การตรวจสุขภาพ การตรวจสุขภาพเป็นประจำ เป็นขั้นตอนการตรวจสอบว่า ปัจจุบันสุขภาพของเรายังดีอยู่หรือไม่ มีโรคแอบแฝงที่ต้องรีบรักษาหรือไม่ ดังนั้นการตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต้องทำ
การตรวจสุขภาพที่ดีนั้น ต้องเป็นการตรวจที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาด้านสุขภาพที่แท้จริงของผู้รับการตรวจ ไม่ใช่มุ่งแต่หาโรค
การตรวจที่ดีจะต้องมีการชี้แนะให้มีการส่งเสริมสุขภาพ ต้องไม่สร้างความทุกข์ใจ และต้องไม่ทำให้ ผู้รับการตรวจมีความประมาทเมื่อตรวจไม่พบโรค
การตรวจสุขภาพตามหลักสากลจะประกอบด้วยหลัก 4 ประการคือ
1. การคัดกรองเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค
แต่เดิมนั้นทำเพื่อค้นหาโรค แต่ความจริงแล้วการคัดกรองที่ดี คือ การค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค เพื่อจะได้ป้องกัน หรือกำจัดปัจจัยเสี่ยงนั้นก่อนที่จะทำให้เกิดโรค
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น การทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง อาหารที่มีไขมันสูง ทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง เกิดปัญหาโรคหัวใจ, การดื่มเหล้า เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคตับ ตับอ่อนอักเสบ โรคพิษสุราเรื้องรัง รวมถึงเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ, การไม่ออกกำลังกาย ทำให้อ้วนเกิดปัญหา โรคเบาหวาน ไขมันสูง ปวดข้อ เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ไม่สามารถค้นหาได้โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (ตรวจแลบ) เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่งการซักประวัติมากถึง 80% ส่วนที่เหลือคือการตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติเฉพาะที่จำเป็นตามปัจจัยเสี่ยงที่ได้จากประวัติ ซึ่งในบางครั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการอาจไม่มีความจำเป็นเลยก็ได้
การคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดเงิน และคุ้มค่า ซึ่งมีขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ การซักประวัติเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ได้แก่การซักประวัติทั่วไป เช่น อายุ เพศ เชื้อชาติ การทำงาน อาชีพ การซักประวัติโรคประจำตัว โรคของคนในครอบครัว การรับประทานอาหาร การใช้สารเสพติด การออกกำลังกาย เมื่อได้ข้อมูลแพทย์จะทำการตรวจร่างกายทั่วไป และตรวจเน้นพิเศษในบางเรื่องที่มีปัจจัยเสี่ยง รวมทั้งถ้าจำเป็นอาจทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วย
หลังจากทำการตรวจเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการประเมินผลการตรวจสุขภาพ โดยประเมินปัจจัยเสี่ยงที่พบ และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อกำจัดปัจจัยเสี่ยง เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคในอนาคต
2. การให้คำแนะนำ
ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น แนะนำเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย แนะนำให้งดดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การใช้เข็มขัดนิรภัยหรือใส่หมวกกันน๊อค เป็นต้น
คำแนะนำอื่นๆ เช่น แนะนำวิธีตรวจคลำหาก้อนที่เต้านมทุกสัปดาห์ การสอนให้สังเกตอาการเจ็บหน้าอก ในคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น
การให้คำแนะนำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้รับการตรวจสุขภาพควรได้รับทุกครั้งที่มารับการตรวจสุขภาพ
3. การให้วัคซีนที่จำเป็น
การให้วัคซีนเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคติดเชื้อ การให้วัคซีนที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรค และช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
การให้วัคซีนส่วนใหญ่จะให้ในวัยเด็ก
ส่วนในผู้ใหญ่นั้น มีวัคซีนที่แนะนำว่าควรได้รับคือ
1.วัคซีนป้องกันบาดทะยักและคอตีบ ควรได้รับการฉีด เริ่มต้น 3 เข็ม และ รับการกระตุ้น 1 เข็ม ทุก 10 ปี
2.วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน สำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ (ให้ก่อนตั้งครรภ์)
3.วัคซีนอื่นๆ ควรได้รับตามความเสี่ยง เช่น
-วัคซีนตับอักเสบ บี ควรได้รับในผู้ที่มีคู่สมรสเป็นพาหะตับอักเสบ บี และได้รับการตรวจแล้วว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน
-วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น ควรให้กับผู้ที่จะไปยังแหล่งที่มีโรคระบาด เช่น ไปแสวงบุญเมกกะ
-วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ควรได้รับในผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในเขตที่มีการระบาดของโรครุนแรง
4. การให้สารเคมีหรือยาเพื่อป้องกัน
อาจให้ในผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น การให้ฟลูโอไรด์ในเด็ก การให้โฟลิกในผู้ที่มีโลหิตจางจากโรคธาลัสซีเมีย การให้ฮอร์โมนในกลุ่มหญิงวัยทอง การให้แคลเซียมในหญิงตั้งครรภ์หรือผู้สูงอายุ เป็นต้น
สรุปแล้วการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ยังมีความจำเป็นในการดูแลรักษาสุขภาพ เพราะจะช่วยตรวจสอบค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ช่วยให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค การให้วัคซีน ยาหรือสารเคมีบางชนิดเพื่อป้องกันหรือรักษาโรค
การตรวจสุขภาพที่มีประโยชน์คุ้มค่า จะต้องเป็นการตรวจที่มีจุดประสงค์ เพื่อป้องกันโรค มากกว่ามุ่งการรักษา เลือกเฉพาะการตรวจเฉพาะที่มีประโยชน์ เท่าที่จำเป็น ไม่ใช่การตรวจแบบเหวี่ยงแห เหมือนในอดีตอีกต่อไป
การตรวจคัดกรองที่แนะนำสำหรับคนทั่วไป แยกตามอายุได้ดังนี้
อายุ 18 - 34 ปี :
1. วัดความดันโลหิต
2. วัดส่วนสูง-น้ำหนัก
3. ตรวจมะเร็งปากมดลูก (หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว)
อายุ 35 59 ปี :
1. วัดความดันโลหิต
2. วัดส่วนสูง-น้ำหนัก
3. ตรวจมะเร็งปากมดลูก
4. ตรวจไขมันในเลือด (ชายอายุ 35 ปี หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป)
5. ตรวจน้ำตาลในเลือด (อายุ 40 ปีขึ้นไป)
6. ตรวจมะเร็งเต้านม โดยแพทย์คลำก้อนที่เต้านม
อายุมากกว่า 60 ปี :
1. วัดความดันโลหิต
2. วัดส่วนสูง-น้ำหนัก
3. ตรวจมะเร็งปากมดลูก
4. ตรวจไขมันในเลือด
5. ตรวจน้ำตาลในเลือด
6. ตรวจมะเร็งเต้านม โดยแพทย์คลำก้อนที่เต้านม
7. ตรวจการได้ยินโดยการซักประวัติ
8. ตรวจการมองเห็นโดยใช้ Snellen test
9. ตรวจมะเร็งลำไส้โดย ตรวจเลือดในอุจจาระ
ประการสุดท้าย การรักษาสุขภาพให้ดีเป็นหน้าที่ของท่านเองที่จะทำได้ง่ายๆ เช่น 1. ป้องกันอุบัติเหตุ (เช่น นั่งรถยนต์ทางไกลควรรัดเข็มขัดนิรภัย ข้ามถนนบนทางม้าลายหรือสะพานลอย หรือข้ามด้วยความไม่ประมาท ฯลฯ) 2. หลีกเลี่ยงบุหรี่ได้เป็นดี 3. กินเพื่ออยู่ให้เหมาะสมกับอายุและการใช้พลังงาน 4. ออกกำลังกายกลางแจ้งสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการลงทุนน้อยที่สุด แต่มีผลตอบแทนมากที่สุด แนวทางการตรวจสุขภาพของประชาชน บทความพิเศษ
. สำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ ( สปรส. ) โดย
.. พท.นพ. สุรจิต สุนทรธรรม การตรวจร่างกายประจำปี จำเป็นจริงๆ หรือ? //www.doctor.or.th/
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพ
|