tuk...tuk more than one or cannot run
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
4 มิถุนายน 2555

" ว่าที่ร้อยตรีของพ่อ " ... นร.สห. 2488 ตอน 3 บางกอก 003








เมื่อกลับบ้านเชียงใหม่ก็ชอบไปค้นหาหนังสือเก่า ๆ ที่บ้าน

เกือบปีแล้วที่ไปพบหนังสือสามเล่มนี้

รูปทั้งหมดมาจากหนังสือทั้งสามเล่มนี้

เรื่องทั้งหมดเล่าที่เล่ามาจากการอ่านหนังสือทั้งสามเล่มนี้







***



โรงเรียนนายทหารสารวัตรได้มีพิธีเปิดเป็นทางการเมื่อ 1 เมษายน 2488

พล.ร.ท.สินธุ์ กมลนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประทาน

ได้เชิญ พ.อ. นากามูระ แม่ทัพญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

และ พ.อ. ทูโคดะ สารวัตรใหญ่ทหารญี่ปุ่น มาเป็นแขกผู้มีเกียรติด้วย



ในปี 2488 เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีญี่ปุ่นจนต้องถอยร่นมาจากพม่า

ทั้งยังได้ครอบครองเป็นเจ้าทางอากาศโดยสิ้นเชิง

ได้เข้ามาทิ้งระเบิดในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด

ทั้งในเวลากลางคืน

ซึ่งจะทิ้ง flare ที่ีสว่างไสวไปทั้งเมืองจนไม่รู้จะไปมุดแอบอยู่ที่ไหน

และเวลากลางวัน


พร้อมกับเครื่องบินทิ้งระเบิด

จะมีการทิ้งวัสดุสิ่งของ ยารักษาโรคทางร่มชูชีพลงจำนวนมากกลางท้องสนามหลวง

และมีลังอาวุธมาด้วยจำนวนหนึ่ง


กองกำลังนักเรียนและนายทหารสารวัตร

ก็ต้องพร้อมที่จะเข้ารวบรวมสัมภาระขึ้นรถบรรทุก

ก่อนหน้าสัญญาณภัยทางอากาศ

เพื่อไม่ให้ถูกขัดขวางจากปืนกลอากาศ


และยังต้องควบคุมพื้นที่รอบวังสวนกุหลาบอย่างเข้มแข็ง

เพราะเป็นที่พำนักของนายทหารอเมริกันจากหน่วย O.S.S.

ที่เล็ดลอดเข้ามาปฏิบัติการกับขบวนการเสรีไทย


ระยะที่สัมพันธมิตรทิ้งระเบิดต่อที่ตั้งทหารญี่ปุ่นในบางกอกและหัวเมืองบ่อยขึ้น

มณฑลทหารบกที่ 1 ก็พลอยขุดสนามเพลาะอ้างว่าเตรียมรับการบุกของฝรั่ง


เจ้ากรมเตรียมทหารได้จัดตั้งโรงเรียนนายสิบ ส.ห.ขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง

โดยรับสมัครจากนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ซึ่งรวมตัวกันเป็น สมาคมเตรียมธรรมศาสตร์-จุฬาอาสาศึก



***


มีการเรียก นร.สห. 14 จากหมวดและกองร้อยต่าง ๆ ที่ละคน โดยไม่รู้ตัวล่วงหน้า โดย ผบ.ร.ร. พ.ท.สันต์ ณ ป้อมเพ็ชร







ทั้งหมดท่านได้คำถามถึง

ความสมัครใจในการปฏิบัติราชการ ที่ต้องสละทั้งกาย จิตใจ และชีวิต เพื่อประเทศชาติ

ภาระทางบ้านที่ต้องดูแล

และการรักษาความลับแม้กระทั่งกับ บิดา มารดา




วันรุ่งขึ้นคือ วันที่ 8 กรกฎาคม 2488

ทั้งหมดเดินทางโดยรถยนต์ของกรมทาง

ถึงท่าข้ามบางประกง

ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีสะพาน

ต้องข้ามแม่น้ำโดยเรือขนานยนต์ข้ามฟาก







ไปยังสวนลดาพันธ์ ใกล้วัดเขาบางทราย ชลบุรี

ปัจจุบันคือ ค่ายนวมินทราชินี

เมื่อไปถึงก็ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนเครื่องแบบเป็นชุดกางเกงขาสั้นกับอ้ายโอ๊บ

มีครูฝึก ใช้นามว่า อำนวย ... ซึ่งเป็นนักเรียนไทยในสหรัฐที่โดดร่มลักลอบเข้าเมืองมา

นำอาวุธปืนคาบินมาแจกจ่ายประจำตัว พร้อมกระสุน


เย็นวันนั้นก็ได้เดินทางต่อจากสวนลดาพันธ์

โดยรถโดยสารสำหรับนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ที่มีตราพระเกี้ยวสัญญลักษณ์ของโรงเรียนติดอยู่ข้างรถ

ผ่าน ตลาดชลบุรีซึ่งต้องนอนราบกับพื้นรถเพื่อพราง

ผ่าน ศรีราชา นาเกลือ สัตหีบ

จนถึงหลัก ก.ม. 32 บ้านกำนันพัน ตำบลมาบตะพุด ระยอง เมื่อเวลา 21 น.

ริมถนนสายสุขุมวิทปัจจุบัน


ตอนนั้น

ภูมิประเทศยังเป็นป่า เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย

มีเสือเพ่นพ่าน

นาน ๆ จึงจะมีรถยนต์ผ่านซักคัน

รถยนต์สมัยนั้นใช้ถ่านไม้เป็นเชื้อเพลิง


เมื่อกำลังจะล้มตัวลงนอน

มีคนหนึ่งปรารภทำนองสงสัยว่า มาทำอะไรกันที่นี่

ท่าน ผบ.ร.ร.จึงให้ทุกคนพนมมือ สาบานว่า

" จะยอมเสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ

จะปฏิบัติตามคำสั่งและวินัยโดยเคร่งครัด

จะรักษาความลับของทางราชการ

หากผู้ใดทรยศหักหลัง

หรือเปิดเผยความลับของทางราชการ

ก็ขอให้ต้องอาวุธที่ถืออยู่นี้ตาย "


แล้วจึงเปิดเผยว่า ภาระกิจที่มาคือ สร้างสนามรับอาวุธและพลร่มจากพันธมิตร







ที่มาบตาพุด

ตอนเช้าจะมีกองเกวียนชาวบ้านเกาะขบวนเป็นแถวยาวเพื่อไปติดต่อธุรกิจ


ที่ต้องทำเมื่อเช้าแรกที่ไปถึงคือ ทำส้วม

เป็นส้วมหลุม 4 หลุม กั้นด้วยใบไม้ เป็น 4 ห้อง มีไม้พาดปากหลุม 1 แผ่น


จากนั้นไปดูสถานที่ที่จะทำเป็นสนามทิ่งร่ม

เป็นป่าโปร่ง ไม่มีบ้านผู้คนเลย อยู่ตรงข้ามที่พัก

มีต้นยางสูง 2-3 ต้นที่ต้องจัดการ


การฝึกเริ่มแต่ตีห้าถึงเจ็ดโมง พักทานอาหารเช้า

จากนั้นไปถางป่าใช้ใช้มีดยาว ขวาน จอบ ไม่มีเครื่องทุ่นแรงใด

ไม่มีสนับแข้งเพื่อป้องกันงูพิษ

เริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้า พักเที่ยง ทำต่อถึงบ่ายสาม

แล้วมาฝึกต่อจนหกโมงเย็น

กลางคืนมีเวรผลัดละ 2 คน ผลัดละ 2 ชั่วโมง

มีเวรไปจ่ายตลาดที่ระยองวันละ 2 คน ... ได้เที่ยวชมตลาด


เสาร์ที่ 14 กรกฎาคม

มีข่าวจากทางวิทยุว่าหน่วยทิ้งอาวุธของสหรัฐจะมาทิ้งอาวุธ

จะแบ่งหน้าที่กันเป็น และต้องเตรียมตัวอย่างดีถึง

หน้าที่จุดไฟจะใช้ไต้ชุบน้ำมันไปเตรียมที่สนาม

หน้าที่ปลดร่มออกจากหีบอาวุธ หน้าที่ขนอาวุธ หน้าที่เก็บร่ม

แต่รอถึงเที่ยงคืน ไม่มาจึงกลับเข้าที่ใหม่


วันถัดมา ก็ต้องถางป่าต่อไปอีกเพื่อเปิดพื้นที่

และเก็บตอออกจนเกลี้ยงเพื่อไม่ให้ขัดขวางการทำงานขนอาวุธที่ทิ้งร่มมา

เหล่านักเรียนที่อยู่ที่นี่ ถางป่าตากแดดทุกวันจนตัวดำเกรียม

เรียนการต่อสู้ การใช้อาวุธปืน ลูกระเบิดมือ ดินระเบิด การก่อวินาศกรรม


เริ่มจาก 21กรกฎาคม ก็เริ่มได้รับร่ม

เมื่อข่าวที่แน่ชัดว่าจะมาทิ้งอาวุธ

จึงนอนเอาแรง

บ่ายจัดแบ่งหน้าที่กันคือ พลหาบ พลแบก พลลาก พลเข็น พลดัน พลดึง

พลไต้ พลจัดหาอาหารเลี้ยงเมื่อเสร็จงาน พลปิดถนนคือถนนสุขุมวิทปัจจุบันที่ต้องเดินไกล

ถ้ามากลางวันต้องปูผ้าขาวสัญญาณ ถ้ามากลางคืนจะจุดไต้


ราวสี่ทุ่มครึ่งได้ยินเสียงเครื่องบินตรงมายังจุดปฏิบัติงาน

มีการฉายไฟสัญญาณจนแน่ใจว่าไม่ใช่ญี่ปุ่น

จึงเริ่มงาน


จุดไฟ บอกทิศทางลม และรัศมีบริเวณที่จะทิ้งอาวุธ

เมื่อเครื่องบินแน่ใจว่าไม่ใช่ ป.ต.อ.ของญี่ปุ่น ก็ทะยอยทิ้งร่มมาเป็นระรอก ๆ

ร่มสีแดงจะต้องดูให้ดี เพราะเป็นหีบระเบิด T.N.T. ซึ่งถ้าร่มขาดก็เหมือนถูกทิ้งระเบิด

และต้องคอยหลบอันตรายจากหีบที่แตกกลางอากาศ และอาวุธจะใช้ไม่ได้

หีบที่ส่งมาจะมีหมายเลข และเครื่องหมายของหน่วยที่รับ

หน่วยที่มาบตะพุด คือหน่วย " บางกอก 003 " หมายถึงพลพรรค " พระนคร 3 "

จากนั้นขนขึ้นรถขนส่งนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

มาเก็บไว้ที่คลังอาวุธชลบุรี ... ในโรงพยาบาลชลบุรี

โดยติดรถมาด้วย 2 คน และต้องรีบกลับสนามรับอาวุธทันที







วันที่ 24 กรกฎาคม จะมีพลร่มมากระโดด

ต้องรื้อโรงงานเก่า เอาเสาลง ตอไม้ใหญ่ก็ปราบให้เรียบ

เมื่อทิ้งร่มมาแล้ว 120 ร่ม มีพลกระโดดมา 5 คน แต่หายไปหนึ่งคน

คนสุดท้ายที่โดดมายืนยันว่าโดดมา 5 คน

เป็นทหารอเมริกัน 4 คน คนที่หายเป็นคนไทย

ค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอ จนทำให้คิดไปว่าร่มคงไม่กาง


วันรุ่งขึ้นจึงทราบว่า พลร่มคนนั้นจะมาโดดใหม่ในวันนี้ ให้คอยรับ

ที่หายไฟเพราะกระโดดแล้วร่มไม่กางติดแพนหางเครื่องบิน

จึงชักปืนมายิงให้สัญญาณคนในเครื่องทราบ

คนในเครื่องจึงดึงตัวกลับ

หากยังติดอยู่อย่างนั้นเครื่องบินจะลงไม่ได้อันเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน


จนวันที่ 29 กรกฎาคม มีข่าวแน่นอนว่าสหรัฐจะเลิกส่งอาวุธ

เพราะส่งครบตามโครงการ

และต้องเปลี่ยนสนามใหม่เพื่อความปลอดภัย


วันที่ 30 จึงกลับเข้าค่ายสวนลดาพันธ์




ปิดท้ายด้วย










 

Create Date : 04 มิถุนายน 2555
26 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2558 12:41:18 น.
Counter : 1677 Pageviews.

 

ภาพประวัติศาสตร์ ข้ามแม่น้ำโดยเรือขนานยนต์ข้ามฟาก เคยสงสัยว่าสมัยก่อนเค้าข้ามฝั่งไปมาฝั่งแม่น้ำบางปะกงยังไง ตอนไม่มีสะพานข้ามมาอ่ะครับ เห็นภาพถ่ายเข้าใจแล้วครับ

 

โดย: moresaw 4 มิถุนายน 2555 7:35:57 น.  

 

ขอโหวตครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
phunsud Travel Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: moresaw 4 มิถุนายน 2555 7:44:38 น.  

 

มาอ่านต่อ

จากนายสิบโทปลดประจำการ

สนามฝึกเขาชนไก่ กาญจนบุรี ครับผม

 

โดย: ravio 4 มิถุนายน 2555 10:56:15 น.  

 

เหตุการณ์นี้อยู่ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 นักศึกษาในเครื่องแบบทหารได้ฝึกภาคปฏิบัติจริง เป็นความประทับใจของพวกเขาทุกคน ที่ความเป็นไปของบ้านเมืองทำให้มีการรวมตัวกันทำงานเพื่อชาติ คนรุ่นหลังจะซึบซับปฏิบัติการของพวกท่านครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Book Blog ดู Blog

 

โดย: Insignia_Museum 4 มิถุนายน 2555 11:51:24 น.  

 

น่าสนใจมากครับ ไม่เคยรู้อย่างละเอียดแบบนี้เลย
พศ.นั้น มีกล้องถ่ายรูป นับว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 4 มิถุนายน 2555 12:42:51 น.  

 

อ่านแล้ว รู้สึกถึงความเสียสละในการทำหน้าที่ของทุกท่านที่เกี่ยวข้องนะคะพี่ตุ๊ก
ต้องหลบๆซ่อนๆ ซุ่มวางแผน กินอยู่ลำบาก งานที่ทำในแต่ละวันก็ล้วนกรำแดด เหนื่อยยาก

ขอสำนึกบุญคุณคนรุ่นหลังทุกท่าน
และขอบคุณพี่ตุ๊กสำหรับข้อมูลเชิงลึกนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 4 มิถุนายน 2555 14:18:38 น.  

 

คนสมัยโบราณ มีความมานะบากบั่น พากเพียรมากมายค่ะ

สวัสดีวันพระใหญ่ค่ะพี่ตุ๊ก

 

โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ 4 มิถุนายน 2555 14:54:13 น.  

 

ภาพสุดท้าย เกินพันคำบรรยายเลยค่ะพี่ตุ๊ก


 

โดย: Sweety-around-the-world 4 มิถุนายน 2555 15:22:29 น.  

 

ทักทายยามเย็นครับคุณตุ๊ก..

 

โดย: wicsir 4 มิถุนายน 2555 18:12:14 น.  

 



สว้สดีค่ะ

เห็นภาพประวัติศาสตร์ และความเป็นมาละเอียดดีค่ะ
ขอบคุณทีแบ่งปันนะคะ
newyorknurse

 

โดย: newyorknurse 4 มิถุนายน 2555 18:30:40 น.  

 


แต่ก่อนป่าบ้านเราทึบนะคะ เดินพลลาดตระเวณดูกลมกลืนไปกับป่าเลย

ทหารหรืออาสาสมัคร ทุกยุคทุกสมัย เค้าลำบากนะคะ อันดับแรก...ขุดหลุมส้วมก่อน กี่คนหล่ะคะเนี่ย มีแค่นี้

คำปฏิญาณ สาบาน ดูศักดิ์สิทธิ์และทุกคนให้คำมั่นถือปฏิบัติกว่าสมัยนี้รึป่าวน้อ...


 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 4 มิถุนายน 2555 19:16:46 น.  

 

ละเอียดดีจัง...ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้เพิ่มมากเลย ^^
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันค่ะ

 

โดย: auau_py 4 มิถุนายน 2555 20:01:12 น.  

 

เรื่องราวของอดีตเสี้ยวหนึ่งของประเทศไทย
ที่ควรบันทึกและจดจำไว้
เพื่อให้ลูกหลานได้ทราบ และเข้าใจ
ขอบคุณที่คุณtukนำมาเสนอครับ.

 

โดย: NHEURFARR IP: 180.183.248.202 4 มิถุนายน 2555 20:06:45 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณตุ๊ก ในยามเช้าวันทำงาน ทำงานกันอย่างมีความสุขตลอดวันครับ

 

โดย: ถปรร 5 มิถุนายน 2555 8:17:08 น.  

 

คนไทยเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ ทั้งกายและใจ ภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของเรามากครับ

 

โดย: เมศร์ ครับผม IP: 182.52.29.118 5 มิถุนายน 2555 9:09:43 น.  

 

ภาพหาชมยากนะค่ะ

 

โดย: never the last 5 มิถุนายน 2555 9:41:55 น.  

 

สวัสดีวันอังคารค่ะคุณตุ๊ก
แวะมาอ่านมาชมเรื่องราวในอดีตค่ะ
ปล.ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวเกาะด้วยกันค่ะ
ข้าวผัดปูก้อน คุยกันอยู่นานค่ะกว่าจะเข้าใจ
แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เล่าอ่ะค่ะ
แค่เห็นจานข้าวก็นั่งขำกันแล้วล่ะค่ะ

 

โดย: phunsud 5 มิถุนายน 2555 10:12:37 น.  

 

อันนี้เป็นบันทึกของคุณพ่อคุณตุ๊กนะคะ ละเอียดมาก ๆ อ่านเพลินเลยค่ะ

 

โดย: Tristy 5 มิถุนายน 2555 10:46:13 น.  

 

เป็นเรื่องราวบันทึกของ นร.สห. ที่เขียนลงในหนังสืออนุสรณ์ ทั้งสามเล่มข้างในรูปต้นบล็อก ซึ่งได้อ่านแล้วนำมาเล่าอีกทีค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 5 มิถุนายน 2555 10:56:21 น.  

 


แวะเข้ามาอ่านประวัติของคุณพ่อ

 

โดย: อุ้มสี 5 มิถุนายน 2555 11:01:52 น.  

 

หนูว่าบล๊อกนี้เป็นที่แรกที่ทำให้คนทั่วไป
ได้รับรู้เรื่องราวตอนนั้นได้อย่างละเอียดแบบนี้ค่ะ
น่าภูมิใจกับภารกิจในตอนนั้นนะคะ

 

โดย: hellojaae (hellojaae ) 5 มิถุนายน 2555 14:19:56 น.  

 

อปฺปเสโนปิ เจ มนฺตี มหาเสนํ อมนฺตินํ

ถึงแม้จะมีกำลังพลน้อย แต่มีความคิด
ก็เอาชนะกองทัพใหญ่ที่ไร้ความคิดได้




สวัสดีค่ะ

ระยะนี้ ปอป้าไม่ได้เข้าบล๊อกทุกวัน
เนื่องจากติดภารกิจเดินสายต่างจังหวัดทุกสัปดาห์
อาจจะทำให้การทักทายขาด ๆ หาย ๆ ไปบ้าง
ถ้ามีโอกาสก็จะรีบเข้ามาทักทายตอบเม้นท์เหมือนเช่นเคย..นะคะ

คิดถึงเพื่อนบล๊อกทุกท่านเสมอ...ค่ะ

.....................

วางเม้นท์ก่อน เด๋วค่อยกลับมาอ่าน...ค่ะ

 

โดย: พรหมญาณี 5 มิถุนายน 2555 14:35:22 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ตุ๊ก

 

โดย: Sweety-around-the-world 5 มิถุนายน 2555 18:09:28 น.  

 

มาอ่านบันทึกเก่าๆทรงคุณค่าครับพี่ตุ๊ก

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 5 มิถุนายน 2555 21:46:11 น.  

 

ขออนุญาตให้คุณตุ๊ก ช่วยแนะนำท่านที่สนใจเรื่องเบื้องหลังประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเสรีไทย เข้าไปอ่านในบล็อกของ เจียวต้าย ด้วยซิครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 10 มิถุนายน 2555 10:52:15 น.  

 

เยี่ยมๆเจ้า "กองทัพนิรนาม"

 

โดย: ทิ IP: 125.24.152.226 26 มีนาคม 2557 14:15:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tuk-tuk@korat
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 148 คน [?]




งานหลักคืองานอดิเรก

10 บล็อกล่าสุด


This I Promise You - NSYNC ... ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 350


What I Did For Love - Josh Groban ... ความหมาย


วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง



Oh, Pretty Woman - Roy Orbison ... ความหมาย


I Will Whisper Your Name - Michael Johnson ... ตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349


เชียงใหม่ - วัดสันทรายหลวง อำเภอสันทราย



In Dreams - Roy Orbison ... ความหมาย



ลำปาง - วัดพระธาตุหมื่นครื้น ... อย่างฉุกละหุก ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 348



For Lovin' Me - Gordon Lightfoot ... ความหมาย


เชียงใหม่ - วัดสันทรายมูล อำเภอสันทราย















ของแต่งบล็อกจาก
ป้าเก๋า "ชมพร"
คุณญามี่
คุณ Rainfall in August
ขอบคุณค่ะ

[Add tuk-tuk@korat's blog to your web]