Bloggang.com : หนี่งหน่อง

เปิด 5 เขตในกรุงเทพมหานคร ที่มีงูออกมามากที่สุด รองผู้อำนวยการ ศปภ. ชี้ 5 เดือนแรกของปีนี้ จับงูได้กว่าหมื่นตัว สาเหตุมาจากพื้นที่ที่งูเคยอยู่ ถูกบ้านเรือนทับแหล่งอาศัย

วันที่ 27 สิงหาคม 2560 นายประยูร ครองยศ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (ศปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีมานี้ มีงูบุกเข้าบ้านประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ มากขึ้น จากสถิติเหตุรับแจ้งผ่าน 199 ศปภ. พบว่า มีเหตุงูเข้าบ้านขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับ ในปี 2557 จำนวน 16,920 ตัว, ปี 2558 จำนวน 24,559 ตัว, ปี 2559 จำนวน 29,919 ตัว และตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2560 มีจำนวน 10,246 ตัว ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 จากปีก่อน โดยเป็นการจับงูเข้าบ้านประชาชนเฉลี่ยแล้ว 100-140 ตัวต่อวัน

สำหรับงูที่พบมากที่สุด คือ งูเหลือม งูเห่า งูเขียว งูเขียวพระอินทร์ และงูทางมะพร้าว โดยงูที่จับได้มีความยาวเฉลี่ย 2-3 เมตร ขนาดใหญ่ที่สุดยาว 5-6 เมตร และพื้นที่ที่จับงูได้มากที่สุดนั้น ได้แก่ 1.เขตบางเขน 2.เขตจตุจักร 3.เขตสวนหลวง 4.เขตบางขุนเทียน และ 5.เขตบึงกุ่ม

นายประยูร กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่งูบุกบ้านคนนั้นเพราะพื้นที่ที่งูเคยอยู่ ถูกบุกรุก การขยายตัวของชุมชนเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว มีโครงการก่อสร้างบ้านเรือนทับแหล่งที่งูเคยอาศัย หรือมีโพรงงูใต้บ้าน งูเข้าไปอาศัยได้ ทำให้งูมีการขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น เมื่อ ศปภ.จับงูได้แล้ว หากเป็นงูมีพิษ ก็จะนำส่งสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ถ้าเป็นงูไม่มีพิษมีขนาดใหญ่จะนำส่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อดำเนินการเอาไปปล่อยในป่าใหญ่ ส่วนงูขนาดเล็กไม่มีพิษ ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ก็จะถูกนำไปปล่อยในป่าตามแนวชานเมืองกรุงเทพฯ

ที่เที่ยวสงขลา เพลิดเพลิดไปกับบรรยากาศการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และลงตัวด้วยความเรียบง่าย แต่ละที่เที่ยวสงขลา จะน่าเที่ยวแค่ไหน ตามเรามาดูกัน

เราเชื่อว่ามีหลายคนไม่น้อยที่เคยล่องใต้ลงไปเที่ยวสงขลา และร้อยทั้งร้อยน่าจะติดใจในเสน่ห์ความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเพราะภูมิประเทศที่ถูกขนาบข้างด้วยทะเลทั้งสองด้าน จึงทำให้บรรยากาศของสงขลาเหมือนเมืองพักตากอากาศสบาย ๆ อีกทั้งผู้คนก็เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส เหล่านี้เป็นเสน่ห์ทำให้นักท่องเที่ยวอยากกลับมาเยือนที่นี่อีกนับครั้งไม่ถ้วน และเช่นเคยเราไม่พลาดที่จะแนะนำที่เที่ยวสงขลาเด็ด ๆ เอาไว้ให้คุณจดลงลิสต์ แล้วเดินทางไปเช็กอินกันให้สนุกด้วยกัน

1. ย่านเมืองเก่าสงขลา

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยวอยู่ 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปคู่กับภาพ Street Art พร้อมออกลีลาท่าทางได้เต็มเหนี่ยว ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็ยังได้เดินทอดน่องชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ที่สะท้อนเรื่องราวความเป็นมาของชาวสงขลา ทั้งห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิกสไตล์ชิโน-โปรตุกีส

การเที่ยวบริเวณย่านเมืองเก่าสงขลา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง หรือจะใช้บริการรถรางนำเที่ยว ซึ่งให้บริการทุกวัน วันละ 5 รอบ คนละ 30 บาท โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางอยู่ที่ สวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสงขลา โทรศัพท์ 074 311 015

2. บ้านรำแดง

ตั้งอยู่ที่อำเภอสิงหนคร ที่นี่เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิถีความสัมพันธ์ระหว่างต้นตาลโตนด ท้องนา ต้นไผ่ และคน ที่ร่วมกันสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทำให้ชุมชนรำแดง กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ โดยเฉพาะบ้านใบตาล ที่มีอายุกว่า 100 ปี ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนแห่งนี้ทั้งหมดด้วยกัน 7 ฐาน ประกอบด้วย ฐานการบริหารงานขององค์การบริการส่วนตำบลรำแดง, วิถีตาลโตนด, ครัวรำแดง, วัดป่าขวาง, หัตถกรรมพื้นบ้าน, เศรษฐกิจพอเพียง และแหล่งผลิตปอเทือง (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต.รำแดง โทรศัพท์ 086 488 2549 หรือ เว็บไซต์ ramdang.go.th)

3. เกาะยอ

เกาะเล็ก ๆ ใจกลางทะเลสาบสงขลา เสน่ห์ของเกาะยออยู่ที่ภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศสไตล์บ้าน ๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะยอ ดูการทำประมง การเลี้ยงปลา ชมกระชังปลาสามน้ำ ซึ่งเป็นวิถีที่ชาวเกาะยอเลี้ยงกันมาเป็นระยะเวลาช้านาน และเป็นที่ร่ำลือกันว่าปลากะพงของเกาะยอขึ้นชื่อในเรื่องความสด เนื้อนิ่ม และอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

4. วัดท้ายยอ

วัดเก่าแก่คู่เมืองสงขลาไม่ต่ำกว่า 200 ปี นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่สวยงามของ "กุฏิเรือนไทยปั้นหยา" กุฏิเรือนไทยที่สร้างด้วยไม้งดงาม และยังคงเอกลักษณ์ด้วยการใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า นอกจากนี้วัดท้ายยอยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ โรงเรือพระ และหอระฆัง รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ "เขาเพหารหรือเขาวิหาร" ประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกาที่งดงาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

5. น้ำตกโตนงาช้าง

ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ได้แก่ โตนบ้า, โตนปลิว, โตนงาช้าง, โตนดำ, โตนน้ำปล่อย, โตนฤาษีคอยบ่อ และโตนเหม็ดชุน แต่ชั้นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยงาม เห็นจะเป็น "โตนงาช้าง" โดยจะเป็นชั้นที่สายน้ำตกไหลมาบรรจบกันสองสาย ดูยิ่งใหญ่อลังการ และยังมองเห็นทิวทัศน์สวย ๆ ได้โดยรอบ และการเดินเท้าขึ้นมายังน้ำตกชั้นนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวัง เพราะทางเดินค่อนข้างชันและลื่นอยู่พอสมควร

6. สวนลุงวี

แหล่งท่องเที่ยวสวนเกษตรบนเกาะยอ ที่ทำการเพาะปลูก "จำปาดะขนุน" ผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะยอ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอมเหมือนจำปาดะ เมื่อสุกแล้วผิวข้างนอกจะเหมือนขนุน ปัจจุบันจำปาดะขนุนได้มีการขยายพันธุ์และนำมาเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายบนเกาะยอ และกำลังเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น จนกลายเป็นผลไม้อัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น และมีส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศความสวยงามบนเกาะยอมากยิ่งขึ้น (สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 093 580 5783)

7. สวนสองทะเล

เป็นสวนสาธารณะ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ความน่าสนใจของที่นี่ คือ เป็นจุดที่อยู่ระหว่างทะเลสาบสงขลาและทะเลฝั่งอ่าวไทย เมื่อมองไปโดยรอบ นักท่องเที่ยวจะเจอเข้ากับทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงยังได้พบกับปะติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ ที่งดงามด้วยลวดลายสลักสวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มักมาถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีศูนย์กีฬาทางน้ำ และลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เอาไว้คอยให้บริการ

8. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสงขลา

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สงขลาอควาเรียม

สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้เรียนรู้และสนุกไปกับโลกของสัตว์น้ำ ภายในประกอบด้วยการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำและนิทรรศการต่าง ๆ ตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา ส่วนแสดงระบบนิเวศ ภูเขา ลำธาร สัตว์น้ำจืด และป่าโกงกาง รวมทั้งกิจกรรมโชว์การให้อาหารปลา โดยนักดำน้ำที่มีให้ชมกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารปลาฉลามขี้เซาเจ้าบิ๊กอันดา เต่าตนุตัวโต และเหล่าปลาน้อยใหญ่อีกมากมาย เพิ่มเติมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการขับรถโกคาร์ท รถเอทีวี และสปาเท้า เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนที่น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวหลายคน (เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.30-16.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30-16.45 น. หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ เช็คราคาและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สงขลาอควาเรียม หรือ www.songkhlaaquarium.comและโทรศัพท์ 074 322 787, 074 322 899, 088 788 1457 และ 088 788 1458)

9. หาดสะกอม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก หาดสะกอม-Sakom Beach

ชายหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ด้วยเพราะเป็นชายหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ และยังมีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก และยังคงอบอวลไปด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและการทำประมงท้องถิ่น เราจึงยังคงเห็นเรือประมงทั้งลำน้อยลำใหญ่ ทั้งแล่นอยู่ในทะเลและจอดอยู่ตามชายฝั่งตลอดแนวชายหาด ที่นี่จึงเป็นเหมือนสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แบบชิล ๆ

10. หาดชลาทัศน์

เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องมาจากหาดสมิหลา หาดทรายขาวสะอาด นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเล่นและเล่นน้ำได้ตลอดแนวชายหาด ภายใต้การให้ร่มเงาของทิวสน แถมยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ซึ่งในอีกมุมหนึ่งของหาดชลาทัศน์ ที่นี่ยังเป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนไว้สำหรับพักผ่อน โดยทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีประชาชนมาปั่นจักรยานบนถนนชลาทัศน์กันเป็นจำนวนไม่น้อย

11. หาดสมิหลา

มาถึงสงขลาทั้งที จะพลาดไม่มาเช็กอินที่นี่ก็ดูเหมือนว่าจะมาไม่ถึงสงขลา พร้อมด้วยสัญลักษณ์รูปปั้นนางเงือก หาดทรายที่นี่ขึ้นชื่อได้ว่าขาวละเอียด มีแนวป่าสนร่มรื่น เมื่อทอดสายตาออกไป ก็จะเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเกาะหนู เกาะแมว บรรยากาศโดยรอบหาดสมิหลาเรียกได้ว่าเงียบสงบ รวมถึงยังสนุกไปกับกิจกรรมทางน้ำ เช่น บานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกี และแล่นเรือใบ เป็นต้น ไม่ต้องห่วงในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด

12. เขาตังกวน

ตั้งอยู่ในตัวเมืองสงขลาใกล้กับหาดสมิหลา มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมองเห็นทิวทัศน์เมืองสงขลาได้โดยรอบ บนยอดยังเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้พระราชทานเงินหลวง ให้เป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์ และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอุดลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุในองค์พระเจดีย์ อีกทั้งในเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีงานพิธีห่มผ้าองค์พระเจดีย์ และประเพณีตักบาตรเทโว และลากพระของสงขลาอีกด้วย

ใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวสงขลา ลองเอาที่เที่ยวสงขลาที่เราได้ลิสต์มา เอาไปปรับใช้ให้เข้ากับทริปของเพื่อน ๆ กันดูนะคะ เราบอกได้เลยว่า…สงขลาในวันนี้ ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เรียบง่ายแต่น่าค้นหา ที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องประทับใจในมนต์เสน่ห์นี้ด้วยกันทุกคน ^ ^

ขอขบคุณข้อมูลปละภาพประกอบจาก
เว็บไซต์ ramdang.go.th, เฟซบุ๊ก สงขลาอควาเรียม, เฟซบุ๊ก หาดสะกอม-Sakom Beach, thai.tourismthailand.org

ผักสลัดน้ำ หรือ วอเตอร์เครส สุดยอด Superfood ที่ช่วยบำรุงและเพิ่มปริมาณการผลิตสเปิร์มให้กับหนุ่ม ๆ ได้

เชื่อว่าผู้ชายหลายคนกำลังประสบปัญหากับการมีลูกยากอยู่แน่นอน โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากน้ำสเปิร์มของหนุ่ม ๆ มีความแข็งแรงไม่เพียงพอหรือมีปริมาณน้ำสเปิร์มที่น้อยจนเกินไปนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยให้ปริมาณสเปิร์มลดน้อยลงเรื่อย ๆ แบบนี้ อาจส่งผลให้หนุ่ม ๆ ตกอยู่ในภาวะเซ็กส์เสื่อมจนไม่สามารถมีลูกได้อีกเลย โดยจากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศพบว่า คนที่ไม่ออกกำลังกาย และตกอยู่ในภาวะเครียดตลอดเวลา จะทำให้ร่างกายสามารถผลิตน้ำสเปิร์มได้น้อยลงกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวเลขของผู้ชายที่เป็นโรคเซ็กส์เสื่อมมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

แต่ทั้งนี้คุณผู้ชายอย่าเพิ่งตื่นตระหนกมากเกินไป เพราะล่าสุดนักวิจัยได้ค้นพบแล้วว่า การกิน วอเตอร์เครส (Watercress) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ผักสลัดน้ำ สามารถช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำสเปิร์มเพิ่มขึ้นได้ โดยเจ้าผักสลัดน้ำนี้จะช่วยลดระดับความเครียดได้ดี ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ผักสลัดน้ำยังอุดมไปด้วยวิตามิน C และวิตามิน E ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพและปริมาณน้ำสเปิร์มในร่างกายอีกด้วย จัดเป็น Superfood ที่มีประโยชน์ต่อหนุ่ม ๆ ที่อยากมีลูกเลยจริง ๆ

ซึ่งผักสลัดน้ำสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด แถมราคาไม่แพงอีกด้วย จะกินแบบสด ๆ หรือนำไปแปรรูปก่อนก็ได้ตามใจชอบ ส่วนหนุ่ม ๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหามีลูกยาก ก็มาลองกินผักสลัดน้ำดูก่อนได้ เพราะประโยชน์ของมันไม่ได้มีแค่ช่วยเรื่องการผลิตสเปิร์มเพียงอย่างเดียว มันยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และช่วยบำรุงสุขภาพได้ดีอีกด้วย สุดยอด Superfood ที่ไม่ควรมองข้ามเลย

ข้อมูลจาก : mirrorco.uk, cetusnews.com

แนะนำการเที่ยวเชียงใหม่แบบเก๋ไก๋ เที่ยวเชียงใหม่ไม่ต้องรอหนาว ไปนอนชมดาว ชมนาข้าวขั้นบันไดกันที่บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ สัมผัสกับบรรยากาศสุดเงียบสงบและวัฒนธรรมของชาวปกาเกอะญอ

ใครว่าไปเที่ยวเชียงใหม่ได้แค่หน้าหนาว อันที่จริงเชียงใหม่สามารถเที่ยวได้ทั้งปีเลยค่ะ มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ในแต่ละฤดูกาลมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้เราได้ชมกันตลอดทั้งปี อย่างไฮไลท์หน้าฝนก็ต้องเป็นผืนป่าและนาข้าวขั้นบันไดสีเขียว ซึ่งเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่กองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ได้พากระปุกดอทคอมไปสำรวจการท่องเที่ยวชุมชนบ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา และได้ซ่อนความงดงามของนาข้าวขั้นบันไดสีเขียวขจีไว้ที่นี่ เราจึงได้เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝนแบบคูล ๆ

การเดินทางมายังบ้านผาหมอน จากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้เส้นทางเชียงใหม่-จอมทอง พอถึงอำเภอจอมทองบริเวณตำบลข่วงเปา จะมีแยกทางขวามือเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 (จอมทอง-ดอยอินทนนท์) ขับไปเรื่อย ๆ เลยน้ำตกสิริธารมาประมาณ 800 เมตร ให้สังเกตทางด้านขวามือจะมีป้ายเขียนบ้านผาหมอน ขับเข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะเจอกับชุมชนบ้านผาหมอน เส้นทางเข้ามายังบ้านผาหมอนค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ

ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวบ้านผาหมอนได้ที่ คุณเคน บ้านผาหมอน โทรศัพท์ 08 2898 4894 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5324 8604-5

ขอขอบคุณ
กองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่

กินยาคุมอ้วนไหม ? คำถามที่สาว ๆ สงสัยกันมาตลอด เพราะคิดว่ากินยาคุมกำเนิดแล้วจะทำให้อ้วน ว่าแต่...ที่เราเข้าใจกันนั้นถูกต้องจริงเหรอ ?

กินยาคุมอ้วนไหม เรามักเจอคำถามนี้บ่อย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้สาว ๆ เลือกใช้วิธีกินยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นผลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ (มีโอกาสผิดพลาดประมาณ 0.03%) แถมยังได้ประโยชน์อื่น ๆ เช่น ลดสิว ลดขนดก ทำให้ผิวพรรณสดใส และช่วยให้ประจำเดือนมาปกติได้ แต่อย่างไรก็ตาม สาว ๆ หลายคนที่ทานยาคุมอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความอ้วนตามมาด้วย จึงทำให้เราเข้าใจว่าการกินยาคุมกำเนิดเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้อ้วน แต่ที่เราเข้าใจกันนั้น ถูกต้องไหม มาไขข้อข้องใจ และทำความรู้จักยาคุมกำเนิดเพิ่มขึ้นกันค่ะ

ยาคุมกำเนิดที่เรากินหลัก ๆ มีแบบไหนบ้าง ?

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะ ว่ายาคุมกำเนิดจะมี 2 แบบคือ

1. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (combined pills) ที่จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน ซึ่งตัวฮอร์โมนเอสโตรเจนจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หรือถ้ามีปริมาณฮอร์โมนสูงมาก ๆ อาจทำบวมน้ำได้เล็กน้อย แต่ยาคุมชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ดีกว่ายาคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียว

2. ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีโปรเจสตินอย่างเดียว (Minipill) เพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่จะมีประสิทธภาพน้อยกว่ายาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม

ซึ่งถ้าใครอยากรู้เรื่องของยาคุมเพิ่มเติม ตามไปดูได้ที่นี่เลย

- วิธีกินยาคุม ไขข้อข้องใจ... กินยาคุมกำเนิดอย่างไรให้ถูกวิธี
- ผลข้างเคียงยาคุมกําเนิด...ก่อนจะใช้ ไม่รู้ไม่ได้นะ !

แล้วกินยาคุมกำเนิด ทำให้อ้วนจริงไหม ?

การศึกษาทางการแพทย์ทั้งจากไทยและต่างประเทศหลายแห่งพบว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าการกินยาคุมกำเนิดทุกชนิดจะส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นค่ะ แม้จะเคยมีการศึกษาจาก American Journal of Obstetrics and Gynecology พบว่า ผู้หญิงราว ๆ 1 ใน 4 ที่ฉีดยาคุมกำเนิด Depo-Provera มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 11 ปอนด์ (ประมาณ 5 กิโลกรัม) แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับผู้หญิงอีก 3 ใน 4 ที่ยังคงมีน้ำหนักเฉลี่ยคงที่หลังจากใช้ยาแล้ว

ทั้งนี้ นักวิจัยก็ระบุไว้ว่า การที่ผู้หญิงบางคนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังใช้ยาคุมอาจเป็นเพราะพฤติกรรมการรับประทานอาหารและไม่ออกกำลังกายซะมากกว่า หรืออาจเป็นเพราะการกินยาคุมบางชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ๆ ก็อาจส่งผลข้างเคียง เช่น ทำให้มีน้ำคั่ง ดูตัวบวม จนดูคล้ายกับอ้วนขึ้นก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้ มีการผลิตยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ และปรับฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากขึ้น เพื่อลดผลข้างเคียงต่าง ๆ ของฮอร์โมนลง ดังนั้นการทานยาคุมกำเนิดในปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบฮอร์โมนต่ำ จึงไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สาว ๆ อ้วนขึ้นได้แน่นอนค่ะ

ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองกินยาคุมกำเนิดแล้วอ้วนขึ้น ก็ขอให้ลองสังเกตพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเองก่อนแทนที่จะโทษยาคุมนะคะ แล้วลองลด ละ เลี่ยงการทานอาหารบางชนิดที่ทำให้อ้วน เช่น อาหารมัน ๆ ทอด ๆ หวาน ๆ พร้อมกับออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย แล้วมาดูกันว่า น้ำหนักจะลดลงได้สมใจไหม

ถ้างั้นทำไมบางคนกินยาคุมกำเนิดแล้วอ้วนล่ะ ?

แน่นอนว่ามีสาว ๆ บางคนที่อาจยืนยันว่าตัวเองก็ทานอาหารแบบปกติแล้วนะ แต่ทำไมกินยาคุมแล้วยังอ้วนอยู่ เราอยากให้ใจเย็น ๆ แล้วลองพิจารณาสักนิด ว่าคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้หรือเปล่า

1. ผู้กินยาคุมที่เป็นวัยรุ่น วัยเจริญเติบโต

วัยเจริญเติบโต เป็นวัยที่ร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ฉะนั้นหากผู้ที่กินยาคุมอยู่ในวัยนี้จึงควรเข้าใจไว้เลยว่าที่เราน้ำหนักขึ้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุต่างหาก ซึ่งเราขอแนะนำสำหรับผู้ที่กลัวอ้วนว่าให้หันมาควบคุมอาหารและออกกำลังกายด้วยค่ะ

2. ผู้กินยาคุมในช่วงหลังแต่งงาน

สาว ๆ ทุกคนก็อยากสวยสุด ๆ ในช่วงก่อนแต่งงานและในวันแต่งงาน เพื่อคนรักใช่ไหมละคะ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณลุกขึ้นมาฟิตหุ่นและควบคุมอาหารจนหุ่นดีอย่างที่ใจต้องการได้ แต่พอแต่งงานมาได้สักพักแรงจูงใจตรงนั้นอาจจะหายไป จึงไม่ได้สนใจเรื่องหุ่นหรืออะไรมากนัก ปล่อยปละละเลยตัวเองจนน้ำหนักขึ้นเอา ๆ ฉะนั้นอย่ามัวแต่โทษยาคุมกันนะคะ

3. ผู้กินยาคุมหลังคลอดลูก

ก่อนคลอดลูก คุณแม่ก็ต้องบำรุงร่างกายอย่างหนัก ทานอาหารดี ๆ สารพัด เพื่อให้ครรภ์แข็งแรง แต่เมื่อคลอดลูกแล้ว ร่างกายของเราก็ยังได้รับผลจากการบำรุงตรงนี้ ทำให้น้ำหนักไม่ยอมลด หรือลดลงไม่มาก ดังนั้นหากทานยาคุมกำเนิดในช่วงหลังคลอดลูกแล้วรู้สึกว่าอ้วนขึ้น ก็ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะ

ทีนี้ก็ได้คำตอบแล้วนะคะว่าการกินยาคุมกำเนิดไม่ได้ทำให้เราอ้วน แต่ที่น้ำหนักเราขึ้นเป็นเพราะปัจจัยอื่น เช่น การทานอาหารหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ฉะนั้นใครที่กินยาคุมแล้วไม่ตามใจปาก ก็สบายใจได้เลย เพราะน้ำหนักไม่ขึ้นแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

womenhelp.org
bedsider