|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
นิ่วในไต
นิ่วในไต ภัยเงียบที่อาจนำพาโรคร้ายแรงมาสู้ตัวคุณ อย่างเช่น โรคไต แต่บางทีปัจจัยเสี่ยงที่เราเชื่อว่าทำให้เป็นนิ่วในไตอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด และสิ่งที่คาดไม่ถึงอาจจะทำให้เป็นนิ่วในไตได้เช่นกัน
นิ่วในไต คือ ก้อนผลึกขนาดเล็กหรือบางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ ที่เกิดจากสารตกค้างต่าง ๆ ทั้งจากสารอาหารที่เรากินเข้าไป หรือกรดบางชนิดที่ร่างกายขับออกไม่หมด เช่น กรดยูริก โดยเจ้าก้อนนิ่วนี้ไม่ได้สร้างแค่ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียว แต่ยังไปเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคไตอีกด้วย จึงมีคำแนะนำมากมายในการป้องกันการเกิดนิ่วในไต แต่ล่าสุด ก็มีผลวิจัยมากมายมาหักล้างว่าการป้องกันนิ่วในไตที่เคยแนะนำกันมานั้นอาจจะยิ่งเพิ่มอัตราการเกิดนิ่วในไตได้ ถ้าอย่างนั้นต้องรีบไปอ่านที่เว็บไซต์ Health หยิบมาอธิบายให้ทราบกันเลย อย่ามัวแต่เชื่อกันผิด ๆ รีบอัพเดทความรู้ใหม่กันเดี๋ยวนี้เลย
กินแคลเซียมน้อยไปยิ่งเสี่ยงเป็นนิ่ว
เมื่อก่อนเราอาจจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าการรับประทานแคลเซียมมากจนเกินไปเป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วในไตได้ จึงควรจะลดการรับประทานแคลเซียมให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ล่าสุดการศึกษาในปี 2013 ของคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ออกมาเปิดเผยว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะจริง ๆ แล้วยิ่งบริโภคแคลเซียมมาก ๆ ยิ่งจะลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไตมากกว่าอาหารที่มีแคลเซียมน้อย เพราะว่าการได้รับแคลเซียมที่ไม่เพียงพอจะทำให้สารออกซาเลทไปจับตัวกับแคลเซียมที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะแทนที่จะไปอยู่ในลำไส้ ส่งผลทำให้เกิดการตกค้างในกระเพาะปัสสาวะและตกผลึก จับตัวกันเป็นก้อนนิ่วในที่สุด
รับประทานผักมากไปก็เป็นนิ่วได้นะ
ผักมีประโยชน์สำหรับร่างกายก็จริง แต่ผักบางชนิดอย่างเช่นผักใบเขียว และหัวบีท รับประทานมากเกินไปก็ทำให้เกิดผลเสียได้เหมือนกัน เพราะในผักเหล่านี้มีสารออกซาเลทสูง และการที่มีสารเหล่านี้มากเกินไปก็จะไปตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ กลายเป็นนิ่วนั่นเอง ทางที่ดีหากคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่ว ควรที่จะงดการรับประทานผักใบเขียวและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการหรือแพทย์จะดีกว่าค่ะ
อาหารรสเค็มใครว่าทำให้เป็นโรคไตอย่างเดียว นิ่วก็เป็นได้เหมือนกัน
เรามักจะคิดว่าการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจะส่งผลต่อไตและความดันโลหิต แต่จริง ๆ แล้ว ก็เป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วในไตได้เช่นกัน เพราะปริมาณโซเดียมที่มากเกินไป จะทำให้เกิดการก่อตัวขึ้นของแคลเซียมในกระเพาะปัสสาวะ และแคลเซียมที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะก็จะตกผลึกก่อตัวเป็นก้อนนิ่วในไตได้ ซึ่งปริมาณของโซเดียมทีเหมาะสมต่อร่างกายคือไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าหากเป็นผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงควรจะรับประทานให้น้อยกว่าวันละ 1,500 มิลลิกรัมจะดีที่สุดค่ะ
รับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวน้อยเกินไป ความเสี่ยงยิ่งถามหา
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อาทิ ส้ม มะนาว เกรปฟรุต เลมอน เป็นผลไม้ที่มีสารซิเตรท (Citrate) อันมีฤทธิ์ในการลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต ซึ่งมีการศึกษาหนึ่งในวารสารชื่อ Nature ได้พบว่า เมื่อคนเรารับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเป็นประจำติดต่อกัน 1 เดือนจะทำให้สารที่ก่อให้เกิดนิ่วในไตซึ่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะลดลง ฉะนั้นไม่อยากเป็นโรคนี้ละก็ ควรดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำทุกวันค่ะ
รับประทานเนื้อมากเกินไป อันตรายสุด ๆ
การศึกษาในวารสาร Nutritional Epidemiology เมื่อปี 2014 ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติและปลา มีอัตราการเกิดนิ่วในไตน้อยกว่าผู้ที่รับประทานเนื้อแดงเป็นประจำ 30-50% เลยทีเดียวเชียว นั่นก็เป็นเพราะว่า ในการย่อยโปรตีนปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดการสร้างตัวของกรดยูริกและเข้าไปสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ เมื่อกรดยูริกมีมากเข้าก็จะจับตัวกลายเป็นก้อนแข็งที่เราเรียกว่านิ่วนั่นเอง แต่ถ้าหากคุณเลิกรับประทานเนื้อไม่ได้ ก็ควรจะรับประทานผักเพื่อเสริมแมกนีเซียม จะช่วยลดการก่อตัวของก้อนนิ่วได้
ดื่มชาเย็นเป็นประจำ สารก่อนิ่วเพียบ
รายงานล่าสุดในวารสารทางการแพทย์อย่าง New England Journal of Medicine พบว่าการดื่มชาดำเย็นมาก ๆ เป็นสาเหตุให้เกิดอาการไตวายเฉียบพลันได้ เนื่องจากในชาดำมีสารออกซาเลทเป็นจำนวนมาก การดื่มชาดำเป็นประจำจะทำให้สารออกซาเลทตกค้างอยู่ในร่างกายและก่อให้เกิดนิ่วในไตได้ ยิ่งถ้าหากคุณมีประวัติว่าเคยเป็นนิ่วมาก่อน ควรจะเลี่ยงให้ไกลเลยล่ะ หรือไม่ก็ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่า กันไว้ดีกว่าแก้
น้ำอัดลม เครื่องดื่มนี้ล่ะวายร้าย
หลายคนเวลาที่รู้สึกกระหายน้ำก็มักจะคว้าเอาน้ำอัดลมมาดื่มเพื่อให้รู้สึกสดชื่นโดยลืมนึกไปว่าน้ำอัดลมนี้เป็นจอมวายร้ายทำลายสุขภาพ ไม่เพียงแต่ทำให้เสี่ยงโรคเบาหวาน หรือโรคอ้วนเท่านั้น แต่ยังทำให้เสี่ยงเกิดนิ่วในไตด้วย โดยการศึกษาหนึ่งในปี 2013 พบว่าการดื่มน้ำอัดลมเพียงวันละ 1 กระป๋องก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่นิ่วจะก่อตัวขึ้นได้มากถึง 23% สาเหตุก็มาจากน้ำตาลฟรุกโตสในน้ำอัดลมนั่นล่ะค่ะ คราวหน้าถ้าอยากสดชื่น หันมาดื่มน้ำเปล่าแทนดีกว่า
นิ่วเกิดจากกรรมพันธุ์ได้เหมือนกัน
น่าแปลกใจใช่ไหมล่ะที่จริง ๆ แล้วนิ่วก็เกิดจากกรรมพันธุ์เช่นเดียวกับโรคอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน หรือโรคเบาหวาน นั่นก็เป็นเพราะว่าโรคนิ่วนั้นมีสาเหตุเกิดจากความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องกับการย่อยโปรตีน ทำให้เกิดกรดยูริกตกค้างในร่างกาย และอาจเกิดได้จากความบกพร่องของยีนที่ทำงานสัมพันธ์กับการดูดซึมสารออกซาเลทในร่างกาย ดังนั้นหากครอบครัวของคุณมีใครเคยเป็นนิ่วในไต ก็ควรระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
ระบบทางเดินอาหารอักเสบ ส่งผลร้ายลามมาถึงไต
คนที่มีอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารมีความเสี่ยงในการเกิดนิ่วมากว่าคนทั่วไป โดยการศึกษาในปี 2013 จาก International Journal of Nephrology and Renovascular Disease พบว่าผู้ที่มีโรคโครห์น และลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง จะมีความเสี่ยงในการเป็นนิ่วในไตมากเป็นพิเศษ มีความสืบเนื่องกันจากการท้องเสียซึ่งเป็นอาการหลัก ๆ ของกลุ่มอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร เพราะอาการท้องเสียจะส่งผลให้เกิดการขาดน้ำ และการขาดน้ำก็เป็นสาเหตุให้เกิดนิ่วนั่นเอง
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
จริง ๆ แล้วการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต แต่เป็นสัญญาณของการเกิดนิ่วในไตเลยเชียวล่ะ เพราะเมื่อนิ่วในไตก่อตัวขึ้นก็จะไปปิดกั้นทางเดินของปัสสาวะ ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัด และทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ถ้าหากคุณมีอาการปัสสาวะติดขัดหรือรู้สึกเจ็บเวลาปัสสาวะ รีบไปหาหมอดีกว่าค่ะ
การใช้ยาระบายที่มากเกินไป ก่อให้เกิดการเสียสมดุล
การเสียสมดุลของเกลือแร่และในร่างกายอันเนื่องมาจากการใช้ยาระบายบ่อยเกินไป เป็นผลเสียที่ก่อให้เกิดอาการที่อันตรายกว่านั้น นั่นก็คือโรคนิ่วในไต เพราะเมื่อร่างกายเกิดการขับถ่ายบ่อย ๆ กว่าปกติ ร่างกายก็จะขับเอาเกลือแร่และน้ำออกจากร่างกาย ส่งผลให้การขจัดของเสียต่าง ๆ ในร่างกายออกทางปัสสาวะเกิดความผิดปกติ เมื่อของเสียสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปก็จะทำให้ของเสียเหล่านั้นจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว ดังนั้นควรเลิกใช้ยาระบาย หันมารับประทานผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์แทนกันเถอะ
การรักษาโรคด้วยยาบางชนิด พิษที่ได้รับคือสารตกค้าง
ยาบางชนิดแม้ช่วยในการบรรเทาอาการแต่ก็ไม่ดีเสมอไปหรอกค่ะ เนื่องจากยาบางชนิดสามารถก่อให้เกิดนิ่วในไตได้ เช่น ยารักษาโรคไมเกรนอย่าง Topamax เนื่องจากเจ้ายาชนิดนี้จะไปเพิ่มระดับค่า PH ในทางเดินปัสสาวะ และระดับความเป็นกรดด่างที่เพิ่มขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะนี่ล่ะที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนิ่วในไต ฉะนั้นหากต้องใช้ยานี้จริง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
โรคอ้วน อีกปัจจัยเสี่ยงของนิ่วในไต
การศึกษาที่ถูกเผยแพร่ในปี 2011 จากวารสาร Urology แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วนมีอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคนิ่วสูงกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติถึง 35% นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้หญิงที่เป็นโรคอ้วน จะมีระดับกรด-ด่างในปัสสาวะสูงกว่าคนปกติ ก่อให้เกิดการสร้างตัวของกรดยูริกที่มากกว่าปกติ และตกค้างกลายเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน ผอมทางลัดระวังให้ดี
แม้ว่าความอ้วนจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนิ่วได้ แต่ใช่ว่าการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดจะลดความเสี่ยงได้ แถมยิ่งทำให้เกิดนิ่วในไตได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดี และกลายเป็นว่าสุดท้ายสารออกซาเลท รวมทั้งแคลเซียมที่เราบริโภคเข้าไปจะไปตกค้างในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดสารออกซาเลทและสารนั้นก็จะก่อตัวเป็นนิ่ว แต่ถ้าหากคุณต้องผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วนจริง ๆ ละก็ ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ในการรับประทานอาหารจะได้ไม่เจอกับโรคอันตรายจนต้องผ่าตัดซ้ำสองค่ะ
ได้เรียนรู้และเข้าใจปัจจัยเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตแล้ว ก็อย่าปล่อยผ่านไปนะ นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้น ถ้าไม่อยากจะเสียเวลามานั่งรักษาอาการป่วยที่ส่งผลเสียลามไปถึงเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ยังไม่สายค่ะ
หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง
Create Date : 26 กันยายน 2558 |
|
42 comments |
Last Update : 26 กันยายน 2558 13:18:23 น. |
Counter : 3066 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: moresaw 26 กันยายน 2558 15:23:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 26 กันยายน 2558 18:54:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาปอมซ่า 26 กันยายน 2558 20:45:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 26 กันยายน 2558 21:03:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 27 กันยายน 2558 9:09:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 27 กันยายน 2558 19:40:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรัซซี่ 27 กันยายน 2558 20:15:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 28 กันยายน 2558 12:25:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาปอมซ่า 28 กันยายน 2558 20:41:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้นกะลา 29 กันยายน 2558 1:33:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: wite IP: 27.55.158.138 29 กันยายน 2558 17:44:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 29 กันยายน 2558 20:07:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 30 กันยายน 2558 0:19:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชมพร (ชมพร ) 1 ตุลาคม 2558 14:58:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ALDI 1 ตุลาคม 2558 20:53:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตยจ๋า 1 ตุลาคม 2558 22:27:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 2 ตุลาคม 2558 8:42:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: moresaw 3 ตุลาคม 2558 7:40:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Panvart IP: 49.230.114.105 3 ตุลาคม 2558 20:48:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: พันคม 5 ตุลาคม 2558 16:29:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 8 ตุลาคม 2558 21:09:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 10 ตุลาคม 2558 10:10:13 น. |
|
|
|
|
|
|
เริ่มทำ Blog ครั้งแรกเมื่อ 27 ก.ค.54
เริ่มนับ 2 มี.ค.55
ขอบคุณภาพประกอบจากบล็อค
คุณญามี่
คุณยายเก๋า
คุณนุช oranuch_sri
กรอบภาพจากบล็อค
คุณ Lozacat
คุณ KungGuenter
|
|
|
|
|
|
|
ปัจจัยเสี่ยงเกิดนิ่วในไตมีหลายอย่าง
คงต้องระวังดูแลสุขภาพตัวเองแล้วครับ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น