บล๊อกประจำวัน ศุกร์ / จันทร์ |
|
ก่อนไปพม่า ดู อ่านคนที่เคยไปเที่ยว เขาขู่ว่า ระวังนะ อาหารพม่า |
ไม่ถูกปากคนไทย |
ยังคิดอยู่เลยว่า ไม่เป็นไรหรอก เราศิษย์มีพระอาจารย์ อยู่ที่ไหนก็ได้ กินอะไร |
ก็ได้ อาหารมื้อหนึ่งไม่เกิน 20 คำ อิ อิ จะได้ประหยัดตังค์ ไง.. |
ขออย่างเดียว มีน้ำอาบ มาก ๆ ขันหน่อยก็แล้วกัน เขาเล่าว่า พุกามหรือที่คนพม่า |
เรียกว่า Bagan ร้อนตับแลบ ต้นไม้น้อย มีแต่ เจดีย์ |
แต่เจดีย์สุดสวย สง่า น่าไปเที่ยวที่สุด มีแม่น้ำ อิรวดี กว้างใหญ่ อาบน้ำสบายที่สุด |
มีสันดอนทรายที่ใหญ่มหึมาด้วยนะ |
|
|
|
|
|
|
|
หลังจาก อาบน้ำนอนพักที่โรงแรมครึ่ง ชม. ดูนาฬิกาแล้ว บ่าย 3 โมงกว่าแล้ว |
ได้เวลานัดกับ ทิน อ่อง คนขับรถให้นำรถ มารับพวกเราไปเที่ยว ยังนึกขำเลยว่า คน |
ตัวโต ๆ 5 คนพร้อมกระเป๋าอีก 5 ใบ ถูกอัดเข้ามาจากสนามบิน มาได้ไง |
ก็เป็นเพียงรถ กระป๊อ..เพื่อนอาจจะไม่รู้ว่าเล็กแค่ไหน คล้ายกับรถแบบนี้ |
เพียงแต่ มีตัวถังปิด มีหน้าต่าง แอร์ไม่มีวิ่งปุเลงปุเลง ไกลมาก แต่ก็ถึงที่พักได้ เป็นภาพของไทยนะครับ |
|
ได่เวลาเดินทาง เที่ยว |
|
ไปที่หน้าล๊อบบี้โรงแรม ก็เห็น ทิน อ่อง โชเฟอร์คนเดิม มา กับรถตู้ นำรถมารอรับ สภาพดีทีเดียว |
รถพาเราผ่าน ตัวเมือง ต้องบอกว่า อื้อหือ อะไรขนาดนี้ เหมือนบ้านนอกของเราชัด ๆ |
|
........ ...... |
|
พ้นจากหมู่บ้าน สู่พื้นที่ พุกามเก่า เป็นที่ตั้ง เจดีย์ ที่เขาว่ามากมาย คณานับ |
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ มีสูงต่ำบ้าง พื้นดินสีแดง มีต้นไม้ขนาดกลางขึ้นอยู่ทั่วไป |
เริ่มเห็นเจดีย์ เป็นกลุ่ม ๆ |
ถนนลาดยางสีดำ พอรถวิ่งสวนกันได้ ฝรั่งผิวขาว ปั่นจักรยานสวนทางมา |
คงจะเหนื่อยน่าดู สภาพถนนแม้จะเรียบ แต่ก็ต้องปั่นขึ้นเนินสูงพอประมาณ จักรยานที่ใช้ |
ดันเป็นจักรยานแบบ แม่บ้านจ่ายตลาด ไม่มีเกียร์ช่วย |
|
|
|
บางกลุ่ม เป็นแบบเสือภูเขา ถีบง่ายมีเกียร์เข้าช่วย ดูแล้ว แดดร้อนเปรี้ยง เราสบาย |
อยู่ในรถแอร์เย็นฉ่ำ เราขับผ่านสถานที่ต่าง ๆ เรียกว่าซอกซอนเข้าไปข้างใน |
เจอฝรั่งนั่งรถม้า ท่ามกลางแดด ดูดีเหมือนกัน เจอหลายคัน |
|
|
|
เรานั่งรถออกมาข้างนอก แวะเข้าที่เจดีย์แห่งแรก ออกจากรถ อากาศร้อน |
แห้ง ๆ พิกล เจดีย์องค์แรกอยู่บนเนินสู๋ง มีกำแพงล้อมรอบ |
|
|
|
ข้างในเจดีย์ มีอุโมงค์ทางเดิน รอบในองค์ เย็นสบาย มีพระพุทธรูปอยู่ |
ระหว่างที่ทีมเที่ยว ไปไหว้ แล้วถ่ายภาพ ผมก็ออกมาข้างนอก เดินไปดูข้างหลังองค์ |
เจดีย์ เป็นที่ ลาดลงกว้าง ออกมา ไปถ่ายภาพเจดีย์ที่สวยงาม แดดกำลังส่องแสง |
ต้องกับองค์เจดีย์ สวยได้ภาพแบบข้างล่าง แต่ นัยตาผมดีกว่า เลนด์กล้องซะอีก |
มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ โทษกล้องซะเลย |
|
|
|
คือ ลืมเปลี่ยนโหมดกล้อง เป็นยามเย็น... ถ้าเปลี่ยนแล้ว มันจะเน้นสีแดง กับสี |
เขียวของต้นไม้ มีเหลี่ยมเงาว่างั้นเถอะ แต่ก็สายเสียแล้ว |
|
เราลัดเลาะไป ทีละจุด เรียกว่า ละลานตา มันคล้ายกันมากเลยไม่เห็น |
จุดเด่นของเจดีย์มากนัก |
บางแห่งต้องปีนขึ้นบนเจดีย์ที่สูงมาก ๆ ชัน ไม่มีอะไรเกาะ แข้งขาสั่นไปหมด |
ถ่ายแบบ ลงไปข้างล่าง ไกล ๆ ลวก ๆ ไม่กล้าหามุมกล้องมากนัก |
|
|
|
ขาลงจากเจดีย์ ค่อย ๆ หย่อนขาที่เย็นเจี๊ยบเพราะกลัวความสูง เหยียบขั้นบันใดแบบนี้ |
|
|
|
|
มีภาพเจดีย์มากมาย เท่าที่ค้นตัวเลขที่น่าเชื่อถือได้ |
มีเจดีย์ 3,720 องค์ ไม่ได้เป็นหมื่นองค์นะครับ |
เพื่อน ๆ ไม่ต้องคลิ๊กหนีนะครับ ผมไม่ลงภาพเจดีย์มากนักหรอก ผมลงเองยังเซ็งเลย |
ยังคิดในใจเลยว่า ลูกชาย จองโรงแรมจ่ายเงินแล้ว 2 วัน จองเที่ยวบิน |
ไปที่อื่นเรียบร้อยแล้ว คือกำหนดวันเดินทางล่วงหน้า จะไปเที่ยวไหน..ดี |
|
เมื่อวานเห็นเพื่อนบล๊อก มาเม้นท์ ว่า ไม่รู้อาหารเมียนม่าร์เป็นอย่างไร |
หนู กินอะไรไม่ค่อยเป็นด้วย อิ อิ เป็นแต่อาหารชัยภูมิ เพื่อน ๆ พอเดาออกหรือเปล่า |
ว่า หนูคนนี้คือใคร |
|
ไม่เป็นไร ผมก็คิดเช่นนั้น ผมยังชอบอาหารอิสาณเลย |
แซบหลาย... แต่ตอนเช้าไม่ค่อยดีเท่าใดครับ |
|
เราปีน ถ่ายภาพ บางทีก็มุดเข้าเจดีย์ ทื่มืดสล้ว แบบสบาย ๆ คือถ่ายภาพได้นานเท่านาน |
ไม่ว่ากัน คงเพราะเดิน ปีนเหนื่อย เลยยอม รอ...นักถ่ายภาพทั้งหลาย |
เริ่มหิวกันแล้ว ไปเลยครับ ได้เวลา ชวนกันกลับ |
|
ให้ ทิน อ่อง โชเฟอร์ไปส่งที่ ร้าน The King Si Thu ร้านอยู่ริมน้ำกว้าง |
เราดูในหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวก่อนไปว่า อร่อย |
|
มีลมพัดเข้ามาจากร่องน้ำที่กว้าง สั่งอาหารไปหลายอย่าง รอนานหน่อย คิวยาว เรานั่ง ริมน้ำ อากาศเย็นสบาย เลยไปอีก 100 กว่าเมตร กรุ๊ปทัวร์ลง เขากำลังดูหุ่นกระบอก เสียงฉิ่ง ฉาบ กลอง ดังเป็นระยะ แต่เราไม่ดูหรอกครับ กินอาหารชมวิว สายน้ำไหลยามอาทิตย์ กำลังจะลับตาดีกว่า |
ข้างล่างนี้ รส อร่อย แบบเปรี้ยวหวานไทย แต่ไม่หวานซะงั้น อาหารส่วนใหญ่จะไม่ใส่น้ำตาล |
ข้างล่าง เป็นต้มยำแบบเมียนม่าร์ ใส่กุ้งด้วย รสเหรอ งั้น ๆ แหละครับ ....... ข้างบน รสดีครับ แต่แหะ ๆ ไม่แน่ใจว่า อร่อยเพราะเส้นผมของเราเอง หรือ จากครัว ไม่ต้องเอามือเขี่ยออก เส้นผมอยู่ในภาพครับ ข้างบบเป็นหมูย่าง กิน เอ้ย ทานแล้ว น่าจะเป็นสะโพกหมู ไม่ติดมันเลย เนื้อค่อนข้างแข็ง |
|
อาหารใช้ได้ครับ ทีนี้ได้กิน ย่างกุ้ง เอ้ย กุ้งย่าง ซะที |
จ่ายค่าอาหารไป 51,000 Kyats เป็นเงินไทย 1,600 บาท ที่นี่คิดเบียรเมียนม่าร์ 4,000 จ๊าด เงินไทย 125 บาท เบียร์ 1 ขวด ร้านอื่นหรือในโรงแรม ราคาเพียง 78 บาท |
ส่วนโค๊กกระป๋องละ 62 บาท แรง.... ผมว่าราคาอาหารโอเค |
รถพาเรากลับไปโรงแรมที่พัก เราเดินผ่านอาคารต้อนรับ ไปสู่เรือนพักที่ไกลประมาณ 200 เมตร |
อากาศเย็น แต่รู้สึกเหนียวตัว กะไว้ว่า ตอนเช้าจะไปว่ายน้ำที่สระ |
แต่ไม่ได้หมักหมมนะครับ อาบน้ำฝักบัว เย็นสบาย แต่งตัว แล้วก็ลอง |
เล่น เฟชบุค กับบล๊อกแกงค์ มือถือ หมุนติ้ว ๆ เซ็ง..ใช้ไม่ได้ |
ดูทีวีเมียนม่าร์ แทน.. |
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ end visit บล๊อก 510,513 st = งานเขียนประเภท Diarist |
ไม่รู้นึกไปถึงตอนที่ฟ้าเคยเข้าไปกัมพูชาตอนเด็กๆกับพ่อเมื่อนานมาแล้วเลยอัดเข้าไปในรถยนต์รับจ้างเข้าเมืองหลายๆคนรวมกับชาวบ้านนั่นแหละ
(น่าจะข้ามไปทางซับตารี แต่นานมากๆแล้วจำได้แต่ความโหดของท้องถนน)
แต่ภาพถนนในเมียนมาร์ตามภาพนี่ดูดีกว่าเยอะ คล้ายกับชนบทสมัยก่อนๆมาก
ตัวเลขจำนวนเจดีย์อาจพูดกันปากต่อปาก จำกันมาก็ได้นะคะ
เป็นหมื่นๆ อะไรแบบนี้แต่จะนับจริงหรือปล่าวก็อีกเรื่อง (จากบล็อกที่ว่า 3,720 องค์) เห็นกลุ่มที่ปั่นจักรยาน ชอบมาก อยากไปปั่นจักรยานเที่ยวแบบนี้เลยค่ะ :)
อาหารฟ้าไม่เชี่ยวชาญนะ แต่เส้นๆขอบจานตามภาพก็ยังทำใจ แฮะๆ ขอบจานเอง แต่ถ้าผัดคลุกมาด้วยก็...ตัวใครตัวมันน้อ