|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
21 ตุลาคม 2550 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เงินสี่ด้าน.....งานท่วมตัว......บัวสี่เหล่า......เข้าใจความพอเพียง
วันนี้เริ่มต้นที่กาลามสูตรเพื่อเป็นการเตือนสติ ว่าอย่าไปเชื่ออะไรง่าย ๆ......เดี๋ยวโดนหลอก สาว ๆ หนุ่ม ๆ .....ระวังตัวด้วยนะครับ
กาลามสูตร.......เป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ
1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟัง ๆ กันมา 2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อ ๆ กันมา 3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ 4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา 5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา 6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา 7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล 8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน 9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ 10.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
1.งานท่วมตัว
ทำงานเหนื่อยกันไหมครับ? ยุ่งยิ่ง....นุงนัง....สับสน......วุ่นวาย แข่งกับเวลา.....แข่งกับคู่แข่ง เลิกงานแล้ว.......สลบดีกว่า....ขอนอนสักครู่
หรือว่าทำงานมีความสุขเหลือเกิน อะไรก็ราบรื่นไปหมด....มีแต่ก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ เงินทองไหลมาเทมา.....ไม่หยุดไม่หย่อน จนไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนครับ
คนที่เป็นผู้บริหารและเจ้าของกิจการ ก็จะยุ่งไปอีกแบบหนึ่ง....ปวดหัวไปอีกแบบ ทำไงยอดขายมันจะพุ่งกระจายหนอ กำไรเมื่อไหร่มันจะทะลุฟ้าเสียทีหนอ พนักงานทำไมมันขี้เกียจกันนักนะ
หรือไม่ก็เก่งเหลือเกิน ธุรกิจมีแต่เติบโตไม่หยุดไม่หย่อน จะหยิบอะไรก็ดูเป็นเงินเป็นทองไปหมด สิ้นปีมีเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นมากมาย พนักงานรับโบนัสกันคนละยี่สิบเดือน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว วันเงินเดือนออก....โบนัสออก น่าจะมีความสุขไปอีกแบบ จะทุกข์ก็ตอนเห็นบิลเยอะแยะไปหมดนี่แหละ ค่าผ่อนบ้าน....ผ่อนรถ....ค่าโทรศัพท์.....ค่าเคเบิ้ลทีวี
ส่วนเข้าของกิจการ งบการเงินแต่ละไตรมาสออกมากำไรงาม ก็หน้าบานเชียว ถ้าขาดทุนละก็.....หน้าเป็นบัวตูมทันที
แต่ที่ดูแล้วต้องเอาเข้า..."ไอ....ซี.....ยู"......ก็คือ "คนตกงาน"........ดูเหมือนดีเพราะ...."งานไม่ท่วมตัว" ....กะตังค์ก็เลยไม่ท่วมตัวเหมือนกัน.....เศร้า....มาก...
ชีวิตคนเราอะไรมันจะมันส์....ขนาดนี้
ทำไปทำอะไรกันเนี่ย? จุดหมายมันอยู่ที่ไหนล่ะ? ..........เงิน...ทรัพย์สิน.......... ......คฤหาสน์ 100 ห้องนอน........ ............รถหรู...หรู..... ............ลุก....เมีย......... .........ผัว.....ครอบครัว........ .............ชื่อเสียง........ ..............รางวัล............ ..........สวรรค์....นรก.... ............ความสุขใจ..... ...........อิสรภาพ......... .............ฯลฯ............
หรือว่าอะไรกันแน่? อะไรคือจุดมุ่งหมายที่แท้จริง? เราเกิดมาทำอะไรเนี่ย? จะดำเนินชีวิตยังไงดีล่ะเนี่ย? (ถามโง่ ๆ อีกแล้ว......ขออภัยนะครับ......สงสัยจริง ๆ)
....................................................................................
2.เงินสี่ด้าน
คุณคงเคยรู้จัก Robert T. Kiyosaki มาบ้างแล้วนะครับ หนังสือของเขาที่ดังมาก 2 เล่มก็ดังที่เห็นในรูปนั้นแหละครับ "พ่อรวยสอนลูก".......และ........"เงินสี่ด้าน" เขารวยจากการาขายหนังสือนะครับ ไม่ได้รวยจากการทำธุรกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรอก เคยล้มละลายมาแล้วด้วย
หลายท่านคงอยากเปลี่ยนฟาก มาอยู่ฟาก B และ I หรือไม่ก็ย้าย Quadrant บ้างหรอกน่า
เขาคิดว่าสินทรัพย์คือสิ่งที่มันออกดอกออกผลเป็นเงินให้เขา เช่น บ้านเช่า.....ตึกแถว....ธุรกิจต่าง ๆ ส่วนบ้าน....รถยนต์...นั้นเป็นหนี้สิน เพราะมันผลาญเงินเจ้าของอยู่ร่ำไป
เขาแบ่งคนเป็นสี่กลุ่ม(ตามที่มาของเงินสี่ด้าน) E=ลูกจ้าง(Employee) หรือมนุษย์เงินเดือนนั่นเอง ถ้าไม่มีวันสิ้นเดือน....ละก็....ต้องคายแน่นอน S=อาชีพอิสระ เช่น สถาปนิก หมอ ทนายความ นักบัญชี หรือเจ้าของกิจการขนาดเล็ก(Self-employed)....ไม่ลงมือละก็.....เงินไม่มา....ต้องทำเอง....ใครทำแทนลำบาก B=เจ้าของระบบธุรกิจ(Business Owner) เช่น บริษัท ผลิตเบียร์ ห้างสรรพสินค้า การส่งออกสินค้า ธุรกิจขายตรง......สร้างระบบไว้ให้ระบบทำงานหาเงิน....จ้างคนเก่ง ๆ มาทำงานให้ I=นักลงทุน(ให้เงินทำงาน-บางทีเงินมันเบี้ยวเหมือนกัลล์)(Investor).......ด้านนี้ต้องมีเงินก่อนจึงจะใช้มันทำงานได้.....แต่ต้องระวังเงินมันอู้แลเบี้ยวไม่ทำงาน......หมดตัวได้เหมือนกัน......มัน High Risk-High Return จริง ๆ
เขาเชื่อว่าคนฟากซ้ายคือ E และ S ทำงานเพื่อเงิน ไม่มีทางมั่งคั่งได้อย่างจริงจังอะไร ไม่สามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้ หยุดทำงานเมื่อไหร่....เงินหายไปทันที
และเขาก็เชื่อว่ามีแต่คนฝั่งขวา คือ B และ I เท่านั้น ที่จะมั่งคั่งได้จริงจังและมีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง เพราะเป็นเจ้าของระบบ ไปไหนมาไหน หยุดพักร้อน เงินก็ยังมาอยู่
เขาพูดแต่เรื่องเงิน ไม่ได้พูดถึงรสนิยมและสุนทรียภาพ ไม่ได้พูดถึงจิตใจและความรู้สึกในการดำเนินชีวิต
ดูมันมี"ชีวิต"ดีเพราะมีเงินเป็นเรื่องของกายภาพ แต่ขาด"ชีวา"เพราะมันขาดเรื่องของอารมณ์และจิตไป
คุณเชื่อเขาไหมล่ะ? คุณอยู่ตรงไหนของเงินสี่ด้านนั้น? อยากเปลี่ยนด้านไหมครับ? ถ้าไม่เปลี่ยนจะอยู่อย่างเป็นสุขอย่างไร? หรือถ้าอยากเปลี่ยนด้านจะมีขั้นตอนยังไงบ้าง?
.................................................................................................
3.เข้าใจความพอเพียง
ดูรูปแล้วเข้าใจเลยครับ ไม่ยากเลย.....แต่ทำยากมาก
ที่สำคัญเขาว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเรา ยังไม่เข้าใจถ่องแท้
มันคือการกินง่าย....อยู่ง่าย.....มักน้อย....สันโดษ ไม่กินไม่ใช้.....อดอม.....ไม่ซื้อ....ไม่จ่าย ปลูกผัก....ทำนา....ทำสวน....เลี้ยงปลา
หรือยังไงกัน?
มนุษย์เงินเดือน ชาวนา....กรรมกร นักธุรกิจ.....พ่อค้า นักการเมือง.....รัฐมนตรี พระสงฆ์....นักบวช เศรษฐกิจ....สุขภาพ มนุษย์ในด้านต่าง ๆ ของเงินสี่ด้าน......คนตกงาน
เหล่านี้.....จะใช้หลักความพอเพียงอย่างไร?
ลองไล่ไดอะแกรมดูเป็นไง
ผมก็งงเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า..... ต้องเดินสายกลาง....เลิกเบียดเบียนกัน มีความรู้ความสามารถ....ใช้อย่างมีธรรมะ ไม่ทำลายธรรมชาติ....ไม่ทำลายตนเอง
แต่มันมีคำถามว่า มนุษย์พอเพียงกับมนุษย์ไม่รู้จักพอนี่มันจะอยู่ร่วมกัน แบบสมานฉันท์ได้ไหมหนอ?
..................................................................................................
4.บัวสี่เหล่า
พระพุทธองค์ทรงหยั่งเห็นสันดานของมนุษย์ประดุจดังดอกบัว ๔ เหล่า ที่มีระดับสติปัญญา ความสามารถ ความเฉลียวฉลาด ความเห็นชอบ ในการรู้ธรรมะในระดับที่ต่างกันดังนี้
1.อุคฆฏิตัญญู พวกมีสติปัญญา ฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที 2.วิปัจจิตัญญู พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจราณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่ช้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป 3.เนยยะ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่ เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง 4.ปทปรมะ พวกที่ไร้สติปัญญาและยังเป็น มิจฉาทิฏฐิ แม้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียรเปรียบเสมือน ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลาอีกด้วย ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก
......................................................................................................
เอาสี่เรื่องนี้มายำรวมกันซะ......แบบบูรณาการ(ทันสมัยเชียว) จะได้วิถีชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป หลายรูปแบบ............มาก
เพื่อนพ้องพี่น้อง.....อยู่ตรงไหนกันบ้างครับ เป็นคนด้านไหน? ชีวิตพอเพียงไหม? ตอนนี้อยู่ใต้น้ำหรือพ้นน้ำแล้วครับ?
ผมต้องลาตรงนี้แหละครับ จะรีบไปหาคำตอบเหมือนกัน ว่าผมเป็นใคร...อยู่ฟากไหน ตอนนี้พอเพียงหรือยัง...มีอะไรที่มันยังเสี่ยง และยังไม่ได้จัดการบ้าง
แต่ที่แน่ ๆ ต้องรีบดำน้ำให้ขึ้นเหนือน้ำให้ได้ ก่อนที่จะถูกเต่าเขมือบตายเสียก่อน
Create Date : 21 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2550 21:20:00 น. |
|
37 comments
|
Counter : 4459 Pageviews. |
|
|
|
โดย: big-lor วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:11:19:04 น. |
|
|
|
โดย: น้องนก (Nok_Noah ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:13:19:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:16:13:29 น. |
|
|
|
โดย: ม้าห้อ (cm-2500 ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:16:20:12 น. |
|
|
|
โดย: null (เริงฤดีนะ ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:16:35:23 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:17:04:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:17:21:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 30 ตุลาคม 2550 เวลา:17:22:49 น. |
|
|
|
โดย: แซนด์ซี วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:34:33 น. |
|
|
|
โดย: doctorbird วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:26:41 น. |
|
|
|
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:1:45:30 น. |
|
|
|
โดย: ann (a_mulika ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:22:59 น. |
|
|
|
โดย: ปลายแปรง วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:46:36 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:12:40 น. |
|
|
|
โดย: มหาสำลี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:11:08 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:12:59 น. |
|
|
|
โดย: big-lor วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:03:26 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:20:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:25:03 น. |
|
|
|
โดย: มหาสำลี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:47:54 น. |
|
|
|
โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:02:24 น. |
|
|
|
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:07:42 น. |
|
|
|
โดย: เชอรี่ (JAN_CHERRY ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:35:42 น. |
|
|
|
โดย: doctorbird วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:52:45 น. |
|
|
|
โดย: มหาสำลี วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:07:12 น. |
|
|
|
โดย: big-lor วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:47:26 น. |
|
|
|
โดย: pataramin วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:55:58 น. |
|
|
|
โดย: tittee IP: 27.55.158.208 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:23:09 น. |
|
|
|
โดย: Sai Saw Maung IP: 183.88.179.184 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2559 เวลา:17:17:45 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ซึ้งก็หวังว่ามันคงจะเป็นไปตามนั้นค่ะ