ตำนาน...คานทอง
ตำนาน...คานทอง
ตำนานนี้น่าสนใจ เป็นอย่างยิ่ง...


มีตำนาน เล่าขาน กันสืบมา
มีคานหนึ่ง สวยสง่า เปี่ยมราศรี
อันทางขึ้น นั้นเดินง่าย สบายดี
แต่โทษทีขาลง ยากกกกกก ลำบากลำบน


ต้นกำเนิด เกิดจาก สาวนางหนึ่ง
สวยสุดซึ้ง สวยกว่า น้องน้ำฝน
เป็นลูกสาว เศรษฐี ประจำตำบล
ชราชน หนุ่มน้อยใหญ่ต่างหมายปอง


...ท่านเศรษฐี องอาจ ประกาศว่า
อันลูกข้า หนึ่งนี้ไม่มีสอง
หากแม้นใคร อยากได้ไปคุ้มครอง
อย่างน้อยต้อง ทองล้านชั่ง? นี่กันเอง (ราคา)


...แต่ลูกสาว เศรษฐี มีคนรัก
ยากจนนัก จนยิ่งกว่า จะหาไหน
โอ้ชาตินี้มีกรรมหนัก ขอพักใจ
แค้นบรรลัย ต้องลาไกล ไปขุดทอง


...หายไปร่วม สามสิบปี มีทองหลาย
ข่าวจากสาย สมใจ ให้คลายหมอง
ว่าน้องนั้น ยังดีอยู่ไร้คู่ครอง
อยู่ไม่ได้จำรีบต้อง ไปจองเธอ

...บอกว่าที่พ่อตา “มาแล้วครับ มาพร้อมกับ ทองตามข้อ พ่อเสนอ
อยู่ที่ไหน หวานใจ I WANT TO SEE HER “
พ่อบอกเออ!!!อยู่ข้างใน เข้าไปเลย


...แสนดีใจ ได้จะพบ ประสบหน้า
ร้องถาม ป้า (ที่นั่งอยู่) ว่า E นางอยู่ใหน
ป้าบอกว่า ก็ตัวฉันเอง นี่ยังไง
จำน้องน้อย ไม่ได้น้อยใจนัก


...เจ้าหนุ่มจ้อง มองดู อยู่ไม่นาน
แสนดีใจ ประมาณว่า น้ำตาไหล (หนัก)
หัวใจเต้น ระรัว ตัวเริ่มชัก
ดิ้นสักพัก แล้วก็จาก โลกนี้ไป


...ทองที่ขน มามากมาย ทำไงดี
สาวจึงมี โครงการ ทำงานใหญ่สร้างเป็นคาน ไว้นั่ง ฟังเพลงไทย
จนหล่อนตาย จึงทิ้งไว้เป็น "ชาติพลี"

...คานนี้ขึ้น ไปแล้วจะติดใจ อยู่ได้นาน
จะเบิกบาน เปี่ยมสง่า และราศรี
ไร้ปัญหา ไร้บุตรธิดา (และ) ไร้สามี
ของดีดีๆอย่างนี้ต้องแนะนำ

จากคุณ : เฟริม์

fw mail



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 22:53:49 น.
Counter : 676 Pageviews.

2 comment
12 แม่ผู้มีบุญคุณ
12 แม่ผู้มีบุญคุณ
1. แม่โพสพ เป็นเทพธิดาประจำข้าว มีตำนานเล่าไว้แตกต่างกัน แต่สรุกตรงกันว่า ให้ทุกคนที่กินข้าว ได้สำนึกถึงพระคุณของแม่โพสพ หรือระลึกถึงประโยชน์ของเมล็ดข้าวที่เรากิน ชาวนาสมัยก่อนจะปฏิบัติต่อข้าวในทุกลักษณะด้วยความระมัดระวัง เช่น ไม่ทำข้าวหกเรี่ยราด ไม่เรากระด้งครอบปากครกตำข้าว ไม่เอาน้ำข้าวราดใต้ถุนครัว ฯลฯ เพราะเชื่อว่าจะทำให้แม่โพสพเสียใจ ปลูกข้าวกล้าไม่งอกงาม ไม่พอกิน และจะเกิดความอัปมงคลอย่างยิ่ง ปัจจุบันแม้ความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับข้าวจะลดน้อยถอยลงไป แต่เราทุกคนก็ยังควรรำลึกถึงพระคุณของข้าว ที่ทำให้เราเติบโต มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง

2. แม่พระธรณี หมายถึง เทพธิดาประจำแผ่นดิน หรือ เจ้าแม่แห่งแผ่นดิน ซึ่งก็คือผืนแผ่นดินที่เราเหยียบย่ำอยู่ทุกวันนี้นี่เอง แม่ธรณีมีคุณต่อเราก็เพราะเป็นที่ที่เราอาศัย และทำกิจกรรมทุกอย่างในชีวิตอยู่ในผืนแผ่นดินนี้ หากไม่มีแผ่นดินเราก้คงมีชีวิตอยู่ไม่ได้

3. แม่พิมพ์ หมายถึง ครูอาจารย์ซึ่งเราถือเป็นแบบอย่างความประพฤติของศิษย์ ครูบาอาจารย์ที่เป็นเหมือนดังแม่ที่สองรองจากแม่ผู้ให้กำเนิดเรา เพราะเป็นผู้อบรมสั่งสอนให้เราเป็นคนดี มีวิชาความรู้ที่จะไปทำมาหากินในอนาคต

4. แม่นม หมายถึง หญิงแม่ลูกอ่อน หรือหญิงที่เพิ่งคลอดลูก มีน้ำนมมากเกินพอให้ลูกของตัวดื่มกินแล้ว ยังอาจแบ่งปันให้ทารกในวัยเดียวกันของผู้อื่นได้กินบ้าง ซึ่งหญิงแม่ลูกอ่อนที่แบ่งน้ำนมของตนเลี้ยงดูทารกที่ไม่ใช่ลูกของตัวกิน จนกระทั่งทารกนั้นโตพอจะอดนมหรือเลิกกินนมหญิงนั้นแล้ว คือผู้ที่ได้ชื่อว่า แม่นม การหาหญิงแม่ลูกอ่อนมาเป็นแม่นมแก่ลูกหลานที่เกิดใหม่นี้ เป็นประเพณีนิยมในหมู่ชนชั้นกลางและชั้นสูงในโบราณกาล และมิใช่ว่าใครก็จะเป็นแม่นมได้ เพราะคนสมัยก่อนเขามีคัมภีร์ดูลักษณะด้วยว่า หญิงใดจะมีคุณสมบัติเป็นแม่นมที่ดีหรือไม่ดีอย่างไร เช่น ลักษณะสตรีและน้ำนมชั่ว “สตรีจำพวกหนึ่ง มีกลิ่นตัวคาวดังน้ำล้างเนื้อ เนื้อขาวเหลือง ห้องตัวยาว ฝ่ามือและเท้ายาว จมูกยาว สันทัดคน ไม่พี ไม่ผอม ลูกตาแดง หนังริมตาหย่อน นมยาน หัวนมเล็ก เสียงพูดแหบเครือดังเสียงการ้อง สะดือลึก กินของมาก ลักษณะดังกล่าวนี้ชื่อว่า ยักขิณี เป็นสตรีที่มีกามราคะแรง ถ้าให้ทารกบริโภคน้ำนมเข้าไป มักบังเกิดโรคต่างๆ ลักษณะอย่างนี้ ท่านให้ยกเสีย อย่าพึงเอา” ส่วนลักษณะสตรีน้ำนมดี คือ “สตรีจำพวกหนึ่ง มีกลิ่นตัวไม่ปรากฏหอมหรือเหม็น เอวกลม ขนตางอน จมูกสูง หัวนมงอนดังดอกอุบลพึ่งจะแย้ม เต้านมกลม รสน้ำนมนั้นหวานมันสักหน่อย ลักษณะสตรีอย่างนี้ ท่านจัดเป็นสตรีเบญจกัลยาณี ให้เลือกเอาไว้ให้ทารกบริโภคดีนักฯ”

5. แม่คงคา หรือแม่น้ำ หมายถึงเจ้าแม่ประจำน้ำ หรือ ลำน้ำใหญ่ซึ่งเป็นที่รวมของลำธารทั้งปวง เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง เป็นต้น โดยมากบริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งของแม่น้ำทั้งหลาย มักจะเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่ทำมาหาเลี้ยงชีพ เป็นทางสัญจรไปมา ฯลฯ แม้ในปัจจุบันเราก็ได้อาศัยแม่น้ำเป็นเส้นทางคมนาคม ทำเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จัดทำกิจกรรมเกี่ยวกับประเพณีต่างๆ เช่น ประเพณีชักพระ หรือโยนบัว เป็นต้น

6. แม่ย่านาง หรือ แม่ย่านางเรือ เป็นผีที่สิงสถิตอยู่ประจำเรือแต่ละลำ เจ้าของเรือส่วนมากจะมีความเชื่อว่าเรือทุกลำมีแม่ย่านางสิงสถิตอยู่ที่หัวเรือ และอาจจะเป็นผู้นำโชคหรือความหายนะมาสู่เรือของตนได้ ดังนั้น จึงต้องมีการกราบไหว้ และเซ่นสังเวยแม่ย่านางอยู่เสมอก่อนที่จะนำเรือออกทำกิจการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกเรือใช้งานครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเรือที่ทำขึ้นเอง หรือซื้อมา ถือว่าสำคัญที่สุด ต้องดูฤกษ์ยามและเซ่นสรวงบูชาแม่ย่านางเป็นพิเศษ ซื่อเชื่อว่าจะนำโชคชัยมาสู่เรือ และทำให้กิจการของตนเจริญก้าวหน้าได้

7. แม่ซื้อ หมายถึง เทวดาหรือผีที่เชื่อกันว่าเป็นผู้ดูแลรักษาทารก ตามความเชื่อว่ามี 7 คน และมีชื่อตามวันต่างๆ คือ วันอาทิตย์ชื่อ นางวิจิตรมาวรรณ วันจันทรืชื่อ นางวรรณนงคราญ วันอังคารชื่อ ยางยักษบริสุทธิ์ วันพุธชื่อ นางสามลทัศ วันพฤหัสบดีชื่อ นางกาโลทุกข์ วันศุกรืชื่อ ยางยักษ์นงเยาว์ และวันเสาร์ชื่อ นางเอกาไลย์ เวลาที่เราเห็นทารกยิ้ม หรือพูดอืออออยู่คนเดียว คนสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นเพราะ แม่ซื้อ มาเล่นด้วย

8. แม่สื่อแม่ชัก หมายถึงหญิงที่ทำหน้าที่ชักนำเพื่อให้หญิงชายได้แต่งงานกัน สมัยนี้แม่สื่อแม่ชักอาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่ ด้วยว่าการดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวปัจจุบัน ทำให้พบปะ คบหา และศึกษาอัธยาศัยใจคอกันได้ง่ายกว่าสมัยก่อน ทำให้ไม่ต้องใช้แม่สื่อเป็นตัวกลางเหมือนสมัยพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของเรา อย่างไรก็ดี ยุคโลกาภิวัตน์นี้แม่สื่อก็ใช่จะหมดหน้าที่ เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนเป็นเพื่อนฝูง บริษัทจัดหาคู่ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ก็เป็นได้

9. แม่ยก หมายถึง หญิงที่เป็นผู้อุปถัมภ์พระเอกลิเกหรือนายวงดนตรีลูกทุ่ง แม่ยกในปัจจุบันยังหมายถึงผู้ให้ความอุปถัมภ์ในวงการบันเทิงอื่นๆ ด้วย

10 แม่บ้าน โดยปกติจะหมายถึง ภรรยาของพ่อบ้านคือแม่ของเรา แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงแม่บ้านที่เป็นหญิงซึ่งเราว่าจ้างมาทำงานในบ้าน และเป็นผู้ดูแลกิจการต่างๆ ในบ้านแทนเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ซักรีด จัดเสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ ทำให้เราได้รับความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวันยิ่งขึ้น

11. แม่ครัว คือ หญิงที่มีหน้าที่ทำอาหาร การดำรงชีวิตปัจจุบัน หากเราไม่ได้ทำอาหารกินเองแล้ว เราจะพบว่าตามร้านอาหาร แม่ครัวเป็นบุคคลที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นหัวใจในการดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน หรือแม้แต่ในบ้านเราเอง หากมีแม่ครัวดี ก็ย่อมจะทำให้เรามีความสุขในการกินอาหารที่บ้าน

12. แม่เลี้ยง หมายถึง เมียของพ่อที่มิใช่แม่ตัว หลายคนคิดว่าแม่เลี้ยงส่วนใหญ่จะใจร้ายใจดำเหมือนในหนัง หรือนวนิยายที่อ่าน แต่ก็มีแม่เลี้ยงจำนวนไม่น้อยที่รักลูกเลี้ยง และช่วยดูแลเอาใจใส่ส่งเสีย จนกระทั่งลูกเลี้ยงเติบใหญ่

จะเห็นได้ว่า “แม่” ที่ยกมาข้างต้น แม้จะมิใช่แม่ในความหมายของผู้ให้กำเนิกเรา แต่ก้ยังประโยชน์ต่อเราไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ถือได้ว่ามีพระคุณต่อเรา สมควรที่เราจะได้ตระหนัก และปฏิบัติต่อพ่อแม่เหล่านี้ ด้วยความีน้ำใจไมตรีเพื่อแทนคุณ

ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 22:52:57 น.
Counter : 722 Pageviews.

0 comment
วิดีโอเกม
วิดีโอเกม

เก็บเรื่องมาเล่า

ชนา ชลาศัย




"วิดีโอเกม" ของสนุกสำหรับเด็กๆ ผู้ปกครองอาจจะเห็นเป็นสิ่งเลวร้าย ที่ปล้นเวลาหาความรู้ไปจากเยาวชน

แต่วิดีโอเกมก็ฝ่าด่านมาได้ อายุจะครบ 50 ในปีหน้านี้แล้ว

พร้อมกระแสข่าว สหรัฐ เตรียมสร้างพิพิธภัณฑ์วิดีโอเกมมาฉลอง 50 ปีนี้ด้วย

ตลอด 50 ปี วิดีโอเกมมีวิวัฒนาการน่าสนใจ ดร.พร วิรุฬหรักษ์ นำเสนอไว้ในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ฉบับเม.ย.2549

วิดีโอเกมเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2501 โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐ แถลงข่าวสร้างเกมเทนนิสลงบนคอมพิวเตอร์ เพื่อแสดงให้โลกคอมมิวนิสต์เห็นแสนยานุภาพด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ

แต่โซเวียตไม่ได้บ้าจี้ตามไปด้วยเพราะส่ง "สปุตนิก" ดาวเทียมดวงแรกของโลกไปโคจรรอบโลกแล้วก่อนหน้า 1 ปี

ปี 2515 คอมพิวเตอร์ราคาถูกลง เริ่มมีตู้เกม (Arcade Game) เกิดขึ้นแทนที่เกม "พิน บอล" โดยเกม Pong หรือเกมปิงปองนั่นเอง ที่เปิดศักราชวิดีโอเกมต่อสายตาสาธารณชน

หลังจากเกมปิงปองมีอีกหลายเกมน่าสนใจ เช่น Gran Trak 01 หรือเกมแข่งรถเกิดขึ้นครั้งแรกปี 2517 ช่วงประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน แพ้ภัยตัวเองจาก "คดีวอเตอร์เกต" จนต้องลาออกจากตำแหน่ง

Gun Fight หรือเกมดวลปืนเกิดขึ้นในปี 2518 และเป็นเกมแรกของตู้เกมในสหรัฐ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ก่อนญี่ปุ่นจะกลายเป็นมหาอำนาจตลาดเกมทั่วโลก

Space Invaders เกมสงครามอวกาศเกิดขึ้นปี 2521 ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เด็กในรัฐเท็กซัสติดกันงอมแงมถึงขนาดนัดกันหยุดเรียนเล่นเกม

ปี 2523 เกมนักกินมหัศจรรย์ที่ต้องหลบผีตาโตในจอ หรือ Pac-Man ทำให้คนทั่วโลกทั้งที่เล่นและไม่เล่นรู้จักวิดีโอเกม

2524 เป็นครั้งแรกที่คนอเมริกันรู้จักชื่อบริษัท Nintendo ของญี่ปุ่น จากเกม Donkey Kong และตัวละครในเกมที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ 50 ปีของวิดีโอเกมปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในเกมนี้ นั่นคือ "จัมพ์แมน"

2525 นักออกแบบเกมมือดีของ "อาตาริ" ออกมาตั้งบริษัทวางรากฐานโปรแกรมเกมที่พัฒนามาเป็น "มาริโอ" (Mario) อันโด่งดังทั่วโลก และทำยอดขายสูงสุดตลอดกาลถึง 40 ล้านก๊อบปี้ในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม จาก Super Mario Bros ในปี 2528

ในปี 2528 เช่นกัน Alexey Pajitnov นักคณิตศาสตร์รัสเซีย คิดค้นเกม Tetris ขึ้นและกลายเป็นเกมที่มีคนติดมากที่สุดในโลก ตามสถิติของสหรัฐอเมริกา

ฯลฯ

ตลอด 50 ปีวิดีโอเกมมีอิทธิพลมากมายต่อผู้คนทั่วโลก เกมในปัจจุบันไม่ใช่เพียงเกม แต่กลายเป็น "วัฒนธรรม" ไปแล้ว

และมิใช่เพียงวัฒนธรรมของเยาวชนเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีผู้เล่นเกมมากมายอยู่ในวัยทำงาน

ปัจจุบันมูลค่าการตลาดของธุรกิจวิดีโอเกมประมาณ 31,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,200,000 กว่าล้านบาทต่อปี ซึ่งใหญ่กว่าวงการสิ่งพิมพ์ (ประมาณ 1 ล้านล้านบาทต่อปี)

ผู้เขียนบอกว่า ถ้าพิพิธภัณฑ์วิดีโอเกมเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นสัญลักษณ์ของสังคมอเมริกันที่ให้การยอมรับความมีตัวตนและความเป็นส่วนหนึ่งของสังคมวิดีโอเกม โดยไม่ได้เป็นเพียงฐานะของเครื่องเล่นเท่านั้น

หากยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจยุคดิจิตอลที่สำคัญอีกด้วย

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREV6TVRFMU1BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd055MHhNUzB4TXc9PQ==



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 19:22:54 น.
Counter : 709 Pageviews.

0 comment
ข้อคิดจากรถเมล์
ข้อคิดจากรถเมล์

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



เช้าวันหนึ่งผู้เขียนได้ขึ้นรถโดยสารประจำทาง ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียนรถจะว่าง ได้พูดคุยกับพนักงานเก็บค่าโดยสาร เธอเล่าเรื่องลูกและครอบครัวของเธอให้ผู้เขียนฟัง ได้ข้อคิดดีๆหลายเรื่อง

พนักงานสาวเล่าว่า เธอมีลูกชาย 3 คน อายุ 10 , 8 และ 5 ขวบ เธอรักลูกเธอมาก และไม่ว่าจะลำบากอย่างไรเธอก็ยอมทนเพื่อลูก เมื่อหลายปีก่อน ขณะเธอเพิ่งคลอดลูกคนเล็กได้ 7 เดือน สามีของเธอไปมีภรรยาใหม่ ที่อายุมากกว่า แต่มีฐานะดี สามีของเธอจึงทิ้งเธอและลูกไปอยู่กับภรรยาใหม่ เธอบอกว่ายอมที่จะไปกราบเท้าสามีเพื่อขอให้เขาเห็นใจว่า เธอยอมเป็นน้อยก็ได้ ให้ภรรยาคนนั้นเป็นภรรยาออกหน้าออกตาเพื่อให้เขาเห็นแก่ลูก

เธอยอมย้ายมาหาบ้านเช่าอยู่ใกล้กับสามี แต่เขาก็ไม่ได้มาสนใจไยดีกับเธอและลูก แถมแม่สามีก็ไม่ใคร่ชอบเธอนัก ลูกที่เธอฝากให้แม่สามีช่วยเลี้ยงก็โดนด่าว่าโดนตีเป็นประจำ จนเธอทนไม่ได้มาขอลูกกลับไปเลี้ยงเอง เธอเล่าว่าวันนั้นเธอหอบลูก 3 คน นั่งร้องไห้ข้างทางไม่รู้จะทำอย่างไรดี ลูกร้องหิวข้าวจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ก็กลัวแม่ด่า เพราะแม่ของเธอเลี้ยงลูกแบบไม่เคยให้กำลังใจ มีแต่ซ้ำเติมดุว่า กลับไปก็รังแต่จะเจ็บช้ำใจ ขณะนั้นเธอเกือบจะคิดจากโลกนี้ไปพร้อมกับลูก

และสิ่งหนึ่งที่เธอบอกเล่าเป็นข้อคิดที่ดีมาก ก็คือ เธอบอกว่ากำลังใจจากพ่อแม่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในขณะที่เธอทุกข์ที่สุดเธออยากได้กำลังใจจากพ่อแม่มาก แต่เธอไม่เคยได้ ถ้าพ่อแม่ให้กำลังใจ ปลอบโยนลูกรับฟังลูกคนที่กำลังมีปัญหาก็คงไม่คิดจบชีวิตตนเองเหมือนที่เธอเคยคิด ดังนั้นเธอจึงเลี้ยงลูกโดยพูดคุยกับลูกให้กำลังใจลูกตลอด เธอจะไม่ตี แต่จะคอยสอนคอยบอกให้กำลังใจและชื่นชมเมื่อลูกทำดี

นี่คือข้อคิดอันหนึ่งที่ผู้เขียนได้และชื่นชมเธอที่เธอสามารถคิดได้และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREV6TVRFMU1BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd055MHhNUzB4TXc9PQ==



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 19:22:07 น.
Counter : 716 Pageviews.

0 comment
๛ให้ของขวัญ "แม่ ตามธาตุประจำตัว" ๛
๛ให้ของขวัญ "แม่ ตามธาตุประจำตัว" ๛
ในทางโหราศาสตร์ มีการแบ่งจักรราศีตามวิถีโคจรของดวงอาทิตย์ไว้ 12 ราศี และแต่ละ
ราศียังมีธาตุประจำราศีเกิดที่เรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” อยู่ด้วย นั้นก็คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ

ควง "แม่" ไปทำบุญกันดีกว่า

สำหรับคนธาตุดิน มักจะมีโครงร่างแข็งแรง เนื้อแน่น เป็นคนมีอุปนิสัยหนักแน่น มองโลกในแง่ที่เป็นจริง มีความแคล่วคล่องว่องไว ปรับตัวได้ง่าย และมีความอดทนสูง แม้จะมีอุปสรรคในชีวิต ก็จะไม่ยอมท้อถอย พร้อมจะสู้ให้ถึงที่สุด เป็นนักวางแผน แต่ออกจะเป็นคนหัวโบราณ ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆโดยง่าย
ดังนั้น แม่ธาตุดิน ที่อารมณ์ค่อนข้างมั่นคง ปรับตัวได้ง่าย มองโลกในแง่ความเป็นจริง และออกจะหัวโบราณลูกๆอาจจะเข้าไปกอดและ
บอกว่ารักแม่มากแค่ไหน หรือพาแม่ไปช้อปปิ้งซื้อของที่ชอบ พาไปทำบุญที่วัดหรือโรงพยาบาลสงฆ์ หรือพาไปเที่ยวทะเล น้ำตก อุทยานประวัติศาสตร์
หรืออุทยานแห่งชาติให้แม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติ พาแม่ไปนวดเท้านวดตัวเป็นพิเศษ หรือร่วมมือกับพ่อและพี่ๆน้องๆทำงานบ้านทุกอย่างแทนแม่ในวันแม่
สำหรับผู้ที่อยู่ในธาตุดิน ได้แก่ ราศีพฤษ (14 พ.ค.-14 มิ.ย.)
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) ราศีมังกร (14 ม.ค.-12 ก.พ.)


เขียนกลอนจากใจ

คนธาตุน้ำ มักจะมีร่างกายสมส่วน ท้วมหรืออ้วน ผิวพรรณสดใส คนธาตุน้ำจะเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวที่สุด ชอบวิเคราะห์สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ดี เชื่อในเรื่องโชคชะตาและพรหมลิขิต
ชอบเป็นห่วงเป็นใยคนรอบข้าง ชอบปกป้องผู้อื่น
ดังนั้นแม่ธาตุน้ำ ที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และเชื่อในพรหมลิขิต ลูกอาจจะมอบของขวัญโดยร่วมกับพ่อ พาแม่ไปเที่ยวในสถานที่ที่แม่ชอบหรือประทับใจในอดีต มอบบัตรอวยพรหรือกลอนที่ลูกๆเขียนขึ้นจากใจให้แม่ พาลูกๆหลานๆมาช่วยกันทำอาหารพิเศษให้แม่ทานหรือพาไปกินข้าวร้านที่อร่อยๆ หรือพาแม่ไปเลี้ยงเด็กตามมูลนิธิต่างๆ จัดอาหารให้แม่ได้ทำบุญตักบาตรเป็นพิเศษในวันแม่ ให้หนังสือนวนิยายหรือซีดีละครที่แม่ชอบ
สำหรับผู้ที่อยู่ใน ธาตุน้ำ ได้แก่ ราศีกรกฎ (16 ก.ค.-16 ส.ค.)
ราศีพิจิก (16 พ.ย.-15 ธ.ค.) ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.)


เฮ้วๆ แบบนี้ไปดูคอนเสิร์ตดีไหม

คนธาตุลมมักจะมีรูปร่างโปร่ง ผิวค่อนข้างแห้ง คนธาตุลมเป็นคนที่มีความคิดอ่านอย่างมีหลักเกณฑ์ และยึดถือความถูกต้องของเหตุผล ชอบคบค้าสมาคมกับคนทุกเพศทุกวัย การได้แลกเปลี่ยนสื่อสารเป็นสิ่งที่ถนัด
คิดอะไรเป็นขั้นตอน ชอบถกปัญหากับเพื่อนผู้รู้ใจ ดังนั้น แม่ธาตุลม ที่ชอบคบค้าสมาคมกับทุกเพศทุกวัย ชอบถกปัญหากับเพื่อนผู้รู้ใจ
ลูกๆอาจมอบของขวัญด้วยการ จัดปาร์ตี้ให้แม่และเพื่อนๆในกลุ่มได้มาพบปะสังสรรค์ซึ่งกันและกัน หรือพาแม่ไปชมคอนเสิร์ตดังๆ ซื้อทัวร์ให้ไปเที่ยว
กับเพื่อนๆจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ (ขึ้นกับงบของลูก) ซื้อคอร์สออกกำลังกายที่ทำให้แม่ได้พบปะคนมากหน้าหลายตา ซื้อมือถือใหม่ให้แม่
และสอนให้ใช้ลูกเล่นต่างๆในการคุยกับเพื่อนหรือลูกๆหลานๆ
สำหรับผู้ที่เกิดในธาตุลม ได้แก่ ราศีเมถุน (15 มิ.ย.-15 ก.ค.)
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-15 พ.ย.) ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.)


มาสอน "แม่" เล่นอินเทอร์เน็ตกัน

สำหรับคนธาตุไฟ มักจะมีรูปร่างผอม ผิวค่อนข้างหยาบ เนื้อหลวม คนธาตุไฟเป็นคนสดใส ชอบทำในสิ่งที่ทำให้สบายอกสบายใจ แต่ค่อนข้างขาดความอดทน
มีความกระตือรือร้นสูง ชอบทำตัวเป็นผู้นำ โกรธง่ายเจ้าอารมณ์
แต่ไม่เก็บมาคิดอาฆาตใคร มองโลกในแง่ดี
ดังนั้น แม่ธาตุไฟ ที่สดใส กระตือรือร้น ชอบเป็นผู้นำ และไม่ค่อยอดทนและยังโกรธง่าย ลูกๆอาจจะซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้ที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใครให้แม่เป็นของขวัญ พาไปเที่ยวแบบแปลกๆใหม่ๆ เช่น พาไปล่องแก่ง ปีนเขากับเราหรือหลานๆ (ถ้าแม่ไม่แก่มาก และชอบซิ่ง) ซื้อคอมพิวเตอร์ให้แม่และสอนให้เล่นเกมหรือค้นหาสิ่งต่างๆทางอินเตอร์เนท รวมทั้งโต้ตอบเมล์กับเพื่อนหรือเราได้
พาแม่ไปทัวร์ธรรมะหรือไหว้พระ 9 วัด ซื้อริสต์แบรนด์ให้แม่ใส่ หรือซื้อสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมให้แม่
สำหรับผู้ที่เกิดอยู่ในธาตุไฟ ได้แก่ ราศีเมษ ( 13 เม.ย – 13 พ.ค.)
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) ราศีธนู (16 ธ.ค.-13ม.ค.)


นี่อาจเป็นเพียงของขวัญที่ลูกๆอาจจะทำให้แม่ได้ตามกำลัง แต่เชื่อว่าสิ่งที่ “แม่” ไม่ว่าธาตุใดต้องการจากลูกๆ ก็คือ ความรัก และเวลาที่ลูกๆจะมีให้แม่บ้าง
โดยเฉพาะลูกที่มีครอบครัวไปแล้ว เพียงคำถามด้วยความห่วงใย และคำพูดดีๆเพราะๆ แค่นี้แม่ก็ชื่นใจแล้ว ส่วนลูกที่ยังเด็กหรือเรียนอยู่ ขอเพียงประพฤติตัวดี
ตั้งใจเล่าเรียนก็เป็นของขวัญที่แม่ยินดียิ่งกว่าสิ่งใด


หากจะแยกแยะธาตุแท้ของ “แม่ทุกคน” แล้ว เราจะเห็นว่า

ธาตุแม่ อะตอมหัวใจ ประกอบด้วย นิวเคลียส ที่มีโปรตอนแห่งความรัก
นิวตรอนแห่งความห่วงหาอาทร เป็นแกนกลาง โดยมีอิเลคตรอน ความปรารานาดี
วิ่งโดยรอบ ธาตุแม่ จึงเปรียบเหมือน “พระธาตุ” ศักดิ์สิทธ์ที่คุ้มครองลูกเสมอมา


ข้อมูลจาก : อมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม




Create Date : 12 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 21:48:56 น.
Counter : 763 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend