โรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)เป็นโรคสมองเสื่อมที่เกิดจากเซลส์สมองตาย ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ,การควบคุมอารมณ์ตัวเอง, ความทรงจำจนถึงขั้นไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ เช่น พูดไม่ได้ ,แปรงฟันไม่ได้ เป็นต้น ในระยะท้ายของโรคจะสูญเสียความจำทั้งหมด ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 2-4 % ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้น กล่าวคือจะพบเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 5 ปี หลังอายุ 60 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไปแล้วยังไม่ป่วยเป็นโรคนี้ อัตราการเกิดโรคจะลดลงถึง 50%
ปัจจัยเสี่ยง -
อายุ ยิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเป็นมากดังกล่าว พบว่าร้อยละ25ของผู้ป่วยอายุ 85 ปี เป็นโรคนี้ -
โรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูงทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความจำ การรักษาความดันจะทำให้ความจำดีขึ้น -
กรรมพันธุ์ ถ้ามีบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โอกาสที่จะเป็นก็มากขึ้น 15 สัญญาณเตือน อัลไซเมอร์ 1. หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายกว่าปกติ เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
2. การตัดสินใจแย่ลง เปลี่ยนใจง่าย เช่น ถ้ามีเซลล์แมนมาขายของที่หน้าบ้านก็จะซื้อทันที ซึ่งจะต่างจากแต่ก่อนที่จะไม่ซื้อของพวกนี้เลยหรือ ไม่ใช้จ่ายอะไรง่าย ๆ ซึ่งข้อนี้มักจะนำไปสู่ปัญหาด้านการเงินด้วย คือใช้จ่ายแบบไม่คิด ใช้เงินโดยไม่คิด ไม่มีการออมเหมือนแต่ก่อน
3. งานหรือกิจกรรมอะไรที่เคยทำอยู่ประจำ จะกลายเป็นงานที่ทำได้ยากขึ้น เช่น ลืมวิธีผูกเนคไท ลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า ถ้าจะทำไข่เจียวก็แตกไข่แตกเละคามือ ลืมปรุง หรือทอดโดยไม่ใส่น้ำมัน เป็นต้น
4. วางของผิดที่ผิดทาง เช่น เอากระเป๋าตังค์ไปใส่ไว้ในตู้เย็น เอาช้อนส้อมไปใส่ไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า โดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิด และยังใช้ชีวิตปกติทั้งที่ข้าวของยังวางผิดที่
5. สับสนเรื่องเวลา โดยมักจะคิดว่าเวลาผ่านไปนานกว่าปกติ เช่น นั่งรอห้านาทีก็จะคิดว่านั่งรอมาห้าชั่วโมง หรือเพิ่งใส่เสื้อตัวเก่งไปแล้วเมื่อวาน แต่คิดว่าใส่เสื้อตัวนั้นไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เดือนก่อน เป็นต้น
6. สื่อสารกับคนอื่นยากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการพูด มักจะเรียงลำดับคำผิด ใช้คำผิด พูดผิด หรือคิดไม่ออกว่าจะใช้คำว่าอะไร จะพูดว่าอะไร
7. เดินออกไปข้างนอกอย่างไม่มีจุดหมาย มักจะเดินออกไปที่ไหนซักที่โดยไม่รู้ว่าจะไปทำไม ไปทำอะไร
8. ทำกิจกรรมบางอย่างแบบมีเหตุผลและซ้ำ ๆ เช่น เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วก็ปิดทันทีโดยที่ไม่ได้อยากหยิบอะไร พอเดินกลับมานั่งก็จะลุกขึ้นไปเปิดและปิดแบบเดิมอีกซ้ำ ๆ
9. ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ทั้งเรื่องการตัดผม ตัดเล็บ หวีผม หรือลืมแม้กระทั่งว่าตื่นมาจะต้องล้างหน้าแปรงฟัน
10. แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พูดหรือทำในสิ่งที่โดยปกติจะไม่พูด เช่น พูดว่าคนอื่นว่าอ้วนออกมาตรง ๆ เพราะขาดความคิดในการชั่งใจ หรือตัดสินใจว่าอะไรถูกหรือผิด เหมือนตอนที่ยังไม่เริ่มมีอาการ
11. รู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา หรือมักจะชอบคิดว่าตัวเองเห็นใคร หรืออะไรคอยซุ่มดูตัวเองอยู่ หรือกลัวคนจะมาทำร้ายตลอดเวลา
12. นอนหลับยาก กระสับกระส่ายในตอนกลางคืนมากกว่าแต่ก่อน
13. ถอยห่างออกมาจากครอบครัว เพื่อน รวมไปถึงกิจกรรมเดิม ๆ ที่เคยทำ เช่น ไม่พูดคุยกับใคร ไม่เล่นกีฬาที่เคยเล่นประจำทุกวัน เป็นต้น
14. ชอบทำพฤติกรรมเหมือนเด็ก ๆ เช่น งอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ หรือดีใจเกินกว่าเหตุถ้าได้ของที่ต้องการ
15. พูดจาและแสดงอาการก้าวร้าว เช่น พูดว่าหรือด่าทอคนอื่น ทั้งที่แต่ก่อนไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้มาก่อน การดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง เมื่อรู้แล้วว่าโรคนี้มีสาเหตุมาจากการที่เซลล์สมองตาย เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเป็นโรคนี้เราจะต้องทำตัวอย่างไร 1.รับประทานอาหารที่บำรุงสมองเป็นประจำ เพื่อบำรุงและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ได้แก่อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ , กรดไขมันโอเมก้า-3,วิตามิน บี6 บี12 เช่น ผัก,ผลไม้ ,ธัญพืช ,ปลา , วิตามิน E, ใบแป๊ะก๊วย, น้ำมันปลา เป็นต้น งานวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่า มีผักและผลไม้ 5 ชนิด มีสารประกอบที่ทำหน้าที่เหมือนกับยาที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ ได้คือ บร็อกโคลี มันฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล และหัวไชเท้า โดยเฉพาะบร็อกโคลี มีสารดังกล่าวเยอะที่สุด
2.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด อาหารเค็มจัด หวานจัด และอาหารหมักดอง อาหารพวกนี้นอกจากทำให้ผูที่ทานอารหารเหล่านี้เป็นประจำ ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด, ไขมันในเลือดสูง,เบาหวาน ตามสถิติยังพบว่า ผู้ป่วยเหล่านี้มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นด้วย
3.บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นออกกำลังกายทำให้เลือดไหวเวียนดี ได้รับออกซิเจนเป็นผลดีต่อระบบประสาท รวมถึงการบริหารสมองด้วย เช่น การเล่นเกมอักษรไข้ว, เกมต่อภาพ,เกมทดสอบความจำ หรือการเรียน เต้นรำ, ดนตรี ,ภาษาใหม่ๆ เป็นต้น
4.จัดการกับความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการทำลายของเซลล์สมอง จึงควรเรียนรู้ในการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น ด้วยการผ่อนคลาย และพักผ่อนให้เต็มที่ เช่น การนั่งสมาธิ , การนอนหลับ ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ด้วยอาหาร 9 ชนิด 1.น้ำมันสลัด ที่อุดมไปด้วยวิตามิน E จะช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์สมอง
2.เนื้อปลา DHA ช่วยในการทำงานของเซลล์ประสาท
3.ผักใบเขียว เป็นแหล่งของกรดโฟเลตช่วยลดระดับของกรดอะมิโนชนิด Homocysteine สาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์
4.อะโวคาโด มีวิตามิน E สูงป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์สมอง และช่วยบำรุงผิว
5.เมล็ดทานตะวัน อุดมไปด้วยวิตามิน E ป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์สมอง
6.ถั่วลิสงและเนยถั่ว แหล่งของไขมันที่ดี และเต็มไปด้วยวิตามิน E ช่วยให้หัวใจและสมองมีสุขภาพดีและทำงานอย่างถูกต้อง
7.ไวน์แดง หากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์
8.ผลเบอร์รี่ ช่วยกำจัดสารพิษของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียความจำ
9.ธัญพืชไม่ขัดสี ลดปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือด ซึ่งอาจมีบทบาทในการเกิดโรคจากสมอง สรุป ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ ได้แก่ | -
อัลไซเมอร์เป็นโรค ไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อมตามธรรมชาติ หรือตามอายุที่มากขึ้น -
สาเหตุยังไม่ทราบชัด แต่น่าจะมีส่วนจากพันธุกรรม อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ดังนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน -
ขณะนี้ ยังไม่สามารถป้องกัน และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ -
การดูแล ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วย -
ถ้ามีญาติที่เริ่มมีอาการหลงลืม ควรพบแพทย์ระบบประสาท อาจเป็นสาเหตุอื่นที่รักษาหายขาดได้ -
โรคนี้มักเกิดในผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้ที่รู้สึกว่าหลงลืมบ่อยโดยที่อายุไม่มาก (20-50 ปี) มักเกิดจากสาเหตุอื่น ส่วนมากเกิดจากการพักผ่อนไม่พอ เครียด ไม่มีสมาธิ ควรแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยปรึกษาแพทย์ เพราะมักเป็นสาเหตุที่รักษาให้หายขาดได้ -
เนื่องจากยังไม่มีการวินิจฉัยที่แน่นอน การวินิจฉัยจะอาศัยหลัก 3 ประการ -
มีอาการสมองเสื่อม อาการจะเริ่มจากความจำเสื่อม การเรียนรู้เสียไป -
อาการของโรคจะดำเนินต่อเนื่อง ไม่หาย -
ต้องแยกภาวะหรือโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการสมองเสื่อม -
ไม่ควรกลัวโรคนี้จนเกินไป เนื่องจากขณะนี้มีการวิจัยเรื่องนี้มากมายทั่วโลก เชื่อว่าอีกไม่นานนัก อาจมียาที่รักษาหรือป้องกันได้ -
ในทางการแพทย์ ยังไม่แนะนำให้ทานยาใดๆเพื่อป้องกัน เพราะมักไม่ได้ผล และยาหรือสมุนไพรหรืออาหารเสริมเหล่านี้ส่วนมากมีราคาแพง และมักโฆษณาเกินความจริง |
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพ
Create Date : 09 กันยายน 2555 |
Last Update : 9 กันยายน 2555 21:33:17 น. |
|
128 comments
|
Counter : 3000 Pageviews. |
|
|