เชียงใหม่ - วัดหมื่นสาร
วิหารวัดหมื่นสาร
หน้าบัน
ยอดเป็นรูปหม้อดอกปูรณฆฏะ - ความอุดมสมบูรณ์
กวางสองตัวหมอบข้างธรรมจักร - อิสิปตนมฤคทายวัน - สถานที่ตรัสรู้
กินรี
โก่งคิ้ว - เทพพนม, ปีกนก - เทพถือศร
เหนือซุ้มประตูวิหารเป็นรูปเทพเจ้าทุกชั้นฟ้าชุมนุมกัน
อัญเชิญเทพบุตรโพธิสัตว์ให้จุติมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
บันได มกรคายนาค
วัดหมื่นสารเป็นวัดที่มีคัมภีร์ใบลานจำนวนมาก บางผูกมีอายุกว่า 200 ปี
ชื่อวัดหมื่นสารมีปรากฏตั้งแต่สมัยพระเจ้าติโลกราช
ว่า
พระลกติโลกราช ทรงสั่งให้ หมื่นคำภา เวียงดิน
นำเอาพระสิลาเจ้าไปถวายแด่พระมหาญาณะโพธิในวัดป่าแดง
พระมหาญาณะโพธิเถระเจ้า ก็ให้ทำสักการะบูชาและสรงพระสิลาเจ้าด้วยสุคนธวารี
มีประการต่าง ๆ ในขณะยามนั้น
ห่าฝนอันใหญ่ก็หลั่งไหลลงมาเป็นอันมาก
ปัจจุบันพระศิลาประดิษฐานอยู่ที่วัดเชียงมั่น
เมื่อพ.ศ. 2065 สมัยพระเจ้าอาทิตยวงศ์ เสวยราชสมบัติ ณ กรุงเทพมหานครศรีอยุธยา
*พระเจ้าอาทิตยวงศ์ เป็นพระโอรสของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐา)
จึงเป็นหลานปู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นครองอยู่เมืองพิษณุโลก
และ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ครองอยุธยาหรือเปล่า
แต่จากจากพงศาวดารโยนก ฉบับหอสมุดแห่งชาติ ได้บันทึกข้อความข้างบน*
แต่งราชทูตมาสืบทางราชไมตรีพระเจ้าเชียงใหม่
หมื่นหนังสือวิมลกิตติสิงหละราชมนตรี สังฆการี
(เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสงฆ์ในงานหลวง)
ได้จัดการรับรองราชทูตพอสมควร แปลพระราชสาส์นยังวัดหมื่นสาร
หมื่นหนังสือวิมลกิตติสิงหละราชมนตรี
ท่านได้อุปถัมภ์วัดหมื่นสารมาตลอด
และยังไปอาราธนาเอาพระสิลาเจ้าจากวัดป่าแดง
มาประดิษฐานไว้ในวัดหมื่นสาร
มหาสวามีสังฆนายก อยู่ในวัดหมื่นสารมีนามว่า พุทธญาณเถร
ได้อาราธนาพระสิลาเจ้าไปเพื่อกระทำสักการะบูชาที่วัดสวนดอก
แล้วนิมนต์กลับมาวัดหมื่นสารดังเดิม
เจดีย์หลังวิหาร
ด้านหน้าเจดีย์เป็นกู่ครูบาเจ้าศรีวิชัย
เป็นเจดีย์ทรงพม่า
เพราะชาวบ้านวัวลายเป็นชนที่ถูกเจ้ากาวิละกวาดต้อนมาจากบ้านงัวลาย (งัว=วัว)
ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำคง หรือ แม่น้ำสาละวิน
เจดีย์มียกสูงมีกำแพงแก้ว หัวเสามีรูปหงส์สัญญลักษณ์ของหงสาวดี-พม่า
ลานประทักษิณมีฉัตรที่มุมทั้งสี่
ทางเข้ามีสิงห์หันมองระแวดระวังสิ่งชั่วร้าย
ฐานเขียงสี่เหลี่ยม 1 ชั้น มีสถูปที่มุมทั้งสี่
ฐานปัทม์บัวคว่ำยกเก็ด อกไก่รัดสองเส้น 2 ชั้น
มีบันไดทอดขึ้นไปถึงซุ้มพระเจ้าในเรือนธาตุที่ยืดสูง มีสิงห์แยกเขี้ยวอยู่ประจำมุม
ถัดไปเป็นฐานปัทม์สี่เหลี่ยมย่อมุม 2 ชั้น รับบัวปากระฆัง
องค์ระฆังมีลวดรัดแบบพม่า มีบัวคอเสื้อ
ถัดไปเป็นปล้องไฉน ปัทมบาท ปลี ฉัตร
หอศิลป์สุทฺธจิตฺโต (หอเงิน)
เป็นฝีมือทำเครื่องเงินของชาบัานวัวลาย ช่างเงินจากบ้านงัวลาย
ในอดีตวัดแห่งนี้เคยเป็นคลังเก็บเสบียง อาวุธ
และเป็นที่พักสำหรับทหารบาดเจ็บของกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทหารญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ วัด
ทหารเหล่านี้ยังสอนภาษาญี่ปุ่น และมอบอาหารให้แก่เด็กๆ
หลังกองทัพญี่ปุ่นแพ้สงคราม
จึงนำอาวุธสงครามหลายชิ้นทิ้งลงในน้ำบ่อหลวงภายในวัด ฯลฯ
อนุสรณ์สถานทหาร
วัดหมื่นสารเป็นวัดเก่า ปรากฎชื่อตั้งแต่สมัยพระเจ้าลกติโลกราช
แล้วและคงเป็นวัดสำคัญเพราะเจ้าอาวาสเป็นถึงชั้น มหาสวามีสังฆนายก
เป็นวัดที่สวยงามจากฝีมือช่างทำเงินของบ้านวัวลาย
อยู่บนถนนวัวลาย ถนนคนเดิน ที่น่าแวะชม
< img src=https://www.bloggang.com/data/j/jiujik/picture/1441686057.gif>
Create Date : 23 กันยายน 2566 |
Last Update : 23 กันยายน 2566 14:58:20 น. |
|
13 comments
|
Counter : 616 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณปัญญา Dh, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณเริงฤดีนะ, คุณ**mp5** |
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 23 กันยายน 2566 เวลา:15:16:46 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 กันยายน 2566 เวลา:21:56:49 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 23 กันยายน 2566 เวลา:22:22:16 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 24 กันยายน 2566 เวลา:1:12:51 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 24 กันยายน 2566 เวลา:6:12:36 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2566 เวลา:21:03:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 24 กันยายน 2566 เวลา:21:23:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กันยายน 2566 เวลา:6:17:17 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 26 กันยายน 2566 เวลา:23:45:28 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 27 กันยายน 2566 เวลา:4:45:23 น. |
|
|
|
| |