กงสี คือบริษัท ซื้อที่ดินทั้งหมดนี้ไว้ เตรียมทำไร่ยาง
พารา ปลูกมันสัมปะหลัง มันมีตอไม้ ต้นไม้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว บริษัท จึงจ้าง พี น้อง ป้า ลุง มาช่วยกันขุดตอไม้ถาง
หญ้า เผาให้เตียน. ให้พวกเราแบ่งพวกกัน กลุ่มละ สี่คน
ถางป่าให้เตียน เรามี อีเตอร์ ขวาน กลุ่ม
อย่างละอัน มีหวดยาว จอบ ให้คนละด้าม อย่าให้หายมันแพง
ใครทำหาย หักเงินค่าจ้าง.
หัวหน้า จะพาไปชี้แปลงป่า มีหมายเลขให้ พื้นที่แต่ละแปลงมีตอไม้
หญ้ารก ให้ไปตกลงกันว่า 4 คนมีใครบ้าง
กงสีจะจ่ายให้ไร่ละ 2,800 บาทเอาไปแบ่งกันเอง
ผมเลือกแปลงได้เปล่า นาย
แนะมีคนฉลาดอีกแล้ว
ไม่ได้ แต่ละแปลงมีตอไม้ เถาวัลย์ มากน้อยต่างกัน
บอกชื่อแต่ละคน แล้วใครก็ได้ในกลุ่ม มาจับฉลากเลือกแปลง
ถัาอยากทำ 2 คนก็บอกได้ไม่ว่ากัน
จะเบิก ข้าวเหนียว ปลาร้า ปลากระป๋อง พริก
น้ำปลา เกลือ ได้เท่าที่จำเป็น ใครเอามาก จะถูกหักจากค่าแรง เงินก็เหลือน้อย
อาหารแห้งที่ว่า นี้ราคาถูก เท่าตลาด.
ใครเอาให้เซ็นชื่อ ใครเซ็นไม่เป็น เอาหัวแม่โป้งแป๊ะไว้ เข้าใจบ่
เวลานอนให้กางมุ้ง มาลาเรียมันเยอะ ใครเป็นใข้ กินยา กงสีให้คนละ
20 เม็ดต่อเดือน เป็นใข้ป่ามาเลเรียจะฉีดยาให้ฟรี
ยาที่ให้กินถ้าไม่จำเป็น อย่าไปกินตอนท้องว่าง มันจะกัดกระเพาะทะลุ
ใครเอาแป้งเหล้ามาบ้าง ยกมือขึ้น
คนงานต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วค่อย ๆ ยกมือ
ขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ผู้หญิงก็มีแฮะ
ทำเหล้าเอง ไร่ไม่เกี่ยว อย่ากินให้เมา แต่ยาขยัน(ยาม้า) ห้ามกินเด็ดขาด
ใครเมายา เราจะขังลูกเดียว เข้าใจ บ่
เข้าใจอยู่... นาย ๆ ที่นีมีเสือ บ่
555 ถูกพวกเราจับกินหมด มีแต่กระจง หมูป่า งู กระต่าย ตุ่น ปลา แย้
เวลาทำงานให้ทำแต่เช้า เลิก 5 โมงเย็น ไร่จะตีจอบให้ได้ยิน
ตอไม้ขุดเผาให้หมด หากไม่หมด หัวหน้าตรวจว่าไม่ผ่าน ก็ต้องทำใหม่
จะไปขึ้นแปลงใหม่ไม่ได้
เพราะต่อไปรถไถ จะไถ.. ถ้าเจอตอ.. ผานมันจะแตก
กิ่งไม้กองเก็บไว้เป็นฟืน.
เสร็จจากนี้ ให้แต่ละกลุ่ม เซ็นรับของจากหัวหน้าทีละกลุ่ม สามวันนี้ยังไม่
ทำงาน ให้ปลูกกระท่อมอยู่กัน ใกล้ลำห้วย ใครมีผ้าใบทำเป็นหลังคาก็ได้
กงสีเตรียมสังกะสีให้กลุ่มละ 10 แผ่น มุงหลังคา
ส่วนกระผมนั่งฟัง อีตา ผจก.วิโรจน์คุยกับลูกน้อง
อ้อ.. คนนี้คือ คุณตูน จะเป็นคนเอาเงินมาจ่ายให้พวกเรารับเดือนละครั้ง
เป็นคนสำคัญใน กงสี ก็บริษัทนะ
ทุกคนรีบลุกแล้วยกมือใหว้
555 ต้องยืดตัวซะหน่อย
อิ อิ สงสัยคนงานติดว่า เป็น เจ้าของ กงสี ที่
ไหนได้ เป็น เบ๊ของนาย. เห็นแต่งตัวแบบนั้น สกปรกหน่อยแต่ดูดี
กว่า ผจก.วิโรจน์ก็แล้วกัน 555
............
ถ้าอยู่ในเมือง ต้องแต่งตัวดีหน่อยก็
ระยะที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ แหะ ๆ พูดเสียโก้ ผมก็ต้องจัดประชุมผู้ที่เข้าร่วม
งาน แน่นอนต้องมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าคนจีน
ในสถานที่ต่าง ๆ คือมีหน้าที่ แนะนำ สินค้าของบริษัท ในแง่มุมต่าง ๆ ให้ทีมงานเกิดความมั่นใจว่า ดี.. เหมาะที่จะขายให้ชาวบ้าน
ที่ขาดไม่ได้ คือ รายได้ เช่น เงินเดือน และค่านายหน้า ที่พวกเขาจะได้รับ
และจะได้รับเพิ่ม คือ ค่าจัดการ... ในการชักชวนลูกข่าย เข้ามาร่วมงาน
คือมีรายได้พิเศษหรือ เปอร์เซ็น จากงานลูกข่าย รับรองใครฟังแล้ว
เคลิ้มแน่
แต่ขอบอก ไม่ใช่งาน แชร์ลูกโซ่นะครับ เพราะเราขายสินค้าจริงเป็นหลัก
ภาพเก็บไม่ดี แมลงสาปแทะซะ..แก่ เอ้ย เก่า
หลังจาก จัดการงาน ติดตามงานจน เข้าเป้า ผมโชคดีมีผช.ที่เก่ง
ตามงานได้ดี ช่วยทำงาน... ผมได้เวลาพักผ่อน ตอนเข้าป่า เข้าไร่
ไปครั้งละกว่า 3 วัน ไปกินนอนอยู่ที่นั่น มีเบี้ยเลี้ยง แหะ ๆ เอาไว้ซื้อกับ
แกล้ม อาหาร กับเพื่อน ๆ ในไร่ มีความสุขมาก ๆ
.......
วันรุ่งขึ้น หลังจาก หัวหน้างานมอบหมายแปลงที่ดินให้คนงานแล้ว
เราสองคน ขี่มอเตอร์ไซค์ ลัดเลาะไป ในไร่ที่ลงมือปลูกมันสัมปะหลัง
ระหว่างแถวต้นยาง ปลายที่... ไปดูคนงานฉีดยาฆ่าหญ้า
เนินเขาบางลูก ถางเตียนเป็นส่วนใหญ่ เริ่มเผา
แวะมาดู ที่ดินบนเนินเขาที่สูงไม่มาก ดูแล้วลาดชันไม่ถึง 45 องศาที่
อยู่ลึกเข้าไปเกือบ กิโลเมตร ถ้าตัดต้นไม้เล็ก ให้เตียน น่าจะสวย
มีลำธารไหลผ่าน.... คนงานได้ ปักเสาไว้ 4 มุมแบ่งเป็นแปลงละ 1 ไร่
มีหลายเลขแปลงไว้ 40 กว่าแปลง..
คุณตูนแกงแค ให้กินหน่อยซิ
555 ทำไม่ค่อยเป็น ถ้าไข่เจียวพอไหว
น่า วันก่อนยังแกงได้ ผมให้แม่บ้าน เก็บผักไว้หลายอย่าง เนื้อไก่ไม่
ต้องห่วง เดี๋ยวจัดการให้
กลับถึงบ้านพัก จัดการซอยตะไคร้ ข่า พริกแห้ง เกลือให้อีตาวิโรจน์
ตำ ก็ตำไปบ่นไป แหะ ๆ มันอยากกินนี่นา พริกแห้งตำยากไม่ทันแช่น้ำ
ให้นิ่ม พอเริ่มแหลก โยนหอมแดงไป 4 หัวกระเทียม 2 ควักกะปิดำ ๆ
ใส่ไปด้วย.. พอเริ่มละเอียดพอประมาณ
ใช้ ทัพพีบู้บี้ ควักจากครก ใส่ หม้อกะทะดำ ๆ ร้อนฉ่า เทน้ำมันหมูตามไป
ครึ่งทัพพี คนไปมาเริ่มส่งกลิ่นหอม ฉุนกึ๊ก
เทไก่บ้านที่อีตา ผจก.วิโรจน์จัดการมา สด ๆ สับชิ้นโตในชามใส่หม้อ
คนน้ำพริกเข้ากันดี ปิดฝาด้วยฝาหม้อใหญ่ ไอน้ำที่ร้อนอบ น้ำพริกกับไก่
หอมตักน้ำครึ่งกระบวย เทใส่ ไม่นานน้ำเดือนคลุก ๆ
นำมะเขือที่ปาดไว้ครึ่งชาม กับถั่วฝักยาว มะเขือพวงลงไป คนไปมา
ปิดฝาให้มะเขือที่แข็งสุก
ฉีกใบชะพลู ผักคาด(ดอกสีเหลือง) ใบพริก ที่ขาดไม่ได้ ยอดชะอม
ใส่เยอะหน่อยปิดฝาหม้อ ไม่นาน กลิ่นหอมน้ำพริก กลิ่นไก่สุก
ใบชะพลู ผสมกับ ชะอม.. ฟุ้ง
อีตาวิโรจน์ จามฟิ้ว.... คิดดูว่า กลิ่นหอมแรงเพียงใด
เปิดฝา คนไปมา ตักชิมน้ำ รสออกเผ็ด หวานด้วยไก่บ้าน อ่อนเค็ม
จับขวดน้ำปลา กระแทกฉึก ๆ ไป 4 ฉีก.. คนแล้วชิม
ใช้ได้แล้ว.. ลองตักผัก ชะอมเคี้ยว มันหอม.. ใบพริกชี้ฟ้าที่ใส่ปนไป
หอมไปอีกแบบ..
ส่วนเนื้อไก่บ้าน ไม่ต้องชิมหรอกครับ หวาน และเหนียวแน่นอน
ตรงสเป็ค คอน้ำพรรค์นั้น จะได้เคี้ยวนาน ๆ
ตักใส่ชาม ส่งให้ ผจก.วิโรจน์ ไปตั้งบนโต๊ะเตี้ย สอดเข่าเข้าไปนั่ง
เตรียม จานเปล่า กับ เหล้าป่า ...
ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า จิบเหล้าที่บาดคอ ตักแกงแคที่เผ็ดหอมเข้าปาก
เคี้ยวเนื้อไก่ โห..หวานดับรสเหล้าที่บาดคอ จนกลมกล่อม
เรานั่งกินกัน 4 คนกับหัวหน้าคนงาน.. ข้าวหมดทั้งหม้อ
เรานั่งคุยกันไป คนไหน เมื่อย ง่วงก็เอนตัวนอนแถวนั้นแหละ
ยอมรับว่ามีความสุขมาก ๆ
จะหลับไปตอนไหน ไม่ค่อยสนใจ คือหลับคือหลับ ตื่นมาอีกครั้ง
ก็อีกเช้า....
เพิ่งรู้ว่ากงสีแปลว่าบริษัท
เข้าใจมาตลอดว่าหมายถึงกองกลาง ^__^
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog