แมวผอมขี้โรค
แมวผอมขี้โรค
ครั้งหนึ่งฉันนั่งอยู่ในรถยนต์ ซึ่งอยูข้างร้านอาหารใหญ่แห่งหนึ่ง ขณะกินขนมปังใส้กรอก ฉันก็เหลือบมองไปที่กระจกมองหลัง
เห็นลูกแมวตัวเล็กขนรุงรัง ดูท่าทางขี้โรค กำลังนั่งอยู่บนของกำแพงด้านหลัง ฉันอดสงสารเจ้าแมวหิวโหยตัวนั้นไม่ได้
จึงโยนขนมปังให้มันชิ้นหนึ่ง ก่อนที่แมวผอมขี้โรคจะได้ลิ้มรส แมวอ้วนตัวมหึมาก็กระโจนมาจากพุ่มไม้ แสยะเขี้ยวกางเล็บ คว้าขนมปังชิ้นนั้นไปกิน
ฉันได้แต่สงสารและมองตามหลังแมวขี้โรคที่หิวโหยและหวาดกลัวหลบหน้าหายไปในเงามืด
ภาพนั้นเตือนให้ฉันย้อนกลับไปในตอนที่ฉันยังสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนมัธยม ฉันได้เห็นเด็กวัยรุ่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เด็กที่ผอมขี้โรค หิวโหยขาดไร้ และหวาดหวั่นพรั่นกลัวเหมือนลูกแมวตัวเล็ก ๆ เด็กผอมขี้โรคเหล่านั้นมิได้ขาดอาหาร หากขาดไร้ความรัก ความใส่ใจ และการยอมรับนับถือ ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าตัวได้เผยให้เห็นความเจ็บปวดบาดลึกที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ เด็กคนอื่นก็จะหน้าระรื่นเข้ามาเยาะเย้ยถากถาง และส่งเด็กผอมขี้โรคผู้ซึ่งหวาดหวั่นพรั่นกลัวและเปล่าเปลี่ยวเดียวดายให้หลบหน้าหนีหายไปในเงามืด.....ดังเช่นลูกแมว
เรา.....ในฐานะผู้ใหญ่ จึงไม่สมควรที่จะลืมความเจ็บปวดของการพยายามเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ในโลกแห่งการแข่งขันรุนแรงอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ขอให้สละเวลาสักนิด สละเวลารับฟัง ใช้เวลาใส่ใจ
การชี้แนะเด็กผอมขี้โรค อาจจะเป็นการลงทุนที่เลอค่าที่สุดในชีวิตที่เราได้เกิดมาครั้งหนึ่ง........
จาก ความรักและความอบอุ่น........
สงสารแมวตัวนั้นจัง