อย.ให้เวลาร้านขายยา คลินิกเอกชน คืนยาเสียสาว ภายใน 6 เดือน
อย. ยกยานอนหลับอัลปราโซแลม หรือ ยาเสียสาว ขึ้นเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 สั่งร้านขายยาห้ามขาย เร่งเรียกเก็บให้หมดภายในมิถุนายนนี้ หลังพบคนนำไปใช้ก่อคดีเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาพบผู้นำยาชนิดนี้ไปใช้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง เพราะนำไปใช้เป็นยาเสียสาวล่อลวงผู้หญิง โดยในปี 2554 มีคดีที่เกี่ยวข้องกับยาดังกล่าวมากถึง 400-500 คดี และยังพบผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด 3-4 ราย ดังนั้น อย. จึงต้องควบคุมการใช้ชนิดนี้ โดยลงนามในประกาศตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ สำหรับโทษหากพบว่ามีการถือครองยาหลังวันที่ 17 มิ.ย.นี้ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในฐานครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทโดยไม่ได้ขออนุญาต มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือปรับ 100,000-400,000 บาท ยาอัลปราโซแลม เป็นยาที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการติดยาทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งหากหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้ หากต้องรับประทานกับยาตัวอื่น เช่น ยากดหรือกระตุ้นประสาท หรือยาคุมกำเนิด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากมียาหลายชนิดที่มีปฏิกิริยาต่อระดับ Alprazolam ในกระแสเลือดจนทำให้เกิดอันตรายอย่างรุนแรงได้ และหากรับประทานยาดังกล่าวพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้กดประสาทมากขึ้นและอาจกดการหายใจส่งผลให้เสียชีวิตได้
ยาอัลปราโซแลมที่ใช้ในการแพทย์มีอยู่ด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาด 0.25 มิลลิกรัม ขนาด 0.5 มิลิกรัม และขนาด 1.0 มิลลิกรัม โดยขนาดในการใช้ขึ้นอยู่กับอาการผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกขนาดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไป เช่นในผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับเนื่องจากเครียด แพทย์อาจจะให้ยาอัลปราโซแลม ขนาด 0.25 มิลลิกรัม หรือในผู้ป่วยที่เลิกยาเสพติดแพทย์อาจจะต้องให้ยาอัลปราโซแลม ขนาด 0.5 มิลลิกรัม หรือ 1.0 มิลลิกรัม เป็นต้น ยาตัวนี้เป็นยาออกฤทธิ์เร็ว รับประทานไปประมาณ 20 นาทีก็จะออกฤทธิ์ แต่ฤทธิ์จะคงอยู่ไม่เกิน 1 วัน และหากดื่มน้ำมากๆยาก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด
ผลของยาที่ข้อควรระวัง : 1. อาจทำให้ง่วงซึมไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ ในที่สูง 2. ห้ามดื่มสุรา หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ 3. อาจเกิดผลตรงข้ามกับฤทธิ์ของยาที่ให้ (Paradoxical reaction) 4. อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือด ตับ หรือไตได้ 5. สตรีมีครรภ์ สตรีระยะให้นมบุตร โรคต้อหิน โรคไมแอส ตีเนียแกรวีส (Myasthenia gravis) โรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ปัจจุบันมีข่าวการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อหญิงสาว โดยใช้ยาสลบหรือยานอนหลับผสมลงในเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์มีมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าว่ามีการผสมยานี้ในเครื่องดื่มหรือไม่ จึงขอเตือนสาวๆ ทั้งหลายให้ระมัดระวัง และขอฝากคาถาป้องกันตัว 7 ไม่ดังนี้
- ไม่ ไปร่วมงานคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย - ไม่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา - ไม่ รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จักดี หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ - ไม่ ดื่มอย่างรวดเร็วเพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไป จะได้มีเวลาที่จะระวังตัวได้ทัน - ไม่ ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกับผู้อื่น - ไม่ ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่น อ่างใส่พั้นซ์ เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยาหรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว - ไม่ ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตนหากต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วควรเปลี่ยนแก้วใหม่ทันที
ทุกวันนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สินมากจริงๆ ยาพวกนี้ยังมีขายทั่วเน็ต จะควบคุมกันอย่างไร? ขอให้ทุกท่านปลอดภัยมีความสุขทุกท่านนะคะ
บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพค่ะ
|