โรงเรียนของนู๋....
ช่วงที่ผ่านมามีวิกฤติและโอกาสเกิดขึ้นมากมาย เริ่มตั้งแต่งานแม่ที่โหมกระหน่ำซัมเมอร์จนไม่มีเวลามาอัพบล็อก (อันนี้ละเรื่องใหญ่ ^_^) และในช่วงนั้นโรงเรียนปัญโญทัยก็เรียกเอื้อไปประเมินความพร้อม(วันที่ 11 ก.พ 52) วันนั้นเอื้อต้องไปเคลือบฟลูออไรด์กับโรงเรียนศรีเสริมวิทย์(ที่เรียนอยู่ตอนนี้) แม่ กับคุณพ่อต้องการให้เอื้อคุ้นเคยกับหมอฟันเลยยอมจ่าย 450 บาท -"- เพื่อให้เอื้อได้ไปหาหมอฟันพร้อมกับเพื่อน ๆ (ร่วมอุดมการณ์) ตกบ่ายแม่ กับคุณพ่อก็ไปนั่งหน้าแป้นรอเอื้อที่โรงเรียนศรีเสริมวิทย์เพื่อไปโรงเรียนปัญโญทัยที่เราหวังว่าจะให้เอื้อได้เรียนในปีนี้ นั่งรอซักพักรถตู้ของคลินิคหมอฟันก็จอดหน้าโรงเรียน พอประตูรถตู้เปิดออก เด็ก ๆ ก็ทยอยกันเดินลงมาทีละคน มาถึงคิวเอื้อ เอื้อลงมาพร้อมหน้าตาง่วง ๆ แม่อุตส่าห์ยิ้มแป้นรอ คิดว่าเอื้อจะดีใจดีที่เห็นแม่มารับ (เพราะหน้าที่รับ-ส่งเอื้อ จะเป็นหน้าที่ของคุณพ่อเอื้อซะส่วนใหญ่) แต่เอื้อกับมองดูแม่เฉย ๆ -'-
เราไปถึงโรงเรียนปัญโญทัยก็พบบรรยากาศผู้ร่วมอุดมการณ์ที่พาลูก ๆ มารอประเมินความพร้อมบวกกับใกล้เวลาโรงเรียนเลิก จึงแลดูวุ่นวายพอสมควร แม่พาเอื้อไปลงชื่อในระดับอนุบาลเป็นอันดับที่ 11 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย (ไม่รู้ว่าทั้งหมดมีแค่ 11 คน หรือว่ามีวันอื่นด้วย ก็ไม่ได้ถามคุณครูซะอีก) แอบมองรายชื่อระดับประถมก็มีจำนวนใกล้ ๆ กันคือ 12 คน เรานั่งรอกันซักพักคุณครูก็มาพาเด็ก ๆ เข้าไปในห้องเพื่อประเมินความพร้อม เด็ก ๆ คงรับความรู้สึกกดดัน และเครียดของผู้ใหญ่ได้เด็กบางคนแสดงอาการเครียดออกมาโดยการร้องไห้และไม่ยอมเข้าไปในห้อง บางคนไม่ยอมห่างพ่อ-แม่เลยไปไหนไปด้วยกัน เอื้อก็เป็นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ คือรับรู้ถึงบรรยากาศกดดันได้ แม่พาเอื้อไปส่งหน้าห้อง
เอื้อหันมาบอกแม่ว่า"แม่รอเอื้อนะ" ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
แม่ยิ้มให้เอื้อพร้อมกับก้มลงกระซิบว่า"แม่จะยืนรอเอื้อตรงนี้จนกว่าเอื้อจะออกมาครับ"
แล้วก็มีคุณครูมารับเอื้อ เอื้อก็เดินตามไปโดยไม่หันกลับมามองแม่ด้วยซ้ำ -"- แม่แอบดูซักพักเห็นคุณครูล่อหลอกเอื้อโดยการหยิบของเล่นไม้มาให้เอื้อ เอื้อก็เพลินไป แม่เลยโล่งอก หายใจสะดวกขึ้น ^_^
เวลาผ่านไปซักพัก คุณพ่อเอื้อเลยบอกว่าจะเดินอ้อมไปดูผ่านหน้าต่างว่าเด็ก ๆ ทำอะไรบ้าง แล้วก็ได้ความว่าให้เด็ก ๆ รับ-ส่งลูกบอล ให้พับผ้า ให้ระบายสี เขียนภาพ แม่มาสรุปเองว่าโรงเรียนน่าจะประเมินเรื่องของอารมณ์ สมาธิ เป็นหลัก
สำหรับแม่ประเมินเอื้อเองว่าผ่านฉลุย เพราะเอื้อสามารถปรับตัวเข้ากับบรรยากาศกดดันได้ (ส่วนโรงเรียนจะประเมินผ่านไม่ผ่านก็ต้องติดตามกันต่อไป)
ก่อนเอื้อจะเข้าไปในห้องเพื่อให้คุณครูได้ประเมิน คุณพ่อก็ได้คุยกับคุณครูจันทร์เพ็ญที่เป็นเหมือนรองครูใหญ่เรื่องที่เอื้อจะยังไม่มาเรียนในเทอมหน้านี้ ส่วนแม่ก็เสนอให้โรงเรียนเช่าเทาว์เฮาส์ที่ซื้อไว้ ซึ่งโรงเรียนก็สนใจเพราะเทอมหน้าจะมีคุณครูต่างชาติมาสอนหนังสือ แต่ก็จะรอให้คนมาอยู่มาดูก่อนว่าชอบรึเปล่า ซึ่งก็จะมาถึงเมืองไทยก็เดือนเมษายนนี้
เด็ก ๆ เข้าไปในห้องประมาณครึ่งชั่วโมง(แต่บางคนก็ออกมาก่อนแล้วเพราะร้องหาแม่) ก็ทยอยเดินกันออกมา แม่รีบเดินไปรับเอื้อทำเหมือนว่ายืนรออยู่หน้าห้องนั่นล่ะ แม่ถามเอื้อว่าสนุกไหม เอื้อบอกว่าสนุกอยากเล่นต่อ..... อืม เป็นงั้นไป -'- คุณพ่อเอื้อเลยถามคุณครูว่า"คุณครูให้เด็ก ๆ เล่นอะไรครับนี่?!?! เอื้อเลยอยากเล่นต่อ" ^_^
แล้วเราก็มานั่งลุ้นรลผลการประเมินที่ทางโรงเรียนจะแจ้งกลับมา.... วันแล้ววันเล่า เฝ้าแต่รอ เกือบ 2 สัปดาห์เราก็ได้เมล์แจ้งกลับมาว่า..... "ต้องขออภัยที่ไม่สามารถรับบุตรของท่านเข้าเรียนได้ เนื่องจากโรงเรียนรับได้ในจำนวนจำกัด" เพิ่งรู้ว่าลูกเข้าเรียนไม่ได้นี่มันเครียด เศร้า เสียใจ ผิดหวัง อืม.... อารมณ์ประมาณนี้
มานั่งปรับทุกข์กันกับคุณพ่อเอื้อซึ่งคุณพ่อเอื้อก็เป็นนักปลอบใจมืออาชีพจริงๆ (ทั้งที่ตัวเองเครียดกว่ามานั่ง serchโรงเรียนทั้งคืน) จนแม่ก็ทำใจได้ว่าโรงเรียนอื่น ๆ ก็มีที่นครปฐมก็มี โรงเรียนอมาตยกุลก็ดี ไม่ไกลจากเทาว์เฮาส์ด้วย นู้น นี่ นั่น.....
เช้าวันถัดมาแม่ก็โทรไปสอบถามสาเหตุที่โรงเรียนตอบปฏิเสธมา แล้วก็ถึงบางอ้อ เพราะเราแจ้งโรงเรียนไว้ว่าไม่สามารถมาเรียนได้ในเทอมหน้านี้ ซึ่งทางโรงเรียนก็บอกว่ากลับมาค่อยมาเรียนดีกว่า แต่เราไม่ได้ทำใจว่าโรงเรียนจะตอบมาแบบนี้ และแล้วก็กลุ้มใจกันเก้อเลยงานนี้ -"-
อืม แล้วตกลงเปิดเทอมหน้านี้เอื้อจะเรียนที่ไหนล่ะนี่??!!!!?
ปล. ก็โรงเรียนศรีเสริมวิทย์ใกล้บ้านเหมือนเดิมนี่ล่ะ