|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การนวดเพื่อสุขภาพ
| . | | |
จากข่าวที่สาวใหญ่ช็อคดับ หลังไปนวดจับเส้น วันนี้เลยเอาเรื่องประโยชน์ และข้อห้ามของการนวดมาฝากเพื่อนๆ ประโยชน์ของการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 1. ต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตทำให้เลือดและน้ำเหลืองถูกบีบออกจาก บริเวณนั้นช่วยลดอาการบวม และมีเลือดและน้ำเหลืองใหม่มาแทน ระบบไหลเวียนจึง ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2. ต่อระบบกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพดีขึ้น ลดอาการเมื่อยล้า ทำให้กล้ามเนื้อ หย่อนลง ผ่อนคลายความเกร็ง ลดอาการบวมและบรรเทา ความเจ็บปวดบรรเทาอาการขัดยอก ช่วยขจัดของเสียที่คั่งค้างอยู่ตามกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น โดยทำให้เนื้อเยื่อส่วนนั้นแข็งแรงและ ยึดเกาะติดกันแน่นช่วยลดสาเหตุของการพองตัว หนาขึ้นของบาดแผล ในรายที่มีพังผืดเกิดภายในกล้ามเนื้อ การนวดจะทำให้พังผืดอ่อนตัวลง ทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นดีขึ้นอาการเจ็บปวดจะลดลง 3. ต่อผิวหนัง ทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้นมากขึ้น ทำให้ผิวหนังเต่งตึง ทำให้ตัวยา ดูดซึมได้ดีขึ้นทางผิวหนัง หลังการนวดที่นานพอควร การคลึงในรายที่มีแผลเป็น ช่วยให้เลือดไปเลี้ยง บริเวณนั้นมากขึ้น ทำให้แผลเป็นอ่อนตัวลงหรือเล็กลง
4. ต่อระบบทางเดินอาหาร เพิ่มความตึงของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ กระเพาะอาหารและ ลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายเป็นระบบ
5. ต่อจิตใจทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายกายและใจ รู้สึกแจ่มใส กระฉับกระเฉง ลดความเครียดและความวิตกกังวล
6. การนวดสามารถช่วยลดอาการต่างๆดังนี้ คอแข็งและไหล่เคล็ด เจ็บที่ปีกไหล่ เอ็นอักเสบ การปวดน่องปวดสะโกพ เส้นเลือดพอง โรคไซนัส ไซนัสอักเสบนำไปสู่อาการเจ็บปวดในศีรษะและหน้า การนวดจะ ช่วยได้มากโดยการนวดลากลงไปตามจมูกแล้วข้ามไปที่แก้ม เส้นเลือดขอด เส้นเลือดขอดจะมีอาการเจ็บปวด และรู้สึกปวด ๆ เมื่อย ๆ ขาบวม ซึ่งสามารถช่วยได้โดยการนวดขาเบา ๆ ทำให้กล้ามเนื้อน่องคลายตัว
โทษของการนวด 1. ทำให้เกิดอาการระบม หรือชอกช้ำมากกว่าเดิม 2. ทำให้เกิดอาการบวมแดงมากกว่าเดิมในกรณีมีบาดแผลหรือเกิดอุบัติเหตุเจ็บป่วยมา
3. ทำให้เกิดอาการหลอดเลือดแตก หรืออักเสบหรือเนื่องจากหมอนวดไม่รู้สมมุติฐานของโรคที่แท้จริงอาจเกิดผิดพลาดได้
4. ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนหลังจากการนวดเสร็จเช่น โรคความดัน
5. ทำให้เกิดอาการอักเสบติดเชื้อรุนแรงตามหลังมา เช่นโรคใส้ติ่งอักเสบ กระเพาะอาหาร
6. ทำให้หมอนวดหรือผู้ถูกนวดติดต่อโรคจากกันได้ในกรณีมีเชื้อโรค
ในการนวดนั้นมีข้อห้าม และข้อควรระวังใครที่มีโรคประจำตัว หรือชอบการนวดแผนไทย ควรจะศึกษาให้ดีก่อนเพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมาอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือถึงขั้นเป็นอัมพาต ร้ายแรงที่สุดก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้
ข้อห้าม และข้อควรระวังก่อนนวด 1. ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีภาวะควบคุมไม่ได้ (Unstable heart disease) ไม่ควรนวด เพราะอาจจะทำให้ช็อคได้ 2. ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ไม่ควรนวดเพราะจะทำให้เชื้อของมะเร็งเเพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ หากปวดเมื่อยมากจริงๆ ก็สามารถนวดได้เบาๆ แต่ต้องหลีกเลี่ยงตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง 3. ผู้ที่มีปัญหามีลิ่มเลือดในหลอดเลือด โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานมาเป็นเวลานาน มีไขมัน ในเส้นเลือดสูง อาจจะมีผนังหลอดเลือดที่ขรุขระทำให้เกล็ดเลือดไปเกาะ และจับตัวกลายเป็นลิ่มเลือดได้ ซึ่งพบบ่อยบริเวณกล้ามเนื้อน่อง ทำให้มีอาการปวด และบวมแดง หากนวดแล้วลิ่มเลือดหลุด มักจะเข้าไปอุดเส้นเลือดที่ปอดและเป็นอันตรายต่อชีวิตกล้ามเนื้อช้ำเเละหายยาก 4. ผู้มีภาวะลิ่มเลือดอักเสบและอุดตันด้วยลิ่มเลือด (Thrombophlebitis) 5. ผู้มีความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมไม่ได้ (Uncontrollled hypertension) และความดันโลหิตสูง คือ systolic สูงกว่าหรือเท่ากับ 160 mmHg และ/หรือ diastolic 100 mmHg หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดหัว ใจสั่น ร่วมด้วย ไม่ควรนวด 6. หากความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดแดงที่ท้องเป็นกระเปาะ ไม่ควรกดท้อง เพราะเสี่ยงต่อการทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่ที่ท้องปริจนมีอันตรายถึงเสียชีวิตได้ 7. ผู้เป็นโรคกระดูกพรุนรุนแรง หรือต้องกินยารักษาโรคกระดูกพรุนอยู่ 8. ผู้เป็นโรค Multiple myeloma ทำให้กระดูกมีความเปราะบางคล้ายโรคกระดูกพรุน 9. ผู้มีเนื้องอกที่กระดูก หรือมีการติดเชื้อในกระดูก เพราะจะทำให้บริเวณนั้นกระดูกหักง่าย 10. เป็นโรคทางระบบประสาทโดยเฉพาะไขสันหลังที่ยังมีอาการชัดเจน และแย่ลงเรื่อยๆ 11. มีเนื้องอกที่ไขสันหลัง 12. เส้นประสาทไขสันหลังถูกกดทับจากสาเหตุต่างๆ เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ช่องกระดูกสันหลังตีบแคบ กระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังหักยุบตัว เป็นต้น เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปได้ 13. ผู้เป็นโรคผิวหนัง เพราะจะทำให้เชื้อแพร่ออกไปบริเวณอื่น และแพร่มาสู่ผู้นวดด้วย 14. มีภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง (Abdominal aneurism) 15. โรคเลือดชนิดฮีโมฟิเลีย (Hemophilia) 16. ผู้ที่มีภาวะผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจทำให้เลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจ้ำ หรือเป็นก้อนเลือดในกล้ามเนื้อได้ 17. เป็นไข้พิษ ไข้กาฬ เช่น อีสุกอีใส งูสวัด 18. ผู้สูงอายุที่ต้องการนวดแผนไทย ควรจะให้ผู้นวดลดระดับน้ำหนักมือลงมากพอสมควร เพราะผู้สูงอายุจะมีร่างกายที่เปราะบาง กระดูกบาง หากกดแรงๆก็ทำให้กระดูกหักได้เช่นกัน 19. ผู้ที่ไม่เคยนวดแผนไทยมาก่อน หรือนวดครั้งแรกๆ กล้ามเนื้ออาจจะเกร็งไม่ผ่อนคลายขณะถูกนวด จึงมักเกิดอาการปวดยอกระบมกล้ามเนื้อ ซึ่งจะหายภายใน 2 3 วัน หลังจากนั้นจะกลับรู้สึกสบายหายปวดเมื่อย แต่ถ้าอาการยังมีมากควรจะปรึกษาแพทย์ 20. ไม่ควรนวดในขณะที่มีไข้เพราะกล้ามเนื้อจะยอกและระบมได้ง่าย 21. มีอาการปวดมาก บวม แดงร้อนของข้อ ให้หลีกเลี่ยงจนกว่าอาการจะทุเลาก่อน 22. หากจะนวดท้อง ควรรับประทานอาหารมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 นาที 23. ไม่นวดอย่างรุนแรงหรือนานเกินไป โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อ เช่น หน้าหู ใกล้กระดูกไหปลาร้า รักแร้ เพราะอาจเกิดการอักเสบ ฟกช้ำได้ 24. ผู้ที่มีภาวะข้อหลวมหรือเคลื่อน เช่น ผู้ป่วยไขข้อรูมาตอยด์ ผู้ที่มีกระดูกสันหลังเคลื่อน ไหล่หลวม ควรหลีกเลี่ยงการดัด และบีบนวดบริเวณนั้น บริเวณใกล้เคียงสามารถนวดได้ แต่ต้องให้ความระมัดระวัง 25. หากบาดเจ็บกระดูกหัก และกระดูกยังไม่ติดสนิท ไม่ควรนวดเพราะความแข็งแรงอาจจะยังไม่เพียงพอต่อแรงนวด 26. อวัยวะเทียมบริเวณข้อต่อควรหลีกเลี่ยงการนวดที่รุนแรง 27. ใส่อวัยวะเทียมหลังผ่าตัดกระดูก 28. สตรีตั้งครรภ์ไม่ควรนวดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนแรก เพราะเด็กในครรภ์ยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ แต่หากมีอาการปวดหลังในช่วงที่เลย 3 เดือนแรก ก็สามารถนวดได้ แต่ด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรนวดบริเวณหน้าท้อง ควรนอนตะแครงนวดห้ามนอนคว่ำ 29. ควรจะได้รับการนวดอย่างเบามือบริเวณศรีษะ กระหม่อม ทัดดอกไม้ (temporal bone) และใบหน้า เพราะมีหลอดเลือดและเส้นประสาทอยู่มาก ไม่ควรดัดหรือดึงที่คอ เพราะอาจทำให้กระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท จนกลายเป็นอัมพาตได้ 30. ไม่ควรดัดหลังอย่างรุนแรง อาจทำให้มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ ซึ่งหากมีเส้นประสาทอยู่ใกล้จะได้รับอันตรายไปด้วย ไม่นวดบริเวณต่อมไทรอยด์ และไหปลาร้า 31. บริเวณแขน ไหล่ ที่สามารถขยับได้มาก ไม่ควรให้นวดแรง เพราะอาจทำให้หัวไหล่หลุดได้ 32. บริเวณรักแร้จะมีต่อมน้ำเหลือง เส้นเลือด เส้นประสาทมาก หากมีอาการเสียวแปล๊บลงแขน ต้องหยุดทันที 33. การเปิดปิดประตูลมไม่ควรกดนานกว่า 45 วินาที และอย่าใช้แรงกดมากเกินไป เพราะอาจทำให้หลอดเลือดช้ำอักเสบ รวมทั้งเกิดอาการชาได้ เนื่องจากเส้นประสาทขาดเลือดไปเลี้ยงนานเกินไป 34. ไม่ควรนวดในขณะที่มีไข้ เพราะกล้ามเนื้อจะยอกและระบมได้ง่าย 35. มีอาการปวดมาก บวม แดงร้อนของข้อ ให้หลีกเลี่ยงจนกว่าอาการจะทุเลาก่อน เพราะมันอักเสบอยู่เเล้ว ถ้านวดจะทำให้อักเสบมากขึ้น 36. สตรีที่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ไม่ควรนวดเพราะจะทำให้เลือดลมผิดปกติ หรือเกิดการอักเสบบริเวณท้องได้ 37. บริเวณที่มีบาดแผลเปิด หรือบริเวณที่แผลเริ่มที่จะผิด 38. หากทานยาเเก้ปวดมาก่อนทำการนวด จะทำให้กล้ามเนื้อชา นวดเเล้วไม่เห็นผล 39. หากนวดเพื่อรักษาอาการปวดก็ไม่ควรที่จะนวดทุกวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักบ้าง อาจจะนวดวันเว้นวัน และเมื่ออาการทุเลาลงก็ค่อยๆทิ้งช่วงห่างขึ้น จนอาการหายก็หยุดนวด
ทีนี้เราก็รู้แล้วว่าเราอยู่ในกลุ่มที่ห้ามไปนวดหรือเปล่า และมีอะไรที่ควรจะระมัดระวังบ้าง ขณะเดียวกันผู้นวด ก็ต้องหลีกเลี่ยง การกดจุดนวดตามจุดต่างๆ อันได้แก่ ตามแนวกระดูกและหลอดเลือด เช่น, แนวกระดูกต้นคอ, สันหลัง, ซี่โครง, บริเวณข้างคอ, ใต้หู, หลังหู, ต่อมน้ำเหลืองใต้คาง, จุดเปิดประตูลม (ควรทำแค่ครั้งเดียว) การนวดหลังนั้นจะเป็นการนวดตามแนวสันกล้ามเนื้อไม่ใช่กระดูก ส่วนจุดที่ต้องระวังคือการกดจุดเปิดประตูลม ควรทำแค่ครั้งเดียว และจุดที่เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทต่างๆ เช่น ข้อพับแขน ข้อมือ และข้อพับขา การนวดอาจเป็นส่วนช่วยผ่อนคลายให้สบายได้จริง แต่คงไม่ทั้งหมด ทางที่ดีควรหมั่นออกกำลังกาย ทานให้ครบ 5 หมู่ แล้วพักผ่อนให้เพียงพอก็ทำให้สดชื่นสบายๆ ได้เหมือนกัน
หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง
| | | | |
Create Date : 24 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2558 0:04:13 น. |
|
40 comments
|
Counter : 6983 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:23:37 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:24:36 น. |
|
|
|
โดย: moresaw วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:34:04 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:19:13:44 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:19:50:34 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:25:04 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:50:01 น. |
|
|
|
โดย: ชมพร (ชมพร ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:34:41 น. |
|
|
|
โดย: ผมไม่ได้บินคนเดียว (เตยจ๋า ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:49:48 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:48:07 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:2:01:23 น. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:3:22:20 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:7:52:15 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:32:38 น. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:56:03 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:19:13 น. |
|
|
|
โดย: anigia วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:19:51 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:2:57:10 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:23:39 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:35:53 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:05:32 น. |
|
|
|
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:43:28 น. |
|
|
|
โดย: ALDI วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:2:50:18 น. |
|
|
|
โดย: Kisshoneyz วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:56:04 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 29 พฤษภาคม 2558 เวลา:7:07:02 น. |
|
|
|
โดย: ประกายพรึก วันที่: 29 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:30:44 น. |
|
|
|
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 29 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:38:32 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:11:29:13 น. |
|
|
|
โดย: เขมอนันท์ วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:07:47 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:47:52 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:10:06 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 31 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:39:20 น. |
|
|
|
|
|
|
เริ่มทำ Blog ครั้งแรกเมื่อ 27 ก.ค.54
เริ่มนับ 2 มี.ค.55
ขอบคุณภาพประกอบจากบล็อค
คุณญามี่
คุณยายเก๋า
คุณนุช oranuch_sri
กรอบภาพจากบล็อค
คุณ Lozacat
คุณ KungGuenter
|
|
|
|
|
|
|