อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

เมนูในลูกมะพร้าว ทั้งคาวหวานทำง่ายอร่อยยกลูก



จานชามไม่ต้องเพราะใช้ลูกมะพร้าวแทนกันได้ กับเมนูในลูกมะพร้าว สูตรอาหารคาวและอาหารหวาน จัดเสิร์ฟในลูกมะพร้าว อร่อยพริ้มทุกคำ

     หลังจากกินมะพร้าวอ่อน เสร็จแล้วอย่าเพิ่งทิ้งลูกมะพร้าวกันนะคะ จับมาเป็นภาชนะใส่อาหารคาวหรืออาหารหวานกันก่อนเถอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูลูกมะพร้าว เช่น ห่อหมกในลูกมะพร้าว วุ้นในลูกมะพร้าว และเมนูในลูกมะพร้าวอื่น ๆ อีกมากมาย แหม… นอกจากได้กินทั้งน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวแล้วยังเอาลูกมะพร้าวมาใส่อาหารได้อีก คุ้มจริง ๆ งานนี้

++++++++++++++
เมนูในลูกมะพร้าว
วุ้นมะพร้าวอ่อนในลูกมะพร้าว (ส่วนผสม 3 อย่าง)

     ใครไม่อยากกินวุ้นมะพร้าวแข็ง ๆ ก็ลองมาทำเมนูวุ้นมะพร้าวอ่อนในลูกมะพร้าว สูตรจาก คุณ RinS CookBook สูตรวุ้นนิ่มเคี้ยวง่าย ผสมกับมะพร้าวอ่อน ทำง่ายมากบอกเลย

ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน

     • ผงวุ้น 1+1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่เยอะเพื่อต้องการให้วุ้นไม่แข็งเกินไป)
     • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
     • มะพร้าวอ่อน 1 ลูก

วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน

     1. เฉาะมะพร้าวออกแล้วเทน้ำมะพร้าวลงในภาชนะ ตามด้วยน้ำตาลทรายคนให้ละลายเข้ากัน
     2. ใช้ช้อน (หรือที่ขูด) ขูดเนื้อมะพร้าวออกมาจากตัวมะพร้าว (แต่ไม่ใช้เนื้อตรงฝาจะได้มีไว้ด้านบนให้สวย ๆ) เตรียมไว้
     3. ใส่ผงวุ้นลงไปในน้ำมะพร้าว คนให้เข้ากัน ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง คอยคนส่วนผสมตลอดเวลาเพื่่อไม่ให้ติดก้นหม้อ รอให้เดือด ปิดไฟ
     4. ใส่ส่วนผสมวุ้นลงในลูกมะพร้าว เติมเนื้อมะพร้าวลงไป นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนวุ้นเซตตัว นำออกมาพร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 8 สูตรเมนูมะพร้าวอ่อน หอมนุ่มละมุนลิ้น อร่อยชวนชิมชาตินี้ต้องลอง

++++++++++++++
เมนูในลูกมะพร้าว
ไอศกรีมกะทิในลูกมะพร้าว

     ใครมีเครื่องทำไอศกรีมเอาออกมาล้างรอเลยค่ะ เราจะมาทำเมนูไอศกรีมกะทิในลูกมะพร้าว สูตรจาก คุณ RinS CookBook สูตรนี้ใส่น้ำมะพร้าวลงไปผสมกับกะทิและวิปปิ้งครีม พอเซตตัวจัดเสิร์ฟในลูกมะพร้าวกับเครื่องเคราตามชอบ

ส่วนผสม ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน

     • ไข่ขาว 1 ฟอง
     • ใบเตย 3-4 ต้น
     • น้ำตาลทราย 1+1/4 ถ้วย
     • เกลือ 1/2 ช้อนชา
     • น้ำมะพร้าวน้ำหอม หรือน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
     • กะทิ 3 ถ้วย
     • วิปปิ้งครีม 1+1/2 ถ้วย
     • เนื้อมะพร้าวอ่อน (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) หรือจะใส่แบบโรยหน้าก็ได้
     • ท็อปปิ้งตามชอบ เช่น ข้าวเหนียว ถั่วแดง ข้าวเหนียวมูล ลูกชิด เนื้อมะพร้าวอ่อน ถั่วลิสง ข้าวโพด

วิธีทำไอศกรีมมะพร้าวอ่อน

     1. เทน้ำมะพร้าวลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางอ่อน ตามด้วยใบเตย เกลือ และกะทิ คนให้เข้ากันจนเกลือละลาย ต้มจนเดือดอ่อน ๆ พอมีฟองอากาศใส่น้ำตาลทรายลงไปครึ่งหนึ่ง คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น (แช่ไว้ในน้ำเย็นก็จะเย็นเร็วขึ้น)
     2. ผสมน้ำตาลทรายที่เหลือกับไข่ขาว ตีให้เข้ากันจนตั้งยอดอ่อน ใส่วิปปิ้งครีมเย็นจัดลงไปตีให้ขึ้นฟู (ใช้เครื่องตีไฟฟ้าก็ได้)
     3. ถ้าส่วนผสมกะทิเย็นประมาณ 20 องศาเซลเซียสแล้วก็ใช้ได้ ทำการกรอง 1 ครั้ง เทลงไปในส่วนผสมไข่ขาว ใส่สารให้ความหนืดลงไป คนให้เข้ากัน รอจนอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส
     4. นำโถไอศกรีมไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 24 ชั่วโมง ใส่ส่วนผสมไอศกรีมลงไป ใช้เวลาประมาณ 1/2 ชั่วโมง ตักใส่ลูกมะพร้าวพร้อมเสิร์ฟ หรือถ้าหากต้องกินแบบแข็ง ๆ ก็ตักใส่ภาชนะมีฝาปิด นำไปแช่ในช่องฟรีซประมาณ 3-4 ชั่วโมง แล้วค่อยตักใส่ลูกมะพร้าว กินคู่กับท็อปปิ้งต่าง ๆ ตามชอบ

  หมายเหตุ : ถ้าไม่มีเครื่องทำไอศกรีมก็นำส่วนผสมใส่ในภาชนะสแตนเลสแช่ช่องฟรีซ ทุก ๆ 30 นาทีเอาออกมาคนให้เข้ากัน ประมาณ 10 ครั้ง หรือ 5 ชั่วโมง จะออกมาใกล้เคียงกับไอศกรีมที่ใช้เครื่อง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 8 สูตรเมนูมะพร้าวอ่อน หอมนุ่มละมุนลิ้น อร่อยชวนชิมชาตินี้ต้องลอง

++++++++++++++
เมนูในลูกมะพร้าว
ขนมเหนียวไอศกรีมกะทิในลูกมะพร้าว

     มาย้อนวัยเด็กด้วยการทำขนมเหนียวกินกันเถอะ ขอนำเสนอเมนูขนมเหนียวไอศกรีมกะทิในลูกมะพร้าว สูตรจาก นิตยสาร Foodstylist สูตรนี้ไม่ธรรมดาเพราะใส่ไอศกรีมกะทิและเสิร์ฟในลูกมะพร้าวด้วย  มาลองทำกันเลยเพื่อน

ส่วนผสม ขนมเหนียว

     • แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
     • แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
     • มะพร้าวขูด 1+1/2 ถ้วยตวง
     • สีผสมอาหาร หรือสีจากน้ำสมุนไพรตามชอบ
     • ข้าวตัง (สำหรับเสิร์ฟ)
     • คาราเมล (สำหรับเสิร์ฟ)
     • ไอศกรีมกะทิ (สำหรับเสิร์ฟ)

 วิธีทำขนมเหนียว

     1. นำมะพร้าวขูดคลุกเกลือและนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที
     2. ผสมแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้านวดให้เข้ากันและไม่ติดมือ แบ่งใส่สีตามชอบ
     3. จากนั้นนำมาปั้น แล้วนำลงต้มในน้ำเดือด พอแป้งรอยขึ้นตักแช่น้ำเย็น
     4. นำไปคลุกมะพร้าวที่นึ่งไว้ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ ข้าวตัง และคาราเมล

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมเหนียวไอศกรีมกะทิ ขนมไทยโบราณเหนียวนุ่มหอมมะพร้าว

ว้ายตายแล้ว ! เพิ่งโยนลูกมะพร้าวทิ้งไปเอง นี่ก็เย็นมากแล้วพ่อค้าแม่ค้าคงกลับบ้านกันหมด เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้าไปหาซื้อมะพร้าวอ่อนมาเตรียมไว้ทำเมนูในลูกมะพร้าวกินให้พุงแตกไปเลย




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 19:27:53 น.
Counter : 2419 Pageviews.  

วิธีการดูแลพัดลมที่ไม่ควรละเลย พร้อมวิธีทำความสะอาดแบบง่าย ๆ



วิธีดูแลและทำความสะอาดพัดลมตั้งโต๊ะและพัดลมเพดาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงินซื้อตัวใหม่เพราะไม่รู้วิธีการใช้งานและดูแลรักษาพัดลมอย่างเหมาะสม

ต่อให้วิวัฒนาการของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จะมีเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่ล้ำ ๆ ออกมาอย่างไร แต่บ้านเราก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้พัดลมอยู่ดี เพราะคนเมืองร้อนอย่างเราไม่สามารถอยู่อากาศเย็น ๆ ได้ตลอดเวลาหรอกค่ะ ดังนั้นกระปุกดอทคอมเลยนำวิธีการดูแลรักษาและทำความสะอาดพัดลมแบบตั้งโต๊ะและพัดลมเพดานมาฝากกันค่ะ แม้จะเป็นวิธีง่าย ๆ ดูเหมือนไม่ต้องใส่ใจอะไรมากมาย แต่เราก็ไม่ควรละเลยวิธีการดูแลรักษาพัดลมที่ถูกต้อง

วิธีการดูแลพัดลม

วิธีดูแลรักษาพัดลม

1. หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่นทุกฤดูกาล

          ประสิทธิภาพในการทำงานของพัดลม ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลด้วยเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่อยากให้ระบบภายในของพัดลมฝืดเคือง มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เปิด หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่นบนตามเกลียวใบพัดและแกนมอเตอร์ เพื่อบำรุงรักษาให้พัดลมใช้งานได้ยาวนาน

2. ปลี่ยนอะไหล่พัง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม

          หมั่นตรวจเช็กและสังเกตการทำงานของเครื่องว่ามีอะไรผิดไปจากปกติหรือไม่ หากมีจุดเสียหายหรือกลไกชำรุด ควรหาซื้ออะไหล่ตัวใหม่มาเปลี่ยนทันที อย่ารอให้ระบบพังจนไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ เพราะหากฝืนใช้ทั้ง ๆ ที่มีจุดชำรุดจะทำให้เครื่องทำงานหนัก เกิดความร้อนสูง และไฟชอตได้

3. เก็บพัดลมไว้ในที่ปลอดฝุ่น

          ทุกบ้านควรมีพัดลมสำรองเอาไว้ใช้งาน ไม่ควรใช้งานพัดลมตัวเดียวติดต่อกันทั้งวันทั้งคืน ไม่งั้นมอเตอร์จะเสียหายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แนะนำให้สลับพัดลมใช้และในระหว่างนั้นก็นำพัดลมตัวที่ไม่ได้ใช้งกานไปเก็บไว้ในที่ที่ปลอดฝุ่น ไม่โดนแสงแดด และความร้อน เพื่อให้พัดลมได้พักการทำงานและพร้อมกลับมาพัดลมเย็น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกครั้ง

วิธีการดูแลพัดลม

การทำความสะอาดพัดลม

          นอกจากจะดูแลตามจุดต่าง ๆ ของพัดลมให้ใช้งานได้ดีแล้วนั้น การทำความสะอาดพัดลมก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องปัดฝุ่นทำความสะอาดเบื้องต้นกันทุกวันและทำความสะอาดแบบจริงจังเดือนละ 1 ครั้ง ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

วิธีการดูแลพัดลม

1. การทำความสะอาดพัดลมตั้งโต๊ะ

          - ถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบซะก่อนและวางไว้ในที่ที่ปลอดภัย ไม่มีน้ำกระเด็นไปโดน

          - ถอดตะแกรงหน้าพัดลมออก ตามด้วยตัวล็อกใบพัด ใบพัด ตัวล็อกตะแกรงด้านหลัง และตะแกรงด้านหลังออกจากเครื่อง

          - เมื่อแยกชิ้นส่วนตรงใบพัดออกมาแล้ว ให้นำไปล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน ขัด ๆ ถู ๆ ให้สะอาดเกลี้ยงเกลาทุกซอกทุกมุม แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้แห้งหรือวางผึ่งลมจนชิ้นส่วนแห้งสนิท

          - ระหว่างที่รอให้ชิ้นส่วนแห้งสนิท ให้ใช้ผ้าเช็ดที่ตัวมอเตอร์เพื่อกำจัดเศษฝุ่นออกให้หมด

          - เมื่อชิ้นส่วนแห้งแล้วให้นำมาประกอบเข้าที่เดิม พร้อมใช้งานครั้งต่อไป

วิธีการดูแลพัดลม

2. วิธีทำความสะอาดพัดลมเพดาน

          - ก่อนอื่นต้องถอดปลั๊กออก แล้วใช้ผ้าหรือแผ่นพลาสติกคลุมเฟอร์นิเจอร์เอาไว้เพื่อป้องกันฝุ่น

          - จากนั้นก็มาผสมสเปรย์ทำความสะอาดจากน้ำเปล่าและน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ฉีดภายในปลอกหมอนใบเก่าที่ไม่ใช้แล้วให้ชุ่ม นำไปครอบที่ใบพัดของพัดลมทุกใบแล้วทิ้งไว้สักพัก

          - จากนั้นรูดปลอกหมอนให้แนบไปกับใบพัดจนสุดปลายใบพัดเพื่อเช็ดฝุ่นออก

          - ใช้ผ้าคอตตอนเช็ดฝุ่นที่ยังค้างอยู่บนใบพัดและตามจุดต่าง ๆ จนสะอาด รวมไปถึงโคมไฟของพัดลมเพดาน (ถ้ามี) เพียงเท่านี้พัดลมเพดานก็จะกลับมาสะอาดและน่าใช้งานอีกครั้ง

หวังว่าวิธีการดูแลและทำความสะอาดพัดลมตั้งโต๊ะและพัดลมเพดานที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกบ้าน และเป็นแรงบันดาลให้คุณพ่อบ้าน-แม่บ้าน ลุกขึ้นมาทำความสะอาดพัดลมกัน จะได้ใช้งานอย่างยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินซ่อม ไม่ต้องซื้อใหม่ และไม่เสี่ยงกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นด้วยนะคะ




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2560 19:18:35 น.
Counter : 2241 Pageviews.  

เที่ยวจันทบุรี กับ 10 แห่งต้องห้ามพลาด มีของดีซ่อนอยู่เพียบ



เที่ยวจันทบุรี

เที่ยวจันทบุรี กับไฮไลท์ท่องเที่ยว 10 แห่งต้องห้ามพลาด เพื่อเปิดมุมมองและสัมผัสวิถีการท่องเที่ยวจันทบุรีได้อย่างเต็มที่

จันทบุรี หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของภาพตะวันออก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายและน่าสนใจอยู่เพียบ ด้วยเพราะทำเลที่ตั้งของจังหวัดอยู่ติดกับอ่าวไทย ทำให้จันทบุรีมีหาดทรายสวย แถมน้ำก็ยังใสปิ๊งน่าเล่น นอกจากนี้ยังมีป่าชายเลนและสัมผัสวิถีชีวิตประมงอันอบอุ่น เหล่านี้ล้วนเป็นวิถีชีวิตที่น่าดึงดูด ทำเอาหลายคนไปเที่ยวจันทบุรีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปจันทบุรีวันนี้เรามี "10 แห่งต้องห้าม...พลาด จันทบุรี" มาแนะนำ รับรองเลยว่าคุณจะไม่พลาดไฮไลท์การท่องเที่ยวจันทบุรีไปแม้แต่น้อย

+++++++++++++++

เที่ยวจันทบุรี

          จันทบุรีเป็นจังหวัดชายแดนด้านภาคตะวันออกที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา มีลักษณะภูมิประเทศผสมผสาน คือมีภูเขาและท้องทะเล มีธรรมชาติ ป่าเขา สายน้ำที่มีแหล่งกำเนิดจากยอดเขาสูง มีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลลงปากอ่าว ก่อนออกสู่ท้องทะเล สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กันชุมชนริมน้ำตลอดมา

          จังหวัดจันทบุรีมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน นับตั้งแต่ยุคสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช สมัยล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ที่ยังมีร่องรอยให้เห็นอยู่ในทุกวันนี้ แม้กระทั่งกลิ่นอายอารยธรรมบ้านเมืองในแต่ละยุคแต่ละสมัย ที่ผ่านมาร่วม 300 ปี ก็ยังมีหลักฐานปรากฏให้เห็นล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบก ในน้ำ ป่าเขา ท้องทะเ ลตลอดจนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาในวิถีท้องถิ่นถูกนำมาใช้ประโยชน์ตอบโจทย์ด้านการท่องเที่ยวได้อย่างเป็นรูปแบบมากขึ้น มีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นสวยงามแปลกตา มีมุมมองใหม่ ๆ สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดจันทบุรี และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน

หาดเจ้าหลาว เพลิดเพลินริ้วน้ำทะเลใส

เที่ยวจันทบุรี

          หาดเจ้าหลาว อยู่ที่อำเภอท่าใหม่ เป็นชายหาดน้ำตื้น ทรายละเอียด น้ำทะเลใส เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วไป เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ เนื่องจากชายหาดเรียบกว้างยาวยามที่น้ำทะเลลดลงจะปรากฏเป็นชยหาดทอดยาวออกไปกลางทะเล ประกอบกับชายหาดเจ้าหลาวมีถนนเสียบแนวทะเล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งที่พัก ร้านอาหาร จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว เล่นน้ำกันมากในช่วงวันหยุด

          กิจกรรมท่องเที่ยวชายหาดเจ้าหลาวส่วนใหญ่เป็นการเล่นน้ำทะเล ขี่จักรยานเลาะตามแนวชายหาดอาจมีกิจกรรมเล่นไคท์บอร์ด หรือจะเลือกกิจกรรมการดำน้ำชมปะการัง ก็เช่าเรือออกจากชายฝั่งไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบกับแหล่งปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม

          แนวชายหาดเจ้าหลาวมีความยาวต่อเนื่องมาจากหาดแหลมเสด็จ ทอดยาวไปถึงแนวเขาของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ลักษณะพื้นที่โดยรวมแล้วเป็นชายหาดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน

เที่ยวจันทบุรี

          สำหรับจุดชมทิวทัศน์ของแนวชายหาดเจ้าหลาวต้องเลือกสถานที่ เลือกเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะได้พบกับความงดงามที่น่าประทับใจกับภาพพระอาทิตย์ตกที่หน้าหาด มีมุมมองจากยอดเขาสูง โดยมีตำแหน่งจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเขา ด้านเนินเขาที่ออกไปทางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน โดยขึ้นเนินไปเล็กน้อย (แนวเขาอยู่ด้านซ้าย แนวทะเลอยู่ด้านขวา) จะพบหน่วยงานแห่งหนึ่งอยู่ริมทาง เลี้ยวเข้าไปจอดรถได้ แล้วสังเกตต้นไม้เล็ก ๆ ต้นหนึ่งที่ขึ้นอยู่ริมเชิงเขา เมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นช่องทางเดินเท้าค่อนข้างชัดเจน เดินขึ้นไปประมาณ 15 นาที ก็จะถึงแท่งหินริมผา ซึ่งเป็นจุดชมวิวแบบสุดสายตา

          ด้านบนยอดเขาสามารถมองเห็นทะเลหาดเจ้าหลาวได้ชัดเจน ในช่วงยามเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอย่างสวยงาม และหากเป็นช่วงเวลาน้ำลงก็จะเห็นแนวสันทรายที่สวยงามอันเกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ เป็นริ้วทะเลที่สวยงามแปลกตา

ที่พักและร้านอาหาร

          มีให้เลือกมากมายในบริเวณหาดเจ้าหลาวและบริเวณใกล้เคียง

ฤดูกาลท่องเที่ยว


          หาดเจ้าหลาวมีความสวยงามในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน น้ำทะเลจะใสมาก ยามน้ำทะเลลดจะเห็นแนวหาดทรายผืนใหญ่ มีริ้วน้ำริ้วผืนทรายงดงาม ครั้นถึงช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน จะเป็นช่วงมรสุม อาจมีคลื่นแรง จึงควรงดกิจกรรมการเล่นน้ำ

เนินนางพญา Scenic Route เส้นแรกของเมืองไทย

เที่ยวจันทบุรี

          เส้นทางท่องเที่ยวในเมืองไทยที่มีลักษณะเป็นเส้นทางเลียบเชายทะเลมีอยู่หลายแห่ง แต่สำหรับเส้นทางที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นมาเฉพาะ โดยเส้นทางผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย คือถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ซึ่งเป็นถนนเลียบทะเลที่สวยงามที่สุดในภาคตะวันออก โดยเริ่มต้นจากอำเภอแกลง จังหวัดระยอง จากข้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไปจนถึงอำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

          ถนนเฉลิมบูรพาชลทิตได้รับการปรับปรุงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว โดยปรับผิวจราจร สร้างสะพานเชื่อมต่อในบริเวณปากแม่น้ำแขมหนู ปรับภูมิทัศน์ข้างทาง สร้างจุดพักรถ มีห้องน้ำ เพิ่มจุดชมวิว และมีช่องทางเฉพาะสำหรับจักรยานด้วย

เที่ยวจันทบุรี


          สำหรับจุดเด่นของถนนสายนี้คือจุดชมวิวเนินนางพญา ตั้งอยู่ในบริเวณหาดคุ้งวิมาน ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม สามารถมองเห็นท้องทะเล และเห็นเส้นถนนเฉลิมบูรพาชลทิตเป็นโค้งรูปตัวเอส (S) เลียบเลาะตามแนวชายทะเลขึ้นมาบนเนินเขาสูง ซึ่งมีการทำเป็นจุดพักผ่อน มีจุดชมวิวถนนเลียบชายทะเลอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการขี่จักรยานอีกด้วย

          จุดชมวิวนางพญามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกัน ตั้งแต่เช้า ซึ่งจะได้พบสีสันในโมงยามเช้าท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบ ส่วนช่วงเวลากลางวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนกันเป็นระยะ ๆ สำหรับช่วงยามเย็นจะมีผู้คนหนาตา เนื่องจากว่าจุดชมวิวนางพญาเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลที่สวยงาม

ที่พักและร้านอาหาร

          มีที่พักและร้านอาหารมากมายตั้งอยู่ตามแนวชายหาดที่มีชื่อเสียง

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          สามารถเที่ยวได้ทั้งปี ช่วงเวลาในการชมทิวทัศน์สวย ๆ คือช่วงเวลาเช้ามืด ช่วงที่พระอาทิตย์ตกจนถึงช่วงพลบค่ำ

หมู่บ้านไร้แผ่นดิน วิถีของคนลุ่มน้ำเวฬุ

เที่ยวจันทบุรี

          หมู่บ้านไร้แผ่นดินอยู่ในพื้นที่ตำบลบางชัน อำเภอขลุง ดั้งเดิมเคยเป็น "บ้านโรงไม้" เป็นชุมชนที่มีความเป็นมายาวนานกว่าร้อยปี โดยชาวจีนที่เดินทางอพยพเข้ามาในไทย ทำการค้าขายติดต่อไปถึงกรุงเทพฯ เมื่อผ่านมาที่จันทบุรีได้นำเรือมาหลบคลื่นลมในบริเวณลุ่มน้ำเวฬุ เมื่อเห็นว่าเป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเล มีสัตว์น้ำมากมาย จึงปักหลักตั้งหมู่บ้านขึ้นมา และยืดอาชีพทำการประมงตลอดมา

          พื้นที่หมู่บ้านตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำเวฬุ เดิมเป็นพื้นที่ป่าโกงกางสมบูรณ์หนาแน่น มีชาวบ้านมาตัดไม้โกงกางไปชายเพื่อทำถ่าน มีการสัมปทานให้ตัดไม้โกงกางในพื้นที่ลุ่มน้ำเวฬุได้ จึงมีผู้คนเข้าตัดไม้กันมาก และนำไม้มากองไว้ในบริเวณนี้เพื่อรอการเข้าเตาเผาถ่าน จึงเป็นที่มาของชื่อ "โรงไม้" จนกระทั่งเมื่อมีการยกเลิกสัมปทานป่าเผาถ่าน ชาวบ้านที่เคยทำกินอยู่ในบริเวณนี้จึงจับจองพื้นที่เพื่อตั้งกรากกันอย่างถาวร

เที่ยวจันทบุรี

          ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อบ้านเป็น "บ้านบางชัน" หรือที่เรียกกันว่า "หมู่บ้านไร้แผ่นดิน" โดยมีความหมายให้สอดคล้องกับลักษณะการตั้งบ้านเรือนของชุมชนที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำ มีน้ำส้อมรอบ โดยไม่ได้อยู่บนผืนแผ่นดิน

          การเดินทางสู่บ้านบางชันจะเริ่มต้นที่ท่าเรือขลุงเป็นท่าเรือเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อแม่น้ำเวฬุ โดยมีเรือเช่าเหมาลำแบบไป-กลับ ลำใหญ่ราคา 2,500 บาท ถ้าเป็นลำเล็กนั่งได้ 4-5 คน ราคาไป-กลับแบบไม่ค้างคืน 800 บาท เป็นประเภทเรือสองตอน แล่นเร็วมาก ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงบ้านบางชัน ระหว่างทางจะพบเห็นทุ่งขวดน้ำที่ลอยฟ่องราวทุ่งดอกไม้กลางแม่น้ำ แท้จริงแล้วคือขวดน้ำที่นำมาใช้เป็นทุ่นผูกหอยนางรม เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำมาใช้ทดแทนไม้ไผ่ที่มีต้นทุนสูงกว่า และความทนทานสู้ขวดพลาสติกไม่ได้

เที่ยวจันทบุรี


          บ้านบางชันเป็นชุมชนใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองทั้งสองฝั่ง ฝั่งขวาเป็นชุมชนโฮมสเตย์ มีเรือเข้าออกคับคั่ง บ้านเรือนได้รับการปรับปรุงเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าขายของที่ระลึก เป็นบ้านสูงเหนือน้ำ ปลูกสร้างตามแนวขอบป่าชายเลนในลักษณะการดอกเสาไม้ลึกลงไปในเลน ด้านหน้าบ้านมีสะพานคอนกรีตทอดยาวไปตามหน้าบ้านหลังต่าง ๆ เป็นเส้นทางเดินไปยังวัดบางชัน หรือวัดอรัญสมุทธาราม ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนผืนดิน มีเอกสารสิทธิ์ ภายในวัดมีเอกสารลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  ที่เคยเสด็จมายังหมู่บ้านนี้ด้วย

เที่ยวจันทบุรี

          ประมาณบ่ายสามถึงสี่โมงเย็น โฮมสเตย์หลังต่าง ๆ จะพานักท่องเที่ยวนั่งแพเปียกลากออกไปยังปากคลองใหญ่ เพื่อชมเหยี่ยวแดงที่บินว่อนเหนือผืนป่าโกงกาง เมื่อมีแพนักท่องเที่ยวออกไป ฝูงเหยี่ยวจะบินลงมาเพื่อกินอาหารที่นักท่องเที่ยวโยนให้กิน นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ทะเลแหวกในช่วงยามน้ำลดอีกด้วย

ที่พักและร้านอาหาร

          มีที่พักหลายแห่ง เช่น

          - มุมทะเลจันท์โฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 1236 3914, 09 6269 6424 และ 09 5494 2924

          - เคียงจันท์ โฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 1940 0356

          - บางชัน แฮปปี้ โฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 5085 7526

          สำหรับร้านอาหารมีอยู่ตามหมู่บ้านและโฮมสเตย์

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน

สะพานตากสินมหาราช จุดชมวิว 360 องศา


เที่ยวจันทบุรี

          เส้นทางท่องเที่ยวเสียบเลาะชายทะเลเมืองจันทบุรี มีเส้นทางที่สวยงามประทับใจให้ไปเยือนมากมาย หนึ่งในนั้นคือเส้นทางปากแม่น้ำจันทบุรี มีทิวทัศน์สวยงาม โดยมีแนวสะพานข้ามปากแม่น้ำกว้างใหญ่ มีชื่อว่าสะพานตากสินมหาราชหรือสะพานแหลมสิงห์ เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างตำบลบางกะไชยกับตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ซึ่งเป็นสะพานยาวที่สุดในภาคตะวันออก มีความยาวประมาณ 1,060 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยมีโครงสร้างรูปแบบสะพานเพื่อรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวไว้ด้วย เนื่องจากบริเวณบนสะพานได้เพิ่ม เลนจอดรถอีกเลนหนึ่ง สำหรับจอดรถเพื่อชมภาพปากแม่น้ำจันทบุรีที่กว้างไกล

เที่ยวจันทบุรี

          สะพานตากสินมหาราชเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ทิวทัศน์จากสะพานบริเวณปากแม่น้ำคือภาพวิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้าน เช่น การเลี้ยงปลาในกระชังกลางแม่น้ำ การเลี้ยงหอยนางรม เป็นต้น

ที่พักและร้านอาหาร

          สามารถเลือกพักในบริเวณใกล้เคียงได้ ส่วนร้านอาหารนั้น ขณะนี้ยังไม่มีร้านให้บริการ

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

น้ำตกเขาสอยดาว ขุนเขาและสายน้ำที่น่าผจญภัย

เที่ยวจันทบุรี

          ป่าเขาสอยดาวเป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของจันทบุรี ประกอบด้วยป่าไม้ สัตว์ป่า ลำธาร น้ำตก ทิวทัศน์ และระบบนิเวศที่สร้างความสมดุลให้กับธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ที่ทรงคุณค่าต่อประเทศ และผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

          ผืนป่าเขาสอยดาวถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมีน้ำตกเขาสอยดาวที่สวยงามประกอบไปด้วยชั้นน้ำตกถึง 16 ชั้นด้วยกัน มีแหล่งกำเนิดมาจากยอดเขาสอยดาวใต้ที่อุดมด้วยพรรณไม้ป่าดิบขึ้น มียอดเขาสูงชัน 2 ยอด คือยอดสอยดาวเหนือและยอดสอยดาวใต้ ยอดเขาที่สูงที่สุดของภาคตะวันออกคือยอดสอยดาวใต้ สูงประมาณ 1,675 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง

เที่ยวจันทบุรี

          สำหรับน้ำตกเขาสอยดาว ตั้งอยู่ที่เขาสอยดาวใต้ มีต้นน้ำมาจากผืนป่าใหญ่และยอดเขาสูง สามารถเข้าไปเที่ยวเล่นน้ำได้จากลำธารชั้นล่าง หากต้องการขึ้นไปยังชั้นบน ๆ ต้องเดินป่าไปตามแนวโขดหิน เลาะริมป่า สามารถขึ้นไปได้ถึงชั้นที่ 9 ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จัดว่าเป็นเส้นทางสมบุกสมบัน เหมาะสำหรับคนที่รับชอบผจญภัย

          สำหรับชั้นที่ 10-16 เส้นทางยากลำบาก มีหน้าผาสูงชัน ต้องปีนป่าย เสี่ยงอันตราย ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวจึงไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปเอง หากสนใจเดินไปตามเส้นทางนี้ ต้องติดต่อขอให้เจ้าหน้าที่นำทางและดูแลความปลอดภัยให้ด้วย เนื่องจากผืนป่าเขาสอยดาวเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จึงยังมีสัตว์ป่าค่อนข้างมาก

เที่ยวจันทบุรี

          นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ดูนก ดูผีเสื้อ และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวกำหนดเส้นทางไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสธรรมชาติได้อย่างครบถ้วน

ที่พักและร้านอาหาร

          มีลานกางเต็นท์ในพื้นที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว หรือจะเลือกหาในตัวเมืองก็ได้ สำหรับร้านอาหารนั้น มีร้านเล็ก ๆ อยู่ในบริการด่านเก็บค่าธรรมเนียม

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงที่ฝนตกชุก โดยทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

น้ำตกพลิ้ว ตำนานความงามของสายน้ำ ปลาพลวงและตะกอง

เที่ยวจันทบุรี

          น้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีน้ำตลอดทั้งปี เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว มีฝูงปลาพลวงที่อาศัยอยู่ในแอ่งน้ำบริเวณหน้าน้ำตกและแอ่งน้ำด้านล่างอีกหลายแอ่ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน

          น้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลจากชั้นหน้าผาสูงราว 20 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ในบริเวณแอ่งน้ำตกมีฝูงปลาพลวงจำนวนมากอาศัยอยู่ปลาพลวงหรือปลามุง เป็นปลาน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในบริเวณแอ่งน้ำไหล ลำตัวมีสีน้ำตาลปนเขียวไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มปนดำ กินพืชและผลไม้ป่าเป็นหลัก

          ในบริเวณน้ำตกยังได้พบเห็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีลักษณะคล้ายกิ้งก่ายักษ์ คือลั้งหรือตะกอง เป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตัวโตเต็มที่ยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร สีเขียวเข้ม สามารถเปลี่ยนสีให้กลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ หากไม่สังเกตให้ดีจะแทบมองไม่เห็น

เที่ยวจันทบุรี

          นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจในบริเวณน้ำตกพลิ้ว คือสถูปพระนางเรือล่ม อยู่ก่อนถึงน้ำตกพลิ้วประมาณ 50 เมตร รูปทรงพีระมิด ฐานสี่เหลี่ยม ก่อด้วยแผ่นอิฐสูงขึ้นไปเป็นยอดทรงพีระมิด ภายในบรรจุพระอังคารบางส่วนของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (หรือพระนางเรือล่ม) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2424 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์

          ในบริเวณใกล้เคียงยังมีรูปปั้นสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นรูปหล่อด้วยโลหะ ในท่านั่งประทับบนก้อนหิน หันพระพักตร์ไปยังบริเวณน้ำตกพลิ้ว ถัดไปอีก 20 เมตร เป็นที่ตั้งของอลงกรณ์เจดีย์สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2417 พระองค์ทรงโปรดความสวยงามของน้ำตกพลิ้วมาก ได้เสด็จมาหลายครั้ง และถัดไปด้านหลังอลงกรณ์เจดีย์เป็นจุดชมน้ำตกพลิ้วได้อีกจุดหนึ่งด้วย

ที่พักและร้านอาหาร

          มีที่พักในบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ ส่วนร้านอาหาร มีให้เลือกหลายร้านในบริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          เที่ยวชมได้ทั้งปี ยกเว้นช่วงที่ฝนตกชุก ทางอุทยานจะแจ้งงดการเข้าเที่ยวชม

เขาหินกูบ ขุนเขาทะเลหมอกแห่งเมืองจันทบุรี

เที่ยวจันทบุรี

          เส้นทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดจันทบุรีที่ปรากฏชื่อว่าเป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่งดงามแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บนทิวเขาสูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวคือ "ยอดเขาหินกูบ" อยู่ในระดับความสูงประมาณ 1,2000 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่มีระดับความยากพอประมาณ ต้องใช้เวลาเดินทางพักค้างแรม 2 วัน 1 คืน บนยอดเขาไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ทั้งสิ้น จึงต้องเป็นกลุ่มที่รักชอบเดินป่าเท่านั้น

          ยอดเขาหินกูบอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งเพล เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว การเดินป่าแต่ละครั้งต้องขออนุญาตล่วงหน้า และต้องมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ชำนาญเส้นทางนำทางทุกครั้ง

          เส้นทางเดินป่าขึ้นยอดเขาหินกูบใช้เวลาเดินประมาณ 5-6 ชั่วโมง ผ่านป่าดงดิบขึ้น สอดเพิงถ้ำสูงใหญ่ กว่าจะถึงเป้าหมายก็ต้องอาศัยทักษะการเดินป่ากันพอสมควร

เที่ยวจันทบุรี

          จุดเด่นของเขาหินกูบคือเป็นจุดชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของผืนป่าในแถบนี้สภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงชัน ปกคลุมด้วยพรรณไม้ป่าดิบขึ้น บริเวณหินกูบเป็นกลุ่มหินแกรนิตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในบริเวณด้านริมผา มีลักษณะคล้ายกับกูบช้าง เป็นที่มาของชื่อ "หินกูบ" จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของยอดเขาหินกูบคือเป็นที่โล่ง มุมมองเปิดกว้างริมหน้าผา เป็นป่าหินขนาดใหญ่ หากมองจากหมู่บ้านจะเห็นกลุ่มหินกูบได้ชัดเจน

          บนยอดเขาสูงมีจุดที่พักใต้เพิงหินใหญ่ ยามเข้าสามารถชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ห่างจากตำแหน่งที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าเป็นตำแหน่งตรงยอดเขาหินลูกหนึ่ง เรียกว่า "ยอดผาหมี" เนื่องจากมีลักษณะเป็นเขาหินโล้น และมีโขดหินก้อนหนึ่งวางเทินทับอยู่บนยอดเขา มีลักษณะคล้ายหมีนอนหมอบตรงริมยอดเขา

          การติดต่อ


          ติดต่อสอบถามข้อมูลการขึ้นเขาหินกูบได้จากหัวหน้าหน่วยฯ ทุ่งเพล โทรศัพท์ 08 2205 0079

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          ช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม

ค่ายเนินวง แหล่งโบราณคดีสำคัญของเมืองจันท์

เที่ยวจันทบุรี

          ค่ายเนินวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนเรื่องราวการต่อสู้เพื่อพิทักษ์แผ่นดินไทยผ่านห้วงเวลามานานกว่า 180 ปี โดยโบราณสถานค่ายเนินวงตั้งอยู่ในตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

          ค่ายเนินวงสร้างขึ้นภายหลังเหตุการณ์กรณีพิพาทระหว่างไทยกับเวียดนาม ในปี พ.ศ. 2369 หรือที่รู้จักกันว่าช่วง "กบฏเจ้าอนุวงศ์" พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีรับสั่งให้สร้างฐานทัพในเมืองจันทบุรี และย้ายตัวเมืองมาที่ค่ายเนินวง เพื่อเป็นที่มั่นในการรบ เพราะเกรงว่าอาจมีข่าวญวนบุกเข้ามายึดหัวเมืองทางภาคตะวันออก จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาคลัง (ต่อมาได้เป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ [ดิศ บุนนาค]) เดินทางมายังเมืองจันทบุรี เจ้าพระยาคลังเลือกหาชัยภูมิให้เหมาะกับการตั้งรับศึกจากญวน และเห็นว่าบ้านเนินวงมีลักษณะเป็นเนินสูง สามารถมองเห็นข้าศึกได้ในระยะไกล เป็นพื้นที่เหาะกับยุทธศาสตร์การรบ จึงสร้างป้อมเนินวงขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2377

เที่ยวจันทบุรี

          ปัจจุบันโบราณสถานค่ายเนินวงได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากร ประตูป้อมค่ายด้านหน้าสามารถเดินขึ้นไปชมบริเวณกำแพง มีปืนใหญ่วางไว้ประจำตำแหน่งป้อมค่าย มีเส้นทางที่ขับรถยนต์ชมพื้นที่ได้โดยรอบ ภายในค่ายมีต้นไม้ร่มรื่น ขับรถไปเรื่อย ๆ จะพบที่ตั้งของศาลหลักเมืองเก่า มีวัดโยธานิมิต ที่เคยเป็นวัดประจำเมืองในยุคการสร้างค่ายเนินวง และยังมีศาลพระเจ้าตากสินมหาราชอยู่ด้วย

          นอกจากนี้ยังมีมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี เป็นแหล่งความรู้ด้านโบราณคดีได้นำประวัติและผลงานของพาณิชย์นาวีไทย ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่จัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุที่ค้นพบจากใต้ทะเล และแม่น้ำ มีการจัดแสดงให้เห็นวิธีการ ขั้นตอนการปฏิบัติงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ วิถีชีวิตชาวเรือโบราณ และลักษณะของเรือประเภทต่าง ๆ ที่เคยใช้ในประเทศไทย มีเรือสำเภาจำลองและหุ่นจำลองผู้คนที่ใช้ชีวิตบนเรือขนาดเท่าของจริง แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของการขนส่งสินค้าและการทำมาค้าขายในสมัยโบราณ


โบสถ์คาทอลิก กับองค์พระแม่ประดับพลอย

เที่ยวจันทบุรี

           โบสถ์คาทอลิกจันทบุรีตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี ตรงข้ามกับชุมชนโบราณริมน้ำจันทบูร

          โบสถ์คาทอลิก หรือโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล หรืออาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก เก่าแก่กว่าร้อยปี ในอดีตมีชาวญวนนับถือศาสนาคริสต์อพยพจากทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามมาตั้งถิ่นฐานในจันทบุรี

เที่ยวจันทบุรี

          แรกเริ่มนั้นมีชาวญวนคาทอลิกประมาณ 130 คน ต่อมาได้ร่วมกันสร้างโบสถ์เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของคริสต์ศาสนิกชนในจันทบุรี ชาวคาทอลิกร่วมแรงร่วมใจสร้างโบสถ์ขึ้นมาเป็นระยะ ๆ จนถึงโบสถ์หลังปัจจุบันเป็นโบสถ์ที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบกอทิก จำลองแบบมาจากมหาวิทหารน็อตร์-ตามในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงเป็นโบสถ์ที่ดูสวยงาม เปี่ยมด้วยพลังศรัทธาของบรรดาคริสต์ศาสนิกชน

          ตัวโบสถ์หันหน้าไปทางแม่น้ำจันทบุรี หอด้านหน้าเป็นหอระฆัง มีระฆังอยู่ 3 ใบ แต่ละใบจะให้เสียงที่แตกต่างกัน ภายในโบสถ์เป็นห้องโถง ตกแต่งด้วยศิลปะเก่าแก่ มีไม้ฉลุลวดลาย มีบันไดเวียนทำด้วยไม้ขึ้นไปยังขั้นลอย และมีพระแท่นทำจากไม้แกะสลัก พื้นโบสถ์ปูด้วยหินอ่อน ส่วนเพดานมีลักษณะโค้งแบบท้องเรือโนอาห์ บานหน้าต่างเป็นทรงสูง ประดับตกแต่งด้วยกระจกสี สเตนกลาส หรือกระจกประดับสีเป็นรูปนักบุญต่าง ๆ ในคริสต์ศาสนา เช่น จอห์น จอห์น แปปติสต์, โจนส์ออฟอาร์ก เป็นต้น

เที่ยวจันทบุรี

          จุดเด่นภายในโบสถ์ยังมีองค์พระแม่ประดับ พลอยที่อยู่ทางด้านขวาของพระแท่นบูชา ที่ตัวองค์พระและฐานหล่อด้วยเงินบริสุทธิ์ ลวดลายบนอาภรณ์ประดับด้วยทองคำ 69 ดอก ด้านบนประทับด้วย พลอยแซฟไฟร์หลากสีคุณภาพดีกว่า 200,000 เม็ด ประมาณ 20,000 กะรัต ปั้นเป็นรูปยืนเหยียบอยู่บนตัวงูซึ่งเป็นตัวแทนของความชั่วร้ายต่าง ๆ

          โบสถ์คาทอลิกตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนโบราณริมแม่น้ำจันทบุรี มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวกันอย่างสม่ำเสมอ ทางโบสถ์จึงมีกฎข้อระเบียบต่าง ๆ ในการเข้าชม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากเป็นศาสนสถานที่ผู้เข้าชมควรปฏิบัติให้เหมาะสม

ชุมชนริมน้ำจันทบูร รากแก้วชีวิตที่ยังมีลมหายใจ

เที่ยวจันทบุรี

          แหล่งท่องเที่ยวที่กลายเป็นที่นิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ รวมทั้งคนรุ่นเก่าที่ต่างค้นหารอย อดีตที่ผ่านมาหลายยุคหลายชั่วคนคือ "ชุมชนริมน้ำจันทบูร" เป็นชุมชนเก่าแก่ที่บอกกล่าวเรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน ศิลปวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีความเป็นมานานกว่า 300 ปี เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เป็นศูนย์การค้าขายที่เชื่อมต่อระหว่างทางน้ำและทางบกปัจจุบันมีการอนุรักษ์ชุมชนนี้ไว้ในลักษณะสภาพเดิม เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว บรรยากาศแบบย้อนยุค มีผู้คนดั้งเดิมอาศัยภายในชุมชนแห่งนี้

          แนวเขตชุมชนโบราณจะยึดตามแนวถนนที่เลียบเลาะคู่ขนานกับแม่น้ำจันทบุรี เริ่มตั้งแต่หัวถนนสุขาภิบาล ตรงเชิงสะพานวัดจันทร์ เป็นถนนขนานกับแม่น้ำจากย่านท่าหลวงไปจนถึงชุมชนตลาดล่าง

เที่ยวจันทบุรี

          ย่านชุมชนเก่าแก่เปรียบเสมือนย่านถนนคนเดินในบรรยากาศย้อนยุค มีการปรับปรุงอาคารบ้านเรือนมาจัดเป็นที่พักแนวย้อนยุค การเดินเที่ยวชมชุมชนนี้ยังได้เรียนรู้วิถีชุมชน ชมของเก่าแก่ และศึกษารูปแบบสถาปัตยกรรมในสามย่าน ได้แก่ ย่านท่าหลวง เดิมเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ ต่อมาเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยและทำธุรกิจ ย่านตลาดกลาง เดิมเป็นศูนย์กลางการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า มีท่าเรือขนส่งสินค้า ถัดมาก็เป็นย่านตลาดล่าง เป็นย่านที่อยู่อาศัย บ้านเรือนแตกต่างตามฐานะของเจ้าของบ้าน มีประตู หน้าต่าง และช่องลม ประดับด้วยไม้ฉลุลวดลายอ่อนช้อย และจะได้เห็นบ้านในลักษณะเรือนขนมปังขิง บ้างก็เป็นแบบโคโลเนียลและชิโน-โปรตุกีส

เที่ยวจันทบุรี

เที่ยวจันทบุรี

เที่ยวจันทบุรี

          นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้อดีตของบ้านผ่านเรื่องราวของบุคคลสำคัญในยุคนั้น ๆ ได้แก่ บ้านของคุณตา จรรยา วานิชกุล บ้านฉั่วเซ้งฮวด เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน หรือบ้านหลวงราชไมตรี และยังมีศาลเจ้า ตั้วเล่าเอี้ย บ้านหมอชาญ ร้านชายยาจังกวนอัน โรงเจเทียงเซ็งตึ๊ง บ้านโภคบาล บ้านเรียนรู้ หรือจะเป็นร้านอาหาร ก๋วยเตี๋ยวทะเลเจ๊อี๊ด ร้านกวยจั๊บป้าไหม ร้านขนมไข่ป้าไต๊ ร้านไอศกรีมตราจรวด และในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ยังมีตลาดพลอยและโบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมลให้ไปเยือนอีกด้วย

ที่พักและร้านอาหาร

          มีที่พักและร้านอาหารให้เลือกมากมาย สำหรับที่พักแนะนำให้ย้อนยุคไปกับการพักในบ้านเก่าริมแม่น้ำ ส่วนอาหาร มีทั้งร้านดั้งเดิมและร้านเก๋ไก๋ถูกใจนักเดินทางรุ่นใหม่

ฤดูกาลท่องเที่ยว

          สามารถเที่ยวชมได้ทั้งปี

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เล่มเล็ก เดือนพฤษภาคม 2560




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 8:48:22 น.
Counter : 2172 Pageviews.  

สูตรต้มข่าไก่ อร่อยตำรับไทยที่ไม่ใช่แค่ไก่



ต้มข่าไก่

  ต้มข่า หรือต้มข่าไก่ เมนูอาหารไทยรสชาติถูกปากไม่แพ้แกงไทยใด ๆ ส่วนผสมคล้ายต้มยำ ต่างกันตรงใส่กะทิลงไปด้วย มือใหม่เข้าครัวก็ทำได้ โปรดติดตาม

          ต้มข่า เมนูแกงไทยถูกปากถูกใจคนไทยมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นต้มข่าไก่ ต้มข่าทะเล หรือต้มข่าปลาช่อน บ่อยครั้งที่ไปซื้อกินแต่รสชาติไม่ถึง กะทิไม่เข้มข้นหอมมัน แถมเนื้อไก่ยังเล็กจิ๋ว เพื่อตัดปัญหากวนใจมาทำเองเลยค่ะ ไม่เห็นต้องแคร์เลยเนอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำ 4 สูตรต้มข่า แต่ละสูตรทำง่าย รสชาติกลมกล่อม เครื่องแน่น มื้อเย็นจัดสักชามไหมคะคุณพี่

ต้มข่าไก่

1. ต้มข่าไก่

          ต้มข่าสูตรแรกมาเริ่มต้นกันด้วยต้มข่าไก่ สูตรจากคุณ Rins CookBook (#Rinscookbook) สูตรนี้ใส่น้ำมันน้ำพริกเผาเพิ่มสีสันด้วยนะ เห็นหน้าตาจัดจ้านแต่รสชาติไม่เผ็ดร้อนนะคะ เพื่อนชาวต่างชาติกินได้สบาย ๆ ค่ะ จะใช้เนื้อไก่ หรืออาหารทะเลอื่น ๆ ก็ได้นะคะ เสิร์ฟร้อน ๆ ควันฉุยเตะจมูกเรียกน้ำย่อยดีนักแล 

ส่วนผสม ต้มข่าไก่

          • น้ำซุปไก่ (หรือน้ำเปล่า) 1 1/2 ถ้วย
          • ข่า (หั่นเป็นแว่น) 3-4 แว่น
          • ตะไคร้ (ซอยบาง) 1 ต้น
          • ใบมะกรูด (หั่นครึ่ง) 2 ใบ
          • ผักชี (ก้านหั่นท่อนและซอยใบ) 1/2 ถ้วย
          • เนื้ออกไก่หั่นเต๋า 6 ออนซ์ (หรือใช้อาหารทะเลอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบ)
          • น้ำปลา 1/3 ถ้วย
          • น้ำตาลทราย 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • กะทิ 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
          • เห็ด (ตามชอบ) 1/2 ถ้วย
          • น้ำมะนาว (หรือน้ำเลมอน) 1/3 ถ้วย
          • พริกขี้หนูสด (ทุบพอแตก ผ่าครึ่ง) ประมาณ 4 เม็ด
          • น้ำมันน้ำพริกเผา 1-2 ช้อนโต๊ะ
          • ต้นหอมซอย 1 ต้น

ขั้นตอนการเตรียม

          1. ซอยตะไคร้และข่าให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
          2. นำเห็ดตามชอบไปล้างให้สะอาด ตัดโคนทิ้งไป เตรียมไว้
          3. หั่นครึ่งใบมะกรูด เตรียมไว้
          4. นำผักชีมาตัดแยกก้านและใบออก จากนั้นหั่นก้านผักชีเป็นท่อน ๆ และซอยใบผักชีเตรียมไว้สำหรับโรยหน้า
          5. ซอยต้นหอมเตรียมไว้สำหรับโรยหน้า
          6. ใช้มีดทุบพริกขี้หนูสดพอแตกแล้วผ่าครึ่ง เตรียมไว้

วิธีทำต้มข่าไก่

          1. ใส่น้ำซุปไก่ (หรือน้ำเปล่า) ลงในหม้อ ตามด้วยข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และก้านผักชีที่ซอยเตรียมไว้ลงไป นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มนานประมาณ 5-6 นาทีจนน้ำเดือดและหอม
          2. ใส่เนื้ออกไก่ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย (จะยังไม่ใส่กะทิลงไปในขั้นตอนนี้ เพราะถ้าต้มกะทินาน ๆ กะทิจะแตกมันและไม่สวยงาม) ต้มจนเดือด ประมาณ 5-6 นาที เมื่อต้มจนไก่สุกแล้วใส่กะทิลงไป
          3. ใส่เห็ดที่เตรียมไว้ลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง
          4. ใส่น้ำมะนาวลงในหม้อหรือชาม ตามด้วยพริกที่ทุบไว้ น้ำมันน้ำพริกเผา พริกขี้หนูสด ต้นหอม และผักชีซอย จากนั้นตักส่วนผสมต้มข่าไก่ลงไป ตกแต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++++




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 8:45:37 น.
Counter : 1759 Pageviews.  

8 ความเสี่ยงสุขภาพของคนชอบนอนดึกตื่นสาย โรคร้ายอาจถามหา !



นอนดึก ตื่นสาย

วันหยุดทีไรนึกอยากจะนอนดึก ๆ แล้วตื่นสาย ๆ ให้สมกับความอยาก แต่หารู้ไหมว่า พฤติกรรมการนอนดึกตื่นสายบั่นทอนสุขภาพได้มากมายกว่าที่คิด

ถ้าใครกำลังคิดว่าพรุ่งนี้ได้หยุด ไม่ต้องรีบตื่นเช้า คืนนี้เลยกะจะนอนดึก ๆ แล้วไปตื่นเอาซะเที่ยง โปรดหยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เพราะแม้คุณจะนอนได้ครบ 6-8 ชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่า แต่พฤติกรรมนอนดึกตื่นสายก็ไม่ได้ช่วยทดแทนเวลานอนที่เสียไปหรอกนะ แถมยังอาจพาเอาโรคเรื้อรังต่าง ๆ หรือเบาะ ๆ ก็โรคอ้วนมาให้คุณด้วย
  สำหรับประเด็นที่หลายคนเข้าใจผิดว่านอนดึกแล้วไปตื่นเอาสาย ๆ คงไม่กระทบสุขภาพเท่าไร งานวิจัยที่เฟซบุ๊ก Pleasehealth Books นำมาแชร์ต่อก็น่าจะทำให้เราได้คิดทบทวนใหม่อีกรอบค่ะ เพราะผลการวิจัยเขาพบว่า คนที่นอนดึกตื่นสายอาจสัมพันธ์กับโรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง และภาวะกล้ามเนื้อถดถอยมากกว่าคนที่นอนหัวค่ำแล้วตื่นเช้า อันเนื่องมาจากคนติดนิสัยนอนดึก อาจมีภาวะนอนไม่พอสะสม และโดยมากแล้วไลฟ์สไตล์ของคนนอนดึกมักจะกินมื้อดึกและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ซึ่งอาจเสี่ยงต่อภาวะอ้วน และนำโรคเรื้อรังอย่างเบาหวานพ่วงมาด้วย

ทว่าเพื่อเป็นการชี้เป้าให้เห็นชัด ๆ ว่าพฤติกรรมนอนดึกตื่นสาย โดยเฉพาะในวันหยุดมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เราจะแยกให้ได้อ่านเป็นข้อตามนี้

1. โรคอ้วน

นอนดึก ตื่นสาย

          อย่างที่บอกว่าคนนอนดึกมักจะเสี่ยงต่อการกินอาหารมื้อหลัง 2 ทุ่ม และส่วนมากก็มักจะเลือกกินอาหารสำเร็จรูป แคลอรีสูง หรือบางคนจัดมื้อหนักซะเลย ซึ่งก็จะทำให้ร่างกายรับพลังงานส่วนเกินตรงจุดนี้เพิ่มเข้าไป เสี่ยงต่อภาวะไขมันสะสมจนอ้วนขึ้นได้ อีกทั้งคนนอนดึกตื่นสาย ก็มักจะพลาดอาหารเช้า ซึ่งเป็นอาหารมื้อสำคัญ และอาจทำให้วันนั้นเผลอจัดหนักกับมื้อกลางวันและมื้อเย็นจนได้รับพลังงานจากอาหารมากเกินความจำเป็นด้วย

2. เสี่ยงเบาหวาน

นอนดึก ตื่นสาย

          ไม่ใช่แค่คนนอนดึกจะเสี่ยงกินอาหารมื้อดึกซึ่งเป็นอาหารน้ำตาลสูง แคลอรีสูงมากขึ้นเท่านั้น แต่การที่เราพลาดอาหารเช้า ก็อาจส่งผลให้เรารู้สึกอยากกินของหวาน ๆ เหมือนร่างกายต้องการน้ำตาลให้เลือดมากขึ้นด้วย ดังนั้นคนนอนดึกตื่นสายเลยมักจะอ้วนขึ้นและมีความเสี่ยงโรคเบาหวานมากขึ้นนั่นเอง

3. ระบบย่อยอาหารผิดปกติ

นอนดึก ตื่นสาย

          ระบบย่อยและการดูดซึมอาหารของคนนอนดึกมักจะมีปัญหา เนื่องจากการนอนดึกจะทำให้การทำงานในระบบต่าง ๆ ผิดเพี้ยนไป โดยเฉพาะการทำงานของถุงน้ำดี ที่ต้องส่งน้ำย่อยไปสู่ลำไส้เล็ก เพื่อช่วยย่อยอาหารและเปิดโอกาสให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งหากการทำงานของถุงน้ำดีบกพร่อง การจัดส่งน้ำดีเพื่อช่วยย่อยอาหารตรงนี้ก็จะขาดสมดุลไปด้วย และเมื่อเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องสักระยะ การทำงานของระบบย่อยอาหารก็จะมีปัญหาเรื้อรังตามมา

4. ปวดหัว

นอนดึก ตื่นสาย

          การตื่นมาในเวลาที่ผิดปกติอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวตื้อ ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกัน เพราะจริง ๆ แล้วอุณหภูมิร่างกายของเราและการไหลเวียนของเลือดจะมีการปรับเปลี่ยนตามตามอุณหภูมิของแสงภายนอก นั่นหมายความว่า หากปกติตื่นเช้ามาเจอแสงแดดอ่อน ๆ ร่างกายก็จะคุ้นชินกับการปรับตัวร่วมกับแสงอ่อน ๆ นั้น ทว่าพอตื่นสายแล้วลืมตามาเจอแสงแดดที่รุนแรงขึ้น การปรับตัวของหลอดเลือดก็จะผิดเพี้ยนไปด้วย จนอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัวเพื่อเร่งการสูบฉีดเลือดและเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้เท่า ๆ กันกับสภาพอากาศภายนอก และกระบวนการนี้อาจทำให้เรารู้สึกมึนหัวขึ้นมาได้ง่าย ๆ

5. เฉื่อยชา

นอนดึก ตื่นสาย

          สังเกตไหมคะว่าการนอนตื่นสายมักจะทำให้เรารู้สึกขี้เกียจมากขึ้น บางคนตื่นแล้วแต่ขี้เกียจลุกออกจากเตียง นอนกลิ้งมันอยู่อย่างนั้น หรือนอนจมบนเตียงทั้งวันก็มี ซึ่งสภาวะแบบนี้ก็ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อถดถอย ยิ่งถ้าเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกายด้วยแล้วก็ยิ่งเสี่ยงกันไปใหญ่ ซึ่งแนวโน้มของคนนอนดึกตื่นสายก็มักจะขี้เกียจเคลื่อนไหวร่างกายด้วยนี่สิ

6. ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง

นอนดึก ตื่นสาย

          อวัยวะในร่างกายของเรามีเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนเช่นกัน โดยเฉพาะตับกับไต สองอวัยวะสำคัญนี้ต้องการเวลาพักผ่อนตามเวลานอนหลับปกติของมนุษย์เราค่ะ ทว่าหากถึงเวลาต้องพักแล้วตับกับไตยังไม่ได้พัก ก็จะเกิดความรู้สึกอ่อนล้า หรือที่ศาสตร์การแพทย์แผนจีนเรียกว่า ภาวะยินของตับพร่อง และไตพร่อง ระบบการคัดกรองของเสียในร่างกายขาดสมดุล ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้เราป่วยง่าย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานของไต ผมร่วง กระดูกและฟันอ่อนแอลงได้

7. เบลอ สมาธิสั้น

นอนดึก ตื่นสาย

          โดยเฉพาะคนที่มักจะนอนดึกตื่นสายในวันหยุดเป็นประจำ พอเช้าวันจันทร์จะตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอึน ๆ เนื่องจากนอนไม่พอทันที เพราะในช่วงที่เรานอนดึกและตื่นสายในวันหยุด นาฬิการ่างกายจะถูกปรับเปลี่ยนไปทีละนิด จากที่เคยนอนตื่นเวลานี้ ร่างกายก็จะสั่งให้สมองพร้อมตื่นตัวในเวลาที่เลทลง ส่งผลให้เช้าวันที่ต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่ง สมองก็ยังไม่พร้อมจะทำงาน เกิดอาการงัวเงีย ไม่พร้อมเรียนรู้ ไม่มีสมาธิ รวมไปถึงทักษะในการตัดสินใจก็จะลดประสิทธิภาพลงด้วย

8. เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ

นอนดึก ตื่นสาย

          ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอริโซนาพบว่า การนอนและตื่นผิดเวลานาฬิกาของร่างกาย จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ทั้งนี้นักวิจัยอธิบายว่า การนอนดึกตื่นสายของบางคนไม่ใช่การนอนหลับที่มีคุณภาพดี เพราะธรรมชาติของร่างกายเรา เคยตื่นเวลาไหนบ่อย ๆ ก็มักจะสะดุ้งตื่นในเวลาเดิม ซึ่งหากในวันที่คุณคิดจะตื่นสาย ๆ แต่ดันสะดุ้งตื่นตอนเช้าตามเวลาที่เคยตื่น ร่างกายก็จะกลับไปหลับไม่สนิทหรอกนะ ส่งผลให้เกิดภาวะอ่อนเพลีย อารมณ์หงุดหงิด และกระทบมาถึงความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้

นอกจากนี้การนอนดึกตื่นสายอาจส่งผลร้ายกับความสวยความงามได้ด้วยนะคะ เพราะหากระบบภายในร่างกายไม่ปกติหลาย ๆ ส่วน โดยเฉพาะการย่อยหรือการขับถ่าย ผิวพรรณของเราก็จะหมองคล้ำ ดูไม่สดใสเปล่งปลั่ง บอกให้รู้ชัดเลยว่าไม่ใช่สายเฮลธ์ตี้แน่ ๆ

          อ้อ ! และในวันหยุดใครที่ชอบนอนติดเตียงทั้งวัน อาจเสี่ยงอาการทางจิตตามนี้ด้วยนะ ลองเช็กดู
ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2560    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2560 8:42:24 น.
Counter : 1557 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.