อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

ขนมผิง ขนมไทยโบราณกรอบหอมอร่อยทำง่ายไม่ต้องซื้อ



ขนมผิง

ชวนมาปั้นขนมผิงกินเองกันเถอะ สูตรขนมไทยแป้งกรอบละลายในปาก รสชาติหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นควันเทียน ทำเสร็จหมดอย่างไวแน่นอน

     ใครอยากกินขนมผิงบ้าง ? ขนมไทย โบราณที่อจจะหาซื้อยากไปหน่อย ลองมาทำเองกันดีกว่า วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำขนมผิง สูตรโดย ConyCooking จากเว็บไซต์ ritacooking (อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita) ส่วนผสมไม่เยอะ มีแค่แป้ง กะทิ น้ำตาล และไข่ไก่ พอพักแป้งจนครบเวลาก็ปั้นเป็นก้อนกลมแล้วนำไปอบจนสุก สุดท้ายก็เอาไปอบควันเทียน ใครจะเติมสีสันหรือโรยงาก็ได้นะคะ

ส่วนผสม ขนมผิง

     • แป้งมัน 500 กรัม
     • กะทิ 250 กรัม
     • น้ำตาลทรายขาว 250 กรัม
     • ไข่ไก่ 2 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)

วิธีทำขนมผิง

     1. ผสมกะทิกับน้ำตาลทราย คนให้ละลาย นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เป็นยางมะตูม ยกลงพักไว้ให้อุ่น
     2. พอกะทิอุ่น ใส่ไข่แดงลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ เติมแป้งลงไป (บางสูตรอาจจะมีการคั่วแป้งมันให้สุกก่อนแล้วพักไว้ แต่บางสูตรก็ไม่คั่วนะคะ ใช้แป้งมันปกติได้เลย เราลองทั้ง 2 แบบแล้ว รู้สึกว่า สูตรที่คั่วแป้งก่อนขนมจะกรอบมากกว่า อันนี้แล้วแต่ความชอบและความขยันของแต่ละคนค่ะ) นวดให้เข้ากันจนแป้งเนียน พักไว้ 1 คืน เอาพลาสติกถนอมอาหารคลุมไว้
     3. ตอนเช้าเอามานวดใหม่อีกครั้งแล้วค่อยปั้นเป็นก้อนกลม เรียงใส่ถาดที่ทาน้ำมัน
     4. เอาเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 15 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง เอาออกมาพักให้เย็นแล้วเอาไปอบควันเทียน เสร็จแล้วก็เก็บใส่ภาชนะปิดมิดชิด

  จำไม่ได้ว่ากินขนมผิงครั้งสุดท้ายไปตอนไหน นี่ก็แทบลืมรสชาติไปเลยนะเนี่ย เอาล่ะ… วันหยุดนี้ขอรื้อฟื้นความอร่อยสักหน่อย ขอตัวไปซื้อถุงสวย ๆ ทำแจกเพื่อนร่วมงานด้วยเลยดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ConyCooking และ ritacooking (อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita)




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2560    
Last Update : 17 สิงหาคม 2560 8:46:08 น.
Counter : 3384 Pageviews.  

น้ำตกธารท่าลี่ น้ำใสเย็นฉ่ำ แหล่งท่องเที่ยวใหม่วังน้ำเขียว นครราชสีมา



น้ำตกธารท่าลี่

องค์การบริหารส่วนตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว ร่วมมือกับชาวบ้านในชุมชน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ "น้ำตกธารท่าลี่" สายธารไหลเย็นจากลำน้ำคลองเชียงสา บรรยากาศร่มรื่น สามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี

ใครที่หลงรักธรรมชาติแห่งวังน้ำเขียว เตรียมใจไปตกหลุมรักอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่สวย ๆ กับ "น้ำตกธารท่าลี่" ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา แหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับสายน้ำสุดเย็นฉ่ำ บรรยากาศร่มรื่น เที่ยวได้ทั้งครอบครัว มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี
น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

          น้ำตกธารท่าลี่ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในคลองเชียงสา ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว มีลักษณะเป็นแก่งหินน้อยใหญ่เรียงตัวมากมายอยู่ในลำน้ำ ซึ่งไม่สูงมากนัก ระดับน้ำไม่ลึก น้ำใสสะอาดไหลเย็นชื่นใจ มีน้ำให้เล่นได้ตลอดทั้งปี โดยน้ำจะไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงสา ไม่ผ่านชุมชนหรือหมู่บ้าน จึงไม่ต้องกลัวอันตรายเรื่องน้ำป่าไหลหลาก และความสะอาด

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

รอบ ๆ ของน้ำตกธารท่าลี่จะเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด บรรยากาศร่มรื่น อากาศเย็นสบาย มีเก้าอี้และลานปูเสื่อ รวมทั้งร้านค้า ร้านขายเครื่องดื่มให้บริการ จึงเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงวันหยุด

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

น้ำตกธารท่าลี่
ภาพจาก คุณ Maxwin Corp

          ซึ่งขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอุดมทรัพย์ พร้อมทั้งชาวบ้านในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังร่วมมือกันช่วยพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดสร้างห้องน้ำและจัดสรรพื้นที่ให้เป็นระเบียบ เพื่อรับรองนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวชมในอนาคต

น้ำตกธารท่าลี่

น้ำตกธารท่าลี่

น้ำตกธารท่าลี่

         น้ำตกธารท่าลี่ อยู่ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ประมาณ 1 กิโลเมตร เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริการส่วนตำบลอุดมทรัพย์ โทรศัพท์ 09 3535 7838, 0 4496 7008

ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยววังน้ำเขียว ก็ลองแวะไปเที่ยวน้ำตกธารท่าลี่กันนะคะ ไปเสพอากาศบริสุทธิ์เล่นน้ำเย็น ๆ กินข้าวริมน้ำตกกับครอบครัว แค่คิดก็ฟินแล้ว :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
องค์การบริการส่วนตำบลอุดมทรัพย์ และ คุณ Maxwin Corp




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2560    
Last Update : 17 สิงหาคม 2560 8:43:47 น.
Counter : 2816 Pageviews.  

มะนาวทาแก้ฝ้า กับ 5 สูตรรักษาฝ้าด้วยมะนาว เผยผิวขาวใส ไร้ฝ้ามากวนใจ



มะนาวทาแก้ฝ้า

วิธีรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ กับ 5 สูตรมะนาวทาแก้ฝ้า ที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ สาว ๆ คนไหนที่เป็นฝ้า ห้ามพลาดเด็ดขาด

          ฝ้า ปัญหากวนใจสาว ๆ หลายคน พอ ๆ กับปัญหาสิว ซึ่งมักเกิดจากการถูกแสงแดดเป็นประจำจนทำให้ถูกรังสียูวีทำร้าย ส่งผลให้เมลานินใต้ชั้นผิวหนังทำงานผิดปกติ จนเกิดเป็นรอยฝ้าตามส่วนต่าง ๆ บริเวณที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ ได้แก่ แก้ม จมูก คาง และหน้าผาก เป็นต้น
สาว ๆ หลายคนที่เป็นฝ้าอาจกำลังกลุ้มใจ ไม่รู้จะหาวิธีรักษาฝ้าอย่างไรดี จะไปเข้าคอร์สรักษาฝ้าบางที่ก็ราคาแพงเกินไป แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าเราสามารถหาวิธีรักษาฝ้าได้ด้วยวิธีธรรมชาติที่ใช้วัตถุดิบที่หาได้สะดวก แถมยังทำได้ง่าย ๆ อย่าง "มะนาว" มาใช้ในการรักษาฝ้ากัน เพราะในมะนาวนั้น อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวใส กระชับเต่งตึง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยแก่ก่อนวัย ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนฝ้า กระและจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี

          วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอแจก 5 สูตรมะนาวทาแก้ฝ้า ที่จะช่วยลดเลือนฝ้าบนใบหน้าของสาว ๆ พร้อมเผยผิวขาวกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องขอเตือนกันก่อนเลยนะคะว่า มะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งหากสาวผิวบอบบาง หรือสาวผิวแพ้ง่ายคนไหนที่ทนแสบไม่ไหว หรือเกิดอาการแพ้ ก็ควรรีบหยุดทันทีค่ะ แต่สำหรับสาวคนไหนที่พร้อมแล้ว ก็มาเตรียมสูตรมะนาวทาหน้าแก้ฝ้าที่เรานำมาฝากกันได้เลยค่ะ
มะนาวทาแก้ฝ้า
 สูตรที่ 1 : น้ำมะนาว

          สูตรนี้เป็นสูตรที่ทำง่ายมาก ๆ เพียงคั้นน้ำมะนาว แล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้น แม้ขณะทำสาว ๆ อาจรู้สึกแสบ ๆ คัน  ๆ บ้าง แต่เชื่อเลยว่าผลลัพธ์ออกมาดีแน่นอน นั่นก็เพราะว่ากรดวิตามินซีจากน้ำมะนาวจะไปช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดเลือนฝ้าและริ้วรอยจากสิวได้เป็นอย่างดีนั่นเองค่ะ

มะนาวทาแก้ฝ้า

สูตรที่ 2 : น้ำมะนาว + น้ำผึ้ง

          สูตรนี้เพิ่มน้ำผึ้งมาเป็นวัตถุดิบอีกอย่างหนึ่ง โดยผสมน้ำมะนาวจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง  1 ช้อนโต๊ะ ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และนำมาขัดนวดวนบนใบหน้าเบา ๆ พอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน สาว ๆ จะเริ่มสังเกตได้ว่าหน้าใสขึ้น จุดด่างดำ ฝ้า และกระค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด แถมน้ำผึ้งยังช่วยทำให้ใบหน้าของคุณสาว ๆ เนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย


มะนาวทาแก้ฝ้า

สูตรที่ 3 : น้ำมะนาว + น้ำผึ้ง + โยเกิร์ต

          ผสมส่วนผสมทั้ง 3 ในจำนวนเท่า ๆ กัน ในอัตราส่วนน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อผสมจนเข้ากันแล้ว ให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รวมถึงฝ้าบนใบหน้าได้ดี อีกทั้งในน้ำผึ้งและโยเกิร์ตยังมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าของสาว ๆ เนียนเด้ง ขาวใสได้อีกด้วยค่ะ

มะนาวทาแก้ฝ้า

สูตรที่ 4 : น้ำมะนาว + ขมิ้นชัน

          สูตรลดฝ้าสูตรนี้ เป็นสูตรที่สามารถทำได้ง่าย ๆ อีกสูตรหนึ่ง เพียงนำผงขมิ้นชันที่บดละเอียดมาผสมกับน้ำมะนาว ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 คนให้เข้ากัน ผงขมิ้นจะข้นกำลังดี จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และยังช่วยลดสิวอักเสบ รอยดำรอยแดงจากสิวให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด

มะนาวทาแก้ฝ้า

สูตรที่ 5 : น้ำมะนาว + น้ำสับปะรด + น้ำผึ้ง

          สูตรนี้อาจใช้วัตถุดิบหลายอย่าง แต่ขอบอกเลยว่าผลออกมาดีแน่นอน เพียงสาว ๆ นำน้ำมะนาว น้ำสับปะรด (ใช้น้ำส้มแทนได้) และน้ำผึ้ง โดยผสมน้ำมะนาวและน้ำสับปะรดในอัตราส่วนเท่ากัน คืออย่างละ 1-2 ช้อนโต๊ะ และใส่น้ำผึ้งเล็กน้อย คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นนำไปพอกหน้าทิ้งไว้ 10–15 นาที แล้วล้างออก วิตามินซีในน้ำมะนาวและน้ำสับปะรดจะช่วยให้ฝ้าจางลง ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น และในน้ำผึ้งจะมีเอนไซม์ช่วยบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับวิธีรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ ทั้ง 5 วิธีที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ ยังไงแล้ว สาว ๆ ก็ลองนำสูตรมะนาวทาหน้าแก้ฝ้า ทั้ง 5 สูตรนี้ไปใช้ดูนะคะ รับรองเลยว่าหน้าของสาว ๆ ที่เคยมีแต่ฝ้า จะค่อย ๆ จางลง เผยให้เห็นใบหน้าขาวกระจ่างใส ไร้ฝ้า กระและจุดด่างดำ แถมยังได้ผิวเด้งเนียนนุ่มกลับคืนมาด้วยแน่นอนค่ะ ^_^

ข้อมูลจาก : top10homeremedies.com, brainstrom.org, howtoremovethat.com




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2560    
Last Update : 17 สิงหาคม 2560 8:40:19 น.
Counter : 3291 Pageviews.  

Thailand vs South Korea / 2017 Asian Women's Volleyball Championship



  รอบรองชนะเลิศวอลเลย์บอลเอเซีย




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2560    
Last Update : 17 สิงหาคม 2560 8:35:19 น.
Counter : 1026 Pageviews.  

ส้มตำซั่วปูปลาร้า อาหารอีสานแซ่บนัวอิ่มยกครก



ส้มตำซั่วปูปลาร้า

แซ่บยกครก ! เมนูส้มตำซั่วปูปลาร้า อาหารอีสานรสจัดจ้าน ใส่เส้นมะละกอเคล้ากับขนมจีน เติมปูเค็มและน้ำปลาร้า เอาล่ะ… เตรียมข้าวเหนียวมาจกกันเลย

     ถ้าเอ่ยถึงส้มตำปลาร้า คงไม่มีใครไม่รู้จัก พูดแล้วก็น้ำลายสอเนอะ สำหรับใครที่อยากเพิ่มความฟินลองใส่เส้นขนมจีนลงไปสิคะ กลายเป็นเมนูตำซั่วรสชาติจัดจ้าน กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำส้มตำซั่วปูปลาร้า ใส่เส้นมะละกอกับขนมจีนตำกับปูเค็ม เติมน้ำปลาร้าหน่อย โรยแคบหมูอีกนิด จานเดียวก็แซ่บสะท้านแล้วค่ะ

ส่วนผสม ส้มตำซั่วปูปลาร้า

     • พริกสด ตามชอบ
     • กระเทียม ตามชอบ
     • มะเขือเปราะ 1 ลูก
     • มะเขือเทศ 1 ลูก
     • ขนมจีน 3 จับ
     • เส้นมะละกอ 1 กำ
     • ปูเค็มลวก 1 ตัว
     • แคบหมูกรอบ 1 ถ้วย
     • น้ำปลาร้าต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำมะนาว 1+1/2 ลูก
     • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

วิธีทำส้มตำซั่วปูปลาร้า

     1. ตำพริกและกระเทียมให้พอแตก ฝานมะเขือเปราะใส่ลงไป ตามด้วยเส้นมะละกอ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว ตำให้เข้ากัน
     2. ใส่ปูเค็มลงไป ตำให้พอแหลก สุดท้ายใส่เส้นขนมจีนลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยแคบหมู ตักใส่จาน

   ถ้าใครเหลือขนมจีนแล้วไม่อยากทิ้งขว้างก็จับมาทำตำซั่วปูปลาร้าสิคะ ได้กินทั้งเส้นขนมจีนและเส้นมะละกอไปพร้อมกัน ใครไม่ชอบปลาร้าก็ดัดแปลงเป็นตำซั่วกุ้งสดหรือตำซั่วไทยก็ได้นะคะ จัดสักครกกันเลยเพื่อน




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2560    
Last Update : 15 สิงหาคม 2560 8:42:56 น.
Counter : 3967 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.