แทบทุกครั้งที่เอื้อตื่นนอนไม่ว่าจะเป็นนอนกลางวันหรือกลางคืน เมื่อตื่นขึ้นมาเอื้อจะต้องร้องไห้งอแง จนกว่าจะได้กินนมแม่ จึงจะเงียบแล้วก็อารมณ์ดี
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ส่วนวันที่แม่ออกไปทำงานก่อนที่เอื้อจะตื่น ก็เป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ที่ต้องปลอบกันไป
ไว้เอื้อยอมพูดเมื่อไหร่ จะถามให้รู้เรื่องซักทีว่า "เอื้อร้องไห้ทำไม"
เมื่อวานแม่กลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน เลยถือโอกาสพาเอื้อไปเล่นที่สนามเด็กเล่น
พร้อมกับพี่มะลิไปจ่ายตลาด(ตลาดนัดหมู่บ้าน) เอื้อก็เข็นรถเข็นจ่ายตลาดของพี่มะลิไปที่สนามเด็กเล่นด้วย ในรถเข็นมีน้ำหนึ่งขวด และรถของเล่นของเอื้ออีกหนึ่งคัน
พอพี่มะลิซื้อของมา เอื้อก็จะรับไปใส่ในรถเข็น (พี่มะลิมักจะเรียกเอื้อว่า เด็กทำงาน)
พอถึงสนามเด็กเล่นเอื้อก็เล่นปีนป่ายไปตามเรื่อง แต่พอเห็นน้องเชอร์รี่ ที่เจอกันบ่อย ๆ เอื้อก็วิ่งไปหยิบรถคันโปรดไปส่งให้น้อง
แม่เห็นแล้วก็ยิ้ม แอบดีใจคนเดียว
สิ่งที่แม่ และคุณพ่อเอื้อเพียรพยายามให้เอื้อรู้จักแบ่งปัน รวมถึงชื่อเอื้อ ก็มาจากเอื้อเฟื้อ
ในที่สุดก็เห็นผล...
แต่พอแม่เอารถไปเก็บไว้ในรถเข็นแล้ว หลังจากที่เป็นภาระของแม่น้องเชอร์รี่อยู่พักใหญ่
ก็มีเด็กผู้ชายท่าทางคล่องแคล่ว(แก่กว่าเอื้อนิดหน่อย) เดินไปหยิบรถในรถเข็น เอื้อก็ทำท่าร้องโวยวาย ชี้ฟ้องแม่
?!?? อ้าวเมื่อกี้ยังแบ่งน้องเล่นอยู่เลย แต่คราวนี้ดันงกขึ้นมาซะแล้ว
เฮ้อ... เอื้อหนอเอื้อ?!?!
ภาคสงสัยของแม่ ???
ในชั่วโมงเร่งรีบ...
ตอนเช้าต้องขึ้นรถไฟไทย หรือ รฟท. นี่ล่ะ ก็มีคำถามทุกวันว่าช่วงใกล้ ๆ ประตูเนี้ย แน้น แน่น... แต่ตรงกลางตู้ก็จะว่าง ไม่รู้ว่าจะไว้ตั้งตู้ปลารึยังไง คนที่ขึ้นทีหลังก็เบียดกันจนตัวลีบเพื่อให้คนข้างหลัง (กว่า) ขึ้นมาได้
หลังจากนั้นก็ต่อด้วยรถไฟใต้ดิน ยิ่งหนักกว่าเข้าไปอีก ตรงกลางตู้เนี้ยนะพอที่จะขยับใกล้กันอีกนิด (ไม่รู้ว่าใครมีกลิ่นตัวรึยังไง ถึงต้องยืนห่างกันซะอย่างงั้น!!!) เพื่อให้คนหน้าประตูไม่ต้องหน้าแนบกระจก อากาศแทบไม่มีให้หายใจ เป็นแบบนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน
เพราะอะไรกัน...?!?!?
เอื้อ คุณปู่ และแม่
มีความสุขกับวันทำงานนะคะ
คิดถึงน้องเอื้อจัง อยากกอดดด