เชียงใหม่ - วัดบวกค้าง อำเภอสันกำแพง
วัดบวกค้าง เดิมชื่อ วัดบวกค่าง
บวกแปลว่าหนองน้ำ , ปลัก ; บวกค่าง - ปลักที่มีค่าง ... เล่าว่าค่างมาขุดบวกนี้ขึ้น
มีวิหารหลังคาแฝด ... unseen
เจดีย์
อยู่หลังวิหารตรงกับกู่ดำที่อยู่ด้านในวิหาร
เป็นเจดีย์ระฆังกลม ตั้งบนฐานบัวถลาแปดเหลี่ยม 3 ชั้น ฐานปัทม์ยกเก็ดมีลวดรัดสองเส้น ฐานเขียงสี่เหลี่ยม
เหนือระฆังเป็นปล้องไฉน ปัทมบาท ปลี ลูกแก้วปกฉัตร
ประดับกระจกสีเป็นลวดลายดอกไม้
มีกำแพงแก้วซุ้มประตู ซุ้มพระเจ้า ประดับสิงห์ และคชสีห์
อุโบสถ
หอไตร
เป็นแบบหอสูง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ชั้นล่างทึบ
หลังคาปีกนก 3 ซด 2 ตับ
หน้าบันไม้ สลักรูปเทวดา ค่างเจ้าถิ่น ประดับกระจกสี
นาคตัน หรือคันทวยล้านนาเป็นรูปค่างเจ้าถิ่นเช่นกัน
วิหาร
เป็นวิหารแฝด
บานประตูไม้ทิศเหนือ
สลักรูปพระพุทธประทับใต้ต้นไม้ มีบาตรวางอยู่ข้าง ๆ พระองค์คงเสด็จผ่านมา
มีค่างมาขุดบวกหาน้ำ
ทิศใต้สลักรูปในป่า มีสัตว์ต่าง ๆ เช่นกวาง หมี ลิง หงส์ นก
เดิมบริเวณนี้มีกู่ดำ ร้าง (สีดำเป็นสีของรักที่ลงไว้) แสดงว่ากู่นี้ในอดีตน่าจะปิดทอง
บ้างว่าสร้างในสมัยพญากือนา แต่ไม่มีจารึกบอกไว้
ศิลปะลายปูนปั้นของมณฑปกำหนดเวลาว่า
อยู่ในช่วงจากสมัยพญาม้งรายจนถึงมาจน ถึงพญาเมกุ กษัตริย์ล้านนาเชื้อสายพญามังรายองค์สุดท้าย
ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19-21
เป็นกู่พระเจ้า หรือมณฑปปราสาทพระเจ้า
สร้างขึ้นประดิษฐานพระพุทธรูปพระประธานของวิหาร
สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปยืน
หลังขับไล่พม่า เจ้ากาวิละ ได้กวาดต้อนผู้คนดังที่เรียกกันว่า เก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง
โปรดให้ เจ้ากระหม่อมสุริยวงศาเจ้าเมืองยององค์ที่ 34 มาตั้งถิ่นฐานที่บวกค้าง
ได้อาราธนาครูบาเจ้าญาณสิริ จากวัดบ้านแซมหลวง เมืองยอง มาเป็นเจ้าอาวาส
ได้สร้างวัดขึ้นใหม่เป็นวิหารหลังคาแฝด
หลังคาทางทิศเหนือด้านขวาของรูป ครอบกู่ดำ
โดยให้ผนังวิหารยึดกู่ทางทิศตะวันตกไว้ มีซุ้มโผล่มาทางด้านหลังวิหาร
บานทางตะวันออกเปิดเพื่อให้สรงน้ำเพราะมีช่องระบายน้ำออกทางด้านหลัง
ราว ช่วง พ.ศ. 2431-2468 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
ชาวบ้านกลัวภัยสงครามและโจรผู้ร้ายจึงได้ปิดกู่ดำ
หลังคาด้านทิศใต้ด้านซ้ายของรูป ประดิษฐานพระนอนหล้าที่ได้สร้างขึ้นใหม่
คำว่าหล้า กำเมืองลูกหล้า คือลูกคนสุดท้อง
พระนอนหล้า น่าจะเป็นพระประธานองค์สุดท้อง
หลังจากปิดกู่ดำ
ได้ก่อฐานพระพุทธรูปซ้ายขวาของกู่ดำให้เสมอกับแท่นแก้วพระนอนหล้า
ประดิษฐานพระพุทธรูปดินดิบ ที่ปั้นจากดินเหนียว
พระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ทาสีขาวเรียกพระเจ้าขาว ไว้บนฐานทั้งสองด้าน
ต่อมาหลังคารั่วพระเจ้าขาวทางทิศเหนือของกู่ถูกฝนชำรุดเสียหาย
จึงบูรณะวิหารและสร้างพระพุทธรูปปูนปั้นมาแทนพระเจ้าขาวทางทิศเหนือ
ด้านหน้ามีสัตภัณฑ์โบราณทั้งเล็กและใหญ่
องค์ทางทิศใต้ของกู่ดำยังเป็นพระเจ้าดินดิบองค์เดิมอยู่
การปั้นพระพุทธรูปด้วยดินเหนียว เป็นความเชื่อตามธรรมชาดกล้านนาเรื่อง อะลองพระเจ้าดินเหนียว
เป็นเรื่องราวของพระโพธสัตว์ที่เสวยพระชาติเป็นชายหนุ่มยากจน
ได้ชักชวนภรรยาและแม่บุญธรรมปั้นพระพุทธรูปด้วยดินเหนียว
โดยมีพระอินทร์และชายามาช่วย
ซึ่งอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปดินเหนียวครั้งนั้น
ทำให้ได้ปกครองเมือง เสวยสุขสมบัติในชั้นฟ้า
และได้กลับมาลงอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ธรรมมาสทรงปราสาทล้านนา
หีบธรรม
และเครื่องราชกกุธภัณฑ์ - เครื่องบวชพระเจ้า - พระพุทธรูป
Create Date : 20 มิถุนายน 2566 |
Last Update : 20 มิถุนายน 2566 14:26:14 น. |
|
13 comments
|
Counter : 691 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณปัญญา Dh, คุณผู้ชายในสายลมหนาว |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:20:10:48 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:20:15:53 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:22:38:54 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:23:13:29 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มิถุนายน 2566 เวลา:0:55:35 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 21 มิถุนายน 2566 เวลา:8:16:02 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มิถุนายน 2566 เวลา:8:52:52 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 21 มิถุนายน 2566 เวลา:14:34:48 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 22 มิถุนายน 2566 เวลา:0:34:20 น. |
|
|
|
| |
วัดบวกค้าง ยังมีโบราณวัตถุอยู่เยอะเลยครับ