปลี่ยนทัศนคติอ่ะครับ ว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องเนี่ยแหล่ะแมนกว่าการกล้าทำเรื่องห่ามๆอีก บ้านเราเด็กที่ดีก็ดีไปไกลเลยไปได้เหรียญโอลิมปิค ส่วนที่แย่นี่ก็แย่สุดๆเหมือนกัน แล้วแต่ใครจะเลือกทางเดินล่ะมั้งครับ


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:13:57:45 น.  

 
Junenaka1 - กำลังเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับบทความนี้หรือเปล่า? "ทีทับไม่ร้อง พอท้องจะให้รับ" ในความเป็นจริงถ้าผู้หญิงไม่ยอมเสียอย่าง ผู้ชายก็ยากที่จะลงมือ ผู้เขียนไม่อยากประจานความชั่วของทั้งสองฝ่ายนัก เพราะถ้าไม่มีการสมยอมของทั้งสองฝ่ายก็ยากที่จะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น นอกเสียจากกรณีการข่มขืน

ผู้ชายไม่รับผิดชอบ? ก็ถูก ... ... อย่างที่ผู้เขียนเคยกล่าวไว้ ผู้ชายมองผู้หญิงที่ไม่รักตนสงวนตัวเป็นแค่ "ของเล่นแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น" ก็ของใช้แล้วทิ้ง จะไปรับผิดชอบทำไม? ตรงนี้ก็ต้องย้อนกลับไปถามคุณผู้หญิงว่า "ในเมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว ยังอยากเป็นของใช้แล้วทิ้งอีกหรือเปล่า?"

ปลายแป้นพิมพ์ - ผู้เขียนรู้สึกดีใจที่คนที่อายุรุ่นพ่ออยู่คุณตฤณยังพูดว่า "มันยากแล้วละ" มันยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ถ้าหากคนรุ่นคุณตฤณพูดว่า "เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ" หรือ "สายเกินไปแล้วล่ะ" อย่างนี้จะเท่ากับสิ้นหวังของจริง

เรื่องท้องคาบ้าน ผู้เขียนมองว่าเป็นการสั่งสอนของทางบ้านที่ล้มเหลว คนเป็นพ่อแม่ควรพิจารณาตนเองให้มาก อะไรคือสาเหตุให้ลูกเราไปทำลูกคนอื่นเค้าท้อง หรือ อะไรคือสาเหตุให้ลูกสาวเราใจแตก อย่าได้โทษสื่อโทษชาวบ้าน คนมันจะดีอย่างไรมันก็ดี คนมันจะเลวอยู่ใกล้พระใกล้วัดมันก็เลว

พี่ตี๋ - เรื่องเด็กเก่งพูดแล้วเดี๋ยวยาว บ้านเราเด็กเก่งเยอะ พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในสังคมล่ะ โดนสกัดดาวรุ่งหมด ผู้เขียนเตรียมเขียนประเด็นนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว เนื้อหารุนแรงไม่ต่างจากครั้งนี้


โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:14:29:51 น.  

 
ไปอ่านเม้นท์ยาวๆของน้องต่อที่บล้อกถมมาด้วยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:16:42:16 น.  

 
อ่านแล้วเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งจ๊ะ
ขอแค่รักนวลสงวนตัว ปัญหาต่าง ๆ ก็ถูกตัดวงจรไปโดยอัตโนมัติเลย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง.. อย่างคุณต่อว่า

แต่สังคมไทยทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
ยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคของการยั่วยุในทุกทั่วหัวระแหง
ขนาดหนังสือการ์ตูน ยังมีโฆษณาคลิปฉาวโฉ่ ตูม ๆ
ล้นนั่น หลามนี่ เต็มหน้าด้านในของการ์ตูนเด็ก ๆ เลย

นี่แค่การ์ตูนนะ ไม่รวมนิตยสารต่าง ๆ อีกอักโข

ทุกวันนี้สังคมเรากำลังเปลี่ยนไป ใครต่อใครบอกต้องตามให้ทันยุค
แต่จริง ๆ แล้วเราควรเรียนรู้ให้ทันยุคดีกว่า

ในส่วนตัวเชื่อในเรื่องการปลูกฝัง การสอนสั่ง การประพฤติตนให้เป็นแบบอย่าง
และเชื่อมั่นในสถาบันครอบครัวอย่างที่สุด
เป็นสังคมสถาบันที่เล็กที่สุด แต่สำคัญที่สุดเชื่ออย่างนั้น

เด็กสมัยนี้ ไปปิด ๆ บัง ๆ ไม่ได้แล้ว ยิ่งปิดบังเค้ายิ่งอยากรู้
ยิ่งค้นหา และถ้ารู้ไม่ถูกไม่ควร ยิ่งแล้วกันใหญ่

การสอนสั่ง การเรียนรู้ จากพ่อแม่ อาจจะดีกว่าการปิดบัง
การเปิดใจ และยอมรับฟังแม้มันจะตระหนกเพียงใด คงจะดีกว่า
การปิดหูปิดตา .. คิดว่างั้นนะ

ปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ ให้เค้าคิดเป็น แม้สังคมจะก้าวทันยุคยังไง
เกราะป้องกันจากครอบครัวน่าจะเอาอยู่ ..

พยายาม และคิดเข้าข้างตัวเองอีกสักเล็กน้อย ..

สองพี


โดย: SongPee วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:18:57:58 น.  

 
กาขาว ไม่นาน คงสีซีดครับพี่

กาตัวใหม่ๆ ก็ไม่เนียนเท่าไหร่แล้ว

รอครับรอ

รอเพื่อที่จะเจอสิ่งที่ดีกว่า

แต่ถ้าเจอแบบเลวลง ก้แย่เหมือนกันนะครับ

แฮ่ๆ


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:20:59:30 น.  

 
Blog นี้ออกจะเครียดเล็กน้อย...แต่ที่คุณต่อ เขียนมาก็เป็นความจริง ที่ต้องแก้ไขกันต่อไปน่ะค่ะ


โดย: Li Shana วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:21:30:56 น.  

 
พี่ก๋ามีวีรกรรม วีรเวรกับครูเยอะครับ 555
เป็นเด็กเรียบร้อยแต่มีปัญหากับอาจารย์เสมอ

อย่างเช่น จัดนิทรรศการด่าอาจารย์ในคณะก็ทำมาแล้ว
เขียนกลอน ถ่ายภาพ จัดบอร์ดอย่างสวยเลยครับ
ด่าซะจนคณบดีเชิญตัวไปพบที่ห้องเลย

พี่ก๋าเห็นด้วยกับน้องต่อว่า
คำพูดและการกระทำของคนที่เป็นครูแต่ชื่อ
ทำร้ายความทรงจำของเด็กนักเรียนมาก

อาจทำให้เด็กคนนึงเลิกศรัทธาวิชาชีพครูไปเลย


พี่ก๋ายังดีที่ไม่ถึงกับเลิกศรัทธาวิชาชีพครู
ถึงวันนี้ไม่ได้เป็นครู
แต่ยังรักในวิชาชีพนี้เสมอครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:0:02:22 น.  

 
เพลงในบล๊อกวันนี้เพราะอ่ะคุณต่อ อิอิิ

แวะมามอร์นิ่งก่อนจะรุ่งอรุณค่ะ
มันมีความจำเป็นจริง ต้องตื่นมาตอนเนี้ยอ่ะ
เห้อๆๆ...


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:4:26:30 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:5:17:09 น.  

 
สวัสดีวันพ่อแห่งชาติของไทยเราค่ะคุณต่อ
ขอให้คุณพ่อของคุณต่อมีความสุขมากๆ นะคะ



โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:10:50:35 น.  

 
สวัสดีครับพี่ บอกตรงๆครับ

ผมก็กำลังจะปั่นเหมือนกัน ไม่รู้จะทันไหม?

ฮ่าๆ

ชอบให้มีแรงกดดันอยู่เรื่อย สมองถึงจะทำงาน


โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:13:47:55 น.  

 
หมิงหมิงนี่บ้าเกมผีดิบสุดๆ
พี่ก๋าก็ว่ามันดูรุนแรงนะคัรบ
แต่หมิงหมิงบอกว่า

"ไม่รุนแรงเลยๆๆ" 5555






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:14:57:18 น.  

 
มาทักทายตอนเย็นจ้ะ



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:17:45:00 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านบทความนี้ครับ


โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:0:02:23 น.  

 
ยังๆ อย่าเพิ่งปิดเม้นท์จ้ะ.. อ่านแล้วแต่ขอมาเม้นท์ย้อนหลัง

อ่านถึงย่อหน้าสุดท้ายแทบไปตบด้วยพาราอีกสองเม็ด โอยยยย.. แร้งงงง เอาเรื่องแฮะ..

แต่มันใช่!!! อย่างที่คุณต่อเปรียบเทียบ ป้าโซก็เคยนึกอย่างนั้นนะเรื่องเหมือนกับการสมสู่ของสัตว์เดรัจฉานต่างแค่ว่าจับแล้วไม่มีหางแค่นั้น

สังคมเปลี่ยนไป ค่าความนิยมเปลี่ยนไป สื่อ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะโทษว่ามีผลทำให้ความคิดเรื่องรักนวลสงวนตัวด้อยลงไป.. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพื้นฐานการอบรมการเอาใจใส่จากครอบครัวนั่นแหละจะมีผลอย่างมาก


โดย: ป้าโซ วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:21:04:53 น.  

 
ป้าโซ - ผู้เขียนยอมรับว่าเขียนแรง แรงถึงขั้นเพื่อนบล็อกอาจไม่พอใจเลยก็เป็นไปได้

ล่าสุดสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกกังวลตามบทความก็เป็นจริงแล้ว สิ่งที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ในบทความเป็นจริงขึ้นมาแล้วหนึ่งอย่างในเรื่องของกฎหมายในเด็กที่ท้องในวัยเรียนลาคลอดได้ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าผลจากการออกกฎหมายในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร จะเป็นไปตามที่ผู้เขียนคาดการณ์ไว้หรือไม่ แน่นอนว่าผู้เขียนอยากให้ตนเองคาดการณ์ผิด และอยากให้มันเป็นแค่ความกังวลเกินเหตุเท่านั้น


โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:0:32:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
23 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.