กฎแห่งแรงดึงดูด?!?
เราเคยสังเกตหลายๆ ครั้งว่า ทำไมเด็กที่เรียนเก่งๆ หรือเป็นเด็กแถวหน้าถึงไม่ค่อยหาเรา ไม่ปรึกษา ไม่พึ่งพา ตรงข้ามมักจะมีเด็กที่เรียนไม่เก่งนัก อินดี้จัด ติสแตก กะเทยที่ไม่แรง หรือเด็กหลังห้องเข้ามาหาเราแทน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? มีศิษย์เก่าคนนึงบอกเราว่า นี่เป็นสไตล์เรา คบเด็กหลังห้อง เราบอกว่า ไม่ใช่ เราไม่ได้คบ แต่มีแต่เด็กหลังห้องที่คุยกับเราได้ ส่วนเด็กหน้าห้องอาจารย์คนอื่นเอาไปคุยหมดแล้ว แล้วจะเหลือใครให้เรียกใช้สอยได้อีก นอกจากเด็กเหล่านี้ อย่างวันนี้เราชวนเด็กมาทำหนังโฆษณากัน เด็กที่เรียนด้วยไม่มาช่วย ยิ่งเด็กเก่งๆ ฝีมือดีๆ ไม่มาเล่น เด็กที่พอจะมาช่วยได้ ก็เป็นเด็กที่ลาออกจากงานว่างๆ อยู่ เด็กที่เรียนไม่จบสักที เด็กที่อยู่ว่างๆ มาช่วย และจะมีเด็กหลังห้องตามมาช่วยอีก คงจะเหมือนกับเราละมั้ง ครูที่เด็กไม่เอาแล้วเช่นกัน เลยต้องมากองรวมกัน ตอนเย็นมีอีกราย เป็นเด็กในที่ปรึกษาเราเอง ไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัว มีแต่สอนเมื่อเทอมก่อน เขามีปัญหาก็เลยเข้ามาคุยด้วยเป็นเรื่องเป็นราว เราถามว่าเกิดไรขึ้นในชีวิต ไหนว่าจะปรับปรุงตัว ถามไปหน่อยเดียว ร่ายยาวเลยทีนี้ เดิมทีเราไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนพูดเยอะ เพราะดูจากภายนอกเขาจะเงียบๆ ดูเกเรๆ หน่อย พอเขาได้เล่าชีวิตของเขา ก็รู้สึกได้ว่าเขาผ่อนคลายมากขึ้น เราฟังจบ เราบอกว่าเราเข้าใจเขานะ แล้วสรุปปัญหาให้เขาฟังอีกที เขาตาแดงๆ มีน้ำตาคลอเบ้า แล้วบอกว่า "ซึ้งใจ" เรามองหน้าด้วยความงง เดี๋ยวนะ ซึ้งใจอะไรยังไง ไม่ได้ปลอบใจอะไรเลย แค่บอกว่าเข้าใจเท่านั้นเอง ปกติถ้าเราพูดซึ้งๆ อะไรจริงๆ เราจะน้ำตาปริ่มนำไปแล้ว แต่นี่ยังนะ แสดงว่าเด็กคนนี้เซ้นซิทีฟเยอะอยู่ จึงเป็นอีกเคสที่ทำให้เราคิดว่า คนประเภทนี้จะไว้ใจเราง่าย ไม่ต้องพูดจาดี หรือชื่นชมมากมาย แค่ฟังในสิ่งที่เขาอยากเล่า และสนใจในความเป็นไปของเขาบ้างก็พอแล้ว แต่อะไรล่ะที่ทำให้เด็กเหล่านี้เลือกที่จะพูดกับเรา เข้าหาเรา วันนี้เราได้ยินคำๆหนึ่ง "กฎแห่งแรงดึงดูด" จึงเสิร์ชอ่านเพิ่มเติมว่ามันคืออะไร หรือมันจะใช่??? เราคือเด็กหลังห้อง เกเร ติสแตก อินดี้ที่โลกไม่เคยเข้าใจในอดีต ต้องการแค่คนรับฟังเราบ้าง...เท่านั้นเอง
Create Date : 27 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2558 22:10:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1508 Pageviews. |
|
|
|