No. 372 หมู่บ้านริมทะเลสาป แปลก.. @ Inle
บล๊อกประจำวันจันทร์ / ศุกร์ | | | ประมาณ 4 ปีมาแล้ว ได้เขียนเรื่องของ ชายคนหนึ่งได้หลงทาง | และอาศัยอยู่ในป่าทึบ ชายแดน ติดเขตเมียนม่าร์ | เพราะเกิดอุบัติเหต จำความไม่ได้แม้แต่ชื่อตนเอง แนะ.... ยังกะนิยาย | โดยอาศัยข้อความ บันทึกไว้ในสมุด กระท่อนกระแทนมาขยายความให้ | อ่านง่าย | | ระยะที่เขียน ก็หาข้อมูลมาเปรียบเทียบ ว่า ที่อยู๋ในป่ามันอยู่ตรงไหนของ | ไทย หรืออยู่ในเขตพม่า ก็ดูจากบันทึก | แผนที่ดาวเทียมของกูเกิ้ล พอดึงภาพมาดู | เลยแน่ใจว่า กานต์คนที่หลงทาง ต้องหลงอยู่ในป่า พม่าแน่ ก็ | สภาพป่าของไทย มีหร๋อมแหรม แต่เขตของพม่า เห็นพื้นที่ดอยสูง | มีแต่ตันไม้สีเขียว แตกต่างกันเยอะ | | ทึ่งครับทึ่งจริง ๆ เขารักษาป่าได้ดี แต่ก็ไม่แน่ใจว่า เขารักษาไว้หรือเข้า | ไม่ถึง คล้ายกับของไทย ที่เข้าไม่ถึงเขตปัตตานี ไงงั้นแหละครับ | | กานต์คนหลงทางต้องอยู่แถวรัฐฉาน ก่อนไปพม่า เลยตั้งเป้า ต้องไปรัฐฉาน ซึ่งเป็นทีตั้งของ ทะเลสาบ Inle ด้วย | | ผมเลยเดินทางไปพักที่เมือง นยองชะเว เป็นเมืองที่จะเข้าสู่ทะเลสาปอัน | กว้างใหญ่มาก ๆ เฉพาะทะเลสาปกว้าง ประมาณ 116 ตารางกิโลเมตร | อย่างที่ได้เขียนเล่าไว้ในตอนที่แล้ว | เราเข้าไปดูแผนที่ทางอากาศ ว่าทะเลสาป จะกว้างและน่าจะไปจุดไหนบ้าง | | | เห็นภาพแล้ว เป็นทะเลสาปที่ใหญ่กว่า ทะเลสาปอินยา ในเมืองย่างกุ้งมาก | มายเทียบไม่ติด ภาพข้างล่าง เห็นสวนลอยน้ำเป็นปื้นใหญ่มาก ๆ | ถ้าเทียบกับ หมู่บ้านเจ้าของสวน | | | | นั่นเป็นส่วนเดียวนะครับ ที่เห็นเป็นริ้ว ๆ คือแปลงผักลอยน้ำ | ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านคน ทางซ้ายมือของภาพ แปลงผักยังใหญ่โตกว่ามาก | | เกิดคำถามมาในใจว่า เราจะเข้าไปดูได้อย่างไรให้เห็นใกล้ชิด มันกว้าง | ใหญ่สุดคนานับ แต่ไม่ต้องห่วง.. คือเราได้ตกลงกับ | เจ้าของเรือแล้วตั้งแต่เมื่อวาน จะเข้าไปดูได้อย่างไร ขอเพียงบางส่วนก็ยังดี | ไม่งั้นต้องอยู่หลายวัน จึงจะดูทั่ว | | เช้านั้น ตื่นแล้วเดินดู ส่วนต่าง ๆ ของโรงแรม ข้างบนมีลานให้นั่ง | ชมทิวทัศน์สวยงาม | | | | แล้วลงมาแต่งตัวเข้าไปกินอาหารเช้าของโรงแรม อาหารเหมือนกับที่ | เราเคยไปพัก พวกใส้กรอก ขนมปัง น้ำส้ม ผลไม้ | ใช้ได้เลยครับ ราคาค่าห้อง บวกอาหารเช้าเพียง 1100 กว่าบาทเอง | | เราเดินไปชายคลองไกลเพียง 200 กว่าเมตรเจอคนขับเรือยืนรอ | อยู่แล้ว เรือที่เขาเตรียมไว้เป็นแบบ เรือหางยาวบ้านเราแต่ค่อนข้างโต | มีเก้าอี้ วางเรียง 5 ตัว มีเสื้อชูชีพสีส้ม พร้อมผ้าห่มคนละผืน | | พอลงเรือใส่ชูชีพด้วยความทุลักทุเล แหะ ๆ คนข้างหลังผม กลัวเรือ | ล่มนะครับ พอคนอื่นขยับตัว เรือมันก็เอียงวูบ ก็ต้องคอยขืนตัวไว้ | | แต่ก็มีปัญหาอีก พอนั่งลงชูชีพ มันค้ำคอ กล้องถ่าย 3 ตัวอยู่ 3 จุดในตัว | ยังกะจะไปถ่ายในสนามรบ ต้องเตรียมให้ดี 555 | คือชักออกมาถ่ายได้เร็ว เพราะรู้ว่าถ่ายรูปบนเรือไม่ง่าย เพราะเราอยู่ใน | ลักษณะลอยตัว เอียงซ้ายเอียงขวา จับโฟกัสยากมาก ๆ | | เรือวิ่งจากคลองกว้างพอประมาณ มีเรือสวนเป็นระยะ มีคลื่นพอทำให้ | ตื่นเต้นได้ แต่ละคนก็กดแชะ ๆ ตลอดเวลา ส่วนผม ถ่ายวิดิโอ ในจุด | ที่ถ่ายยาก จะได้นำมาสแนปภาพเป็นภาพนิ่งภายหลัง | บางครั้งก็ นำ พานาโซนิค เล็กมาถ่ายสองข้างทาง คือมันดึงภาพได้ง่าย | จัดภาพได้ดี ข้างหน้ากว้าง น่าจะถ่ายแบบพาโนรามาก็ | นำเอา ซัมซุงโน๊ต 8 มาถ่ายเจ้าตัวนี้มีปัญหาที่ไม่เห็นภาพจากจออีกแหละ มันกว้างใหญ่ แสงเลยเข้าเต็ม เลยกะ ๆ เอา | | เข้าเขตทะเลสาป ต้องบอกว่า กว้างมาก ๆ เห็นฝั่งซ้ายมือไกลลิบ ขวา | มือเห็นเลือนลาง คนขับก็ขับดิ่งตรงไปข้างหน้า ด้วยความเร็วพอสมควร | มองข้างหน้า บ้าง เห็นทิวเขาซ้ายมือ กลับเป็นเขา หรือดอยโกร๋น | เฮ้อ..เสียดายจัง ไม่เป็นไปตามที่กะไว้เลย | | ทะเลสาปแห่งนี้ จากข้อมูลที่ค้นคว้ามา กว้าง ประมาณ 11.25 กิโลเมตร ถ้าดูภาพข้างบนสุด จะเห็นความยาวลงมาข้างล่าง 22.5 กิโลเมตร ยาวมาก ๆ เรือที่พาเราไปเที่ยวคราวนี้เป็น เรือหาง สั้น...ใช่ครับ รูปเหมือนเรือหางยาวของเรา แต่เขาใช้หาง สั้น วิ่งเร้วเท่าของเรา คงเป็นด้วยว่า ทะเลสาปแห่งนี้ ลึกประมาณ 2 เมตร บางบริเวณลึก 8 เมตร.. ข้างล่างใต้น้ำมีสาหร่าย เป็นเส้นกลมยาว ๆ อยู่ จึงไม่เหมาะใช้ หางยาว มันจะพันติด ระหว่างที่นั่งเรือ ไป อากาศหนาวเย็น ประมาณ 19 องศา เลยต้องห่มผ้าไว้ด้วย แล้วเราก็เจอ คนหาปลา ปลอม 555 หมายถึง คนหานะปลอม...มั้ง เขาคงมีอาชีพแบบ เด็กม้งบนดอยปุยรับ จ้างเป็นแบบถ่ายรูป.... แต่คงไม่ใช่ บล๊อกเกอร์หญิงที่แต่งตัวเป็นม้ง สวย นะครับ ชายข้างบน จริงแล้วอยู่ไกล ใช้ดึงภาพเข้ามา เรือของเราไม่ได้เฉียดไปใกล้ เขาคงจะรู้ว่า เราคงไม่อยากจะจ่าย ค่าแบบ. ไวน์เองนั่งบนเรือหน้าสุด เอี้ยวตัวถ่ายข้างหลังลำบาก เลย ยกกล้องหันไปข้างหลังถ่าย มา ให้เห็นบรรยกาศ บนทะเลสาป เรานั่งอยู่บนเรือ นานมาก เป็น ชั่วโมง เพื่อจะไป หมู่บ้านในน้ำ สุดทางของทะเลสาป ดูภาพ ข้างล่างเป็นภาพ จากดาวเทียม ข้างบนเป็นเพียง ส่วนหนึ่งของปลายแหลม ของทะเลสาป แต่ก่อนจะถึง อยู่ทางซ้ายมือ มี หมู่บ้าน อยู่ในน้ำ เหลือคณานับ...จริงนะครับ นับไม่ไหว เห็นเขียว ๆ รอบตัวบ้าน เป็นผักบุ้ง หญ้าปล้อง กับพืชน้ำลอย บางทีเรือ นักท่องเที่ยวก็แล่นผ่าน เรือพวกเรา ลดความเร็วลง ช้าลงจะได้ถ่ายภาพ เรือเรา ผ่าน สวนผัก ลอยน้ำ น่าจะเรียกว่า ไฮโดรโปนิกซ์ ได้เพราะปลูกแช่น้ำ โดยมีต้นพืช พวกสาหร่ายที่ชาวสวน เก็บใส่เรือมา ทับซ้อนกันหลายชั้น ประมาณ ครึ่งเมตร....เขาใช้ไม่ไผ่ปัก กันแพพืชลอยไป... ไวน์เองก็ยังสงสัยอยู่ว่า พืชเอา อาหารพวกปุ๋ยมาจากไหน เอาไว้เจาะดูภายหลัง เป้าหมายเราไปดูหมู่บ้านที่ลึกสุดปลายทางของทะเลสาป เรือแล่นเข้าไป ลดความเร็วลงหน่อย มิให้คลื่นซัดเข้าบ้านเขามากนัก บ้านเขา มีทั้งหลังเล็ก หลังใหญ่ เราเลี้ยวเข้า คลองเล็ก ไปสู่เป้าหมาย บ้านทอผ้า ที่นี่แปลก ดีครับ.... เขาใช้ ใยบัว มาทอเป็นผ้า..... ได้หรือ... ผมเองก็ตั้งคำถามไว้ในใจ ต้องไปดู เรือนสีขาว ๆ ข้างหน้านั่นใช่เลย.... คนเรือมิได้พาเรามาให้ ที่นี่ฟัน..นะครับ เรา ตั้งใจมาเอง... ดู ๆ แล้วบล๊อกจะเกิน ลิมิต ที่บล๊อกแกงค์ กำหนดไว้ไม่เกิน 5 หมื่นอักษร ดูภาพสุดท้ายของ บล๊อกก่อน ใช่เล้วครับ ผ้าใยบัว ผืนละ 45 U$ เป็นเงินไทย 1,530 บาท ไม่รู้แพงหรือเปล่า ความกว้างประมาณ 30 ซม. ยาวประมาณ 100 ซม.ได้มัง เขาใช้เป็นผ้า พันคอ.... แล้วเขาใช้ส่วนใหน ของบัวหลวง บัวเผื่อน หรือดอกป้าน(สายบัวสีม่วง) มาทำ ไว้บล๊อกหน้านะครับ จะได้นำมาเฉลย... ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ end 498,540 visit บล๊อก 496,064 st =2,476 งานเขียนประเภท Diarist
Create Date : 06 เมษายน 2558 |
Last Update : 10 เมษายน 2558 9:53:15 น. |
|
49 comments
|
Counter : 1946 Pageviews. |
|
|
ทะเลสาปกว้างใหญ่มาก มีบ้านคนเยอะเลยนะคะ
ผ้าทอจากใยบัวแปลกดีค่ะ
ราคาสูงเหมือนกัน คงทำยากนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น