คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
21 มีนาคม 2560
space
space
space

ไปเที่ยวเมือง คัชการ์ ทะเลสาบ ไป่ซาหู ( ทะเลสาบ คาราคูล)ตอนที่ 5



ไปเที่ยวเมือง คัชการ์  ทะเลสาบ ไป่ซาหู ( ทะเลสาบ คาราคูล)  ตอนที่ 5

ทริปเที่ยวแคว้นซินเกียง  ฉันพาเที่ยวไปทั้งหมด 4 ตอนแล้วค่ะ ตอนนี้จะเป็นตอนที่ 5 
เราจะไปเที่ยว เมือง คัชการ์ เมืองที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกับชนชาวจีน ทั้งรูปร่าง หน้าตา และวิถีชีวิต
ของพวกเขา เราเรียก ชนเผ่านี้ว่า  ชาว อุยกูร์  ค่ะ 

ความเดิม ตอนที่ 4  เสี่ยวหม่า พาเรากลับจากเที่ยวหมู่บ้านเหอมู่  มาถึงสถานี รถบัสที่ เมืองปู่เอ้อ จิ้น
ตั้งแต่เวลา บ่ายสองโมงกว่า  แต่ตั๋วรถบัสเรา ออกตอนเย็นทุ่มกว่าเกือบสองทุ่ม เราจึงเตร่ ๆ อยู่แต่ในสถานีรถบัส

วันที่ 17  ตุลาคม  59

รถบัสเตียงนอนพาเราจากเมือง ปู่เอ้อจิ้น กลับมาถึง อูรุมูฉี ประมาณ  9 โมงเช้า พวกเรา
หลังจากรับกระเป๋าจากใต้ท้องรถแล้ว  ก็จ้างรถเล็ก  คนละ 10 หยวน  ให้เขามาส่งพวกเรา
ที่สถานีรถไฟ  เพื่อที่จะซื้อตั๋วรถไฟ ตู้นอน เดินทางต่อไปยังเมือง       คัชการ์  ตามที่เราวางแผนไว้  
ตั๋วรถไฟ แพงไม่น้อยเลย คนละ 315.5 หยวน  ได้รอบกลางคืน 19.48 น.เป็นอันว่า วันนี้ไม่ได้
ไปเที่ยวไหนเลย เดินเตร็ดเตร่อยู่ที่สถานี และบริเวณนี้ ทั้งวัน  ที่นี่ การตรวจกระเป๋าเข้มงวดมาก 
วัชร์กับไหม โดนริบมีดไปทั้ง ๆ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าใหญ่ นี่แค่ไปรถไฟนะ ไม่ใช่เครื่องบิน น้ำก็ไม่ให้นำเข้า
พวกเราก็ออกไปเดินหาซื้อของกิน ได้ลูกเกด สีเขียว 20 หยวน พุทราจีน  25 หยวน แพงกว่าเมืองไทย
แต่ดูมีคุณภาพ น่ากินกว่าที่ซื้อในเมืองไทย  ซื้อน่องไก่ เป็นอาหาร 3 น่อง  10 หยวน  
ซื้อผลไม้ พุทราสด อีก 15 หยวน  ซื้อข้าวหมกไก่ กินกับน่องไก่อีก 10 หยวน เป็นอาหาร
สองมื้อของเรา  ห้าห้า  มาชมภาพของพวกเรา ค่ะ 








เมื่อถึงเวลา 19.48 น. พวกเราก็ได้ขึ้นรถไฟ เตียงนอน ซึ่งมีเตียงทั้งหมด 3 ชั้น 
พวกเรา ได้เตียงชั้นกลางทุกคน ต้องปีนขึ้นไปนอนเตียงใครเตียงมัน  ห้องฉัน เตียงล่างเป็นครอบครัวของชาวซิงเกียน หน้าตาเหมือนพวกแขกขาว มีลูกแฝด 1 คู่ 
ลูกชายคนเล็กอีก 1 คน หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู  ฉันเลยถ่ายรูปพวกเขามาฝากด้วย ค่ะ 





ยังไม่นอน นั่งคุยกัน  กินข้าว ไก่ที่ซื้อมา บนรถไฟ ก็มีคนเข็นรถมาขายอาหาร 
ขายน้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว รวมถึงเบียร์ ของโปรดของเอกด้วย อาหารก็แพงกว่าอยู่แล้วแน่นอน




นอนในรถไฟ ก็พอไหวนะ เขามีผ้าห่ม  หมอนให้ แต่ระหว่างชั้นของเตียง ค่อนข้างเตี้ย 
ลุก นั่งลำบาก ยิ่งคนสูง หัวแทบชนเตียนบนเลย มีห้องน้ำ อ่างล้างหน้าให้ ตอนเช้า
เราก็ได้แต่แปรงฟัน ล้างหน้าเท่านั้น เสื้อผ้าก็ชุดเดิมนั่นแหละ ดีนะ ที่อากาศหนาว 
ไม่มีเหงี่อ ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ไม่มีกลิ่น เหม็น  ห้า ห้า เช้าแล้ว พวกเราก็ทยอยกัน
ไปล้างหน้า แปรงฟัน แต่งหน้าแต่งตา ตามสมควร แล้วก็หาอาหารที่เตรียมไว้นั้น
ออกมานั่งทานกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นขนมปัง น่องไก่ ที่ยังเหลือ ห้าห้า 
ประทังกันไปพลาง ๆ ก่อน
แล้วก็นั่งชมวิวกันไป ซึ่งทางที่รถไฟผ่าน เป็นทะเลทรายทั้งนั้น นาน ๆ จึงจะเห็น ตึกคนงาน










วันที่ 18  ตุลาคม 59 
 พวกเราต้องนั่งอยู่ในรถไฟ อีกครึ่งวันกว่า  คือ รถไฟ มาถึงคัชการ์ประมาณบ่ายโมง
เมื่อลงจากรถไฟแล้ว  พวกเราก็ไปจองตั๋วเพื่อจะกลับไปที่ฮามิ ในวันที่ 20  ตุลาคม 
ได้เที่ยวเวลา 14.38น. เมื่อได้ตั๋วแล้ว เราจะได้เบาใจตอนขากลับจากคัชการ์ (คาร์สือ) 

เมื่อออกจากสถานี รถไฟและจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องระดมความคิด เพื่อที่จะหาที่พัก
เราจะพักอยู่ที่ คัชการ์ 2 คืน เรามายืนอยู่ที่ว่าง ๆ แล้ว น้อง ๆ ก็เปิดแผนที่ กูเกิล หาโรงแรม


ในที่สุด เราก็หาโรงแรมที่ใกล้ตัวเมือง เพื่อที่เวลาเราจะไปไหน จะได้สะดวกหน่อย 
เป้าหมาย คือ โรงแรม เทียนหยวน เราจ้างแท็กซี่ไป 2 คัน คันละ 40 หยวน ต่อแล้ว
ก็ไม่ยอมลด บอกว่า ไปกับพวกเขาปลอดภัยนะ พอดีแท็กซี่แถวนั้น ก็มีแค่ 2 คัน ไม่มี
โอกาสได้เลือกเลย แดดก็ร้อนด้วย ถามพรรคพวก ทุกคนก็บอกว่าไปเหอะ มาทราบภายหลัง
ที่เราจ้างรถวันกลับจากโรงแรมไปสถานีรถไฟ คันละเพียง 20 หยวนเอง ห้าห้า โดนมันโก่งราคา
เป็นสองเท่าเลย พวกเรามาถึงโรงแรมที่เราเลือก ฉันก็ลงไปติดต่อ
เป็นโรงแรมดูไฮโซเหมือนกัน
  ราคาก็ไฮโซ นะ คืนละ 280 หยวน ซึ่งแพงที่สุด จากที่เคยพักกันมา เป้าหมายอีกเรื่องหนึ่ง
ที่มาที่เมือง คัสการ์  ก็เพราะเราจะไปเที่ยว ทะเลสาบ คาราคูล หรือ ภาษาจีน เรียกว่า ไป่ซาหู
ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เล่าลือกันว่า สวยมาก ๆ ค่ะ ราคาค่าทัวร์ที่โรงแรมช่วยติดต่อให้ คนละ 280 หยวน 
ไม่มีอาหารกลางวันให้ นะจ๊ะ ต้องเตรียมอาหารกลางวันไปเอง ต่อราคาก็ไม่ให้ นัดกัน
พรุ่งนี้เช้า รถจากบริษัททัวร์มารับ 8.oo น. ก่อนจะเที่ยว เรามา
ทราบเรื่องราวของเมืองนี้ก่อน

เมือง คัสการ์  (Kashgar) เป็นเมืองโอเอซีสในเขตปกครองตนเองของแคว้นซินเกียง
ตั้งอยู่ทางทิศจะวันตกของทะเลทราย ทาคลามากัน (Taklamakam Desert)และอยู่ในเทือกเขา
เทียนซาน อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1290 เมตร  ซินเกียง มีเขตติดต่อหลายประเทศ
เช่น รัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน
และอินเดีย ธิเบต คัสการ์จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
ของเมืองเอกซินเกียง เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากในอดีต คือ เป็นเส้นทางการค้าโบราณ
ที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม ระหว่างประเทศจีนกับประเทศในยุโรป  

ปัจจุบัน คัสการ์เป็นตลาดการค้าและขนส่งอีก เป็นเมืองที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างเส้นทางเหนือ
และทางใต้จากจีน พลเมืองเป็นชาวอุยกูร์  ร้อยละ 90นับถือศาสนาอิสลาม ชาวเมืองที่นี่
มีหน้าตาแตกต่างไปจากคนจีน เพราะชาวเมืองมีเชื้อสายมาจากทางเอเซียกลาง 
หน้าตาเหมือนไปทาง ปากี  เชื้อสาย เตอร์กิ ส่วนคนจีน เชื้อสายเป็น ฮั่น ชาวเมืองใช้ภาษาเตอร์กิ 
เชื้อสาย คาทัสสถาน อาหาร ขนม เหมือน ๆ กับคนเอเซียกลาง มีศูนย์การค้าซันเดย์มาเก็ต
ที่คัสการ์  ชาวเมือง ยังคงใช้ชีวิตตามดั้งเดิมของเขา 

พวกเราขนกระเป๋า เข้าห้องแล้ว ก็นอนพัก นัดกันว่า 17.00น. เราจะเริ่มออกไปเดินตลาดการค้า
ของเมืองคัชการ์ ไปดูวิถีชีวิตของชาวเมืองคัชการ์ และจะเดินไปเที่ยวที่เมืองเก่าที่นี่ด้วย
เราเดินไปตามถนนหนทาง ไม่ได้ขึ้นรถ เพราะต้องการเดินดูถนนสวย ๆ ของที่นี่ เห็นประชาชน
ขี่รถเครื่องกันมากมาย แต่งกายออกจะแขก ๆ หน่อย ฉันและเพื่อน ๆ ชมไป ถ่ายรูปกันไป มาชมค่ะ 















ปากทางที่จะเดินเข้าไปในตลาดและไปชมเมืองเก่า คัชการ์






นี่เป็นตลาดขายอาหาร ขายผลไม้ สารพัดของกิน เดินลึกเข้าไปจะเป็นเมืองเก่าของเมืองคัชการ์









พวกเรามาเดินเมืองเก่าตอนช่วงเย็น จึงได้เห็นเด็ก ๆเดินกลับบ้านตอนโรงเรียนเลิกเรียน








เด็กนักเรียนเห็นเราถ่ายรูปโรงเรียนและพวกเขา ก็เลยเยี่ยมหน้ามาให้พวกเราถ่ายรูปเขาด้วย 



มุมสวยในเมืองเก่า ตึกที่เห็นน่าจะเป็นร้านค้า เราไม่ได้เดินเข้าไปชม เพราะเริ่มเย็นมากแล้ว



ถ่ายรูปหมู่กัน กับตึกสูงใหญ่เมือง คัชการ์



ด้านหลังรูปหมู่พวกเรา เป็นถนนที่มีร้านค้ามากมาย ค่ะ แต่พวกเราไม่คิดจะซื้อ มีวัชรีอยากได้หมวก
ของชาวเผ่านี้ ซึ่งทำด้วยมือ (แฮนด์เมค) ราคาสูง บอกกี่ร้อยหยวน จำไม่ได้ แต่ต่อให้ได้ 100 หยวน





ฟ้าเริ่มมืดแล้ว พวกเราก็เดินย้อนกลับทางเดิม เพื่อที่จะกลับโรงแรม ระหว่างทาง ชาวเมือง
และนักท่องเที่ยว ยังเดินช้อปปิ้งกันหนาแน่นอยู่ นุ่น อยากได้ผ้าพันคอไปฝากญาติเขา
ฉันก็ช่วยต่อราคาให้  แต่ก็ลดได้ไม่ได้มาก ซื้อของแห้ง เช่น ลูกเกด  อัลมอน ลูกพลับ
ต่อราคาแขกอย่างนุกสนาน พวกนี้พูดภาษาจีนกลางได้ชัดเจนเลยนะ บางครั้งก็ได้ยินเขาทักทายเป็น
ภาษาอาหรับมั้ง  ที่นี่ตามร้านค้า  สถานที่ราชการ จะมีสองภาษากำกับไว้ คือ ภาษาจีน
และภาษาอาหรับ ค่ะ ระหว่างทางเดินกลับ ตึกรามบ้านช่องเริ่มมีแสงไฟ ส่องสว่างดูงดงามมาก 
มาชมภาพ ยามค่ำคืน ค่ะ 








วันที่ 19 ต.ค. 59

วันนี้พวกเราต้องตื่นแต่เช้า เพราะซื้อทัวร์ไปเที่ยว ไป่ซาหู หรือทะเลสาบ คาราคูล
รถทัวร์ที่มารับพวกเรา มาตรงเวลาดี 8.00 น. ก็โทรหาตามตัวพวกเราแล้ว ในรถ มีคนจีน 
1 กลุ่ม น่าจะ 4 คน มารับกลางทางอีก 2 คน เป็นคนอินโดนีเซีย  มากันสองสามีภรรยา
อัธยาศัยดี คุยกันด้วยภาษาอังกฤษ รู้งู ๆ ปลา ๆ ไปตามเรื่อง คนสามี คนภรรยาเล่าว่า
อายุแค่สี่สิบกว่าเอง แต่ไม่ยอมย้อมผม ผมขาวโพลน ครั้งแรกนึกว่า พ่อลูกกันชะอีก ห้าห้า 
ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวที่ทะเลสาบ ไป่ซาหู หรือ ทะเลสาบ คาราคูล  เรามารู้จักทะเลสาบชื่อนี้ ค่ะ 

ทะเลสาบ คาราคูล (Karakul  lake) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลสาบดำ (Black Lake)
เป็นทะเลสาบที่สูงที่สุดของที่ราบ ปามีร์ (Pamir Plateau)ในประเทศ ทาจิกิสถาน
มีระดับความสูง ประมาณ 3,600 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองคัชการ์ เขตปกครองตนเอง
ซินเกียง อุยกูร์ของประเทศจีนประมาณ 200 กิโลเมตร

ในระหว่างทางที่จะไปทะเลสาบแห่งนี้  จะผ่านที่อยู่ของชนเผ่า คีร์กิส(Kyrgyz)
หรืออินทรีย์แห่งที่ราบสูง ปามีร์  ผ่านยอดเขาหิมะ คองกูร์  ที่มีความสูงถึง 7,649 เมตร
มาถึงหลักกิโลเมตรที่ 190  จะพบกับทะเลสาบคาราคูล  ทะเลสาบสีเทอร์ควอยส์ 
ที่มีเนื้อที่ประมาณ 10 กิโลเมตร  ลึกประมาณ 30 เมตร 

ทะเลสาบ คาราคูล เป็นทะเลสาบสีเขียวเข้ม ที่มีขุนเขาหิมะสูงเสียดฟ้า ห้อมล้อมไว้ ขุนเขา
เหล่านี้จะทอดเงาลงสู่ผืนน้ำอันสงบนิ่งของทะเลสาบ สวยงามเหลือที่จะพร่ำพรรณนาได้
บางจุดของทะเลสาบ จะมีกระโจมที่พักของชาว เคอร์กิส ผู้เร่ร่อนกางอยู่ใกล้ทะเลสาบ

ปัจจุบัน ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาชื่นชมความงามตลอดไม่ขาดสาย
พวกเรานั่งรถบัสคันเล็ก มีนักท่องเที่ยวที่เป็นคนจีน ดูเหมือนจะมาจากปักกิ่ง พอคุยกับเขา
รูู้เรื่องบ้าง กลุ่มเขามี 4 คน กลุ่มเราคนไทย มี 6 คน และชาวอินโดนีเซียสองสามีภรรยา
รวมนักท่องเที่ยวทั้งหมด น่าจะ12 คน รวมหัวหน้าทัวร์ ซึ่งเป็นผู้หญิง เป็น 13 คนคนขับอีก 1คน
ขับรถออกจากโรงแรมเราไปเรื่อย ๆ ตามถนนหนทางที่ผ่าน ฉันก็ถ่ายรูปไว้บ้างเล็กน้อย



เวลาผ่านไปประมาณได้สักครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงจุดที่เข้าไปเขตเที่ยวของทะเลสาบ 
ไกด์ให้จอดรถ เพื่อให้เข้าห้องน้ำ และซื้ออาหารมื้อกลางวัน ซื้อผลไม้กันในสถานที่แห่งนี้
พวกเรา ซื้อแคนตาลูป 1 ผลใหญ่ ให้เขาผ่าเป็นเสี้ยว ๆ เพื่อทานได้ง่ายเวลาอยู่บนรถ 
เขาขายเป็นกิโลกรัม ผลนั้น ประมาณ สิบกว่าหยวน มั้ง จำไม่ค่อยได้แล้ว ส่วนใหญ่ซื้อแต่ผลไม้
ขึ้นรถไป เพราะสามารถทานแทนน้ำดื่มได้ มาถึงที่นี่  ไกด์ก็ขอเก็บค่าทัวร์จากฉัน ฉันก็บอก
น้องหมัยเอาเงินมาจ่าย เพราะคณะเราให้น้องหมัยรักษาเงินกองกลางในการใช้จ่าย ห้าห้า  



จากนั้น พวกเราก็เดินทางกันต่อไป ระหว่างทางต่อจากนี้ไป น่าจะประมาณ 200 กิโลเมตร
ถนนหนทาง บางช่วงกำลังก่อสร้าง ทางที่ผ่านไป มีภูเขาหิน รูปร่างแปลก ๆ บางช่วง 
ถนนขรุขระ มีฝุ่นแดง ฟุ้งไปหมด แต่ภูเขาหินที่นี่ ฉันชอบนะ รูปร่างแปลกดี บางช่วงมีหิน
สีเขียว ๆ สะท้อนแดด เปรี้ยง ๆ เป็นประกายเล็กน้อย เสียดายถ่ายรูปทะลุกระจกรถออกไป
ไม่ค่อยสวยงามมากนัก  แต่ก็ยังดีกว่า ไม่ได้เก็บภาพเอาไว้เลยเนาะ 
มาชมภาพที่ฉันเก็บมาค่ะ 











ตลอดทาง ก็จะผ่านภูเขาหินเช่นนี้ไปตลอด รถแล่นไปได้อีกประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ
ก็ถึงด่านที่จะต้องให้นักท่องเที่ยวลงจากรถ ไปผ่านด่าน โดยหัวหน้าทัวร์ นำพาสปอร์ตของเรา
ไปให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกับพวกเราก็ต้องเดินข้ามไปที่ด่าน ฉันเข้าใจว่า
นี่คงเข้าสู่เขตของประเทศ ทาจิกิสถาน
อันเป็นที่ตั้งของทะเลาสาบ คาราคูล พวกเราต้องลงเดินข้ามด่านไป ถึงอีกฝั่งหนึ่ง 
ไม่ปล่อยโอกาสผ่านไปเฉย ๆ ได้แชะรูปกัน คนละรูปสองรูปก่อนขึ้นรถ ห้าห้า 






อากาศตอนนี้ หนาวมาก ลมก็แรงมากด้วย หนาวสะท้านกันทุกคน พอรถข้ามฝั่งมา
พวกเราก็ขึ้นรถและเดินทางต่อไป ผ่านเส้นทางฝุ่นฟุ้ง  ขรุขระ โขยกเขยกกันไป ช่วงเที่ยง
พวกเราก็ควักอาหารขนมปัง ขนมนมเนยที่เตรียมกันมา กินกันไป น่าจะมาถึงทะเลสาบคาราคูล
ประมาณบ่ายโมงเห็นจะได้ รถจอดแค่ช่วงเดียว  ทะเลสาบนี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก ๆ จอดจุดไหน
ก็สวยไปหมด แต่รถก็ไปจอดตรงจุดชมวิว ที่ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์นานที่สุด น่าจะให้เวลาประมาณ
1 ชั่วโมงกว่า ๆ น่าจะได้ อากาศวันนี้ หนาวพอสมควร และที่สำคัญลมแรงมาก  ทำให้ความหนาว
เพิ่มขึ้นอีกด้วย พวกเราก็ไม่ได้กลัวความหนาวกันหรอก ต่างถือกล้องของตัวเองไปถ่าย
ทิวทัศน์ แล้วก็ผลัดกันถ่ายรูปกัน เดี่ยวบ้าง คู่บ้าง หมู่บ้าง มุมไหน ๆ ก็ดูสวยกันไปหมด เฮ้อ! 






























ปิดท้ายด้วยภาพทะเลสาบ คาราคูล ล้วน ๆไม่มีคนมาแข่งความงามของทะเลสาบ ห้าห้า 

ท่านผู้อ่านคงได้ชมความสวยงามของทะเลสาบ คาราคูล มาพอประมาณแล้วค่ะ 
น่าจะประมาณบ่ายสามกว่า พวกเราก็ขึ้นรถเพื่อเดินทาง ขากลับก็เหมือนขามา คือ ต้องตรวจ
พาสปอร์ต คนต้องลงจากรถ  แล้วเดินข้ามด่านไปเหมือนตอนขามา พวกเรากลับถึงโรงแรม
ประมาณ 3 ทุ่มครึ่งของเวลาที่นี่ ซึ่งเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง

วันที่ 20 ตุลาคม 59
ครึ่งวันเช้าที่อยู่ คัชการ์ เรามีเวลาเดินเที่ยว บริเวณโรงแรม ถ่ายรูปกับดอกไม้สวย ๆ 
ที่ปลูกอยู่ทางเดินเท้า แล้วไปเดินถ่ายรูปในถนน เมืองเก่าอีกแห่งหนึ่ง ไปเห็นภาพสะเทือนใจ
ที่พ่อค้า ฆ่าแกะริมทางถนน มีคนมุงดู ฉันแค่เหลือบมองเลือดในกะละมัง แดงฉานครึ่งกะละมัง
เห็นแล้วต้องรีบเดินหนีภาพเหล่านั้น มันสะเทิอนใจบอกไม่ถูก สำหรับพ่อค้าเนื้อสัตว์ 
เขาทำเป็นประจำ เป็นอาชีพ เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะเป็นอาชีพและความเคยชินของเขา

พวกเราเดินถ่ายรูป และดูวิถีชีวิตของชาวบ้านแถว ๆ นี้ เรามากันแค่ 4 คน ส่วน หมัยและเอก 
ขอแยกไปเดินซื้อของฝากที่ตลาดที่เราไปเดินวันแรกที่มาถึงคัชการ์ นัดกันที่โรงแรม เวลา 11 โมง
เพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟ ที่เราได้ซื้อตั๋วแล้วตั้งแต่วันแรก 
















เมื่อถึงเวลานัดแล้ว พวกเราก็มารอกันที่ชั้นล่างของโรงแรม พวกเราลงมาก่อน นำกระเป๋าเดินทาง
วางเรียงกันแล้ว มีเวลาเหลือ ก็เริ่มถ่ายรูปมุมสวย ๆ ของโรงแรมด้วย เพราะตั้งแต่มา
ยังไม่ได้สำรวจความสวยงามของโรงแรมเลย  เออ! มีมุมตกแต่งไว้สวยงามเหมือนกัน 








เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว เช็คเอ้าเรียบร้อยแล้ว  พวกเราก็ลากกระเป๋ามายืนรอ
เรียกแท็กซี่ที่หน้าโรงแรม ไม่ต้องต่อรองราคา เขาบอกว่า 20 หยวน เมื่อเราบอกเขา
เราจะไปที่สถานีรถไฟ ฉันก็ไม่คิดต่ออะไร เพราะตอนขามา เราโดนเจ้าแท็กซี่สองคนนั้น
โขกไปคันละ 40 หยวน แสดงว่า  สองค้นนี้ เขาไม่ขี้โกง เป็นแขกขาว หน้าตาหล่อ
และยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ เลยเล่าเรื่องที่พวกเราโดนเขาโขกคันละ 40 หยวนตอนขามา 
เขายิ้ม ๆ เหมือนบอกเราว่า โชคร้ายไปเจอแขกที่ ขาดคุณธรรม โก่งราคาชาวต่างประเทศอย่างเรา

การเที่ยวเมือง คัชการ์ และทะเลสาบ คาราคูล ในตอนที่ 5 ของทริปซินเกียงก็จบเพียงแค่นี้ ค่ะ 

ตอนต่อไป เราต้องไปเผชิญอยู่ในรถไฟ อีกยาวไกล ลงฮามิแล้ว ก็ต้องต่อรถไฟไปลั่วหยาง
โปรดติดตามตอนที่ 6 เที่ยวเมือง ลั่วหยางต่อไป ค่ะ  



Create Date : 21 มีนาคม 2560
Last Update : 23 มีนาคม 2560 21:25:20 น. 32 comments
Counter : 3910 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณkae+aoe, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณเรียวรุ้ง, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณThe Kop Civil, คุณกะว่าก๋า, คุณClose To Heaven, คุณnewyorknurse, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณบ้านต้นคูน, คุณชีริว, คุณอุ้มสี, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmultiple


 
ตอนที่ 5 แล้วรึเนี่ย 555555555555 ตามไม่ทัน คริคริ


อาจารย์สุวิมล Travel Blog

มีรูปเด็กน้อยหน้าตาดีมาฝากซะด้วย


โดย: kae+aoe วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:16:49:33 น.  

 
ตั๋วรถไฟของเค้ายังเป็นแบบเดิมอยู่่ไม่ได้เปลี่ยนจากตอนที่ผมอยู่จีน

ราคาที่พักสูงจริงๆ ครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

โรงเรียนประถมของเค้าไม่ว่าที่ไหนก็รู้สึกว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

ตึกเค้าดูสวยดีครับ มีเด็กๆ มาแจมถ่ายรูปด้วย



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 มีนาคม 2560 เวลา:17:28:17 น.  

 
สวัสดีดึกๆครับ อาจารย์สุ
ตามมาเที่ยวต่อครับ ประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล ประชากรพันกว่าล้าน
มากมายด้วยชนเผ่าต่างๆ
หลายเดือนก่อนอุยกูร์ก็เข้ามามีปัญหาในไทย จากจีนลอบเข้าไทย


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:0:35:03 น.  

 
ทริปที่สนุกสนานมากครับ ปิ้งแกะ/แพะ อร่อยมากและถูกกว่าที่ซีอาน มีโอกาสน่าไปอีกสักครั้ง อิอิ


โดย: เอก IP: 188.165.201.164 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:1:42:17 น.  

 
ตามอาจารย์ไปเที่ยวเมืองคัชการ์ต่อค่ะ
กว่าจะไปได้แต่ละที่ก็สมบุกสมบันกันพอสมควร ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตค่ะ
ในตู้รถไฟดูไม่เงียบเหงาเลยนะคะ เตียงเรียงกันเพียบ
สองข้างทางไปคัชการ์มีแต่ภูเขาหินกับทะเลทรายล้วนๆ

ไปเที่ยวเองแบบนี้ต้องทำใจเรื่องโดนหลอกโดนโก่งราคา
กาญไปเที่ยวเมืองเวนิส อิตาลีก็โดนคนอีตาลีโก่งราคาค่าเรือค่ะ เจ็บใจจี๊ดๆ 555

เมืองนี่เองที่เป็นเส้นทางสายไหม ระหว่างเอชียกับยุโรป
สถาปัตยกรรมเมืองคัชการ์สวยแปลกตา มีร้านค้ามากมายเป็นเมืองคึกคักเมืองหนึ่งเลยนะคะ

ทะเลสาบคาราคูลสวยงามมาก น้ำสีเขียวตัดกับสีขาวหิมะ คุ้มกับเส้นทางทรมาน

เฮ้อ...เหนื่อยแทนอาจารย์เลุยกันจริงๆ เที่ยวแบบนี้เรื่องรักสวยรักงามต้องตัดออก
แต่เห็นหน้าแต่ละคนก็ยังยิ้มกันได้เนาะ แสดงว่ายังมีแรงลุยกันต่อ


อาจารย์สุวิมล Travel Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:3:47:08 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

บล็อกนี้ดูไม่เหมือนเที่ยวเมืองจีนครับ
เหมือนอาจารย์เที่ยวแถบตะวันออกกลางมากกว่า
ผมเคยเกือบได้ไปเที่ยวที่นี่
แต่ตอนนั้นตัดสินใจกลับก่อนครับ
เที่ยวแค่ซีอานแล้วก็กลับมาทำงาน

ตัวเส้นทางยังดูทุรกันดารเหมือนที่อาจารย์บอกไว้จริงๆครับ

โหวต travel blog ครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:6:31:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ถ้าไม่บอกว่าจีนก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน

ภูมิประเทศของจีนนี่แปลกตาสุดยอดอะ

เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจัง

อยากไปแบบอาจารย์ที่ไปกันเองไม่ง้อทัวร์อะ

แต่น้องก็ได้แต่ภาษาอังกฤษไม่ได้ภาษาจีน

เศร้าใจ

เรื่องโดนโขกราคานี่รู้แล้วเจ็บใจนิ

โหวต travel blog


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:10:03:13 น.  

 
เป็นการเที่ยวที่น่าสนใจดีนะคะอาจารย์ ดูแต่ละที่แล้วอ.อึดมากค่า

อาจารย์สุวิมล Travel Blog


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:12:46:57 น.  

 
ขอบคุณครูที่เข้าใจ เอ็นดูน้องซีกับมี้เสมอค่ะ งานยุ่งมากช่วงนี้ พอจะมีเวลาก็ตอนอยู่บนรถค่ะ คนคนขับให้นั่ง แต่ก็หลับทุกทีเวลาขึ้นรถ อิอิ


โดย: kae+aoe วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:15:07:19 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยครับอาจารย์ ผมชอบบรรยากาศบนรถไฟเหมือนกันครับ แต่ก่อนกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็ชอบนั่งรถไฟครับ บนเส้นทางไปทะเลสาบสวยจริง ๆ ครับ อยากไปเที่ยวเส้นทางสายไหมเหมือนกันครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:19:39:18 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เดือนนี้เดือนเดียว
ไข้กลับมา 2 รอบแล้วล่ะครับ 555
ตอนนี้ยังกังวลว่าจะไม่กลับมาเป็นรอบที่สาม
เพราะผมทานยาจนกลัวแล้วล่ะครับ 555

ช่วงนี้ปุ่มโหวตแปลกๆครับอาจารย์
มีเพื่อนบล็อกแจ้งผมให้ทราบเช่นกัน
ว่าผมโหวตแต่ไม่ขึ้นที่บล็อก
จนผมต้องไปกดซ้ำจึงขึ้น

เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองกดใหม่อีกครั้งที่บล้อกอาจารย์ครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:21:42:17 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โหวตเรียบร้อยแล้วครับ
แปลกใจว่าเมื่อวานผมคิดว่าผมโหวตเรียบร้อยแล้ว
แต่ทำไมถึงไม่ขึ้นก็ไม่รู้ครับ
วันนี้โหวตเสร็จ
รีบเช็คให้แน่ใจเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:6:34:16 น.  

 
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

หูย ๆ ๆ ๆ เอ็นทรีนี้น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะครู
ไปหลายเมือง แถมดูต้องลุยพอควรเลย
ครูสุขภาพแข็งแรง ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:8:17:02 น.  

 
ว้าวๆๆๆ ตอนใหม่มาแล้ว
เข้ามาทักทายก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมาอีกทีครับอาจารย์


โดย: ชีริว วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:9:51:47 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ปีนี้ผมไม่ได้ลงไปเช็งเม้งที่ชลบุรีครับ
เพราะป่วย
เลยโทรไปบอกญาติทางโน้นแล้ว

ส่วนที่หยุดไป
เพราะพอดีแม่มาดามกับน้องสาวของเธอมาเชียงใหม่ครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:13:57:15 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ

โหวดค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:16:32:25 น.  

 
ขอบคุณค่ะอาจารย์

แต่รุ้งไม่อยากไปกะทัวร์อะแง


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:17:47:05 น.  

 
น่าสนุกมากๆเลยค่ะอาจารย์
ในเมืองก็ได้อารมณ์หนึ่ง
พอไปตามเขานี่อารมณ์เถื่อนได้ที่เหมือนกันนะคะ
เหมือนกำลังจะเข้าป่าดงพงไพรไกลปืนเที่ยงมากๆ
น่าสนุกมากเลยค่ะ
แล้วทุกคนครึกครื้นกันไม่หยุดหย่อน
ขนาดกลางคืนแล้วดูท่ายังแบตเต็มกันทุกคนเลยนะคะ
แสดงว่าสนุกจริงๆนะคะเนี่ย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:22:35:48 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ
วันนี้จัดกรเป่า ของจะเกิน คงต้องไม่ได้เอาไปหลายอย่าง


โดย: newyorknurse วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:7:40:09 น.  

 
อยากเที่ยวแบบครูเหรอ โหดหน่อยนะ เดินเยอะมาก ต้องอึด ๆ หน่อย สนใจไหม ถ้าสนใจ จะมาชวนไปด้วย ห้าห้า >>>>>สนใจค่าาาาาาา. ขอหนูติดสอยห้อยตามไปด้วยคนค่าาาาาาา ดึใจจัง ขอบคุณค่ะ



โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:13:58:56 น.  

 
สวัสดีค่าครู
มากราบขอบพระคุณที่ครูไปอวยพรวันเกิดค่า


โดย: Close To Heaven วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:22:05:35 น.  

 
อุยกูร์นี่เองที่หนีออกนอกประเทศจีนกัน จนมาเป็นข่าวบ้านเราเมื่อสองปีก่อน
ตั๋วรถไฟราคาเกินพันบาทนี่ผมยังไม่เคยขึ้นเลยครับอาจารย์ แต่คงเป็นทริปยาวจริงๆ
ของแห้งสีสันสดใสน่ากินครับ ถ้าไม่บอกว่าจีนคงคิดว่าสไปซ์มาร์เก็ตที่ตุรกี
เด็กแขกขาวน่ารักนะครับ เวลาเดินทางยาวๆถ้ามีเด็กอยู่ใกล้ๆผมจะวิตกหนักเลย กลัวจะหนวกหู
โชคดีที่อาจารย์เจอเด็กดี รอบที่ผมกลับจากเมกาเจอเด็กร้องไห้บนเครื่องบินแบบคอมโบ 12 ชั่วโมงนี่สุดยอดแห่งความทรมาน
พอถึงคาสการ์สภาพบ้านเมืองยิ่งดูเหมือนตุรกีเข้าไปอีก แขกขาวก็งี้ละครับ
วันต่อมาก็ออกกันตั้งแต่เช้า ไปกันเองกับเพื่อนที่รู้เวลาก็ดีแบบนี้ครับ บางทัวร์ต้องนั่งรอลูกทัวร์ตื่นสาย กำหนดการพังทลายหมด
ช่วงเดินทางผ่านภูเขาหินกันดารผมชอบนะ รู้สึกว่าจะได้ไปที่ๆไม่ค่อยมีใครได้ไป รู้สึกพิเศษ
และเพิ่งรู้ว่าทริปนี้มีทะลุไปถึงทาจิกิสถานด้วย เที่ยวจนหมดเขตประเทศจีนเลยนะครับเนี่ย
ทะเลสาบคาราคูลก็ช่างเวิ้งว้างไร้ผู้คน
รอชมเมืองลั่วหยางต่อไปครับ ^^


โดย: ชีริว วันที่: 26 มีนาคม 2560 เวลา:22:17:38 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ออมอำพัน Literature Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Review Food Blog ดู Blog
จารุพิชญ์ Music Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

มาโหวตไดอารี่ให้ก่อนนอนค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:0:37:14 น.  

 
รถไฟ 3 ชั้น...น่าดู ขนาดที่ไทย 2 ชั้น ผมเคยนั่งนอนชั้นบนยัง
แย่เลยครับครู

เด็ก ๆ น่ารัก...

ผมนั่งดูภาพ ดูที่ครูบรรยาย อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้าง.. ครูไป ตุลาคม
คงเป็นระยะที่ผม ไป รัีสเซีย

งั้นโหวตให้ครู เป็นกำลังใจ จะได้เขียนเล่าอีกครับ
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:11:41:14 น.  

 
เมื่อวันเสาร์เพิ่งไปงานบล็อกมาค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:13:29:41 น.  

 
เรื่องงานเขียนตะพาบ รุ้งก็แค่มโนไปเรื่อยๆค่ะ ให้เข้ากับโจทย์ที่ได้มา55555

รุ้งไม่มีนิสัยหวังดีอะไรกับใครขนาดนั้น

ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวแล้ว มักจะไม่มีอิทธิพลกับความรู้สึกของรุ้งเท่าไหร่

เรียกว่าไม่ค่อยแคร์ใคร เอาความสุข สบายใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง5555

ขอบคุณค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:20:08:19 น.  

 
สวัสดีค่าครู
มาชวนครูไปกินอาหาร fast food บ้างค่ะ อิอิ แหวกแนว


โดย: Close To Heaven วันที่: 27 มีนาคม 2560 เวลา:23:40:10 น.  

 
555 ในที่สุด อ.สุ ก็เผลอ เปิดเผยตัวตน ออกมาแล้วนะครับ เรื่องแบบนี้ปิด อ.เต๊ะ ไม่ได้นะครับ อิอิ

แท้จริง อ.สุและคณะ เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน คดีพิเศษ ตามแกะรอย คดีวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์นี่เอง555

ทริปนี้ ตามรอย หาเบาะแส ไปถึงถิ่นที่อยู่ ชาวอุยกูร์ ที่คัชการ์ นู่นเลยทีเดียว
อ.เต๊ะ ละ ทึ่ง อึ้ง จริงๆเลยนะครับ แฮ่ๆ555

อ.สุ บอก เอ็งรู้แล้วก็อย่าเอ็ดไป ข้าเป็นสายสืบอาวุโส ปลอมตัวไปทำงานในหน้าที่
ไอ้เรื่องเที่ยว มันของแถม นิดๆหน่อยๆ เดี๊ยะๆ ไอ้บร้า 555

แล้วไปพื้นที่เสี่ยงขนาดนี้ ทำไมทีมสืบสวนของ อ.สุ พกอาวุธ ไปแค่
มีดปอกผลไม้เล่มเล็กๆ แล้วยังไปโดนจับได้นี่ ขำแย่เลยนะครับ555

พวกอาวุธหนัก ปืนกล สากกระเบือ ระเบิดควัน พลุ ประทัด ทำไม อ.สุไม่เตรียมไปให้ครบละครับ อิอิ

อ.สุ บอก เหรอ เดี๋ยวเอาสากกระเบือ ยัดปากซะดีมั้ยเนี่ย เย้ย 555

เอ็งรู้จัก ทีมข้าน้อยไป ทีมข้านี่ ฆ่าคนด้วยมือเปล่า
ง่ายกว่าแทะ พุทราจีน ซะอีก เย้ย 555

เอ้งยังไม่หยุดอีก เล่นมาเปิดเผยตัวตนข้า เดี๋ยวคนเค้ารู้กันหมด จับหักคอซะดีมั้ยเนี่ย เย้ย 555

เรื่องการเดินทาง ด้วยรถไฟนี่ ก้ได้บรรยากาศดีนะครับ ยิ่งรถนอนนี่
อ.เตีะ ชอบมาก คงเหมือนนอนเปล เลยมั้งครับ อ.เต๊ะ ดูแล้ว พื้นที่จำกัดมากเลยทีเดียว

ปกติ น่าจะใส่แค่เตียง 2ชั้นก็พอแล้ว นี่อัดไป3 ชั้นเลย

ดูแล้ว คนนอนชั้น2 นี่ทะลึ่ง ลุกพรวดพราดขึ้นมาหัวโขกเลยนะครับ555


แล้วเส้นทางที่ อ.สุไป นี่ สมกับเป็นเมืองทะเลทรายเลยนะครับ หลุดออกนอกเมืองไปนี่ หาต้นไม้เขียวๆซักต้นเแทบไม่เจอเลย

เข้าเมืองคัสการ์มา ค่อยยังชั่วหน่อย มีสีสัน เห็นต้นไม้บ้าง
แต่บ้านเมืองเค้านี่ ถ้าไม่บอกว่าอยู่เมืองจีน
อ.เต๊ะ ดูแล้วต้องบอกว่านี่มัน เมืองแขก ชัดๆเลยนะครับ

ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม รุปทรงของอาคาร การแต่งตัวของผู้คน

อาหารการกิน โรตี ผลไม้ ลุกพลับ อัลมอนด์ หรือ อาหารคาว อย่าง ลาบเลือด ซกเล้กแพะ เย้ย แกะปิ้งที่อ.สุไปยืนแทะนี่ มันอาหารแขกแท้ๆเลยนะครับ 555

แล้วก็ แหม นี่ขนาด อ.สุ เซียนต่อของ ต่อราคา อันดับต้นๆของเมืองไทยไปเอง ขนาดพูดภาษา เค้าได้ ยังโดนแท๊กซี่โก่งราคาเลยนะครับ

นี่ถ้าคนเซ่อๆซ่าๆ แบบ อ.เต๊ะ ไปเที่ยวที่นี่ สงสัยโดนตุ๋นเปื่อยเลย แหงๆนะครับ555

ส่วนทะเลสาปที่ไปนี่ น้ำสีสวย แต่บรรยากาศออกแนวน่ากลัวนะครับ
ลงไปเล่นน้ำ นี้ มันจะมีอสูรกายใต้น้ำ คาบเราไปหม่ำหรือเปล่าก้ไม่รู้ นะครับ เย้ย 555

จากที่ อ.สุ เล่ามาทั้งหมดนี่ สรุปแล้ว อ.เต๊ะ ชอบ หมาน่ารักกับสาวน้อยที่ถ่ายรูป คู่กับหมา ที่สุดครับ อิอิ

อ.สุ บอก หนอยๆ ข้าอุตส่าห์ เล่ามาละเอียดยิบ หาข้อมูลประวัติศาสตร์ย้อนหลังไป10ปี เหนื่อยยากแทบตาย
เอ็งไม่สนใจซักนิด

งั้น เอ็งมาใกล้ๆข้าเลย ข้ายอมเจ็บเข่า ยันเอ็งให้กลิ้งเป็นลูกขนุนซักทีเหอะ เดี๊ยะๆ555








โดย: multiple วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:1:17:00 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์
แวะมาเยี่ยมและมาดูว่าอาจารย์อัพบล๊อกใหม่หรือยัง
มาชวนอาจารย์ไปเดินเล่นออกกำลังกายแถวบ้านกาญด้วยค่ะ
อากาศกำลังดี ดอกไม้ก็บานสพรั่ง


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:2:02:10 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:2:50:03 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:6:32:20 น.  

 
แวะมาแปะไว้ก่อน เดี๋ยวตามมาอ่านค่ะอาจารย์


โดย: Maeboon วันที่: 28 มีนาคม 2560 เวลา:14:21:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space