ขอคารวะ ไปรษณีย์ไทยอย่างล้ำ ส่งพัสดุถูกบ้าน แม้ที่อยู่มีแต่ หนุ่มสั่งของออนไลน์จากประเทศจีน ถึงกับต้องซูฮกไปรษณีย์ไทย ส่งของมาถูกบ้านทั้งที่มีแต่เครื่องหมายคำถาม ?????          วันที่ 6 สิงหาคม 2560 เฟซบุ๊ก Karn Burananatt ได้โพสต์ภาพที่เผยให้เห็นกล่องพัสดุ ที่ระบุชื่อ-ที่อยู่ผู้รับด้วยตัวเลข และเครื่องหมายคำถาม โดยเจ้าของภาพบอกว่า ตัวเองสั่งของออนไลน์มาจากประเทศจีน สุดมหัศจรรย์ ไปรษณีย์ไทยส่งของมาของถึงมือเป๊ะ งานนี้คนชมเพียบ ไปรษณีย์ไทยเทพมาก สุดยอดจริง ๆ ซึ่งความคิดเห็นบางส่วนคาดว่าที่ไปรษณีย์ส่งถูกนั้น อาจจะเป็นเพราะมีการระบุบ้านเลขที่และรหัสไปรษณีย์นั่นเอง ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Karn Burananat   Create Date : 07 สิงหาคม 2560     Last Update : 7 สิงหาคม 2560 8:15:03 น. Counter : 1428 Pageviews.   0 comment Share Tweet

3 ท่าเช็กบุคลิกที่ดี พร้อมวิธีแก้หลังค่อม บางคนมีอาการหลังค่อมไม่รู้ตัวทั้งในท่ายืนและท่านั่ง งั้นลองมาเช็กง่าย ๆ ดูกันว่า เราหลังค่อมหรือไม่ พร้อมวิธีแก้หลังค่อมหลายสไตล์ให้เลือกลอง เชื่อไหมคะว่ายุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยหนึ่งของชีวิตก็มีส่วนให้บุคลิกภาพของเรา ๆ เสียศูนย์ไปได้เหมือนกัน รวมไปถึงมนุษย์ออฟฟิศที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันด้วย ที่อาจเผลอนั่งหลังค่อมโดยไม่รู้ตัวกันบ่อย ๆ แถมพอเลิกงานก็ยังก้มหน้าก้มคอต่อกับหน้าจอโทรศัพท์ ก่อให้เกิดอาการปวดต้นคอ ปวดหลัง ลามไปถึงอาการปวดหัว แถมมาด้วยบุคลิกหลังค่อมแบบไม่รู้ตัวอีกอย่าง           โอ๊ย...ไม่อยากเสียบุคลิกภาพตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไร มาเช็กร่างกายง่าย ๆ กันค่ะว่าหลังเราค่อมไหม ด้วย 3 วิธีตามนี้ และหากพบว่าหลังเราไม่ตรงอย่างที่คิด มีอาการค่อมหรือโค้งหน่อย ๆ เรามาแก้หลังค่อมต่อกันเลย 3 ท่า เช็กอาการหลังค่อม 1. ยืนเท้าชิด ให้ส้นเท้าและหลังชนกำแพง 2. แนบศีรษะชิดกับกำแพง ก้มคางเล็กน้อยเพื่อให้ต้นคอแนบกับกำแพงด้วย 3. ยกแขนขึ้นแนบกับกำแพง งอข้อศอกให้แขนตั้งฉากกับพื้น พยายามตั้งลำตัวให้ตรงเสมอ เช็ก : ส่วนศีรษะ คอ กลางหลังตรงช่วงเอว สะโพก และส้นเท้าต้องแนบชิดกับกำแพงทั้งหมด ทว่าหากกลางหลังตรงช่วงเอวไม่สามารถสัมผัสกับกำแพงได้ แปลว่าคุณมีอาการหลังโค้งหรือหลังค่อม แต่หากลำคอและศีรษะไม่สามารถสัมผัสกำแพงได้ นั่นหมายความว่าคุณมีอาการคอยื่นมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมเสพติดการใช้สมาร์ทโฟนก็เป็นได้ วิธีแก้หลังค่อม แก้หลังค่อมด้วยท่ากายบริหารง่าย ๆ ท่าที่ 1           - ยืนตรง เอามือไว้ประสานกันไว้ด้านหลัง           - แอ่นหน้าอก พยายามแบะไหล่จนรู้สึกตึงกำลังดี และเงยหน้าให้สุด           - ค้างท่าไว้สักพัก แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น จากนั้นทำซ้ำอีก 3 ครั้ง นับเป็น 1 เซต ควรทำ 6 เซตต่อวัน ท่านี้จะช่วยยืดโครงสร้างร่างกายด้านหน้า ที่เกิดจากการไหล่ห่อ และยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อทางด้านหลังซึ่งเกิดจากอาการหลังค่อมได้ด้วย ท่าที่ 2           - เริ่มจากนั่งบนเก้าอี้ พิงพนักกำแพงทั้งตัว โดยให้ศีรษะ หลัง ก้น ชิดกำแพง ซึ่งจะนำหมดหรือกระเป๋ามาวางบนตักเพื่อรองมือด้วยก็ได้ เพื่อลดอาการเกร็งของช่วงไหล่           - แขม่วพุงเล็กน้อย พร้อมกับก้มคางลง โดยที่ศีรษะและหลังชิดกำแพงอยู่           - ค้างท่าไว้ 10 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเดิม นับเป็น 1 เซต ให้ทำวันละ 6 เซต ท่าบริหารแก้หลังค่อมนี้จะช่วยแก้อาการไหล่ห่อ คอยื่น พร้อมกับช่วยบริหารกล้ามเนื้อลำคอชั้นในไปในตัว   Create Date : 06 สิงหาคม 2560     Last Update : 6 สิงหาคม 2560 19:19:42 น. Counter : 3025 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เกาะแสมสาร เปิดจองบัตรคิวออนไลน์ เยี่ยมชมทะเลสวยสุดประทับใจ เกาะแสมสาร ได้เปิดระบบจองตั๋วออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และเต็มอิ่มกับบรรยากาศความสวยงามของเกาะแสมสาร แบบไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป           เกาะแสมสาร หนึ่งในเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ และกำลังเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความสวยงามของเกาะที่ขึ้นชื่อว่าทะเลสวย น้ำใส ปะการังอุดมสมบูรณ์ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาเที่ยวแบบ One Day Trip และล่าสุดนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะแสมสาร จองออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวเกาะแสมสารมากยิ่งขึ้น           เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็น 1 ใน 9 เกาะ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย เช่น พายเรือคายัก ดำน้ำดูปะการัง และปั่นจักรยานชมธรรมชาติ เป็นต้น โดยปกติแล้วเกาะแสมสารเที่ยวได้ตลอดทั้งปี           บนเกาะแสมสารเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม 2 หาด คือหาดเทียนและหาดลูกลม โดยเมื่อเดินทางถึงเกาะแสมสาร จะมีเจ้าหน้าที่ทหารบรรยายเล่าถึงรายละเอียดการเที่ยวบนเกาะ ซึ่งเปิดให้ท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับทุกวัน เพราะบนเกาะไม่สามารถค้างแรมได้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักที่ช่องแสมสาร หรือไม่ก็ในตัวเมืองสัตหีบ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "ที่พักแสมสาร รับลมชมทะเล พักกายและใจแบบชิล ๆ" โดยนักท่องเที่ยวต้องมาซื้อตั๋วขึ้นเรือที่ อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เขาหมาจอ ระเบียบในการซื้อบัตรข้ามเกาะแสมสาร (กรณีรับบัตรคิวด้วยตัวเอง)           - เจ้าหน้าที่จะเริ่มแจกบัตรคิว เวลา 06.00 น. (1 บัตรคิว/คน/ใบ)           - นักท่องเที่ยวจะต้องมารับบัตรคิวด้วยตัวเองเท่านั้น           - นักท่องเที่ยวต้องมารอซื้อบัตร เวลา 08.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มจำหน่ายบัตรข้ามเกาะแสมสาร โดยเรียงตามลำดับบัตรคิว ตั้งแต่หมายเลข 1-500           - หากเรียกหมายเลขใดแล้วหมายเลขนั้น ๆ ไม่แสดงตัว เจ้าหน้าที่จะข้ามไป และเมื่อเจ้าหน้าที่จำหน่ายบัตรเสร็จเรียบร้อยจนถึงคิวสุดท้าย บัตรคิวนั้น ๆ ที่ข้ามไปยังไม่มาแสดงตัว เจ้าหน้าที่จะถือว่าสละสิทธิ์           แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยที่อยากมาเที่ยว แต่ติดปัญหาไม่สามารถจองตั๋วได้ทัน หรือไม่รู้วิธีการจองตั๋วข้ามไปยังเกาะ ซึ่งตอนนี้ทางหน่วยงานราชการ ได้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเปิดให้จองตั๋วข้ามเกาะแสมสารแบบออนไลน์ได้แล้ว โดยมีวิธีการจอง ดังนี้ ระเบียบในการซื้อบัตรข้ามเกาะแสมสาร (กรณีรับบัตรคิวออนไลน์)           - เข้าหน้าเมนูจองบัตรคิว           - เลือกรอบเรือ           - ใส่จำนวน 1 คน/10 คิว กด "สั่งซื้อ" (ถ้าเกินจะถูกยกเลิกคิวทั้งหมด)           - เลือก "ดำเนินการต่อ"           - เลือก "ยืนยันรายการสั่งซื้อ" (การจองคิวจะสำเร็จเมื่อผ่านขั้นตอนนี้)           - นำเลขที่รายการสั่งซื้อและบัตรประชาชนมาแสดงตัวตอนซื้อตั๋ว           - ระบบการจองจะปิดทำการก่อนวันที่จำหน่ายตั๋ว 1 วัน อัตราค่าบริการ           ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท และเด็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปแต่ไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ คนละ 220 บาท (อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย), ชาวต่างชาติอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป คนละ 600 บาท (อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ชาวต่างชาติต้องมีคนไทยไปด้วยเท่านั้น)   *** หมายเหตุ ปัจจุบันนโยบายของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยได้กำหนดผู้เยี่ยมชมเกาะแสมสารไม่เกิน 300 คน/วัน หากมีคณะนักเรียน นิสิต และนักศึกษา มาศึกษาธรรมชาติ และจำนวนยอดจากบัตรคิวออนไลน์เกาะแสมสารจะนำมาหักยอดในจำนวน 300 คน           คราวนี้นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเที่ยวเกาะแสมสารได้อย่างสะดวกขึ้น แต่ไปแล้วนักท่องเที่ยวทุกคนอย่าลืมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความสวยงามของธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้เดินทางไปเที่ยวได้อีกนาน ๆ ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย โทรศัพท์ 038 432 471, 038 432 475 หรือ เว็บไซต์ kohsamaesarnnavy.com, เฟซบุ๊ก Koh Samaesarn (เกาะแสมสาร) ขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ kohsamaesarnnavy.com, เฟซบุ๊ก Koh Samaesarn (เกาะแสมสาร)   Create Date : 05 สิงหาคม 2560     Last Update : 5 สิงหาคม 2560 8:58:26 น. Counter : 2065 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ผัดเปรี้ยวหวานทะเล เมนูกับข้าวเปี่ยมคุณค่าถึงไม่เผ็ดก็อร่อยได้ ผัดร้อน ๆ ส่งตรงจากกระทะ กับเมนูผัดเปรี้ยวหวานทะเล กับข้าวสีคัลเลอร์ฟูล ใส่ผักและผลไม้มากประโยชน์ อร่อยทำง่ายกินได้ทุกวัย       จากที่เคยทำแต่เมนูกับข้าวรสเผ็ดมาหลายมื้อจนแสบท้อง ลองเปลี่ยนมาทำเมนูผัดเปรี้ยวหวาน สักครั้งบ้างดีไหม แม้รสชาติไม่แซ่บแต่ก็ไม่จืดชืดนะคะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำผัดเปรี้ยวหวานทะเล ใส่ผักหลากชนิด เติมโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ใครจะเปลี่ยนเป็นผัดเปรี้ยวหวานไก่หรือผัดเปรี้ยวหวานหมูก็ได้จ้า ส่วนผสม ผัดเปรี้ยวหวาน      • ปลาหมึก (หั่นแว่น) 200 กรัม      • สับปะรด (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย      • แตงกวา (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย      • หอมใหญ่ (หั่นเสี้ยว) 1 หัว      • ต้นหอม (หั่นท่อนสั้น) 1 ต้น      • มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่น 4 ส่วน)      • ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย      • น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ      • เกลือป่นเล็กน้อย (ปรุงรส) **ถ้าต้องการความหอมให้ใส่น้ำปลาแทนได้      • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ      • กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนโต๊ะ      • น้ำมันพืช (สำหรับผัด) วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานทะเล      1. เจียวกระเทียมสับในน้ำมันพืชจนหอม ใส่เนื้อปลาหมึกลงไปผัดจนเกือบสุก      2. ใส่สับปะรด แตงกวา หอมใหญ่ ต้นหอม และมะเขือเทศลงไปผัดจนสุกนิ่ม      3. ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย และเกลือป่น ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ ใครกำลังมองหาเมนูกับข้าวแสนอร่อย อยากให้ลองทำเมนูผัดเปรี้ยวหวานทะเลสักมื้อ ทำแค่กระทะเดียวกินได้ทั้งบ้าน สามารถเติมเห็ดฟาง เต้าหู้ และพริกหวานได้ตามชอบ   Create Date : 05 สิงหาคม 2560     Last Update : 5 สิงหาคม 2560 8:56:30 น. Counter : 1649 Pageviews.   0 comment Share Tweet

6 วิธียอมรับความต่างของชาย-หญิง เพื่อรักสุดแฮปปี้ ความแตกต่างของผู้หญิงกับผู้ชายนั้นมีมากมาย ซึ่งมันคงจะดีหากว่าความแตกต่างเหล่านั้นมาเติมเต็มมากกว่ามาทำให้ทะเลาะกันว่าไหม แต่ในเมื่อไม่มีใครสมบูรณ์แบบและการทะเลาะเบาะแว้งก็เกิดขึ้นได้เสมอ เราก็ต้องหาวิธีรับมือเพื่อให้ความรักของคุณไม่ต้องจบลงระหว่างทาง ซึ่งวันนี้เราก็มี 6 วิธีรับมือกับความแตกต่างในความรักมาบอกเล่ากันค่ะ 1. ลืมอดีตร้าย ๆ ไปบ้าง ใคร ๆ ก็มีอดีตที่เลวร้ายหรือสิ่งที่ไม่อยากจดจำกันทั้งนั้น คุณเองก็ห้ามเด็ดขาดที่จะไปพูดจี้จุดถึงความผิดพลาดที่ผ่านมาของเขา เช่น บอกว่าแฟนเก่าของเขาคิดถูกแล้วที่ทิ้งเขาไป หรือความผิดพลาดเรื่องอื่น ๆ ก็เช่นกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรหรือเคยผ่านอะไรมา หากคุณรักเขาจริง ๆ ก็ต้องเชื่อมั่นว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ที่สำคัญคือคุณต้องเป็นกำลังใจให้เขาด้วย 2. ทะเลาะอย่างมีศิลปะ ไม่มีคู่รักคู่ไหนหรอกที่อยากทะเลาะกันให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่บางครั้งมันก็เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นแทนที่จะพูดจาร้าย ๆ ใส่กัน ก็มาพูดกันด้วยเหตุผลดีกว่า คุณมีสิทธิ์โกรธได้เมื่อเขาทำผิด แต่อย่าพูดจาหยาบคายหรือดูถูกเขา เพราะสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีกเท่าตัวเลย ที่สำคัญควรทำให้การทะเลาะทุกครั้งทำให้คุณเข้าใจกันมากขึ้น ดีกว่าทะเลาะแล้วทำให้ทุกอย่างแย่ลง 3. อย่าคาดหวังให้เขาเปลี่ยนตัวเองในทันที คุณจำเป็นต้องให้โอกาสและให้เวลาเขาได้พิสูจน์ตัวเองด้วย หากเขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่เพื่อคุณ บางครั้งเขาอาจละเลยที่จะทำตามสัญญาหรือมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่หากมันค่อย ๆ น้อยลงก็แสดงว่าเขาพยายามอยู่ และคุณเองก็อย่าคาดหวังให้เขาดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบในชั่วพริบตา เพราะอย่าลืมว่าคุณเองก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน 4. อย่าก้าวก่ายเพื่อน ๆ ของเขา เพื่อน...ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับผู้ชายเลย เพราะแน่นอนว่าเขาสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ และคุณก็ควรจะปล่อยให้เขาได้เป็นอิสระบ้าง แต่หากดูแววแล้วว่าเพื่อนบางคนของเขาไม่น่าไว้วางใจ ก็อย่าไปฟันธงให้เขาเลิกคบหรือให้เขาเลือกระหว่างคุณและเพื่อนของเขา แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยประละเลยนะคะ เพียงแต่ต้องพูดเตือนเขาด้วยความห่วงใยดีกว่า เชื่อเลยว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงความหวังดีของคุณ พร้อมกับระวังตัวมากขึ้น 5. อย่าควบคุมหรือทำตัวอยู่เหนือเขาทุกอย่าง ผู้หญิงที่ชอบทำตัวเจ้ากี้เจ้าการหรือข่มแฟนหนุ่มตัวหน้าคนอื่นถือเป็นนิสัยที่ไม่น่ารักเลย คุณควรให้เกียรติและไว้หน้าเขาบ้าง หากมีอะไรที่ต้องเคลียร์ก็เอาไว้หลังไมค์หรือพูดคุยกันสองต่อสองดีกว่า นอกจากนี้ควรให้เขาได้เป็นตัวของตัวเอง มีอิสระที่จะไปไหนมาไหน รวมทั้งอิสระทางการเงินด้วยนะจ๊ะ อย่าลืมว่าเขาต้องการคนรู้ใจไม่ใช่แม่คนที่สอง 6. พูดคุยกัน การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่คุณทั้งคู่ต้องใส่ใจ อย่าพูดคุยกันเพียงแค่เรื่องที่ต้องคุยกันอยู่แล้ว แต่ลองสรรหาเรื่องราวใหม่ ๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง เช่น ความรู้ใหม่, ที่เที่ยวใหม่ หรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของคุณทั้งคู่ คุยกันเสมือนเพื่อนฝูงเม้าท์กัน เชื่อเลยว่าความสัมพันธ์ทั้งแบบคนรักและเพื่อนจะทำให้คุณอยู่ด้วยกันอย่างสบายใจ ผ่อนคลาย ยิ่งถ้ามีมุกเด็ด ๆ พ่วงมาด้วยแล้วละก็ เชื่อเลยว่ามันจะทำให้การพูดคุยของคุณสนุกยิ่งขึ้น และนี่ก็เป็นคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณและคนรักประคับประคองความรักให้ไปไกลถึงฝั่งฝันได้ แม้จะไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากหากว่าคุณรักกันจริง ๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ladiestalks.com และ huffingtonpost.com   Create Date : 05 สิงหาคม 2560     Last Update : 5 สิงหาคม 2560 8:54:10 น. Counter : 780 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• สารพันเรื่องราว
• สรรหามาอ่าน
• รวมมิตรเรื่องราว
• รวมมิตรการแชร์สาระทางออนไลน์
• รวมมิตรออนไลน์
• เรื่องราวสารพันรวมมิตรออนไลน์
• ข่าวรวมมิตรออนไลน์ทั่วโลกออนไลน์
• ร้อยเรื่องสาระทั่วไป
• หนีงหน่องชวนอ่านสาระ
• อ่านสาระ หลากหลายมิติ ของนานาสาระ
• ช่างหัวมัน นานาสาระ ตามสบาย

• หนี่งหน่อง
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com