บล๊อกประจำวันจันทร์ / ศุกร์ |
|
ไปเยือนทะเลสาป อินเล แล้วลองเข้าค้นดู การเป็นไปการปลูกผัก บนแพ |
เลยได้รู้ว่า ชาวเล น้ำจืดแห่งนี้ปลูกแบบนี้เกือบ 100 ปี...แล้วมีคนสนใจ นำไปปลูก |
บ้าง แต่ใช้วิธี ปลูกบนโฟม ลอยอยู่บนกะบะน้ำ แล้วใส่ปุ๋ยทางน้ำ ที่ไหลช้า ๆ |
ให้พืชดูดซึมไปเลี้ยงลำต้น ใบ ผล ที่เรียกว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ |
|
เขาพัฒนาปลูกในโรงเรือนคุม ความชื้น อุณหภูมิ และคุมโรคพืชเพื่อลดต้นทุน |
เรียกว่าใช้ ยาปราบเพี้ยน้อยลง เกือบไม่ได้ใช้ ซึ่งดีต่อร่างกายของ ผู้กินผัก |
แม้ราคาจะแพงกว่า ผักที่ฉีดยา แต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง |
|
ผมกับเพื่อน ๆ บล๊อกแกงค์ คุณโอ เนินน้ำ คุณบ่งบ๊ง คุณเปี๊ยกหรือ พูดไม่เก่งแจ๋งทุกคำ เคยไปเที่ยวสวนโฮโดรโปนิกส์ ที่ จ.นครนายก น่าสนใจ |
|
|
ก่อนไปดู คาดว่า การปลูกคงจะสวยแบบ ภาพข้างบนรูปแรกนะครับ ที่ไหนได้ เป็นแบบภาพข้างบน อากาศร้อนสุด ๆ 3 บล๊อกเกอร์ต้องกางร่ม กลับจากไปเที่ยว ที่อินเล...นึกได้ว่า พวกเราไปเที่ยว สนุกกันไม่ใช่น้อย แถม แหะ ๆ แอบเด็ด |
ผักชนิดหนึ่ง ที่ สวนวังตระใคร้มาทำเมี่ยงคำ อร่อย |
เพื่อนที่เข้ามาอ่าน คงจะ งง.. เดี๋ยวไปเมียนม่า แต่ตอนนี้อยู่ในเมืองไทย เดี๋ยวนี้ทันสมัย บินไปในอากาศ แต่ จิตไว ล่องลอย กลับไทยได้ไวกว่า งั้นกลับ ไป เมียนม่าร์ต่อนะครับ |
หลังจากที่เรา ปั่นจักรยานชนิดจ่ายตลาดแม่บ้าน ซึ่งขี่ยาก เพราะเวลานั่งแล้วน้ำหนัก |
ตกอยู่ท้ายรถ หน้ารถเลยเบาหวิว เรียกว่าหน้าไวมาก ๆ ขี่ยากกว่า |
จักรยานเสือภูเขา หรือชนิดเสือหมอบมากมาย แต่ก็โอเค |
|
ทีมเที่ยวเรา ปั่นหลงทาง ไปอีกทาง เธอคงช่างสังเกตมั้ง เลยเลี้ยวกลับโรงแรมได้ |
ไม่นานเท่าใด เดินขึ้นไปชั้นสอง เข้าสู่ห้องอาหาร |
ในห้องอาหาร แขกเข้าไปกินเยอะแล้ว แต่อาหารไม่ต้องห่วง โรงแรมเติมตลอดเวลา |
ผมอยากกินออมเล็ต น่ากินเลยสั่งไป 2 ชิ้น พนง.เขาใช้ ตีใข่กับนมสด |
พอได้ที่ก็ลง กระทะ แป๊บเดียวตักใส่จาน โอโหเยอะครับ ไข่น่าจะโต |
|
อร่อย...กัดฟันกิน เลยลดอาหารอื่น พวกใส้กรอก เบคอน แฮม ขนมปัง แผ่นเดียวพอ อาหารเช้าพวกเรา ก็ไม่พ้น ภาพแบบข้างล่างนี้แหละครับ |
ยังมี ข้าวเหนียวดำโรย ถั่วหัวช้าง อีกคนละห่อ |
เพื่อน ๆ อาจจะไม่รู้จักถั่วหัวช้าง ลองดูภาพข้างล่าง จะมีขายแถว อ.ปาย อ.แม่สอด ถั่วนี้ มีอีกชื่อว่า ชิกพี Chickpea |
ส่วนใหญ่เราจะกินแบบ คั่วแห้ง หอมอร่อยมาก |
|
ยังมี |
ปาท่องโก๋ ที่ซื้อมายาว ตัวโต เนื้อแน่นหนึบ ไม่โป่งพองกรอบ |
แบบไทย ส่วนข้าวเหนียวดำจากตลาดสด เขาคงจะไม่ใส่กะทิ หรือใส่น้อยมาก ๆ |
จืดสนิท เคี้ยวกินกับถั่วหัวช้าง ออกเค็มนิด ๆ พอไหวครับ |
|
สรุปแล้ว อาหารเช้าของโรงแรม Inle Apex อร่อย ตบท้ายด้วย ชาร้อน หอม |
บางคนก็ว่า ข้าวต้มอร่อย... ในบรรดาแขกที่มากิน ส่วนใหญ่ผิวขาว อีกกลุ่มนอกจากพวกเราแล้ว น่าจะเป็นชาวเมียนม่าเมืองอื่น |
ดูภูมิฐาน เรียบร้อย เอ้ยเป็นแบบ คนมีกะตังค์ครับ |
|
|
แต่ไม่เห็นคนจีนเลย แปลก... เพราะเพื่อนลูกชายทำงานในพม่า เขาบอกว่า คนจีนมาลงทุน |
ทำไม้แถวนี้เยอะ มานานก่อนเพื่อนด้วยซ้ำ.... ดูภูเขารอบ ๆ เมืองยองชเว โกร๋น |
ตอนที่เราบินจาก Yangon ย่างกุ้ง เห็นดอยสูง ลดหลั่นโกร๋น มีถนนสีแดงตัดผ่าน |
ชาวจีน คงกลับไปอยู่ที่อื่นแล้ว |
อันนี้เป็นข่าว ที่ไม่ได้กรองนะครับ อย่าได้เชื่อ...แต่ที่เชื่อได้ คือ ดอยโกร๋น ครับ |
|
เรากลับห้องพัก อาบน้ำ แต่งตัว แถม เก็บแปรง ยาสีฟัน หวี แชมภูที่ไม่ใช้ |
ก็เขาคิดตังค์เราแล้วนี่ครับ กลับไปใช้ในไทยต่อ...ยังไงกระเป๋าไม่เกิน 17 กก.อยู่แล้ว |
ก่อนไปเมียนม่าร์ เพื่อน ๆ เขาบอกว่า ให้ผมเตรียม สบู่ ยาสีฟันแปรง แชมภูไปด้วย |
นะ ที่เมียนม่าร์ ไม่มีให้...ผมก็เชื่อ.... ที่ไหนได้ มีนะครับ |
|
ราคาห้องพัก ไม่ได้แพงอย่างที่ Yangon ที่นี่ ห้องพักเตียงคู่ 1100 กว่าบาท |
แถมอาหารเช้า ไวฟาย ด้วย.. เราจองจากไทย เลยสบาย ๆ |
|
พูดถึง ค่าเช่าจักรยาน เราเช่า ตอนเย็น กับ วันกลับ คันละ 100 บาทได้ราคาถูก |
ไม่แพง.... ทุก ร.ร.มีให้เช่าหมด เมืองไม่กว้าง น่าปั่นไปเที่ยวซอกซอนไปเรื่อย ๆ |
ผมเองยังปั่นไปดู ภาพวาดสีอคิริค สีน้ำ ใกล้กับทุ่ง ซื้อแล้ว |
จะม้วน ๆ แบบวาดด้วยสีน้ำก็ไม่ได้ ไม่รู้จะนำกลับไทยไทยอย่างไร มันเกะกะ |
|
ได้เวลา รถตู้ที่ให้โรงแรมเรียกให้มาถึง ใช่แล้วครับ ได้เวลาจาก ทะเลสาปอินเล |
และเมืองยองชเวที่สงบ น่ารักมาก ๆ ไปสู่เมือง Bagan หรือที่คนไทยเรียกว่า พุกาม |
รถตู้สอาดมาก แอร์เย็นฉ่ำ เราจะไปสนามบิน Heho อีกครั้ง |
|
ที่น่าแปลกใจ โชเฟอร์ขับพาไปถนนเส้น ริมบึงน้ำใหญ่ที่เราไปเที่ยวตอนเช้าที่ผ่านมา |
ถนนไม่กว้าง แต่สวย ไม่ใช่เส้นเดิม ที่ผ่านทุ่งนา และป่าเขาที่แห้งแล้ง |
แถมถูกเก็บค่าเหยียบย่ำ เมืองอินเล คนละ 10 U$ ดุแสงอาทิตย์แล้ว ถนนเส้นนี้น่าจะ |
อ้อมกว่าเส้นเดิมที่ตัดตรงสู่เมือง ยองชเวปากทางสู่ทะเลสาป Inle |
|
ขับไปไม่นาน โชเฟอร์แวะ บอกว่าวัด ด้านซ้ายมือ เป็นวัดเก่ามาก ๆ คนมักจะแวะ |
ดู ใจดีมาก ๆ เลยน้องโชเฟอร์คนนี้ พวกเราเลยเดินไปดู ทั้งที่อากาศร้อน |
|
|
|
เราเดินดูเป็นวัดเก่าจริง ๆ ศาลาปลูกสร้างด้วยไม้สัก แผ่นโตมาก ๆ กลับมานั่งรอ |
ทีมเที่ยว เห็นเณรนั่งอยู่ นึกได้เลยว่า อ๋อ วัดนี้เองที่ลงหนังสือท่องเที่ยวบ่อย ขึ้นไปดูข้างบน มีทั้งภิกษุ และเณรน้อย ความเป็นเด็ก เลยชะโงกหน้าไปดู บรรดา ชาวต่างชาติที่แวะมาเยือน |
|
ก่อนเที่ยงวันนั้นอากาศร้อน พอสมควร ไม่เย็นเหมือนตอนเช้าเลย ให้บังเอิญ ห้องอาบน้ำพระภิกษุอยู่ แนวเดียวกับศาลาไม้ที่เราขึ้นไปดู น่าจะค่อนอยู๋ข้างหน้ากว่าศาลาด้วยซ้ำ |
พระ และ น้องเณร กำลังอาบน้ำ แอบถ่ายมานิด |
แล้วก็ส่องกล้องไปดูที่อื่น เกรงพระท่านจะอาย.. จริงนะ |
มองดู พระภิกษุโกนหัวให้ เณร บางองค์ก็นำผ้าจีวร สบงไปตากที่ราว |
ระหว่างนั้นมีพระภิกษุ นุ่งสบงผืนเดียว ออกมาสลัด ผ้าที่เปียกแล้ว พาดตากไว้ |
อย่างที่เห็นในภาพข้างล่าง |
|
|
ดู ๆ แล้ว 555 กางเกงในพระครับ... ในไทยไม่นุ่ง ที่นั่นคงไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ |
น่าจะเหมือน พระไม่ต้องโกนคิ้ว ออก อาจจะแปลกในสายตาคนไทยหน่อย |
จะว่าของน้อง เณร.. คงจะไม่ใส่ตัวโตแบบนี้เนาะ |
ถั่วหัวช้าง
ไม่เคยลองชิมเลยครับ
เวลาไปแม่สาย
จะเห็นถั่วแปลกๆเยอะ
แต่ก็ไม่เคยลองครับ
นอกจากถั่วปากอ้า
เณรนั่งริมหน้าต่าง
เห็นในนิตยสารหรือบล็อกบ่อยมากเลยนะครับ