ผ่านไปอีกปี (3ปีในต่างแดน) เอื้อก็โตขึ้นไปอีกปี ตอนนี้เริ่มใส่เสื้อผ้าของเด็ก 9 ขวบแล้ว (อายุจริง 7 ขวบ 7 เดือน) เสื้อผ้าที่ซื้อเมื่อปีที่แล้วก็เริ่มเล็กเกินไป โดยเฉพาะกางเกงนี่เริ่มสั้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ความกว้างนี่ไม่ค่อยเพิ่ม น้ำหนักเอื้อประมาณ 21 – 22 กก. ยังคงเป็นเด็กทรงเลขหนึ่งอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง
ความคิดความอ่านก็โตขึ้นตามวัย เอื้อได้เรียนหนังสือที่นี่ ทำให้ความคิดจะออกแนวตะวันตกคือ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิสร้างสรรบรรเจิด จินตนาการเยอะ กล้าแสดงออก แม่ลองเทียบกับตัวเอง และประสบการณ์ที่เคยทำงานกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนไฮโซย่านบางรัก เอื้อจะมีความสุขกับโรงเรียนมาก ทั้งเพื่อนฟูง และแนวคิด ยกตัวอย่างเช่น เอื้อจะเอาของเล่นชิ้นโปรดไปโรงเรียนได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรถ เครื่องบิน หุ่นยนต์ เลโก้ที่ต่อเป็นรูปต่าง ๆ หรือซอฟท์ทอยส์ อย่างพวกตุ๊กตารูปสัตว์ต่าง ๆ โดยไม่มีการล้อ หรือแซวกันให้อับอาย ลองเป็นบ้านเราเด็กผู้ชาย ป.3 ถือตุ๊กตาหมีไปโรงเรียนคงล้อกันจนร้องไห้ แต่ที่นี่ไม่มี ส่วนใหญ่จะเคารพความเป็นตัวตนของกันและกัน ไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนตัวแล้วสงสัยมากว่า เราน่าจะเห็นภาพนี้ในเมืองพุทธอย่างบ้านเรามากกว่าที่นี่ แต่ก็นั้นละอาจจะเป็นคำตอบว่าประเทศที่เจริญแล้ว เริ่มต้นจากการศึกษาที่ดี แม้ว่าด้านวิชาการที่นี่จะอ่อนด้อยกว่าประเทศในเอเชียอย่างบ้านเราแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว เพียงแต่บ้านเรามันไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ได้กระจายความเท่าเทียมไปทั่วถึงกัน แต่ที่นี่ไม่ว่าเมืองไหน ไกลปืนเที่ยงซักแค่ไหนมาตรฐานก็ใกล้เคียงกัน เอกชน หรือรัฐก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก
จึงอาจเป็นโชคดีของเอื้อ(รึเปล่า?!?!) เพราะอีกมุมหนึ่งที่แม่แอบเป็นห่วงคือ เมื่อเอื้อต้องกลับไปเจอกับระบบการศึกษาที่ไทย เอื้ออาจจะมีอาการบิ๊กช็อกกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนการสอนที่เน้นวิชาการ การแข่งขันสูง ความคิดความอ่านแบบไทย ๆ
แม่ก็แอบหวังว่าถ้าถึงวันนั้นเราอาจจะมีโอกาสอยู่ต่อที่นี่ได้อีก…. (แอบหวัง….)
ด้านภาษา เอื้อคงเรียกได้ว่าเป็นเด็กสองภาษาอย่างเต็มปาก เอื้ออ่าน เขียน พูดไทยได้ แม้ว่ายังไม่คล่องมากเมื่อเทียบกับเด็กไทยในวัยเดียวกัน แต่เอื้อก็สามารถพูด เขียน อ่านภาษาอังกฤษได้ดี หรืออาจพูดได้ว่า เอื้อยึดเอาภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ซึ่งก็ตอบรับอาเซี่ยนที่กำลังเกิดขึ้น แบบตามกระแสสุด ๆ ^_^
ด้านการแสดงออก เอื้อจะกล้าพูด กล้าถาม กล้าแสดงความเห็นได้ดี รวมถึงความสุภาพสไตล์อังกิ๊ด อังกิด เอื้อก็ได้มาไม่น้อย จนบางครั้งเอื้อถามว่าทำไมคนไทยไม่พูด please ตอนขอให้อีกคนทำอะไร ที่นี่มักพูด please เสมอไม่ว่าจะพูดกับเด็ก หรือผู้ใหญ่ พูดกันเป็นปกติสามัญว่างั้น
เอ๊ะ!?!?! …ที่เอื้อบอกว่าคนไทยนี่ หมายถึงอิแม่ กับคุณพ่อรึเปล่านี่?!!?!?!
ก่อนปิดเทอมช่วงคริสต์มาส เอื้อได้รางวัล Star Award จากโรงเรียน
ปล. โชว์รูปอาหารการกินซักหน่อย เริ่มจากทำขนมเค้กครั้งแรกเป็นเค้กกล้วยหอม เอื้อบอกว่าอร่อยเลิศ ลูกแม่จริง ๆ ^_^
ตามด้วยปาร์ตี้เล็ก ๆ ในบ้าน มีข้าวเหนียว ส้มตำ เนื้อสเต็กทอด แต่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเพื่อสะดวกในการกิน ผัดผัก ปิดท้ายด้วยเค้กเนยสด ^_^ อร่อยทุกอย่าง เอื้อบอก…..