ชวนไปท่องเมืองกาญจนบุรี กันค่ะ  (ตอนที่ 1) เมืองกาญจนบุรี  เป็นเมืองที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก  ยังเป็นเมือง ที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก สองข้างทางที่รถผ่าน  ภูเขา สูงตระหง่านยังปกคลุมด้วยต้นไม้ เขียวขจี  แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ของป่าไม้ในเมืองกาญจน์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว สำหรับทริปนี้  เป็นทริปพิเศษกว่าทริปอื่น ๆ ที่เคยจัดผ่านมา ค่ะ เพราะ ทริปนี้  เรามีกิจกรรม จิตอาสา  (CSR) ตามที่เคยเล่าไว้ เมื่อบล็อกที่แล้ว  ทริปนี้ เราจึงมาสานงานต่อตามที่ได้ตั้งใจไว้ ค่ะ ทริป นี้  ฉันจะเขียนเป็นสามบล็อก  บล็อกแรก คือ  วันที่ 12  ต.ค. เป็นการไปทำบุญ ไหว้พระ และมีการเที่ยวตามรายทาง ที่ผ่านไปด้วย  ค่ะ ส่วนวันที่  13  ต.ค. เป็นวันที่เรา จะไปทำกิจกรรม  CSR  ตามจุดมุ่งหมายหลักของทริปนี้ ค่ะ  ส่วน วันที่ 14  เป็นทริป วันสนุกสนาน พักผ่อนหย่อนใจ เนื่องในวันหยุด  ยาว 3  วัน  ฉันแบ่งงานเขียนบล็อก เป็น 3 กิจกรรม ดังกล่าวมาข้างต้น  นะคะ   ก่อนจะมาร่วมกิจกรรมกับลูกศิษย์ กลุ่มธาตุทอง 2 ส  หนึ่ง  โทรมาแจ้ง ว่า  จะมารับฉันประมาณ 6 โมงเช้า  โดยเก๋ และแหม่ม จะมารอรถหนึ่งที่บ้านฉันและไปรถหนึ่งด้วยกัน  ส่วนเจี๊ยบกับเดือนจะ ไปกับรถของซิงค์  กุ้งไปกับรถของเดชอีกคัน ส่วนอี๊ดและอา  บอกว่าป่วยตามที่เก๋ เล่าให้ฟัง ค่ะ  สมาชิกเลยลดหาย ไปประมาณ  5  คน (ครอบครัวอี๊ดไป 4 คน)  ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตี 4  เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ  ทำธุระส่วนตัวให้ เรียบร้อย    อุ่นข้าว กับข้าว ทานอาหารเช้าก่อน เพราะต้องทานยาก่อนอาหาร นั่นเอง แต่งตัวเสร็จ ก็มานั่งเล่นเฟส เล่น ลายน์  เพราะเพิ่งตีห้ากว่า ๆ เท่านั้นเอง  เกือบ หกโมง  เก๋ ก็มาถึงบ้านฉัน พร้อมอาหารเช้าจากเซเว่นฯ มากิน ด้วย  กินเสร็จ  เก๋  ขอเก็บเงินค่าทริปนี้ 2,000 บาท  จากฉัน (ปรกติ เวลาไปไหนเคยถามหนึ่งว่า จะเก็บเงินจากครูด้วยไหม หนึ่งตอบว่า ไม่ต้องหรอก เพราะครูไปด้วย ก็เหมือนไปเป็นแม่ย่านางของงาน  ให้เกียรติไปร่วมงาน)  แต่ครั้ง  มี กิจกรรม  CSR  ซึ่งต้องเสียเงินเข้าร่วมกิจกรรม หัวละ 1000  บาท แต่เราไปเป็นคณะ 20 คน  เขาเลยลดให้ เหลือ หัวละ 600 บาท  ประกอบกับคนไปไม่ถึง 20 คน  เพราะถอนตัวไป  แต่เราก็ต้องจ่ายให้ทางหน่วยงานตามที่เราแจ้งไปว่า เราจะไป 20  คน  เป็นจำนวนเงิน  12,000  บาท และเก๋ ขอช่วยค่าน้ำมันหนึ่งคนละ 500  บาท ด้วย  ทั้งนี้เก๋เล่าว่า  ช่วง นี้  การงานของหนึ่งค่อนข้างลำบาก  ค่าใช้จ่าย มากมาย หลายอย่าง  ฉันก็ส่งเงินให้เก๋ตามที่บอก  (สำหรับค่าน้ำมัน ตอนขากลับ  หนึ่งส่งเงินคืนให้  บอกว่า เงินเหลือ จึงคืนค่าน้ำมันให้ฉัน )  ประมาณ  6 โมง แหม่มก็มาอีกคน เป็นอันครบคนแล้ว  พักใหญ่ ๆ หนึ่ง ก็มาถึงบ้านฉัน  ช่วยกันขนกระเป๋าขึ้นรถหนึ่ง โดยต้องใส่ถุงดำไว้ด้านหลัง  เผื่อฝนตก กระเป๋า จะได้ไม่เปียกฝน เราเริ่มออกเดินทาง  ก็น่าจะประมาณ  6.30 น. ตากล้องประจำกลุ่ม คือ เก๋ เริ่มทำหน้าที่หลังจากออกเดินทางสักพัก  การเดินทาง  มีการนัดหมายเจอกันที่จุดพักรถ  ร้านอาหารท่าเรือ ซึ่ง ถ้าไปกาญจน์ พวกเราก็จะมีการนัดหมายทานข้าวเช้าที่นี่ มาถึงที่นี่  ปรากฎว่า  รถเดช กับรถซิงค์มาถึงก่อนแล้ว  กำลังกินข้าวกัน อยู่  หนึ่งไปแลกคูปองให้พวกเรา  ฉันก็กินต้มเลือดหมูเจ้าเก่า ที่เคยกินแหละ ไม่เอาข้าว เพราะกินจากบ้านแล้ว   สักพัก  ครอบครัว ของชลอ ก็ตามมาอีกคัน  เป็นอันมาครบแล้ว ส่วนผัน วันนี้ต้องสอนพิเศษ จะตามไปพรุ่งนี้   เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม CSR เลย ค่ะ   มือกล้องเก๋  เริ่มทำงานเก็บภาพ ทุกขั้นตอนของทริป ค่ะ  พวกเรา นั่งทานกัน  2 โต๊ะ ค่ะ  หลังจากที่ทานข้าวอิ่มกันแล้ว  ก็ย้ายไปนั่งที่ร้านกาแฟ  เพราะมีมุมให้ ถ่ายรูปได้หลายมุมอยู่ แต่ฉันเฉย ๆ เพราะมารถ่ายรูป ตอน หนึ่ง พามาดูโรงเรียน หลุงกัง  ที่เราจะไปทอดผ้าป่าการศึกษา เพื่อเติมเต็มเรื่องที่โรงเรียนเขายังขาดแคลนอยู่ มาชมรูปในร้านกาแฟ แห่งนี้กัน ค่ะ   ดาราหน้ากล้องกันทั้งนั้นเลย  ค่ะ  เดช  มาถามว่า จะดื่มน้ำอะไร  เลยบอกไปว่า  เอาโกโก้เย็น เดช เลย ไปซื้อ โกโก้เย็นมาให้ 1 แก้ว ดื่มหวาน ๆ ก็ชื่นใจดี ขอบใจนะ เดช รูปนี้ ถ่ายหมู่ก่อนออกจากร้านนี้ไป  เพื่อเดินทางต่อไป ค่ะ  เป้าหมายต่อไป ก็คือ ไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือ ค่ะ  รถทุกคัน มุ่งหน้าไป ที่วัดถ้ำเสือ  ที่วัดนี้  ฉันเคยไปมาแล้ว  สมัยที่ไปกับพวกไทยประกันในกลุ่มของฮ้ง   วันนี้  คนมาไหว้พระที่ วัดนี้  มามากมาย  ลานจอดรถ  วนสองรอบ สามรอบ กว่าจะได้ที่จอด ก็เสียเวลาน่าจะครึ่งชั่วโมงน่าจะได้  วันนี้แดดร้อนมาก มาก พอ ๆ กับจำนวนคนที่มาไหว้พระที่นี่เลย พระพุทธรูปที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ด้านบนค่ะ  คนมากราบไหว้บูชา มากมาย  พวกเราไม่ได้ต่อแถวไปปักธูป ยกมือไหว้เท่านั้น  นี่เป็นบันไดนาคที่ต้องเดินขึ้นไปไหว้พระด้านบน  ปัจจุบัน  เขามีการ ให้ซื้อบัตรนั่งกระเช้าหรือเรียกว่ารถลากให้นั่งขึ้นไป บนเขาด้วยค่ะ  แต่คนเข้าแถวยาวมาก  พวกเราเลยตัดสินใจเดินขึ้น บันไดนาค ไป มันน่าจะหลายร้อยขั้นอยู่กว่าจะถึง ข้างบน ก็เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกันนะ  แต่พอถึงข้างบน  ได้เห็นทิวทัศน์ ก็พอหายเหนื่อยได้ ค่ะ  เซลฟี่รูปกลุ่มหน้าองค์พระใหญ่  ค่ะ  มุมสวยมุมหนึ่งบนเขา ค่ะ  ภาพนี้ น่าจะซิงค์ถ่าย  ค่ะ    สี่หนุ่ม ขอถ่ายหมู่ ค่ะ  ขึ้นไปชั้นบนสูงสุด เพื่อนมัสการพระบรมธาตุ  ค่ะ  ขึ้นมาถึงชั้นสูงสุดของวัด กราบพระบรมธาตุ  ให้ซิงค์ถ่ายรูปไว้เป็น ที่ระลึก  สักรูป ค่ะ  ออกจากวัดถ้ำเสือไป ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว  เป้าหมายต่อไป ก็คือ ไปชม ต้นจามจุรียักษ์ที่ค่ายทหาร ซึ่งฉันเคยมาแล้ว ตอนที่ หนึ่ง พามาเมืองกาญจน์ เพื่อไปดูโรงเรียน หลุงกัง ที่เราจะไป เติมเต็มสิ่งที่เขายังขาดแคลนอยู่ คนที่ยังไม่เคยมา  ก็ตื่นเต้น  ถ่ายรูปเดี่ยวบ้าง  หมู่บ้าง  อิอิ มาชมรูปค่ะ ​​​​​​ ออกจากที่ ต้นจามจุรียักษ์แล้ว  ก็มุ่งไปไหวพระที่ถ้ำกระแช  ระหว่าง ทางแวะเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นทางที่จะเข้าไปเที่ยวเมือง มัลลิกา  สถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองกาญจน์  ซึ่งก็เปิดมาหลายปีเท่าที่รู้ มา ค่าเข้าชมเมืองมัลลิกา  ราคาค่อนข้างแพง  มีให้เช่าชุดไทยถ่ายรูปด้วย พวกเราไม่ได้เข้าหรอก อิอิ  แต่เราก็ถ่ายรูป บริเวณด้านนอกกัน  สามล้อที่อยู่บริเวณนั้นใจดี  เขาให้ พวกเราถ่ายรูปกับสามล้อเขาได้ ไม่คิดค่าถ่าย แถมอาสาถ่ายรูปหมู่ ให้พวกเราด้วย  ขอบใจน้ำใจคนเมืองกาญจน์  จ้ะ  ป้ายทางเข้าเมือง มัลลิกา  ค่ะ  ฝีมือของ สามล้อถีบ ผู้มีน้ำใจ  ค่ะ  ประตูทางเข้าไปชมเมือง มัลลิกา  ค่ะ  ออกจากที่นี่แล้ว  ก็เตรียมเดินทางไปไหว้พระที่ถ้ำกระแช  ถ้ำนี้ มีทาง รถไฟผ่านด้วย  ผ่านหน้าผา เบื้องล่างเป็นสายน้ำ น่าจะเป็นสายน้ำไทรโยค  มีแพอยู่ในสายน้ำนี้ด้วย  ตอนที่ไป  เห็น นักท่องเที่ยวใส่เสื้อชูชีพลอยคอเล่นน้ำอยู่ ไหลไปตามน้ำ  น่าสนุกดีทีเดียว  น้ำดูแล้วไม่เชี่ยวมากนัก  แต่จะลึก หรือไม่ ฉันก็เดาไม่ถูก  แต่ทิวทัศน์ที่รางรถไฟนี้สวยมากค่ะ   เรามากินข้าวมื้อเที่ยงที่นี้ ตอนนี้น่าจะสี่โมงเย็น  ฉันหิวจนตาลาย เลย เวลาอาหารของฉันไปมากทีเดียว  เป็นร้านอาหารบุฟเฟ่  แบ่งเป็นสองส่วน  ส่วนหนึ่งเป็นราคาคนไทย ราคาไม่แพงเลย  หัวละ  59  บาท  มีข้าว กับข้าว  ขนมจีน น้ำยา หลายอย่างมากให้เลือกตักกินกัน  ที่นั่งก็มีที่ลำน้ำไหล ผ่านด้วย เรียกว่า  บรรยากาศดีทีเดียว  เลยถ่ายรูป ร้านของเขามาโปรโมทให้ด้วยค่ะ  ใครมาเที่ยวที่ถ้ำกระแช  สามารถมา นั่งรับประทานอาหารกันได้ที่นี่ค่ะ  น่าเสียดาย ไม่ได้ถ่ายรายการอาหามาให้ชม  เพราะทุกคนคงหิวเอาการ  พอเก๋ ซึ่งเป็นเหรัญญิก จ่ายเงินตามจำนวนหัวแล้ว พวกเราก็หาจาน ตักอาหารที่สนใจ  ซึ่งเขาเชียร์ให้กิน ขนมจีนน้ำยา บอกว่า รสชาติอร่อย   ส่วนใหญ่ก็มุ่งไปตามคำบอกเล่าก่อน แล้วจึงตามด้วยอาหารโดยทั่วไป เช่น ต้มยำ ผัดผัก  ยำ  เป็นต้น มาชมภาพชื่อร้านอาหารของเขา ซึ่งให้ซิงค์ช่วยถ่ายให้  ที่นี่ ก็เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป ตามทางเดินมีร้านค้าขายของ ตามทางเท้าที่เดินไปยังถ้ำกระแช และทางรถไฟ ค่ะ  ทางที่จะเข้าถ้ำค่ะ มีคนมาไหว้พระมากพอสมควร นี่เป็นรางรถไฟ ที่เลียบเชิงผา เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ออกจาก ถ้ำกระแช  ตั้งใจจะไปที่น้ำตกไทรโยคน้อย  แต่พอไปใกล้ ๆ  มีรถจอดที่ริมถนนยาวเป็นกิโลเมตรเลย   โอกาสที่จะหาที่จอดรถ  และเดินไปชมน้ำตกไทรโยคน้อยไม่ได้ แน่นอน  พวกเราเลยตัดสินใจเข้าที่พัก  เพราะเวลานี้ ก็น่าจะเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว  ค่ะ  และวันนี้ทุกคนก็เหนื่อย กันมากแล้ว  ฉันก็เห็นด้วยที่จะกลับที่พัก   ทางที่จะไปที่พักนั้น  ไกลจากถนนใหญ่มากน่าจะเป็นสิบ ๆ กิโลเมตร มีชื่อว่า  แปซิฟิค   ฟาร์ม วิว  เป็นที่พักที่ดูร่มรื่น  มีสระน้ำด้วย เขาจัดสถานที่สำหรับให้ร้องเพลง คาราโอเกะ  โต๊ะยาวสำหรับทาน อาหารมื้อค่ำ  ซึ่งเราจ้างเขาทำให้เรากินกัน    ถนน ทางเข้า ที่พัก ร่มรื่นด้วยต้นไม้มากมาย ค่ะ   บริเวณที่เรามาพัก ค่ะ  สองห้องนี้  เป็นที่พักของพวกผู้หญิง  ห้องละ 3  คน ค่ะ  เป็นที่พักของ ผู้ชายและครอบครัวของ ชลอ  ส่วนครอบครัวว่าว ซึ่งเพิ่งตามมาทีหลัง  นอนอีก 1 หลัง ด้านล่างของบ้านนี้  มีอีกสองห้องนอน  มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ  ใช้ร่วม กันในบ้านหลังใหญ่นี้  (คืนที่สอง  มีคนกลับก่อน 5 คน เราจึงย้ายมาอยู่บ้านใหญ่ รวมกัน  ส่วน ผันและใบหม่อน ลูกชายก็ อยู่ห้องเล็กที่เราอยู่กันวันแรก  ค่ะ ) ที่เห็นนี้  เป็นที่ร้องเพลง คาราโอเกะ  และรับประทานอาหารกันที่นี่ ค่ะ  ครอบครัวว่าว  ตรงมาที่พักเลย  ส่วนรถของซิงค์ก็มาถึงก่อนเรา พวกเขา จึงลงไปเล่นที่สระน้ำอย่างสนุกสนาน ค่ะ  เด็ก ๆ  น้องเกว และน้องพิมพิม  เล่นน้ำ อย่างสนุกสนาน  มีหมอซิงค์ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อาหารมื้อเย็นวันแรก  เยอะมาก ค่ะ  ทานข้าวไป  คุยไป   ดื่มไป  ตามอัธยาศัย ค่ะ  พร้อมกับให้ลุงที่คุม เครื่องเสียง  เปิดคาราโอเกะเพลงที่อยากจะร้องกัน หมอซิงค์ก็โชว์ลีลาร้องเพลงอย่างสนุกสนานเหมือนกันนะเนี่ย  เด็ก ๆ มีหลานเกว หลาน พิมพิม สองสาวน้อย โชว์ลีลาทั้งร้องทั้งเต้น  ทั้งร้องเพลง  เป็นภพที่น่ารัก  ผู้ใหญ่ ลูกป้า น้าอา ก็นั่งเชียร์ ด้วยอย่างสนุกสนา ค่ะ   ฉันนำรูปมาให้ชม ค่ะ ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ  อาย  เต้นสู้เด็กไม่ได้เลยค่ะ  และด้วยวัยของเด็ก  ดูจะน่ารักไปหมดเลย ค่ะ  สาวกุ้ง ลงไปเต้นพร้อมหลาน ๆ  ด้วย ค่ะ  ลุง  ป้า น้า อา  ร้องตามค่ะ  ฝนเทลงมา ๆ เทลงมา  สนุกสนานกัน เพลง  ฝนเทลงมา  เป็นเพลงเด็กอนุบาล ที่กำลังดัง เด็ก ๆ เต้นได้ น่ารัก ร้องเพลงด้วยความมั่นใจทีเดียว   มาอ่านเนื้อร้องของเพลงนี้ หน่อยค่ะ  เผื่อจะสนใจนำไปร้องแข่งกับ เด็ก ๆ  บ้าง เป็นเพลงฟังสบาย ๆ น่ารัก ค่ะ  ฝนเทลงมา การ์เนต สะเลอปี้ เป็นลูกชาวนาพ่อแม่เพิ่นพาเฮ็ดนาแต่น้อย อยากฟ้าวใหญ่เป็นบ่าว มันจังใดอีซอยอีพ่อไถนา ตกมาปีนี้คือแล้งแท้หนอน้ำฝนน้ำบ่กะบ่พอใส่นา เฮ็ดจังใดหว่าฝนจังสิตก จำเพลงครูสอนตอนเรียนอนุบาลขี้ไก่โป่ ที่เคยร้องเล่นเต้นโชว์ มามาเอิ้นฝนส่อยกัน ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา ให้นาตู้ห่ง นาตูห่ง นาตูห่ง ให้ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ให้เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา ให้นาตู้ห่ง นาตูห่ง นาตูห่ง ให้ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ให้เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก จำเพลงครูสอนตอนเรียนอนุบาลขี้ไก่โป่ ที่เคยร้องเล่นเต้นโชว์ มามาเอิ้นฝนส่อยกัน ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา ให้นาตู้ห่ง นาตูห่ง นาตูห่ง ให้ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ซ่งข่อยเปียก ให้เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก เสื้อข่อยเปียก ฝนเทลงมา เทลงมา เทลงมา ให้นาตู้ห่ง นาตูห่ง…   นี่คือ  ท่าประกอบการเรียกฝนให้เทลงมา  เทลงมา   ค่ะ น่ารักมาก ค่ะ  ลุง ป้า น้า อา นั่งอยู่  ร้องตาม มีท่าประกอบเลียนแบบหลานด้วยนะ อิอิ ทริปวันนี้  เป็นทริปที่เราไปทำบุญไหว้พระ สองแห่ง และไปชมความ งามของธรรมชาติ สองแห่ง  ไหว้พระ ทำบุญ หยอดใส่ตู้ทำบุญที่ทางวัดเขาวางไว้ตามจุดต่าง ๆ  นั่นเอง ค่ะ  เด็ก ๆ  สนุกกับการเต้น การร้อง  ผู้ใหญ่ก็สนุก กับการกิน การดื่ม ร้องเพลงตามเด็ก ๆ บ้าง  ฉันอยู่ร่วมกิจกรรมถึงน่าจะ สามทุ่มได้แล้ว  ก็กลับที่พัก  อาบน้ำ ดูละครจนจบ ทริปวันนี้  ก็จบลงด้วยความสุข  อิ่มบุญ อิ่มท้องและอิ่มใจ  ค่ะ       Create Date : 19 ตุลาคม 2562 17 comments Last Update : 23 ตุลาคม 2562 15:25:02 น. Counter : 1186 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณhaiku, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณkae+aoe, คุณชีริว, คุณKavanich96, คุณตะลีกีปัส, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

โหวตครับอาจารย์ บรรยากาศดูสนุกสนานมากๆเลยครับ นอกจากเที่ยวเมืองกาญจน์ ยังได้ร่วมกันทำกิจกรรม CSR ด้วย เป็นทริปที่ดีมากๆเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 23 ตุลาคม 2562 20:48:51 น.

วัดถ้ำเสือเห้นหลายคน (เพื่อนในบล็อก) ไปแล้วถ่ายรูปมาให้ดูเยอะเหมือนกัน มัลลิกา ผมยังไม่เคยไปเลย น่าลองไปเที่ยวชมเหมือนกัน แต่หลายคนก็แวะแค่ถ่ายภาพ มีเพื่อนๆ บางคนบอกว่าถ้าไม่ปล่อยใจให้สนุกไปกับบ้านเมืองสมัยก่อน เข้าไปจะไม่สนุก เมืองกาญจน์ดูเปลี่ยนไปเยอะ มีที่เที่ยวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเอยะเหมือนกัน   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 23 ตุลาคม 2562 21:22:33 น.

ตามมาเที่ยวเมืองกาญจน์ด้วยคนครับ อาจารย์สุ ไปเป็นหมู่คณะ ก็สนุกเฮฮาไปอีกแบบ ต้นจามจุรียักษ์ กับ เมืองมัลลิกา ยังไม่เคยเข้าไปครับ   โดย: สองแผ่นดิน 23 ตุลาคม 2562 22:52:56 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 24 ตุลาคม 2562 5:37:55 น.

กาญจนบุรีน่าไปมาก ใกล้ๆ แค่นี้เอง   โดย: kae+aoe 24 ตุลาคม 2562 8:41:29 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ ผมตอบตอนที่แต่งงานแล้ว เลยรู้สึกว่าทั้งงานและความรักสำคัญพอๆกันครับ 555 ให้ผมเลือกผมก็คิดว่าตัวเองเลือกครอบครัวก่อนนะครับ ผมเคยทำแบบนั้นมาแล้วด้วย ผมไม่ค่อยมองเรื่องความสำเร็จ ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ ผมว่าเวลาที่เราใช้กับคนรอบข้างสำคัญกว่า เพียงแต่ีดีที่สุดก็คือ รักษาสมดุลเอาไว้ให้ได้ งานก็เสีย ครอบครัวก็อบอุ่น น่าจะดีที่สุดครับ   โดย: กะว่าก๋า 24 ตุลาคม 2562 19:25:26 น.

ตามมาเที่ยวกาญจน์แล้วครับ ผมก็เพิ่งไปมาเมื่อสองอาทิตยืก่อน ที่เที่ยวเยอะจริงๆครับจังหวัดนี้ ว่าจะไปเก็บอีกสัก 1-2 รอบ แล้วค่อยทยอยลงบล็อก ของอาจารย์เป็นกิจกรรม CSR มีเที่ยวแถม จะว่าไปบริษัทผมยังไม่เคยไป CSR จังหวัดนี้เลย ไปแต่แถวทะเลกับป่าชายเลน ถึงการงานของผู้ร่วมคณะจะขัดสนก็ยังมีความตั้งใจตัดกิจกรรมต่อนะครับ ร้านวุ้นเส้นท่าเรือนี่ร้านดัง แต่หลังๆผมไม่ค่อยได้แวะแล้ว ชอบดิ่งไปกินปลาริมแม่น้ำมากกว่า วัดถ้ำเสือก็ดังมากครับ มองเห็นแต่ไกลเลย สูงเด่นเป็นสง่าจริง จามจุรียักษ์นี่เพิ่งไปมาเลย เหมือนเพื่อนๆบล็อกเราไปถ่ายกันแรกๆยังไม่มีสะพานไม้ เห็นต้นจามบนพื้นโล่งๆเลย แต่ตอนนั้นคนยังไม่เยอะ เดี๋ยวนี้คนเยอะมาก ขืนปล่อยให้ไปย่ำตามใจชอบต้นไม้นี้คงอายุสั้นครับ เมืองมัลลิกา อันนี้เห็นเพื่อนๆในบล็อกไปกันหลายคนเหมือนกัน แต่ไม่เคยอยู่ในเป้าหมายเลยครับ ของแพง ทางรถไฟถ้ำกระแซก็สวย เสียดายมากผมตั้งใจมากินร้านถ้ำกระแซเรสเตอรองค์ เดินมาจนเกือบถึงทางรถไฟมีตามสั่งบ้านๆอยู่ร้านนึงก็คิดว่าใช่ เลยนั่งกิน ปรากฏว่ากินเสร็จเดินต่อมาอีกหน่อยเจอร้านที่ตั้งใจจะมากินทีแรก อยู่ติดกันเลย - -" ร้าน JR ก็น่ากินครับ อยู่ตรงที่จอดรถเลย ถึงบ้านผมจะกินบุฟเฟ่ต์ไม่คุ้มเพระากินกันไม่เยอะ แต่ร้านนี้ราคาถูกมาก ที่พักสวยนะครับ กินข้าวร้องเพลงกันน่าสนุกดี ^^   โดย: ชีริว 24 ตุลาคม 2562 21:31:54 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน   โดย: Kavanich96 25 ตุลาคม 2562 4:11:35 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 25 ตุลาคม 2562 6:30:53 น.

สวัสดีมีสุขค่ะ เป็นการเทึ่ยวและทำบุญที่ได้ทั้งบันเทิงและกุศลค่ะ ลูกศิษย์ดีเพราะมีครูดี คอยให้วิชาการและความรักเมตตา ครูเลยเป็นที่รักแบบนี้ น่ารักจังเลยค่ะ เมืองกาญจน์เที่ยวมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นความทรงจำที่ดีเสมอค่ะ   โดย: ตะลีกีปัส 25 ตุลาคม 2562 7:40:40 น.

อยากไปเห็นต้นจามจุรียักษ์สักครั้งค่ะ   โดย: kae+aoe 25 ตุลาคม 2562 12:48:40 น.

trip นี้แสนจะอบอุ่นและสนุกสนาน แถมได้ทำประโยชน์ด้วย ดีจังเลยค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว อจ.สุวิมล   โดย: คนผ่านทางมาเจอ 25 ตุลาคม 2562 12:57:19 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ ผมเก่งแต่ทฤษฎีครับอาจารย์ 555 ในชีวิตผมมีแฟนคนเดียว คือ มาดามครับ แต่ที่เพื่อนหรือน้องๆมาปรึกษาเรื่องความรักมากเป็นพิเศษ คงเพราะผมเป็นคนนอก เวลามองเข้าไปในชีวิตรัก ก็อาจจะดูเป็นคนกลางครับ ตอบตามความจริงอย่างที่ผมเห็นครับ   โดย: กะว่าก๋า 25 ตุลาคม 2562 14:31:44 น.

ดูแล้วน่าสนุกมากๆเลยค่ะครู เที่ยวกันในกลุ่มใหญ่ๆ ฝันดีนะคะคืนนี้   โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 26 ตุลาคม 2562 2:33:32 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 26 ตุลาคม 2562 6:28:12 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ ผมกลับมองว่าอาจารย์มีความรักแวดล้อมตลอดเวลา นั่นคือความรักจากลูกศิษย์และเพื่อน ซึ่งผมมองว่าบางทีดีกว่าความรักในเชิงหนุ่มสาวอีกครับ น้องเสือฯถามคำถามความรักไว้เยอะมากครับ ผมก็ตอบไปในเชิงแลกเปลี่ยนมุมมอง เพราะผมรู้แต่ทฤษฎีครับในเรื่องของความรัก 555   โดย: กะว่าก๋า 26 ตุลาคม 2562 18:32:31 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 27 ตุลาคม 2562 6:26:27 น.