เรื่องชวนคิดนะ
เรื่องชวนคิดนะ
อีกากับกระต่าย

อีกาตัวหนึ่งเกาะนิ่ง อยู่บนกิ่งไม้สูงตลอดทั้งวัน โดยไม่ทำอะไร
กระต่ายตัวหนึ่ง เดินผ่านมาเห็นเข้าจึงถามว่า "ฉันอยากจะอยู่นิ่งเฉย
และไม่ทำอะไรทั้งวัน เหมือนท่านบ้างได้ไหม?" อีกาส่งเสียงร้องตอบลงมาว่า
"อ๋อ! ได้แน่นอน ไม่มีใครห้ามแต่อย่างใด" ดังนั้นกระต่ายจึงนอนหมอบนิ่ง
อยู่บนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ ที่อีกาเกาะอยู่แล้วพักผ่อนไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก
ก็มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินผ่านมาพบเข้า มันจึงกระโดดเข้าขย้ำ
และกินกระต่ายตัวนั้นเป็นอาหาร

ข้อคิดจากเรื่องนี้ -
ถ้าอยากจะอยู่นิ่งเฉย โดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องอยู่ในที่สูงสุด

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไก่งวงกับอุจจาระวัว

พ่อไก่งวงตัวหนึ่ง ปรารภกับพ่อวัว
"ฉันอยากจะขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้ต้นนั้น"
พูดพลางถอนใจพลาง "แต่ฉันไม่มีกำลัง เพียงพอจะบินถึง"
"ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ลองกิน อุจจาระของฉัน ดูบ้างล่ะ" พ่อวัวกล่าวแนะ
"อุจจาระวัวอุดมด้วยสารอาหาร มากมายนะ" พ่อไก่งวงลองจิกกิน
อุจจาระวัวที่กองอยู่บนพื้น แล้วพบว่า ทำให้มันมี พละกำลังมากขึ้น
พอบินถึงกิ่งแรกของต้นไม้ วันต่อมามันจึงจิกกินอุจจาระวัว
มากขึ้นอีกแล้วสามารถบิน ถึงกิ่งที่สองของต้นไม้ พ่อไก่งวงทำอย่างนั้น
อยู่สองสัปดาห์ จนกระทั่งในที่สุดบินขึ้นไปเกาะอยู่
บนกิ่งไม้สูงสุดอย่างภาคภูมิใจ
ต่อมาไม่นานชาวนาผู้หนึ่งแลเห็นพ่อไก่งวงเป็นเป้าเด่นชัด จากที่ไกล
จึงยิงมันร่วง ตกจากยอดไม้ด้วยปืนยาว


ข้อคิดจากเรื่องนี้ -
แม้การใช้วิธีสกปรก จะส่งให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ก็ตาม
แต่จะไม่คุ้มครอง ให้อยู่ที่นั่นได้ตลอดไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นายใหญ่ของอวัยวะ

เมื่อครั้งอวัยวะต่างๆ รวมตัวกันเป็น ร่างกายมนุษย์ในครั้งแรก
อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกายต่างต้องการ จะเป็นเจ้านายใหญ่
สมองพูดขึ้นว่า"ฉันควรจะเป็นนายใหญ่เนื่องจากฉันควบคุมการทำงานทุกส่วนของร่างกาย"
เท้าสองข้างแย้งว่า "เราสิควรจะเป็นนายใหญ่ เพราะเราพาสมองไปไหนมาไหน
และนำร่างกายไปสู่จุดหมายได้"
มือสองข้าง จึงพูดบ้างว่า "เราต่างหากที่ควรเป็นนายใหญ่
เพราะเราทำงานทุกอย่างและหาเงินมาเลี้ยงร่างกาย"
อวัยวะทั้งหลายต่างแสดงความเห็น และอ้างเหตุผลกันไปเรื่อย
จนกระทั่งทวารหนัก พูดบ้างว่าตัวเองควรเป็นนายใหญ่ ซึ่งทำให้อวัยวะอื่นๆ
พากันหัวเราะเยาะ
ดังนั้นทวารหนักจึงเริ่มประท้วงด้วยการหยุดนิ่ง ไม่ทำงานถ่ายอุจจาระ
ภายในเวลาไม่นานตาเริ่มเหล่ มือเริ่มบิดเกร็ง เท้าเริ่มกระตุก
หัวใจและปอดเริ่มหวาดผวาสมองเริ่มมีไข้
ในที่สุดอวัยวะทุกส่วน จึงตัดสินใจมอบให้ทวารหนักเป็นนายใหญ่ของร่างกาย
กระบวนการต่างๆ ในร่างกายจึงดำเนินต่อ ได้ตามปกติ นับแต่นั้นมา
อวัยวะทั้งหลาย
ช่วยกันทำงานสำคัญของร่างกายอย่างเต็มที่ในขณะที่ทวารหนัก
ซึ่งเป็นนายใหญ่ เพียงแต่อยู่เฉยๆ
คอยระบายของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น

ข้อคิดจากเรื่องนี้ -
การเป็นเจ้านายที่ดีไม่จำเป็นต้องอาศัยความฉลาดปราดเปรื่องมากนักหรอก
เพียงสนับสนุนลูกน้องให้ทำงานเต็มความสามารถ
อย่างมีความสุขก็เพียงพอแล้ว



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:39:22 น.
Counter : 1111 Pageviews.

0 comment
ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต
ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต
1. จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2. จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่าแต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มีและนอนเท่าที่อยากจะนอน
4. เมื่อกล่าวคำว่า "ฉันรักเธอ" จงหมายความตามนั้นจริง ๆ
5. เมื่อกล่าวคำว่า "ขอโทษ" จงสบตาเขาด้วย
6. ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
7. จงเชื่อในรักแรกพบ
8. อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร
9. เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม
10.ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
11.อย่าตัดสินคนคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา
12.จงพูดให้ช้าแต่ต้องคิดให้เร็ว
13.ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่าจะรู้ไปทำไม
14.จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จล้วนต้องมีการเสี่ยง
15.พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม
16.เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย
17.จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น,นับถือตนเอง,รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
18.จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่
19.ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที
20.จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา
21.จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:37:11 น.
Counter : 620 Pageviews.

0 comment
เข็มวินาทีแห่งชีวิต
เข็มวินาทีแห่งชีวิต
ปีนี้ผมอายุ 30 ครับ ดูตัวเลขแล้วก็มากอยู่ บางคนอาจจะเข้าใจว่าอายุ 30 ปี คงผ่านอะไรมากมากมาย
มีประสบการณ์โชกโชน แต่สำหรับผมไม่เคยเอาตัวเลขของอายุมาวัดค่าของตัวเอง
ไม่เคยวัดว่ามีประสบการณ์มาเพียงใด เพียงแต่ได้คิดว่า เวลาที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรไปบ้างหรือยัง
พอคิดย้อนกลับไป เราน่าจะทำได้มากกว่านั้น และต้องดีกว่า แต่ถึงคิดได้คงไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก
นอกจากเราจะเริ่มทำสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ และเราจะต้องทำทุกอย่างทดแทนเวลาที่เสียไป
เวลาผ่านไปทุกวินาที ไม่เคยรั้งรอเรา มนุษย์อย่างเราก็มักจะหยุดเวลาไว้นาน ๆ บางที 365 วันของมนุษย์เรา
แทบจะไม่เกิดอะไรที่ก้าวหน้าไปเลย และมักจะคิดเสมอว่า ผ่านไป 1 ปี ไม่เป็นไร เริ่มอะไรใหม่ ๆ ปีหน้าดีกว่า
พูดง่าย ๆ ว่าชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ในขณะที่เราไม่รู้ว่าชีวิตของเราจะเหลืออีกกี่วินาที
เข็มวินาทีจะกระดิกได้สักกี่ครั้ง มันจะมากพอสำหรับเราหรือเปล่า เข็มวินาทีอาจจะกระดิกไม่กี่ครั้ง
ความตั้งใจ สิ่งที่ยังค้างคา ปัญหา 108 -1009 ที่กำลังสะสาง กับสิ่งที่อยากจะทำให้กับผู้มีบุญคุณ กับคนที่รัก
เพื่อน หรืออีกหลาย ๆ สิ่งที่เราผลัดวันประกันพรุ่งไว้ว่าจะทำ เราอาจจะไม่ได้ทำอีกเลยเพราะประมาทกับเข็มวินาที
เราเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตนับจากนี้ไปของเราจะเท่ากับเข็มวินาทีจะกระดิกกี่ครั้ง
หากจะคิดทำสิ่งใดเราก็น่าจะทำซะ เราจะเสียใจไหม๊ถ้าเราจากไป โดยที่ทุกอย่างยังคั่งค้างอยู่
คนที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพันกับเรา เขาอาจจะเดือดร้อน หลายอย่างจะต่อเนื่องเกี่ยวพันกันพะรุงพะรังยามเราจากไป
เราคงได้แต่ยืนมองพวกเขาในอากาศธาตุ ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ทุกวินาทีจึงมีค่าสำหรับชีวิตเรา
เราจึงไม่ควรตั้งตนอยู่ในความประมาท แม้แต่วินาทีเดียว เร่งคิด เร่งทำ เร่งสร้าง ทุกอย่างตามกำลังความสามารถ
โดยอยู่บนพื้นฐานบนความถูกต้องและความสุขตามอัตภาพ เมื่อไม่มีสิ่งใดคั่งค้าง วันที่เข็มวินาทีของเราหยุดกระดิก
เราจะมีความสุขที่สุด และคนที่อยู่ข้างหลังจะไม่มีใครเดือดร้อนนัก พวกเขาจะซาบซึ้งกับการกระทำของเราทุกอย่างที่ผ่านมา
ด้วยความจริงใจ การยกย่อง สรรเสริญ เราจะได้รับ เขาจะมอบหยดน้ำตาใส ๆ เปี่ยมไปด้วยความรัก ความห่วงหา
ให้เราเป็นรางวัลนอกจากดอกไม้จันทร์ เราจะปลื้มสุดแสนยินดี ที่เราทำทุกอย่างที่เรามอบให้เขาตลอดมา
เพราะทุกวินาที เราทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ และเราก็ไม่ประมาทแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
หลายคนยังคงประมาทกับชีวิต ทั้ง ๆ ที่มีตัวอย่างให้เห็นกันมากมาย หลายคนคิดได้ เพียงชั่วข้ามคืน
ความคิดก็แปรเปลี่ยนไป หลายคนไม่สนใจตักตวงเอาแต่ประโยชน์ และความสุข กอบโกย ฉ้อฉล แก่งแย่งชิงดี
สู้รบปรบมือกันซะให้วุ่นวาย โดยไม่ได้เหลียวมองเข็มวินาทีของชีวิต เขาเพียงหวังว่ามันจะเดินต่อไป
มันคงไม่หยุดซะกลางคัน เขาจึงไม่หยุดที่จะทำสิ่งดีดี ๆ กับชีวิต สิ่งดีดีกับคนรอบข้าง
เขายังมุ่งต่อไปด้วยคิดว่าสิ่งที่ทำทำดีที่สุดแล้ว ขณะที่อยู่บนพื้นฐานของความวุ่นวาย สับสน ความไม่ถูกต้อง
และความไม่แน่นอน เขาจะรู้สึกเสียใจเมื่อเข็มวินาทีแห่งชีวิตของเขาหยุดลง
เพราะมันไม่สามารถซ่อมให้กระดิกได้อีกเลย ไม่มีอะไหล่ตัวไหนที่จะซ่อมเข็มวินาทีแห่งชีวิตได้
เขาจะร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร และถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะกลับไปทำทุกสิ่งทุกอย่างใหม่
ด้วยความไม่ประมาท แต่มันสายไปซะแล้ว รางวัลที่เขาจะได้รับคือหยดน้ำตาที่เป็นสายเลือดจากคนรักและครอบครัว
เขาจะยืนร้องไห้ในอากาศธาตุ เขาทำได้แค่นั้นจริง ๆ
วันนี้คุณสำรวจเข็มวินาทีแห่งชีวิตของคุณหรือยัง คุณกลัวไหม๊ว่าเข็มวินาทีแห่งชีวิตจะหยุดลง ถ้าคุณกลัว
แสดงว่าคุณยังไม่ได้ทำอะไรดี ๆ ให้กับชีวิตและคนรอบข้างคุณ แต่ถ้าคุณไม่กลัว แสดงว่าคุณเตรียมพร้อมแล้ว
คุณทำทุกอย่างได้สมบูรณ์ คุณจึงไม่กลัวว่าเข็มวินาทีแห่งชีวิตจะหยุดลงเมื่อไหร่
และยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยสนใจหันมามองเข็มวินาทีแห่งชีวิตของเขา
เขาจะเป็นอย่างไรเมื่อเข็มวินาทีแห่งชีวิตของพวกเขาจะกระดิกได้อีกไม่นาน.................................

ที่มา FW Mail



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:36:29 น.
Counter : 661 Pageviews.

0 comment
Past... Present.... Future
Past... Present.... Future
What are you living for?

Some of us living for regreting the Past...
They always think about what they have done
Always regret they should not do......

Some of us living for creating the Future...
They always think what they are going to do
Always concern things never come...

But I'm living for enjoying the Present....
spend every minutes to concentrate on
currently facing stuffs.
I never regret the past.... just let them be my lessons
no matter whether I did it right or wrong

Past lessons are invaluable resources
My present decision bases on them... and...
Making the Present the best,
the best Future also coming

Past is not in my hand...
Future also not in my hand...
The only thing being in my hand is .. Present....





Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:35:40 น.
Counter : 699 Pageviews.

0 comment
คาดหมายสิ่งที่ไม่คาดคิด
คาดหมายสิ่งที่ไม่คาดคิด
"คาดหมายสิ่งที่ไม่คาดคิด" โดย ประสาร มฤคพิทักษ์

ในโลกแห่งการทำงาน มีโอกาสอยู่เสมอที่คนเราจะมีความชะล่าใจอาจเป็นเพราะหลงตัวว่าประสบความสำเร็จแล้ว อาจเนื่องมาจากมีความระมัดระวังน้อยเกินไป

ต่อไปนี้คือตัวอย่าง
-คิดว่าอย่างไรเสีย ลูกค้ารายใหญ่ก็คงจะเป็นลูกค้าต่อไป ไม่หนีไปไหน
-คิดว่าอย่างไรเสีย ยังมีธนาคารให้กู้เงินใช้ได้อยู่ เพราะเคยเห็นกู้ได้ทุกครั้ง
-คิดว่าอย่างไรเสีย ลูกน้องที่ฝีมือดีคงจะอยู่กับบริษัทตลอดไป ไม่ยอมย้ายไปทำงานที่อื่น
-คิดว่าอย่างไรเสีย วัตถุดิบจะมีเพียงพอที่จะป้อนโรงงานต่อไป
-คิดว่าอย่างไรเสีย สำนักงานที่เช่าอยู่ คงจะไม่มาเร่งรัดหนี้สินที่ค้างอยู่ 3 เดือน
-คิดว่าอย่างไรเสีย คงจะหมุนเงินทันจ่ายให้กับซัพพลายเออร์

ครั้นเมื่อวันเวลามาถึง เหตุการณ์กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม
-ลูกค้าที่เคยขายหันไปซื้อขายกับเจ้าอื่นที่เขาสามารถซื้อของได้ถูกกว่า
-ธนาคารที่เคยกู้ ถูกธนาคารชาติวางกฎเกณฑ์เข้มงวด ทำให้กู้ยากขึ้น
-เพื่อนที่เคยแลกเช็ค เกิดสภาวะเดือดร้อนทางการเงินขึ้นมา จึงแลกเช็คไม่คล่องเหมือนเมื่อก่อน
-ลูกน้องคนโปรดถูกอีกบริษัทหนึ่งซื้อตัวไป ด้วยการให้เงินเดือนเพิ่มเป็นสองเท่า
-วัตถุดิบที่เคยมีพอ กลับขาดแคลน เพราะผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
-สำนักงานให้เช่า ก็ไปทำสัญญาให้เช่าใหม่กับอีกเจ้าหนึ่ง เพื่อมาแทนที่สำนักงานของเรา เพราะได้ค่าเช่าสูงกว่า
-เงินที่คาดว่าจะเข้ามาตามกำหนด กลับล่าช้าออกไป

และแล้วสิ่งที่เคยได้ก็หลุดมือไป สิ่งที่เคยคล่องตัวก็กลับสะดุด สิ่งที่เคยหวังกลับไม่เป็นไปดังหวัง กลายเป็นปัญหาไม่คาดหมายที่เกิดขึ้นมาจริงในการทำงาน

สภาพความเป็นจริงของการทำงาน ย่อมมีสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ กับสิ่งที่เราไม่อาจควบคุมได้

เราจะแต่งตัวอย่างไร ใส่เสื้อสีไหน นุ่งกระโปรงตัวไหน ผูกนาฬิกาเรือนไหน ผูกเนคไทสีอะไร สวมรองเท้าคู่ไหน นี่เป็นเรื่องของเราที่เราสามารถจะกำหนดได้

แต่เราจะสั่งให้การจราจรบนท้องถนนคล่องตัวไม่ได้ ในเมื่อการแก้ปัญหายังไม่ครบวงจร
-เราจะหวังให้ลูกค้ารับผิดชอบสูงสุดต่อเราไม่ได้ เพราะเขาย่อมตัดสินใจบนพื้นฐานของเขา
-เราจะขอให้เพื่อนที่เคยเป็นที่พึ่งยามเดือดร้อน ให้เขามีน้ำใจเอื้อเฟื้อให้แลกเช็คทุกครั้งคราวไม่ได้ เพราะเขาก็มีความจำเป็นในการใช้จ่ายของตัวเขาเอง
-เราจะผูกใจลูกน้องให้อยู่กับเราจนวันตายก็ไม่ได้ ถ้าเขาได้เงินเดือนมากกว่าที่เราจ่ายให้ถึง 2 เท่า
-เราจะกำหนดว่าเช็คของลูกค้าจะต้องเป็นเช็คที่มีเงินทุกครั้งคราวก็ไม่ได้อีก มันย่อมมีวันที่ลูกค้าจะจ่ายเช็คคืนให้กับเรา ในเมื่อลูกค้าเขาก็มีปัญหาของเขา เหมือนกับที่เราก็เคยมีปัญหาของเรา

สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ มีมากมายมหาศาล มันเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อม สิ่งภายนอก เศรษฐกิจ การเมือง กฎหมาย สังคม และสารพัดสรรพสิ่งที่ไม่ขึ้นกับจิตใจของเราเสมอไป

พระพุทธเจ้าสอนไว้เป็นอมตะพจน์ว่า
"จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"
ความไม่ประมาท คือการคาดหมายสิ่งที่ไม่คาดคิดว่ามันมีวันจะต้องเกิดขึ้น
นี่ไม่ใช่การมองโลกในแง่ร้าย แต่เป็นการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสภาพที่เราไม่ถึงปรารถนา เพื่อรับมือกับมันอย่างมีสตินั่นเอง




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:34:43 น.
Counter : 750 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend