|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
 |
|
เที่ยวสุพรรณบุรี ตลาดสามชุก |
|
เที่ยวสุพรรณบุรี ตลาดสามชุก
วันนี้มีเรื่องดี ๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ (อ่าน) ไปเที่ยวสุพรรณกันนะคะ การไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นลูกศิษย์ รุ่นปีการศึกษา 2520 ฉันสอนเขาตอน ม.ศ. 1 เป็นลูกศืษย์รุ่นแรกที่ฉันย้ายจากอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทยมาสอนที่ มัธยมวัดธาตุทอง รุ่นนี้ฉันมีโอกาสเจอพวกเขาตอนที่พวกเขามาอุดหนุนหนังสือของฉัน โดยมีนุ้ยเป็นผู้ประสานงาน (พี่สาวนุ้ย คือจริยะ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ประจำชั้น ฉันจึงมีเบอร์บ้านเขาและโทรให้นุ้ยช่วยประสานงานเรื่องหนังสือที่ฉันเขียนด้วย)
แต่ก็ไม่ได้เจอกันเป็นกลุ่มใหญ่หรอก ค่ะ สำหรับกลุ่มเพื่อนซี้ของกลุ่มนี้ มี 5 คน คือ แดง โอ๋ แมว หมูและนุ้ย (แต่นุ้ยสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ) กลุ่มเพื่อนของเขากลุ่มนี้ เขาจะนัดเจอกันเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย เวียนกันเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวกัน คนที่มีรถก็บริการรถด้วย ช่วยกันเติมแก๊ส จ่ายทางด่วน (ถ้าไปต่างจังหวัด อิอิ) เป็นลูกศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นน่ารักของพวกเขา
เมื่อตอนต้นเดือนฉันกับแดงไปเสียค่าน้ำ ที่อ่อนนุช ซึ่งโอ๋ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายอ่านมาตรน้ำ โอ๋ได้ชวนฉันไปกินข้าวด้วยกัน เพราะเดือนนี้ถึงคิวที่เขาเป็นเจ้ามือ ฉันก็รับปากโอ๋
วันที่ 29 มี.ค. แดงมารับฉันประมาณ บ่ายสองโมงกว่า ๆ เพื่อไปค้างที่หมู่บ้านมัณฑนา เพื่อว่าตอนเช้าจะได้ขับรถไปสมทบกับแมวและโอ๋ และจอดรถไว้ที่บริเวณศูนย์สาธาณสุข แถวหมู่บ้านพฤกษชาติ
ฉัน หมู แดง ขับรถกันไปถึงที่ศูนย์สาธารณสุข เพื่อไปขอใบรับรองแพทย์ จะได้ทำบัตรว่ายน้ำได้ รอนานมาก เพราะเขาเปิดรอบบ่ายสี่โมง กว่าจะทำบัตรเสร็จ หมดเวลาในการไปเต้นอารบิดในน้ำแล้ว ที่ตีแบดมินตันก็เต็ม พวกเราเลยไปกินส้มตำผลไม้ ยำทะเล และผัดไทย เจ้าอร่อยแถวหมู่บ้านสรรพากร แล้วแวะตลาดซื้อกับข้าว คือแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ปลานิลทอด เพื่อเป็นอาหารมื้อเช้า
มาถึงบ้านมัณฑนาของแดง ก็ทุ่มกว่าแล้ว แดงกับหมูไปลงสระว่ายน้ำของหมู่บ้าน ฉันไม่ได้ลงด้วย เพราะว่าเพิ่งสระผมมา ขี้เกียจสระผมอีก หมูว่ายน้ำไม่เป็น ได้แต่แช่น้ำและเกาะขอบสระ อิอิ บอกให้ลองโผว่ายดู ก็ไม่ยอม บอกว่า แค่ได้ลงมาแช่น้ำ เขาก็มีความสุขแล้ว เป็นงั้นไป เนอะ
แดงว่ายน้ำเก่ง ว่ายกลับไปกลับมาหลายรอบ ฉันนั่งเล่นอยู่ริมสระ กินขนมถุง ๆ ที่หยิบมาจากบ้านแดง กินส้มไปดูเขาว่ายน้ำ นึกเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมา อากาศบริเวณสระน้ำดีมาก ลมโชยมาไม่แรงนัก ทำให้รู้สึกสดชื่น พวกเขาว่ายน้ำประมาณ ชั่วโมงเศษ ๆ ก็เดินกลับบ้านกัน อากาศกลางคืนรอบ ๆ หมู่บ้านนี้ ดีทีเดียว ต้นไม้ก็เยอะพอควร ถึงบ้าน พวกเขาไปอาบน้ำ ส่วนฉันนอนดูโทรทัศน์ต่อ
รุ่งเช้า แดงลงมาหุงข้าวและีรดน้ำต้นไม้ ฉันอาบน้ำเสร็จแต่งตัวแล้วจึงไปช่วยแดงยกกับข้าวที่อุ่น คือแกงเขียวหวานปลากราย ปลานิลทอด แดงเจียวไข่อีกสองฟอง อิ่มท้องดีเลย
พวกเราออกจากบ้านไปประมาณ แปดโมงเช้า ไปที่ศูนย์สาธารณะที่เมื่อวานเรามาทำบัตรว่ายน้ำกัน ได้เข้าไปห้องสมุดรอ แมวกับโอ๋ ซึ่งนัดเจอกันที่นี่เวลา 9.00 น. เรามาถึงที่นี่ประมาณ 8.30 น. โอ๋มาตรงเวลา แต่แมว 9.00 น. โทรไปตาม เพิ่งออกจากบ้าน เฮ้อ ! วันนี้เลยออกสาย ออกจากที่นี่ก็ น่าจะ 9.40 น. น่าจะได้ เรา 5 คน นั่งรถของแมวไป รถโอ๋กับแดง ทิ้งไว้ที่นี่ ขากลับจึงมาขับรถใครรถมัน กลับบ้าน นั่นเอง
วันนี้รถติดมากพอควร เราไปถึงที่สุพรรณก็เที่ยงกว่าแล้ว โอ๋แนะนำว่า ร้าน "กุ้งเป็น" อาหารอร่อย เป็นร้านก่อนที่จะถึงตลาด 100 ปี สามชุก หาร้านเจอแล้ว คนเยอะมาก มีโต๊ะจีนจัดไว้ด้วย น่าจะมีทัวร์มาลง นั่นเอง สั่งอาหารหลายอย่าง มีต้มยำปลาคัง กุ้งอบเกลือ ใบตำลึงชุบไข่ทอด ปลาเนื้ออ่อนทอด กุ้งหลน รสชาติอาหารก็ดีพอควร มื้อนี้ โอ๋จ่ายไปพันกว่าบาท มั้ง หลังอาหารมื้อเที่ยง ก็ไปเที่ยวตลาดสามชุก เป้าหมายที่มาในวันนี้
ฉันก็มีประวัติของตลาดสามชุกเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝาก ท่านผู้อ่านตามที่ได้อ่านมา นะคะ
สามชุกเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ในอดีต สามชุกเป็นที่รวมพลของผู้คนหลายเชื้อชาติ มีทั้งไทย จีน มอญ ฯลฯ มีสัมพันธภาพต่อกันในลักษณะของการนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกัน และในที่สุด ได้ลงรากปักฐานอยู่ที่นี่ เชื่อกันว่า เมืองสามชุก ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2437 ในสมัย รัชกาลที่ 5 เดิมมีชื่อว่า อำเภอ "นางบวช"
มีเรื่องเล่าเป็นนิทานพื้นบ้านของชาวสุพรรณบุรีว่า คำว่า "สามชุก" นั้น เพราะมีชาวบ้านนำของป่ามาขายให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือบ้าง มาจากเหนือบ้าง บ้างก็มาจากทางใต้ พ่อค้ามาจาก 3 สาย ดังกล่าว จึงเรียกบริเวณนี้ว่า สามแพร่ง ต่อมาเพี้ยนเป็น สามเพ็ง และ สำเพ็ง และเล่าต่อกันไปว่า ในระหว่างทางมีคนมารอขายสินค้า ได้ตัดไม้ไผ่มาสานเป็นภาชนะสำหรับใส่ของขาย เรียกว่า "กระชุก" ชาวบ้านเรียกว่า "สามชุก" (มาจากพ่อค้าสามสายและภาชนะใส่ของ รวมกัน)
ตลาดสามชุกเป็นตลาดสำคัญในการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าในอดีต ตั้งแต่เมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว โดยอาศัยทางน้ำ แต่ต่อมาความเจริญเข้ามาถึง มีการตัดถนนหนทาง ทำให้การค้าซบเซาไป ราชพัสดุ ที่เป็นเจ้าของที่ดินให้เช่า จะรื้อตลาดเก่าสร้างตลาดใหม่ แต่พ่อค้าแม่ค้าและครูในตลาดสามชุก ไม่ยอม เพราะเห็นคุณค่าของตลาดเก่า จึงได้รวมตัวกันคัดค้านและรวมตัวกันพัฒนาตลาดสามชุกเชิงอนุรักษ์ ให้คงที่อยู่ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของ สามชุกไว้ เป็นที่มาของกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศึกษาวิถีชีวิตของชุมชนดั้งเดิม มีการเผยแพร่ประวัติชุมชน มีสถาปัตยกรรม ลวดลายฉลุ ที่เรียกว่า "ลายขนมปังขิง" ซึ่งมีถึง 19 ลาย เป็นศิลปะตกแต่งอาคารไม้โบราณที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ตลาดสามชุกจึงได้รับการขนานนามว่า "ตลาด 100 ปี พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต"
ฉันและลูกศิษย์ได้ถ่ายภาพมุมต่าง ๆ ของตลาดสามชุกมาฝากด้วยนะคะ เชิญชมค่ะ





 ความจริง ทุกคนอยากไปเที่ยวบึงฉวาก แต่ดูเวลาแล้ว มันไม่อำนวยเลย พวกเราเลยเปลี่ยนไปไหว้พระที่วัดป่าเลไลย์ ซื้อดอกไม้ ธูปเทียน ไหว้เสร็จแล้ว ขึ้นโบสถ์ไปไหว้พระประธาน ฉันสะดุดหกล้มตรงธรณีประตู เจ็บพอทนได้ โอ๋ ถามว่า เป็นอะไรมากไหม ฉันบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ตอนนั้นสงสัยมันยังชาอยู่ ก็ไม่เจ็บอะไรมากนัก ยังไปไหว้พระ กราบพระ และเดินซื้อของบริเวณวัดได้อยู่ (แต่พอกลับถึงบ้าน เข่าบวมฉึ่งเลย คงจะอักเสบ ทานยาแก้ปวด นวดยาแล้ว รุ่งเช้าก็ไม่หาย ทั้งปวด ทั้งเดิน เขยก เลยโทรหาก๋วยมารับไปหาหมอที่ ร.พ. สุขุมวิท โชคดี ประกันยังไม่หมดอายุ อิอิ เสียไป น่าจะสามพันกว่าบาท ฟาดเคราะห์ไป ประกันจ่าย) เรามาดูความสวยงามของวัดป่าเลไย์ ค่ะ

หลังจากนั้น พวกเราก็มุ่งกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทาง แวะซื้อไข่เป็ด แบ่งกันคนละ 10 ฟอง ราคา 110 บาท มีฉัน แมว และหมู ระหว่างทางเจอลูกตาล ฉันก็ซื้ออีก แพงจังถุงหนึ่งน่าจะมีประมาณ 20 ลูกไม่รู้จะถึง20 ลูกไหม 60 บาทนะ ซื้ำอน้ำตาลสดอีก 3 ขวด ( 50 บาท ) ไม่ยอมลดราคา
กลับถึงที่ศูนย์สาธารณสุข เกือบสองทุ่ม ย้ายสัมภาระถ่ายของจากรถแมวมาไว้ที่รถแดง โอ๋ ดูเหมือนสบายกว่าเพื่อน เพราะไม่ได้ซื้ออะไร เลยไม่ต้องหอบพะรุงพะรัง
แมวและโอ๋ ล่ำลาฉันแล้ว ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แดงขับรถมาส่งฉันที่บ้าน ส่วนหมูขึ้นรถไฟ้ฟ้าที่ทองหล่อ ไปเข้ากะตอน 4 ทุ่ม เขาทำงานเกี่ยวกับการเก็บเงินทางด่วนแถวสะพานเหลือง
เฮ้อ ! สุขใจจัง ที่วันนี้ลูกศิษย์พาไปเที่ยวและทานข้าว ทุกคนน่ารักมาก คุยกันสนุกสนาน ทำให้ฉันสุขใจมาก ต้องขอขอบใจเขาทุก ๆ คน พวกเขาชวนฉันไปหลวงพระบาง ต้นเดือนธันวาคม และ เดือนหน้า วันที่ 19 เมษายน จะไปดูหนังเรื่อง คู่กรรม และวันที่ 20 จะไปไหว้หลวงพ่อโสธรและไปไหว้พระพิฆเณศ ที่ฉะเชิงเทรา ได้เที่ยวอีกแล้ว อิอิ แล้วจะนำเรื่องราวดี ๆ มาฝากอีกนะคะ ขอบใจลูกศิษย์ แดง โอ๋ แมว หมู อีกครั้งนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนมีความสุข หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือจ้ะ
สวัสดีค่ะ
Create Date : 03 เมษายน 2556 |
Last Update : 5 เมษายน 2556 7:57:59 น. |
|
17 comments
|
Counter : 3056 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Nepster วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:20:58:59 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:23:05:09 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 4 เมษายน 2556 เวลา:5:30:35 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:3:46:10 น. |
|
|
|
โดย: Nepster วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:20:34:45 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:20:03:44 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:1:45:09 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:14:25:53 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 23 เมษายน 2556 เวลา:3:05:07 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:4:26:21 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:17:53:43 น. |
|
|
|
โดย: Nepster วันที่: 27 เมษายน 2556 เวลา:15:54:39 น. |
|
|
|
โดย: Nepster วันที่: 27 เมษายน 2556 เวลา:19:38:35 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 2 พฤษภาคม 2556 เวลา:1:28:44 น. |
|
|
|
โดย: Nepster วันที่: 2 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:36:16 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:3:44:10 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
 |
|
อาจารย์สบายดีนะค่ะ
หนูขอไปเที่ยวตลาดสามชุก ได้อ่านเรื่องราวความผูกพันของอาจารย์กับลูกศิษย์แล้วรู้สึกดีจังคะ :)
ตอนนี้หนูอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของอาจารย์ใกล้จะจบแล้วนะคะ
ได้อ่านเรื่องที่อาจารย์เข้าเฝ้ารับเสด็จแล้วหนูดีใจกับอาจารย์จริงๆ คะ
เป็นมลคลของชีวิตมาก ที่ได้ใกล้พระองค์ท่านขนาดนั้น ^^
แล้วอาจารย์ก็ตั้งใจเรียนสุดๆ ไปเลย เหมาะกับการนำเอาไปใช้เป็นแบบอย่างมากๆ เลยคะ
หนูจะรีบอ่านให้จบ แล้วมาเล่าความประทับใจให้ฟังนะคะ