เด็กซนคือเด็กฉลาด?
ประโยคคุ้นหูสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกเป็นเด็กซนก็คือ เด็กซนคือเด็กฉลาด...
ซึ่งก็เป็นประโยคปลอบใจดีๆ นี่เอง
เพราะสำหรับแม่แล้ว เด็กฉลาดก็คือเด็กฉลาด เด็กซนก็คือเด็กซน ไม่มีส่วนใด ๆ เกี่ยวข้องกันเลย
อย่างเอื้อนี่ซนขนาดที่ตอนนี้ฟันหน้าบิ่นไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหัวโน หัวปูด
อ่ะ ๆ ๆ แต่สำหรับแฟนนานุแฟน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเอื้อจะเสียโฉมนะ เพราะฟันน้ำนมนี่ซี่เล็กมาก บิ่นนิดหน่อย ไม่สังเกตดี ๆ ไม่เห็นแน่นอน
แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับแม่เลย เพราะแคลเซียมที่เคลือบฟันตรงที่บิ่นหลุดออกไปแล้ว เหลือแต่เนื้อฟัน ซึ่งจะทำให้ฟันพุได้ง่าย แม่คงต้องดูแลเรื่องฟันให้เอื้อมากเป็นพิเศษ
กลับมาประโยค สร้างขวัญกำลังใจของแม่อีกซักหน่อย
การที่ปลอบใจกันว่า เด็กซนคือเด็กฉลาดนั้นก็พอมีความจริงอยู่แค่ว่า เด็กซนอาจจะเป็นเด็กฉลาดก็ได้ แต่เด็กฉลาดอาจจะไม่ซนก็ได้เหมือนกัน
ส่วนเอื้อนั้นจะฉลาด หรือไม่ ทั้งพ่อ และแม่เห็นตรงกันว่าไม่ใช่ประเด็นเลย เพราะสิ่งที่ แม่คิดว่าสำคัญกว่าความฉลาด คือความมีปัญญาตางหาก
แล้วความฉลาดกับปัญญาต่างกันตรงไหน
ต่างกันตรงที่ คนฉลาดสามารถแก้ปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์แบบเทพได้ (โค ตะ ระ ยาก) โดยใช้เวลานิดเดียว
ส่วนคนมีปัญญา จะเห็นว่าการที่เราจะแก้โจทย์แบบนี้ได้ก็ต้องอาศัยความเพียร (อิทธิบาท 4 นะลูกนะ)
นี่ล่ะเด็กซนของแม่...
สำหรับกระผมมองว่าความฉลาดก็คือ การใช้ความคิดหาเหตุผลในการแก้ปัญหา ส่วนปัญญานั้นก็ืคือ การใช้ความรู้ความเข้าใจแยกแยะเหตุผล ดีชั่ว คุณและโทษ