No. 370 กิน ..เที่ยว เมืองชายทะเลสาป อินเล เมียนม่าร์
บล๊อกประจำวัน จันทร์ / ศุกร์ | | เราบินจาก yangon ไปลงที่สนามบิน Heho อยู่ห่างจากเมือง | ที่เราจะไปหลายสิบกิโล ผ่านป่าโปร่ง เป็นภูเขาเตี้ย มีบ้านคนบ้าง ถนน | ส่วนใหญ่เป็น ดินลูกรัง บางช่วงเป็น ชนิด ลาดยางแบบเก่า | ผ่าน ทุ่งราบ เคยชุ่มน้ำ ดูแล้วไม่ผิดแน่ เพราะ เดือนที่เราไป ฤดูแล้ง | แต่ในลำคลองที่ทอดยาวเคียงข้างถนนสองข้างมีน้ำขังอยู่ | ในฤดูฝน ต้องมีน้ำเปี่ยม ล้นคลองเข้าสู่ท้องนา ปลูกข้าวเขียวสพรั่งแน่ | | ไปถึงโรงแรมที่พัก ในเมือง นยองชเว เป็นถนนใจกลางเมือง เลยก็ว่าได้ | เข้าพักโรงแรมที่เราจองไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่อยู่ไทยแล้ว ราคาคบกันได้ | เพียง พันกว่าบาทไทย... มีแอร์ น้ำอุ่น อาหารเช้าให้กินด้วย | | เดินไปแถวริมคลอง เจอคนขับเรือ เสนอตัว.. หมอพูดภาษาอังกฤษได้ | สบายหน่อย เลยบอกจุดที่เราจะไป ออกเดินทาง และเดินทางกลับกี่โมง | วันพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน เรายืนอยู่กัน 5 คน | คนขับเรือ ขอจับมือเขย่าทุกคนเลย พี่แกคงจะสร้างความมั่นใจแก่ตัวเอง | ว่าเราไม่เบี้ยวแน่ คืองี้ครับ คลองที่ทอดยาวไป มีเรือเยอะมาก ๆ | เราเดินไปไหน พี่แกก็ยังคอยเดินห่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ | คงกลัวเพื่อน ๆ มากันงาบ เอ้ย ตัดราคาซะมากกว่า เราไม่ทำอยู่แล้ว | | ระยะที่เดินเล่นกัน แถวนั้นตามประสา คนไทยอยากจะเห็นบ้านเมือง | เมียนม่าร์ จะแตกต่างกว่าไทย หรือเหมือนทางจังหวัดไหน | | เดินไปด้วยเท้า เป็นกลุ่ม ดู ๆ แล้วบ้านเขาคล้าย ภาคเหนือของไทย | มีรั้วรอบขอบชิด มีต้นไม้ และมี ซุ้มน้ำดื่ม ให้ทุกคนดื่มได้ | ที่เห็นข้างบนข้างล่าง เป็นบ้าน อาคารสมัยใหม่หน่อย ข้างล่างนี้โรงแรม เราไม่ได้พัก ข้างล่างเป็นบ้าน ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป คล้าย ๆ กัน หลังนี้ฝากบ้านเป็นไม้ไผ่สานขัดลายสอง สวย หรือลายอะไรไม่รู้นะครับ เดี๋ยวเรียกผิด 555 เลยเรียกว่า "ลายขัดกัน" | พวกเราใช้วิธีการเดินไปเรื่อย ๆ ไม่มีแท๊กซี่ให้เห็น มีแต่จักรยานให้เช่า | เดินจนเมื่อยขา เพราะซอกซอยมันเยอะ ไม่ได้ห่วงค่าเช่าจักรยานหรอก | ค่าเช่าถูก แต่ในทีมเที่ยว มีคนรับการผ่าตัดเข่า ไม่เหมาะที่จะใช้ปั่น | เลยต้องย่ำต๊อกกัน พอเมื่อยมาก ก็กลับไป นอนพักที่โรงแรม ยังไม่ถึงเวลากินอาหารเย็น | ส่วนผมเหรอ เล่นเน็ต ในห้องนอนได้ ความเร็วพอไหว ฟรีด้วย พอได้เวลา ก็ย่ำเท้า ทอดน่องกันเรื่อย ไปหาอาหารไทยกิน แต่ร้านข้างล่างนี้ไม่ใช่นะครับ | ข้างล่างเป็นอีกโรงแรมหนึ่ง ดูสงบ ถนนเส้นตรงจากโรงแรมที่เราพัก มุ่งไปสุดสายตา แหะ ๆ ไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน เดิน ชมบ้าน และวิถีชีวิตของชาวบ้าน อยู่กันอย่างสงบ ที่นี่ มีรถยนต์ใช้ ไม่มากนัก สามล้อเครื่องแบบขนของแถวชายทะเลบ้านเราก็มี ส่วนมอเตอร์ไซค์ มีใช้นะครับ ไม่เหมือนเมือง Yangon ไม่มีเลย ส่วนเราย่ำตอก ซอกซอนไปเรื่อย | ตกเย็นก็ย่ำจากหัวถนนซ้ายมือ Phaung Daw Side Rd อยู่บนสุด เดินไป | ข้างของแผนที่ด้านขวา ล่าง ใกล้กับตัวอักษร แก้ไขใน Google | ยังไม่ถึงจุดหมาย เดินต่อ ข้างนี้ใช่เลย ร้านอาหารที่เราจะไป เข้าไป เป็นร้านเปิดโล่ง ร่มเย็น ที่นั่งสบาย ข้างในเป็นโต๊ะยาว เตรียมไว้รับทัวร์ สองโต๊ะยาว... คงจะหลายสิบคน เรานั่งริมระเบียง ด้านหน้า ได้เวลา กินอาหารเย็น แต่ร้อนแรง น่าจะเป็นไปตามชื่อร้าน ได้ข้อมูลจาก หนังสือ ภาษาอังกฤษ เป็นคู่มือที่ซื้อมาดู ราคา 800 กว่าบาท แพงเหมือนกัน ซื้อที่ ไทยนะครับ | | ไกลน่าดู แต่ต้องทนเพราะรู้ว่า อาหารเมียนม่าร์ ไม่ถูกปากจริง ๆ | ตอนอยู่ในไทย หาข้อมูลรู้ว่าร้านนี้ มีชื่อด้านอาหารไทย เราเลยลุ้น | ผัดข้างล่างนี้ โอเค มีรสหมู เห็ดหูหนูนิ่ม ๆ ต้นหอม หอมหัวใหญ่ ใช้ได้เลยครับ มีแครอท พริกหวานหน่อย | ข้างล่างดูหน้าตาแล้ว ใช่เลย ต้มยำกุ้ง ตักชิมน้ำอันดับแรก... รส ออกมัน ไม่เหมือนคนไทยทำ คือ ปกติของที่พวกเราทำ จะมีรสเปรี้ยวนำ ตามเค็ม แล้วก็ความหอม นุ่มนวลของกระทิ เผ็ดหอมด้วยพริกขี้หนูนิด แต่นี่ไม่ใช่ครับ เลยให้ทุกคนชิม ได้แต่มองหน้ากัน กินอย่างอื่นไปก่อน พอกินสักพัก กระซิบ... เฮ้ย เราขอ มะนาวดีไหม กลัวเขาโกรธนะ สรุปแล้ว ไม่เป็นไร เลยขอมะนาวมาปรุงเพิ่ม ปรุงเอง โอเคครับ ส่วนกุ้ง พอมี ให้ กิน 6 ตัวเท่านิ้วก้อยหญิง หมายถึงคนละ ตัว.. เราไปกัน 5 คน ในฐานะอาวุโสเลย ได้กินมากกว่าคนอื่่นหนึ่งตัว 555 แกงป่า ไก่.. รสไม่เหมือนอีกแหละ สีเหมือนเด๊ะ... ผมว่าขาดความหอมผักอะไรสักอย่าง ทีแรก กะจะได้กิน เนื้อไก่บ้าน คือสั่งไก่บ้าน คนรับออเดอร์ โอเค แต่มาจริง เขาคง หวังดี ให้เนื้ออก ไก่...ไร้มัน สังเกตมาหลายร้านในเมียนม่าร์ เขาใช้เนื่อหน้าอก เป็นหลัก ส่วนปีก ตะโพก น่องไก่ ไม่เคยเห็นทำให้เรากิน ยังคิดอยู่เลยว่า สงสัยเอาไว้กินเอง จริงนะครับ ได้กินไก่ แกะแทะกระดูกไก่ ขบให้แตก น้ำข้างใน อร่อยจะตายไป ภาพแกงป่า ไก่บ้าน(เขา) ทราบแล้วว่า ขาดผักอะไร ผักคาด หรือผักเผ็ดที่ดอกสีเหลืองอีกอย่่าง ชะอม ไม่ใส่เลยไม่หอม นึกออกตอนที่นั่งพิมพ์วันนี้เอง ส่วนข้างล่าง เต้าหู้ทอด นุ่ม รสดี จำได้ว่า น้ำจิ้มเขา คล้ายกับ น้ำซอสปรุงรส พริก ไม่ใช่ น้ำส้ม น้ำปลา ใส่ถั่ว แบบบ้านเรา ข้างนี้ใข่เจียว จานใหญ่มาก ๆ กรอบใช้ได้ แต่น่าจะ ผสมแป้งกรอบเข้าไปด้วย อร่อยครับ แต่เรากินไม่หมด ข้างล่าง เราสั่งปลาทอด ตักกินแล้ว เนื้อนุ่ม มีอะไรราดหน้ามาด้วย.. ไม่เหมือนปลาทอดแบบ ที่ เคยกิน ของเราจะนำปลาที่บั้ง ลงทอดในน้ำมันให้ท่วม เนื้อนอกจะได้กรอบ ข้างในนุ่ม แต่นี่ไม่ใช่ครับ ปลาทอด ชุ่มน้ำมัน ตบท้ายด้วย ผัดผัก ใช้ได้เลย กินเสร็จ เช็คบิล เขาเขียนเป็นภาษาเมียนม่าร์ แต่ตัวเลขเป็น ตัวเลข อารบิค ก็ อังกฤษ 40,000 กว่าจ๊าด.. ราคานี้คิดน้ำดื่ม 2 ขวด เบียร์พม่า 1 ขวด คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1,300 กว่าบาท โอเคเลยครับ พูดถึงรสชาด อาหาร พอไหวครับ ร้านนี้ แม้เราจะเสียมารยาทขอ มะนาวมา เขาใจดีมาก ฝานผ่ามะนาวมาให้หลายชิ้น ใส่จานรองถ้วยกาแฟมาให้ อาหารที่เขาทำ เกือบทุกร้าน ไม่เจือน้ำตาล คือไม่ตัดน้ำตาลเลย แต่ที่เมียนม่าร์ดีอยู่อย่าง พริกขี้หนูครับ เขาใช้พริกขี้หนู "สวน" หอมดี ปกติแล้ว ผมจะไม่อินังขังขอบ แปลว่าอะไรไม่รู้นะครับ 555 เลียนแบบเขามา คือกินอะไร ก็ได้ ขอเพียงแค่อิ่ม ก็พอ... แต่เวลาลูกสาวแม่ยาย ทำอาหาร มักจะให้ผมเป็นคนชิม ว่า ต้องเติมอะไร บ้าง..... ผมก็แสร้งว่า อ่อนเค็ม ขยอกน้ำปลาอีก 3 ฉึก เติมใบแมงลักอีกหน่อย ทำนองนี้แหละ แหะ ๆ ทำให้เหมือนว่า ตัวเองเป็น แดจังกึม ที่มี ลิ้มชิมอาหารดี ว่าเข้านั่น ในพม่า มีร้านอาหารอร่อย ...หลายร้านนะครับ เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีละขยัก ตีอู้ไวก่อน ยังไม่ได้ ลงเรือไป ทะเลสาปอินเล ว่าจะเห็น คนยกเท้าโชว์ แหะ ๆ เชิดสุ่มใหญ่ พายเรือ หรือ ไม่... ไว้ตอนหน้านะครับ ขอตัวไป ชิมกาแฟ ที่ร้านฝรั่งเศส แต่งร้าน สีดำ เฟอร์นิเจอร์สีแดง กันต่อ ไกลจากร้าน กรีนชิลลี่ เพียง กิโลกว่า ต้องเดินไป เอื๊อก... ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ end visit บล๊อก 492,180 st = งานเขียนประเภท Diarist
Create Date : 30 มีนาคม 2558 |
Last Update : 30 มีนาคม 2558 6:07:21 น. |
|
48 comments
|
Counter : 2115 Pageviews. |
|
|