5 วิธีหารักแท้อย่างมืออาชีพ ถ้าไม่อยากโสดนานเกินไป คุณเป็นอีกคนหรือเปล่าที่รู้สึกหมดสิ้นศรัทธาในความรัก และคุณเองก็คิดว่ารักแท้มันคงไม่มีอยู่จริง จนครองตัวเป็นโสดมานาน นี่เป็นสัญญาณเตือนที่บอกให้คุณได้รู้ว่าคุณกำลังมองความรักในแง่ติดลบ (มากเกินไป) จะดีกว่าไหมถ้าคุณลองได้รักใครสักคนดูบ้าง ปลดตัวเองออกจากเงื่อนไขความรักครั้งเก่า ไม่แน่ว่าภายในปีนี้อาจมีความรักดี ๆ เข้ามาทักทายคุณก็เป็นได้ แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องคิดให้ได้แบบนี้ก่อนนะ 1. หัดมองความรักแบบแฟร์ ๆ           หลายคนเมื่ออกหักจากความรักครั้งเก่า เลยพาลคิดไปว่าต่อไปนี้ฉันคงไม่สามารถไว้ใจใครได้อีก ถึงขั้นลบคำว่ารักออกไปจากพจนานุกรมชีวิตเลยทีเดียว พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ฟ้องว่าคุณเองไม่มีความเป็นมือโปรด้านความรักเอาเสียเลย พออกหักเข้าหน่อยก็ทำตัวเป็นเด็กน้อยร้องไห้งอแง ไม่เอาท่าเดียว บางทีคุณก็ต้องหัดที่จะมองความรักแบบแฟร์ ๆ ดูบ้าง ไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่ไม่เคยอกหัก...จำไว้ ! 2. รู้ว่าการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเป็นอย่างไร           คุณเคยนึกลองย้อนถามตัวเองกลับไปหรือเปล่าว่า ที่ผ่านมาคุณมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหนในการรักษาความสัมพันธ์ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของการให้ช่อดอกไม้สวย ๆ หรือพาไปออกเดตเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ที่ดีมันหมายรวมถึงเรื่องของเวลา การสนับสนุนซึ่งกันและกัน และการรักษาคำมั่นสัญญา ลองถามตัวเองดูก่อนสิว่าคุณพร้อมที่จะแชร์ความรู้สึกแบบนี้ร่วมกันกับใครแล้วหรือยัง ? 3. เอาตัวเองออกจากเซฟโซน (Safe zone)           ลองเช็กตารางชีวิตของคุณดูสิว่าเวลาส่วนใหญ่ของคุณหมดไปกับการนั่ง ๆ นอน ๆ ดูทีวีหรือซีรีส์ที่บ้านกี่ชั่วโมง ถ้านั่นมันใช่ความสุขของคุณจริง ๆ ละก็นะ เราก็ไม่เถียง แต่ถามจริงเถอะคุณไม่เบื่อเหรอ ? เราแนะนำว่าให้คุณลองออกจากพื้นที่เซฟโซนของคุณดูบ้าง ออกไปเที่ยว ทำงานอาสาสมัคร เอาที่แบบคุณจะได้พบปะคนอื่นแบบไม่ผ่านโลกโซเชียลดู ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนโสดคนอื่น ๆ ที่กำลังทำแบบเดียวกับคุณอยู่ก็ได้ ออกแนวประกาศให้โลกรู้ว่าข้ายังโสดนะ 4. อย่าปฏิเสธเพราะความกลัว           เคยได้ยินไหวว่า "เราจะไม่มีทางได้อะไรมาหากไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย" อาจเป็นเพราะว่าเรากลัวที่จะเจอกับรักห่วย ๆ อีก เราเลยเลือกที่จะปฏิเสธและตั้งกำแพงไว้สูงไม่ให้ใครเข้ามาง่าย ๆ แล้วถ้าคุณกลัวและรีบปฏิเสธไปก่อน แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่ารักครั้งนี้เป็นรักที่ใช่ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดน่าจะอยู่ที่ว่าถามใจตัวคุณเองให้ดี ๆ ว่าคนนี้มีดีพอที่คุณจะกล้าเสี่ยงหรือเปล่า ? นั่นอาจช่วยลดปัจจัยการเสี่ยงต่อการบุบสลายของหัวใจได้ไม่มากก็น้อย 5. อย่าคาดหวังกับการเดตมากเกินไป           เมื่อไรก็ตามที่คุณออกเดต โดยเฉพาะคุณผู้หญิง จะต้องหยุดต่อมมโนของคุณให้ดี ๆ เพราะเดตแรกมักเป็นอะไรที่สวยหรูเสมอ อย่าพยายามตกหลุมพรางเชียวนะ เพราะไม่แน่ว่าคนที่คุณออกเดตด้วยในวันนั้นอาจไม่ใช่รักที่ใช่สำหรับคุณ ที่เราเตือนแบบนี้ก็เพราะว่าเราไม่อยากให้คุณไปคาดหวังกับการออกเดตมากเกินไป โดยเฉพาะกับเดตแรก แหม...ของแบบนี้มันต้องดูกันไปยาว ๆ           มุมมองความรักเหล่านี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครก็ตามที่กำลังเข็ดกับความรัก และอยากเริ่มต้นมองหาใครสักคนที่เป็นความรักดี ๆ ให้ได้เข้ามาทักทายในปีนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดอาจไม่ได้อยู่ที่ว่าการตามหาความรักดี ๆ นั้นอยู่ที่ไหน แต่อาจอยู่ที่ว่าคุณรักตัวเองมากพอที่จะคัดกรองความรักที่เข้ามาหาคุณอย่างมีสติมากพอหรือเปล่า ขอให้ปีนี้เป็นอีกปีที่ทุกคนมีความรักดี ๆ เข้ามาทักทายนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก womanitely.com และ thoughtcatalog.com   Create Date : 25 สิงหาคม 2560     Last Update : 25 สิงหาคม 2560 16:45:09 น. Counter : 1208 Pageviews.   0 comment Share Tweet

15 เรื่องน่ารู้เขาหลวง สุโขทัย พิชิตธรรมชาติสวย ได้ใจนักท่องเที่ยวสายลุย เขาหลวง สุโขทัย กับเรื่องราวน่ารู้หลากหลาย สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ได้ขึ้นไปพิชิตความสวยงาม  และฟินกับธรรมชาติสวยจนคุณต้องตะลึง เขาหลวง สุโขทัย นับเป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยต่างอยากจะขึ้นไปพิชิตให้ได้สักครั้ง ด้วยเพราะบรรยากาศธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแม้หนทางที่ยากลำบาก ที่นี่ก็ยังมีเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายอยากพิชิตเขาหลวง จังหวัดสุโขทัย แต่สำหรับใครที่ฟังชื่อแล้วยังไม่คุ้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ทั้งสวยและน่าค้นหาที่สุดที่หนึ่งของเมืองไทยกันค่ะ ภาพจาก gopfaster / Shutterstock.com 1. เขาหลวง สุโขทัย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ด้วยความสูงระดับ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วย 4 ยอดเขา คือยอดพระเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์ 2. ระยะทางสำหรับเส้นทางพิชิตเขาหลวง จากที่ทำการอุทยาน ไปจนถึงยอดเขาเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (เป็นทางเดินขึ้นลูกเดียว) 3. เส้นทางท่องเที่ยวบนเขาหลวง นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นได้เองโดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ ด้วยเพราะเส้นทางเดินค่อนข้างชัดเจน และมีป้ายบอกอยู่แทบทุกจุด 4. ใครเดิน ๆ อยู่แล้วหิวน้ำ ตลอดระยะทางเดินจะมีน้ำกรองอยู่เป็นจุด ๆ ตามทาง ซึ่งเป็นน้ำที่มาจากยอดเขา นักท่องเที่ยวสามารถเติมน้ำได้เลย หรือใครจะสะดวกพกขวดน้ำของตัวเองไปด้วยก็ไม่ว่ากัน 5. สำหรับสัมภาระต่าง ๆ จะมีลูกหาบคอยให้บริการ (ราคากิโลละ 25 บาท และราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) แต่ถ้าคุณมาเที่ยวช่วงวันหยุด แนะนำให้รีบมาแต่เช้า เพราะลูกหาบที่นี่มีจำนวนไม่มาก โดยเขาหลวงจะเปิดให้ขึ้นเวลา 08.00 น. และทางอุทยานจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นยอดเขาหลวงหลังเวลา 15.30 น. ภาพจาก Thosapon.s/Shutterstock.com 6. ก่อนเดินทางพิชิตเขาหลวง แนะนำให้คุณทานอาหารรองท้องมาให้เรียบร้อย และซื้อมื้อกลางวันติดไปเผื่อทานระหว่างทางนั่งพักด้วยจะดีมาก 7. ระหว่างทางเดินนักท่องเที่ยวจะพบว่าจะมีแมลงมาไต่ตอมอยู่ตลอด ๆ ดังนั้นอย่าลืมพกอุปกรณ์และครีมทากันแมลงไปด้วยนะคะ ดีไม่ดีเกิดแพ้ขึ้นมากลางคันจะทำให้ทริปหมดสนุกเอาเสียเปล่า ๆ 8. ถึงแม้ว่าข้างบนจะมีร้านค้าสวัสดิการให้บริการแทบทุกอย่าง (แต่ราคาอาจค่อนข้างสูง) แนะนำว่าให้คุณเตรียมพกอาหารไปด้วย อย่างพวกอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รับรองว่าพกขึ้นไปไม่ผิดหวัง และเตรียมอุปกรณ์สิ่งของจำเป็น เช่น เสื้อกันหนาว หมวก ไฟฉาย และยารักษาโรคประจำตัวต่าง ๆ เป็นต้น ภาพจาก gopfaster/Shutterstock.com 9. ไม่ต้องห่วงเรื่องห้องน้ำ เพราะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำบนจุดกางเต็นท์ โดยแบ่งแยกหญิง-ชายเอาไว้เสร็จสรรพ เรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว 10. สัญญาณโทรศัพท์ของที่นี่ใช่ว่าจะตัดขาดจากโลกภายนอกเลยเสียทีเดียว เพราะมีสัญญาณเป็นบางจุด พอให้คุณได้ตอบแชทและอัปรูปได้พอเป็นพิธี 11. นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอเช่าเต็นท์และจ่ายเงินได้ที่ทำการอุทยานข้างล่าง และนำใบเสร็จไปรับของข้างบน ซึ่งประกอบด้วยเต็นท์ แผ่นรองนอน ผ้าห่ม และหมอน หรือนักท่องเที่ยวคนไหนที่นำเต็นท์มาเอง จะต้องเสียค่าเช่าสถานที่คนละ 30 บาท 12. เมื่อถึงบริเวณจุดกางเต็นท์ ใช่ว่าถึงจุดความสวยงามของเขาหลวง การเดินทางไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ นักท่องเที่ยวต้องเดินต่อจากจุดกางเต็นท์ (ซึ่งเป็นเส้นทางเดินง่าย ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวได้) โดยถ้าอยากชื่นชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน ให้มาที่ "เขาพระแม่ย่า" ถ้าอยากชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ให้มาที่ "เขาพระนารายณ์" 13. สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากชื่นชมทะเลหมอกสวย ๆ แนะนำให้มาช่วงหน้าฝน (ประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคม) หรือไม่ก็เป็นช่วงหน้าหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายน-มกราคม) คุณจะเห็นละอองหมอกลอยหยอกล้อทิวเขา ที่ไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องลืมไม่ลง 14. ระยะเวลาการเที่ยวบนเขาหลวง สุโขทัย ปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน แต่ถ้าอยากเที่ยวให้ทั่วต้อง 3 วัน 2 คืน แถมอุทยานยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นตลอดทั้งปี คราวนี้จะวางแผนมาเที่ยวเมื่อไรก็ได้สบายหายห่วง 15. นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเขาหลวง จะต้องเสียค่าเข้าอุทยาน สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท/คน และเด็ก ราคา 20 บาท/คน (นักท่องเที่ยวสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง โทรศัพท์ 087313 7897) เขาหลวง สุโขทัย จึงเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังคงความมีเสน่ห์และน่าค้นหา อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวสายผจญภัยทั้งหลาย จำเป็นต้องระมัดระวังในการเดินทาง รวมถึงประเมินศักยภาพของตัวเองด้วยว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และคุณจะได้เสพธรรมชาติสวย ๆ ที่เขาหลวง สุโขทัย ได้อย่างมีความสุขและฟินสุด ๆ ไปเลยนั่นเอง ^ ^ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เขาหลวง สุโขทัย, thai.tourismthailand.org, dnp.go.th   Create Date : 24 สิงหาคม 2560     Last Update : 24 สิงหาคม 2560 8:45:20 น. Counter : 2162 Pageviews.   3 comment Share Tweet

สิวไม่มีหัวทำไงหาย ? รวม 7 วิธีช่วยให้สาว ๆ กลับมาหน้าใสแบบไร้แผลเป็น ! สิวไม่มีหัวทำไงหาย ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณสาว ๆ อีกต่อไป กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 7 วิธีง่าย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์น่าทึ่งในการรักษาอาการอักเสบและยับยั้งการเกิดแผลเป็นต้นตอจากสิวไม่มีหัวมาฝาก           คุณสาว ๆ หลายคนคงเคยกุมขมับ เมื่อสิวไม่มีหัวผุดขึ้นบนใบหน้า ตามมาด้วยความเจ็บปวดจากอาการอักเสบที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนังและอยู่ใกล้กับเส้นประสาท ยิ่งไปกว่านั้นการบีบเค้นแรง ๆ เพื่อเอาหนองออกมา อาจทำให้เกิดจุดด่างดำขึ้นบนใบหน้าได้  แล้วอย่างนี้จะกำจัดสิวไม่มีหัวให้ออกไปจากใบหน้าของเราได้อย่างไร !  บอกเลยไม่ยากค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีวิธีรักษาสิวไม่มีหัวด้วย 7 เทคนิคง่าย ๆ แต่ให้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมมาฝากกันแล้ว.... 1. ลดการอักเสบปวดจี๊ด ๆ ด้วยครีมยาปฏิชีวนะ           สาว ๆ รู้ไหมคะ การพยายามบีบเอาหนองอักเสบที่อยู่ข้างในของสิวไม่มีหัวออก เป็นความเจ็บปวดทรมานเกินต้านทานไหว ที่น่าตกใจจนต้องกุมขมับคือแผลเป็นบนใบหน้าที่จะตามมา ซึ่งวิธีรักษาที่ดีที่สุดก็คือ การเลือกใช้ครีมยาปฏิชีวนะที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบของสิว หรือใช้ครีมรักษาสิวที่มีกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) แต้มบนผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว ซึ่งตัวยาจะมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ รักษาอาการบวมแดง ช่วยยับยั้งการลุกลามของสิว นอกจากนี้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่มีกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ควบคู่กันไป จะสามารถช่วยล้างแบคทีเรียสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวได้ดีอีกด้วย 2. ลดอาการบวมแดงด้วยการประคบร้อน                เมื่อส่องกระจกเจอสิวอักเสบที่กำลังบวมแดง เป็นอะไรที่ทำให้คุณสาว ๆ พาลอารมณ์เสีย ซึ่งปัญหานี้มีวิธีบรรเทาได้ไม่ยากค่ะ โดยการใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนอุณหภูมิไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส มาประคบร้อนตรงจุดที่เกิดสิวประมาณ 2-3 นาทีต่อครั้ง ทำต่อเนื่องกัน 3 ครั้งต่อวัน อาการปวดหรือบวมช้ำของสิวจะค่อย ๆ บรรเทาลงได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ 3. ประคบเย็นด้วยน้ำแข็งช่วยลดอาการปวด           อาการปวดบวมของสิวไม่มีหัว คือความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่อาจมองข้าม แต่สามารถบรรเทาได้โดยการนำก้อนน้ำแข็งมาห่อหุ้มด้วยผ้าบาง มาประคบเย็นตรงจุดที่เป็นสิวนานประมาณ 10 นาที ทำหลายครั้งต่อวันได้จนกว่าอาการปวดใต้ผิวหนังจะค่อย ๆ บรรเทาลง วิธีนี้ยังช่วยลดอาการผื่นแดงและบวมช้ำของผิวหนังบริเวณที่เกิดสิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะคะ เริดมาก ! 4. สารสกัดจากธรรมชาติ ตัวช่วยที่ไม่อาจมองข้าม           สารสกัดจากธรรมชาติอย่างเช่น น้ำผึ้ง มีสารต้านจุลชีพและแบคทีเรียที่เข้ามาอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวไม่มีหัว แนะนำให้คุณสาว ๆ ทาน้ำผึ้งบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือจะใช้สูตรรักษาสิวด้วยว่านหางจระเข้ ที่มีสรรพคุณช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบและอาการบวมแดง โดยการนำเนื้อว่านหางจระเข้มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทาลงบนสิวไม่มีหัวทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ทำสามครั้งต่อวันรับรองสิวหายเกลี้ยงแบบไร้ร่องรอยเลย 5. ควรพบแพทย์ผิวหนังเมื่อสิวมีอาการอักเสบมาก           จุดที่เกิดสิวไม่มีหัวมักอยู่ใกล้เส้นประสาท เมื่อพบว่าอาการอักเสบรุนแรงถึงขั้นปวดศีรษะ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อขอคำแนะนำแผนการรักษาอย่างถูกวิธี ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทานยาและทายาตามใบสั่งแพทย์ จะช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้สิวลุกลามไปบริเวณอื่นได้อย่างทันท่วงที 6. มาสก์บำรุงผิวหน้าให้สุขภาพดีห่างไกลสิว           สูตรมาสก์บำรุงผิวสำหรับคนที่มีสิวอักเสบ คุณสาว ๆ  สามารถทำเองที่บ้านได้ไม่ยากเลย ด้วยการนำขมิ้น 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และโยเกิร์ต หรือนม 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันนำมามาสก์ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกจะช่วยรักษาปัญหาผิว สูตรนี้จะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและอนุมูลอิสระ ยับยั้งการอักเสบของสิว ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว หรือจะใช้สูตรบำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยการนำกล้วยหอมสุก 1 ผล น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ตธรรมชาติ 1/4 ถ้วย มาบดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทาลงบนใบหน้าและลำคอทิ้งไว้  20 นาทีแล้วล้างออก เป็นสูตรมาสก์สไตล์โฮมเมดที่การันตีได้เลยว่าแจ่มมาก ! 7. ดูแลความสะอาดใบหน้าให้ใสวิ้งอยู่เสมอป้องกันสิวไม่ให้มากวนใจ           เมื่อสิวหายแล้ว สาว ๆ ควรรักษาความสะอาดใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ โดยการเลือกใช้คลีนซิ่งที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ สามารถเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด ควรทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำอุ่นอย่างน้อยสองครั้งเช้าและเย็น ห้ามลืมเด็ดขาดนะจ๊ะ ! พร้อมกับทาครีมบำรุงผิวหน้าก่อนนอนจะช่วยทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มแลดูมีสุขภาพดีจนหนุ่ม ๆ ต้องมองเหลียวหลังเลยแหละ สิวไม่มีหัว ที่เกิดจากไขมันมาอุดตันที่ชั้นผิวหนัง หรือสิ่งสกปรกที่มาอุดตันรูขุมขน ไม่ได้รักษายากเหมือนที่หลายคนคิดเลยนะคะ เพียงแค่รักษาและดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธีด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เท่านี้สิวไม่มีหัวก็จะหายไปหรือไม่เกิดบนใบหน้าของเราอีกอย่างแน่นอน ข้อมูลจาก : wikihow.com, homeremedyshop.com, top10homeremedies.com, healthyandnaturalworld.com   Create Date : 24 สิงหาคม 2560     Last Update : 24 สิงหาคม 2560 8:42:49 น. Counter : 1575 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ยังเสื่อมไม่เลิก หนุ่มจีนหลอกจับนมสาวจนถูกจับ ล่าสุดกลับมาทำคลิปซุกนมสาวอีก ยังเสื่อมไม่เลิก หนุ่มจีนเนียนเล่นกลจับนมสาวจนถูกตำรวจจับ ล่าสุดกลับมาทำคลิปซุกนมสาวอีกแล้ว อ้างเป็นชาเลนจ์เพื่อโรคมะเร็ง จะร่วมบริจาคเงิน ถ้ามีสาว ๆ ยอมให้ซุกนม  หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2560 บล็อกเกอร์หนุ่มจีนรายหนึ่งมีอันต้องถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ หลังอัปคลิปแกล้งทำตัวเป็นนักมายากล ไปแสดงกลเหรียญให้สาว ๆ ดูเพื่อหลอกจับหน้าอกของพวกเธอ ซึ่งกลายมาเป็นเรื่องฉาวที่เรียกเสียงวิจารณ์ทั่วสังคมจีน [อ่านข่าว : จวกยับ หนุ่มจีนเนียนเป็นนักมายากล หลอกจับนมสาว-ถ่ายคลิปไปลงบล็อก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเจ้าตัวยังคงไม่เข็ดแม้ถูกจับไปในครั้งที่แล้ว เมื่อล่าสุด (23 สิงหาคม 2560) เว็บไซต์เดอะซัน มีรายงานว่า คริส ลี หนุ่มจีนรายเดิมที่ถูกจับข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ จากคลิปหลอกจับหน้าอกสาว ได้กลับมาทำพฤติกรรมเสื่อมอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนชื่อบัญชีในเว่ยป๋อ แล้วทำการอัดคลิปชาเลนจ์ ที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นชาเลนจ์เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องโรคมะเร็งเต้านม โดยเขายินดีจะบริจาคเงิน 10 หยวน (ราว 50 บาท) ให้แก่กาชาดจีน ต่อสาว ๆ 1 คนที่ยอมให้เขาสัมผัสและซุกหน้าลงกับหน้าอกของพวกเธอ สำหรับเหตุการณ์ในคลิป เผยให้เห็นว่ามีสาว ๆ ตามท้องถนนในนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่ยินยอมให้คริส ลี ซุกหน้าลงกับหน้าอกของพวกเเธอ เพื่อหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในโครงการบริจาคเงินนี้ ซึ่งเมื่อถึงช่วงท้ายคลิปเราก็จะเห็นยอดเงินที่เขาต้องบริจาคเป็นจำนวนกว่า 300 หยวน (ราว 1,500 บาท) จากการซุกหน้าลงกับเหยื่อสาวกว่า 30 คน แต่ทั้งนี้ไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าเขาได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคแก่กาชาดจริงหรือไม่ แม้เจ้าตัวจะเผยให้เห็นภาพขณะนำเงินใส่ซองจดหมายแล้วก็ตาม ทั้งนี้ชาวเน็ตที่ได้เห็นคลิปดังกล่าว ได้วิจารณ์ว่าแม้โครงการดังกล่าวจะมีวัตถุประสงค์ที่ดี แต่พฤติกรรมของ คริส ลี กลับเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ขณะที่หลายคนยังแสดงความไม่พอใจที่เห็นชายคนนี้กลับมาทำเรื่องแบบนี้ซ้ำอีก   Create Date : 24 สิงหาคม 2560     Last Update : 24 สิงหาคม 2560 8:35:05 น. Counter : 15591 Pageviews.   2 comment Share Tweet

เที่ยวบางกระเจ้า กับ 9 จุดเช็กอินเด็ด ปั่นชมวิว สูดอากาศดีใกล้กรุง บางกระเจ้า สมุทรปราการ กับจุดเช็กอินเจ๋ง ๆ ที่จะทำให้นักปั่นทั้งหลายประทับใจในธรรมชาติสวย ๆ นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ใครได้ไปสัมผัสจะต้องประทับใจด้วยกันทั้งนั้น บางกระเจ้า สมุทรปราการ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สถานที่ฟอกปอดที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบชิล ๆ เพราะเดินทางมาไม่ไกลก็ได้เจอกับธรรมชาติสีเขียว ที่สำคัญมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เราทำเพียบ แต่มาถึงบางกระเจ้าทั้งที ที่นี่มีจุดเช็กอินอะไรที่เราไม่ควรพลาดบ้าง วันนี้เรามีมาฝาก เอาไว้ใครมีโอกาสไปเที่ยวบางกระเจ้าครั้งหน้าจะได้ไปเช็กอินกันให้ถึงที่ คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวบางกระเจ้า          - ถึงแม้ว่าบางกระเจ้าจะมีต้นไม้ร่มรื่น แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางวัน อากาศที่นี่จะค่อนข้างร้อน ดังนั้นเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะว่าคุณจะต้องเจอแดดอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง แนะนำเครื่องกันแดดทั้งหลาย อย่างหมวก, ปลอกแขน หรือเสื้อแขนยาว และแว่นกันแดด เอาไว้ให้พร้อม          - บางกระเจ้ามีร้านให้เช่าจักรยานอยู่เพียบ ไล่เรียงมาตั้งแต่บริเวณท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก โดยราคาเช่าทั้งวันอยู่ที่คันละ 50 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)          - ใครที่คิดว่าตัวเองจะต้องปั่นหลงหรือสับสนทิศทางแน่นอน อ๊ะ ๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะคุณสามารถขอแผนที่จากร้านเช่าจักรยานได้เลย หรือปั่นไปถามทางชาวบ้านไปก็สนุกไปอีกแบบ          - สำหรับคนที่เอารถยนต์ส่วนตัวไป สามารถนำรถไปจอดได้ที่วัดบางน้ำผึ้งนอก หรือจะจอดที่ตลาดบางน้ำผึ้ง แล้วแต่สะดวก ลงรถปุ๊บก็ได้ช้อปปั๊บ...สะดวกดีนะคะ          - การเดินทางมายังบางกระเจ้าทำได้โดยสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีบางนา จากนั้นนั่งแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์มาลงที่วัดบางนานอก และนั่งเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก โดยเรือเที่ยวสุดท้ายอยู่ที่เวลา 21.30 น.          เอาล่ะ ! หลังจากได้รู้คำแนะนำเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาเตรียมตัวออกสตาร์ทปั่นจักรยานกัน โดยเริ่มกันที่ จุดเช็กอินที่ 1 วัดบางน้ำผึ้งนอก          แวะสักการะหลวงพ่อใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบางน้ำผึ้งต่างให้ความเคารพนับถือ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมอุโบสถเก่าแก่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พร้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังให้เราได้ชื่นชมความงามของฝีมือช่างโบราณ จุดเช็กอินที่ 2 ตลาดบางน้ำผึ้ง ภาพจาก Anirut Thailand/shutterstock.com          ใครมาเที่ยวบางกระเจ้าแล้วพลาดไม่แวะเช็กอินที่ "ตลาดบางน้ำผึ้ง" ก็เหมือนมาไม่ถึง อีกทั้งยังเป็นตลาดใหญ่หนึ่งเดียวในบางกระเจ้า ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ที่ต่างเดินทางมาจับจ่ายใช้สอย (เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ติดกับวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-14.00 น.) ภาพจาก Anirut Thailand/shutterstock.com          ภายในตลาดเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้าหลากหลาย ทั้งคาวและหวานละลานตา หรือจะเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อผักสด ผลไม้ ต้นไม้ เสื้อผ้า ของที่ระลึก และของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยก็ได้นะคะ แถมยังมีมุมให้อาหารสัตว์น้อยตัวจิ๋ว อย่างกระต่าย หมู และปลาคาร์พ แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าเราแนะนำให้คุณแวะมาที่จุดนี้เป็นจุดแรก เพราะประมาณช่วงบ่ายสามตลาดบางน้ำผึ้งก็จะวาย ถ้ามัวแต่แวะที่อื่น มาถึงจะเก้อเสียเปล่า ๆ จุดเช็กอินที่ 3 วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย ภาพจาก เฟซบุ๊ก Meaw Siriporn ภาพจาก เฟซบุ๊ก Meaw Siriporn          จุดเช็กอินแห่งใหม่ของบางกระเจ้า ใครที่รู้ตัวว่าชอบทำบุญ ลองแวะจุดเช็กอิน ณ วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย นี้ดู อยู่บริเวณวัดราษฎร์รังสรรค์ ก่อนถึงสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เมื่อเข้าไปข้างใน จะพบกับองค์พิฆเนศองค์ใหญ่ สูงกว่า 9 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางความเงียบสงบ และยังเป็นองค์พิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย จุดเช็กอินที่ 4 สวนศรีนครเขื่อนขันธ์          อีกหนึ่งจุดที่นักปั่นส่วนใหญ่ต้องแวะมาเช็กอิน ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่ทั้งสงบและร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด ตลอดระยะทางของการปั่น นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ระบบนิเวศทางธรรมชาติไปด้วยในตัว กิจกรรมที่เกิดขึ้นที่นี่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือไม่ก็ขี่จักรยานชิล ๆ          พลาดไม่ได้กับไฮไลท์ของการมาเที่ยวสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ที่บริเวณ "หอดูนก" เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักดูนกที่ไม่ต้องออกไปต่างจังหวัดไกล ๆ เหล่านี้เป็นมุมถ่ายรูปเด็ด ที่เรามักเห็นตามโซเชียลต่าง ๆ จุดเช็กอินที่ 5 ปั่น กิน แฟ          แวะจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กับร้านกาแฟเก๋ ๆ อีกหนึ่งจุดแวะพักยอดนิยมของบางกระเจ้า ภายในร้านกว้างขวาง นั่งได้อย่างสบาย ผนังด้านหนึ่งของร้านตกแต่งด้วยกระจก ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาในร้าน ดูโล่งโปร่งสบายตา แถมยังมีมุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ ในร้าน ไว้เอาใจสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูป โดยเมนูของร้านจะมีทั้งชา กาแฟ น้ำปั่น และเครปเค้กชาไทยมาชิมกัน จุดเช็กอินที่ 6 พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ภาพจาก เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บ้านสวนปัญญ์ธารา ภาพจาก เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บ้านสวนปัญญ์ธารา          สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สนุกไปกับเรื่องราวความรู้ของปลากัด อีกทั้งยังได้ชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทย และความสวยงามของการปรับแต่งภูมิทัศน์และไม้ดอก เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักไปด้วยในตัว เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 861 3542 , 086 405 3105 จุดเช็กอินที่ 7 เส้นทางจักรยานเลียบคลอง (ถนนมรกต)          เส้นทางสายนี้ถูกเรียกขานว่าเส้นทางมรกต เพราะมีการทาสีเขียวไปบนพื้นถนนดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ขณะปั่นไปก็รู้สึกได้สัมผัสกับลมเย็น ๆ มีรั้วกั้นให้ปั่นได้อย่างปลอดภัย บวกกับความสวยงามตลอดฝั่งคลองบางน้ำผึ้ง ที่มีต้นไม้เขียวชอุ่มสบายตาตลอดทาง เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักปั่นทั้งหลายนิยมมาถ่ายรูปกันเป็นจำนวนไม่น้อย จุดเช็กอินที่ 8 พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง          ร้านอาหารและโฮมสเตย์น่ารัก ๆ บรรยากาศเหมาะกับการมานั่งทานอาหารอร่อย ๆ ริมแม่น้ำชิล ๆ มีโซนที่นั่งทั้งข้างในและข้างนอกร้าน แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักถูกใจกับโซนนอกร้าน เพราะมีศาลาท่าน้ำ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งทานข้าวรับลมเย็น ๆ ชมเรือแล่นผ่านไป-มา          นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ที่นี่ยังให้บริการที่พักโฮมสเตย์ ซึ่งไฮไลท์เด็ดอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความสวยงามของหิ่งห้อยที่ส่องแสงวิบวับรอบต้นลำพู ตรงบริเวณระเบียงบ้านพบรักได้ทุกคืน จุดเช็กอินที่ 9 Bangkok Tree House          จุดเช็กอินสุดฮิตอีกหนึ่งแห่งของบางกระเจ้า ที่ให้บริการทั้งในส่วนของคาเฟ่และที่พัก โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่เน้นในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ใช้วัสดุไม้เป็นส่วนประกอบหลัก ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ เป็นที่หลบหลีกซ่อนเร้นตัวจากความวุ่นวายในเมืองหลวงที่คุณเองก็คาดไม่ถึง "บางกระเจ้า" จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถสร้างความสุข ความสนุก แถมยังได้ออกกำลังขาไปกับการปั่นจักรยานได้แบบเพลิน ๆ ใครอยากปลีกตัวออกจากความวุ่นวาย และหามุมสงบ ๆ ให้กับชีวิตสักเดี๋ยว บางกระเจ้าน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกใจของใครหลายคนแน่นอนค่ะ ^ ^ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บ้านสวนปัญญ์ธารา, เฟซบุ๊ก Meaw Siriporn   Create Date : 23 สิงหาคม 2560     Last Update : 23 สิงหาคม 2560 8:36:28 น. Counter : 2925 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• สารพันเรื่องราว
• สรรหามาอ่าน
• รวมมิตรเรื่องราว
• รวมมิตรการแชร์สาระทางออนไลน์
• รวมมิตรออนไลน์
• เรื่องราวสารพันรวมมิตรออนไลน์
• ข่าวรวมมิตรออนไลน์ทั่วโลกออนไลน์
• ร้อยเรื่องสาระทั่วไป
• หนีงหน่องชวนอ่านสาระ
• อ่านสาระ หลากหลายมิติ ของนานาสาระ
• ช่างหัวมัน นานาสาระ ตามสบาย

• หนี่งหน่อง
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com