14 หนทางสู่การเป็น “มะเร็ง”

มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการเจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะเรียกชื่อ มะเร็งตามอวัยวะนั้น เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

ขณะนี้มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการดำเนินของโรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดำเนินชนิดของโรคที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้นกว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

การรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะของมะเร็ง สภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็ง และการดำเนินโรคของมะเร็งด้วย เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษาง่ายกว่ามะเร็งปอด มะเร็งสมอง เป็นต้น

บางคนรู้ตัวก่อนว่าเป็นขั้นไหนก็อาจจะรักษาบำบัดได้ทัน ถ้ากับบางคนมารู้ตัวทีหลังก็เป็นระยะที่สายเกินแก้เสียแล้ว มะเร็งบางคนอาจเกิดจากพันธุกรรม และบางคนก่อร่างสร้างด้วยพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง โดยขอให้เลี่ยงพฤติกรรมที่มะเร็งโปรดทั้งหลายต่อไปนี้

1) นอนดึก ทำให้ไม่มีฮอร์โมนต้านมะเร็งหลั่งออกมา นอกจากนั้นยังจะทำให้เกิดโรคร้ายอื่นได้ เช่น ความดันโลหิตสูง,ไขมันสูงและโรคอ้วน เมื่อนอนดึกแล้วมักจะหิวและต้องหาของขบเคี้ยวมากินแก้ปากว่างกัน

2) สูบบุหรี่และกินเหล้า ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ปอดและตับทำงานหนัก แม้จะสูบซิการ์ซึ่งมีนิโคตินต่ำกว่าบุหรี่ก็ตาม หรือดื่มเหล้าแบบกลั่นอย่างดีของฝรั่ง แต่ตัวมันเองก็สร้าง “สนิมมะเร็ง” ออกมาไม่น้อย ทำให้คนที่เสพทั้งแก่เร็วและตายไวได้จากโรคมะเร็ง

3) ทานแต่ไขมันโดยเฉพาะเนื้อแดง ไขมันอิ่มตัวและโปรตีนจากเนื้อนั้นเป็นแหล่งอาหารชั้นหนึ่งของมะเร็ง ที่จะใช้เจริญเติบโตได้ไม่แพ้ทารกเกิดใหม่ มันจะสร้างหลอดเลือดยื่นไปดูดกินเลือดเนื้อของเราจนแทบไม่เหลือเลือดอันสมบูรณ์ไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ตัวเราจึงผอมตรงข้ามกับมะเร็งกาฝากที่โตไวไม่มีลิมิต

4) เครียดจัด จนมีสารทุกข์หลั่งออกมาหล่อเลี้ยงมะเร็งให้โตขึ้นเร็วราวกับน้ำมันราดบนกองไฟให้คุโชนขึ้น

5) ไวรัสตับอักเสบบี และภูมิแพ้ที่รักษาไม่หาย ถ้าภูมิดีก็มีพลังต้านมะเร็งได้ตั้งแต่แรกเกิด ตามปกติในร่างกายมีเซลล์แบบมะเร็งเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆทุกวันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีภูมิที่ดีเด็กเล็กจะเริ่มเป็นมะเร็งพร้อมๆกับการหัดพูด สำหรับคนที่ภูมิไม่ดีไม่มีการออกกำลัง พักผ่อนน้อย โดยเฉพาะในผู้อายุมากที่ภูมิต่ำจะได้มะเร็งแถมเข้ามาในชีวิตทันที ดังนั้นถ้าเคยมีประวัติไวรัสตับอักเสบบี ต้องพยายามเสริมภูมิต้านโรคไว้

6) ปล่อยกายให้อ้วน สร้างให้เกิดธาตุแก่ออกมาแช่อิ่มอวัยวะภายในร่างกาย และไขมันตามตัวยังสร้างให้เกิดฮอร์โมนกระตุ้นให้มะเร็งแบ่งตัวดีขึ้นด้วย

7) ขาดวิตามิน วิตามินทำหน้าที่ต้านเชื้อมะเร็งก่อนที่จะแบ่งตัวปนไปในร่างกายของเรา

8) กินของร้อนจัดไป เช่นซดชาร้อนหรือกาแฟร้อนจัดประเภทควันฉุย จะไปลวกให้เซลล์หลอดอาหารอักเสบอยู่ทุกบ่อย เมื่ออักเสบเป็นประจำก็จะมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็นเซลล์มะเร็งง่ายขึ้น

9) ทำให้โคเลสเตอรอลลดต่ำ พบว่าถ้าต่ำเกินไปก็ไม่ดี มีผลกับภูมิคุ้มกันที่ต่ำลง เมื่อภูมิต่ำแล้วก็จะหมดปัญญาต้านเซลล์มะเร็งที่จะเข้ามาหา

10) การกลั้นปัสสาวะ น้ำปัสสาวะเป็นของเสียยิ่งอยู่นิ่งเป็นเวลานานจากการอั้นมันก็ไม่ต่างอะไร กับน้ำนิ่งในคลองแสนแสบซึ่งทิ้งไว้ไม่นานจะกลายเป็นน้ำเน่า แต่ถ้าเน่าในกระเพาะปัสสาวะก็มีผลให้เกิดเซลล์มะเร็งงอกขึ้นมาได้

11) เค็มจัด พบว่าสิ่งมีชีวิตที่ทานอาหารเค็มมีอัตราการเกิดมะเร็งสูงกว่า โดยเฉพาะในอาหารจำพวกเนื้อเค็ม เนื้อแห้ง หมูแดง ที่นอกจากเค็มแล้วยังมีสีแดงดีจากดินประสิวอีกด้วย

12) ประวัติมะเร็งในครอบครัว มะเร็งร้ายในครอบครัวบางอย่างสามารถถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมได้ แม้จะไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์แต่ต้องรับไว้ด้วยความไม่เต็มใจ เช่นมะเร็งเต้านม,มะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ถ้าป้องกันไว้ดีๆแล้วบางทีก็ไม่เกิดขึ้นมา

13) ตากแดดบ่อย แสงแดดเป็นรังสีที่กระตุ้นอณูเซลล์ของคุณให้สะดุ้งตกใจจนเครื่องในรวนหมด เมื่อเครื่องในรวนก็ไม่สามารถที่จะคุมการแบ่งตัวได้ ทำให้แบ่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งกลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

14) การเห็นแก่ตัวและไม่ค่อยได้ทำบุญ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ได้หมั่นช่วยเหลือผู้อื่นจนชินแล้วเรามักไม่ค่อยได้นึกถึงตัวเองนัก และเมื่อไม่หมกมุ่นกับตัวเองแล้วก็ไม่ค่อยเกิดความ “อยาก” อันนำไปสู่ความเครียดร้อนอกร้อนใจ หรือถ้าไม่มีเวลาก็แค่อนุโมทนากับบุญที่เราได้พานพบก็ทำให้มี “สารสุข” หลั่งออกมาเสริมภูมิรู้สู้มะเร็งแล้ว

เนื่องจากพบโรคนี้มากขึ้น รวมทั้งคนรอบข้าง

พบเจอได้ในทุกอวัยวะและเป็นในคนอายุน้อยลง

บางข้อก็ทำได้ยากเนื่องจากหน้าที่การงาน

และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

นำมาซึ่งโรคร้ายและโรคอื่นๆอีกมากมาย

ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆปลอดภัยจากโรคร้าย
มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง

ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างไปได้ด้วยดี

บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพนะคะ